Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 742

ตอนที่ 742

บทที่ 742 เมื่อคืนเรียกชื่อของฉันตลอด

ผู้ชายยืนอยู่ไม่ไกล มองประตูที่ปิดอยู่ … ในเวลาสองปี

ถ้าหลังจากสองปีเธอก็ยังอยากจากไป เขาจะทำยังไงดี

ตอนห้าทุ่ม เวินจิ้งยังไม่ออกจากห้องหนังสือ มู่วี่สิงมองเวลา ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู เขายังไม่ได้เปิดปาก ก็เห็นเวินจิ้งนอนอยู่ใต้แสงไฟโดย หน้าทับอยู่บนมือข้อศอก แสงไฟทำให้ขนตาดูยาวมาก

เขาเดินเข้าไปและเรียกเบาๆ”จิ้งจิ้ง”

เธอไม่ได้ขยับตัว ไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ ตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเอือมระอา เพราะไม่อยากเห็นหน้าเขาก็เลยอยู่ในห้องหนังสือตลอดเหรอ

เอาแขนโอบรอบเอวเรียวของเธอ เขาอุ้มเธอขึ้นมาอย่างง่ายๆ หลังจากออกจากห้องหนังสือ เขาอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอน เปิดผ้าห่มแล้ววางลงบนเตียง

เขาก็นอนอยู่ข้างๆเธอ ลมเย็นโชยเข้ามาจากหน้าต่าง เขาหรี่ตาและกำลังคิดจะดึงผ้าม่าน แต่จู่ๆแขนของเขาก็ถูกกอดไว้

เขาตกตะลึง ก้มหัวลงและเห็นผู้หญิงขยับหน้าเข้าใกล้มา เธอขมวดคิ้วและร่างกายที่อ่อนนุ่มก็ขยับเข้ามาด้วย เธอขยับเบาๆ ดูเหมือนอยากจะหาท่าที่สบายและนอนต่อ ปากก็พึมพำเรื่อยๆว่า”ฉันหนาวมาก … มู่วี่สิงปิดแอร์ด้วย … ”

เรียกชื่อของเขาด้วยเสียงอ่อนโยนแบบนี้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่าเธอได้เรียกนับครั้งไม่ถ้วนในฝัง รู้สึกมีความสุขอย่างมากในใจทันที ปากก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เขาเคยกอดเธอนอนบ่อยๆหรอ เพราะฉะนั้นเธอจึงเรียกเขาในฝังอย่างเคยชิน

เขาถอดเสื้อออกและเข้าไปนอนในผ้าห่มเหมือนกัน คิ้วที่ขมวดอยู่ของเธอก็ยื่นออกมาเล็กน้อยสักที เขายังไม่ทันเข้าไปกอดเธอ เธอก็เอนตัวพิงเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแล้ว

เขาตะลึงอีกครั้งและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างระมัดระวัง จูบคิ้วของเธอและพึมพำว่า”ฝันดีนะ จิ้งจิ้งของฉัน”

เช้าวันรุ่งขึ้น เวินจิ้งรู้สึกว่ามีบางอย่างกดทับที่เอวของเธอ เธอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจและค่อยๆลืมตาขึ้น

ใบหน้าที่หล่อเหลาก็อยู่ที่ที่ใกล้มากจนลมหายใจของเธอสัมผัสได้ถึง

เธอตกตะลึงและฟื้นสติกลับมาอย่างรอดเร็ว ถอยออกจากอ้อมแขนของผู้ชายโดยไม่ต้องคิดทันที แม้แต่ยังอยู่ในฝัง การกระทำและปฏิกิริยาของผู้ชายคนก็รวดเร็วมาก เธอยังไม่ทันขยับก็ถูกแขนของเขากอดอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง

ใบหน้าที่หล่อๆของเขาลูบคางของเธอ”นอนเป็นเพื่อนฉันอีกหน่อยนะ จิ้งจิ้ง”

ลมหายใจแผดเผาจนมึน”ฉันง่วงมาก…”

สีฟ้าใต้ตาของมู่วี่สิงไม่ได้ชัดเจนนัก แต่เธอก็มองเห็นในระยะใกล้ขนาดนั้น

ช่วงนี้เขาไม่ได้พักผ่อนดีๆเหรอ

เธอไม่อยากขาดใจ แต่ก็ยังพูดอย่างเย็นชาว่า”คุณนอนคนเดียวเถอะ ฉันจะลุกขึ้นแล้ว”

แต่ถูกเขากอดแน่นขึ้น”ให้ฉันกอดอีกสักพักนะ … ”

เขาไม่เคยลืมตาเลย แต่กอดเธออยู่ตลอด”ฉันไม่ได้กอดเธอนอนมานานแล้ว”

เวินจิ้งเบิกตากว้างทันทีและพยายามขยับตัวออกจากอ้อมแขนของเขา”มู่วี่สิง คุณโกหกฉัน คุณควรตื่นมาตั้งนานแล้ว”

อีกอย่าง เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้กอดเธอนอนนานแล้ว

เขารู้ได้ยังไงว่าตัวเองเคยกอดเธอนอนก่อนหน้านี้

เมื่อก่อนเขาเป็นคนมีวินัยในตัวเองมาก เขาจะตื่นขึ้นโดยอัตโนมัติทันทีที่ถึงเวลา ตอนนี้เขายังนอนอยู่บนเตียงทั้งๆที่เธอก็ตื่นขึ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกหกเธออยู่

มู่วี่สิงลืมตาขึ้นอย่างเอือมระอาและพูดด้วยเสียงต่ำว่า”เมื่อคืนฉันดึกมาก”

ปฏิกิริยาของเวินจิ้งทำให้เขารู้สึกแปลกๆเล็กน้อย เพราะสิ่งแรกที่เธอทำคือก้มหัวลดตรวจดูเสื้อผ้าของตัวเอง แม้ว่าเสื้อจะดูยุ่งเหยิง แต่ก็ยังใส่อยู่ในตัว เธอถึงโล่งใจ

เขาอดหัวเราะไม่ได้ แสงยามเช้าตกกระทบบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ดูเหมือนถูกเคลือบด้วยขอบทองที่สวยงาม เขายิ้มอย่างเกียจคร้าน”คุณแค่นอนหลับไป ไม่ได้เมาหรือถูกวางยาสักหน่อย ถ้าฉันจะทำอะไรคุณ คุณคิดว่าจะนอนได้ถึงตอนนี้เหรอ”

อย่างมากเขาก็แค่แอบจูบเธอเฉยๆ

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอึดอัด มู่วี่สิงโอบร่างของตัวเองเข้าใกล้เธอ เสียงแหบๆของเขาฟังดูยั่วยวนมาก”ปฏิกิริยาของคุณ ดูเหมือนว่าฉันจะทำอะไรคุณเมื่อคุณนอนหลับบ่อยๆ …”

เวินจิ้งตบหัวของเขาและถามอย่างไม่มีการแสดงออกใดๆว่า”มู่วี่สิง ทำไมคุณนอนอยู่บนเตียงของฉัน”

เขาทำท่าน่าสงสาร”ฉันอุ้มคุณกลับที่เตียงมาจากห้องหนังสือ คุณก็กอดฉันไม่ยอมปล่อย บอกว่าคุณหนาวให้ฉันอยู่กับคุณ…เพราะฉะนั้นฉันจึงนอนอยู่ข้างๆคุณไงล่ะ”

เวินจิ้งโกรธมาก ทั้งๆที่ดวงตาของผู้ชายคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่…ช่วงนี้อากาศค่อนข้างเย็นก็จริง และเธอชอบเปิดหน้าต่างไว้ด้วย

เธอทำท่าโกรธและลุกจากเตียง เสียงของเธอเย็นชามาก”อยู่บ้านของฉัน คุณจะไม่มีข้าวกิน อย่าหวังว่าฉันจะให้คุณของกิน”

ผู้ชายค่อยๆใส่เสื้อผ้าอยู่ข้างหลังเธอ”ฉันนอนกับคุณทั้งคืน อุ่นเตียงให้เธอทั้งคืน แม้แต่ขนมปังก็ไม่มีเลยเหรอ”

เวินจิ้งหัวมามองเขาอย่างทำท่าโกรธ “มู่วี่สิง ทำไมคุณหน้าด้านขนาดนี้ล่ะ”

เธอนึกขึ้นความสงสัยของเมื่อกี้ ไม่ทันใส่เสื้อโค้ท เธอรีบเดินเข้าไปและเงยหน้าถามว่า”เมื่อกี้คุณพูดว่าไม่ได้กอดฉันนอนมานานแล้ว คุณจำเรื่องของเมื่อก่อนได้ใช่ไหม”

เขาโกหกเธอแม้กระทั่งความจำเสื่อมด้วยเหรอ

เขาขยับตาเบาๆ เสียงต่ำมาก”แสดงว่าเมื่อก่อนฉันกอดคุณนอนบ่อยๆเหรอ เรานอนด้วยกันมาโดยตลอดเหรอ”

เขาก้มหัวลงและเข้าใกล้เธอ ลูบผิวของเธอ”เมื่อคืนคุณเรียกชื่อฉันตลอด”

เธอกระพริบตา หลบสายตาของเขา”เป็นเรื่องปกติ ฉันต้องด่าคุณแน่”

ผู้ชายไม่สนใจเลย ยิ้มอย่างมีเสน่ห์”ด่าฉันในฝันด้วยเหรอ”

เขาเข้าใกล้หน้าของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ”ฉันรังแกคุณ หรือว่าฉันทำอะไรกับเธอมากกว่านี้เหรอ”

เมื่อคืนเขากดเธอไว้ใต้ตัวเขา อยากได้เธอใจจะขาด แต่สุดท้ายเขาเพราะสงสารเธอก็เลยไม่ได้ทำ

เธอกัดปากและหันตัวกำลังจะออกไป แต่จู่ๆเอวก็ถูกรัดอย่างแน่น ทั้งตัวก็ถูกโอบกอดไว้แล้วเข้าไปในอ้อมกอดที่แข็งขืนที่อยู่ข้างหลังเธอ ปากนุ่มๆของเขาก็จูบแก้มของเธอ”อรุณสวัสดิ์”

เขาหยุดไปสักพัก และรอยยิ้มสดใสว่า”อย่าอารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะ จิ้งจิ้ง”

เขาเรียกชื่อเธอ ราวกับว่าสองคำนี้เอ่อล้นออกมาจากหัวของเขา อู้อี้และอ้อยอิ่ง

เวินจิ้งโกรธที่จะตบหน้าทันที แต่ผู้ชายแค่มองเธอด้วยรอยยิ้มโดยไม่หลบมือของเลย มือของเธอก็แข็งไปทันที สุดท้ายก็วางลงไป

มู่วี่สิงเลิกคิ้ว ลูบคางบนไหล่ของเธอแล้วยิ้มด้วยความรัก”ทำไมไม่ตบล่ะ ตบหนึ่งครั้งแปลกเป็นจูบหนึ่งที

ฟังดูก็ยุติธรรมมากนะ”

เขาถือโอกาสจูบแก้มเธออีกครั้ง เสียงยิ้มของเขาเซ็กซี่ขึ้น”คุณควรตบฉันอีกครั้งนะ เพราะว่าเมื่อคืนฉันแอบจูบเธอตั้งหลายที่”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท