Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 749

ตอนที่ 749

บทที่ 749 อย่าทำเป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อน

วันนั้นเวินจิ้งนั่งอยู่ที่นั่งที่ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ ดวงตาของเธอสับสนและผิดหวัง เหมือนเด็กที่หลงทางไม่รู้จะไปทางไหน เงียบๆและดูไม่มีความสุข

“ตอนนี้เหรอ” เธอถาม

หัวใจของเขาเต้นแรงทันที “ใช่ครับ”

เธอไม่ได้ตอบทันที เธอขยับสายตาจากตัวเขาไปที่หน้าต่าง ผ่านไปสักพัก เธอถึงพูดอย่างเย็นชาเบาๆว่า”ฉันไม่รู้”

ไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เป็นรู้สึกยังไง

ใจตาย หรือว่าความรู้สึกอย่างอื่น

เธอไม่อยากรู้ไม่อยากรู้เลยสักนิด

หยีเป่ยโจวมองดูเธออย่างลึกซึ้ง “ฉันชอบคุณ”

เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นและยิ้มเบาๆ “ตอนแรกฉันไม่อยากให้ความรู้สึกของฉันเพียงคนเดียว มารบกวนชีวิตและความสุขของคุณ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลิงเหยาไปหาคุณ ฉันคิดว่าฉันจะไม่มีวันพูดมันออกมา นอกจากวันหนึ่งฉันรู้ว่าคุณอยู่กับมู่วี่สิงไม่มีความสุข”

เวินจิ้งมองดวงตาของเขาโดยตรงและยิ้มเบาๆ “ขอบคุณค่ะ”

ถูกใครบางคนชอบ มันเป็นเรื่องที่โชคดีมั้ง โดยเฉพาะเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนอย่างหยีเป่ยโจว

เขายิ้ม ทั้งเสียดายทั้งพูดเล่นว่า “ถ้าฉันรู้จักคุณเร็วกว่านี้คงดีกว่า”

รู้จักเธอก่อนที่มู่วี่สิงจะรู้จัก

เวินจิ้งยิ้ม ไม่รู้ทำไมจู่ๆก็นึกถึงคำพูดของมู่วี่สิง เขาชอบเธอตั้งแต่เด็กๆ

ตั้งแต่เด็กๆ… เด็กแค่ไหนล่ะ

เธอจำครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันได้อย่างชัดเจน เมื่อเธอไปดูผู้ชายเมื่อสี่ปีก่อน

เขามีความรู้สึกผิดๆแบบนี้มาจากไหน

ทันใดนั้น เสียงโกรธทำลายความเงียบสงบของร้านกาแฟ” เวินจิ้ง —-”

“ไหนคุณบอกว่าคุณไม่สนิทกับคู่หมั้นของฉันไง ”

เมื่อได้ยินเสียง หยีเป่ยโจวก็ขมวดคิ้วไปก่อน แต่เวินจิ้งไม่ได้มีการแสดงออกใดๆเลย

เธอยังก้มหน้าจิบกาแฟอย่างช้าๆ

หลิงเหยาเข้ามาแล้ว เมื่อเห็นความใจเย็นของเวินจิ้ง เธอก็โกรธมากขึ้น

“เวินจิ้ง อธิบายกับฉันเดี๋ยวนี้ คุณจงใจไม่ให้ฉันมีความสุขใช่ไหม” เสียงของเธอแหลมมาก

หยีเป่ยโจวลุกขึ้นยืนทันทีและพูดอย่างไม่พอดีเบาๆว่า “หลิงเหยา ฉันให้เวินจิ้งออกมาเอง ”

เวินจิ้งไม่อยากทะเลาะกับหลิงเหยา ครั้งก่อนเธอเคยเสียหน้าที่นี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็เลยยืนขึ้นและยิ้มเบาๆ “คุณหยี งั้นฉันไปก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับกาแฟค่ะ”

พูดจบก็จะเดินผ่านหลิงเหยา แต่หลิงเหยาไม่ปล่อยเธอไปและยืนอยู่ตรงหน้าเธอทันที “เวินจิ้ง ถ้าวันนี้คุณไม่คุยให้รู้เรื่อง ก็อย่าหวังว่าออกไปจากที่นี่ได้”

หยีเป่ยโจวยื่นมือออกไปจะดึงเธอ แต่ถูกหลิงเหยาเหวี่ยงออกไป เธอจ้องมองเวินจิ้งอย่างโกรธมาก อยากจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆเหลือเกิน

เธอยกมู่วี่สิงให้เธอแล้ว แล้วทำไมเธอยังคิดจะแยกหยีเป่ยโจวกับจากเธออีก

เสียงของผู้ชายแผ่วเบา “หลิงเหยา อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องกับเรื่องระหว่างเรา ถึงจะไม่มีเวินจิ้ง ฉันก็จะยกเลิกงานแต่งอยู่ดี มันเป็นเพราะพ่อแม่ของฉันตกลงไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน คุณอย่าเอาอารมณ์เสียมาใส่คนอื่น”

“เห็นได้ชัดว่าเพราะคุณชอบเธอถึงจะยกเลิกงานแต่ง”

หยีเป่ยโจวมองเธออย่างสงบ”เวินจิ้งแต่งงานแล้ว เธอกับแฟนรักกันดี หรือว่าฉันต้องยกเลิกงานแต่งเพื่อจะเป็นมือที่สามงั้นเหรอ”

เขาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สำหรับเรื่องที่ได้รู้จักเวินจิ้ง มันเป็นความบังเอิญมากว่า

“หยีเป่ยโจว”

ฐานะของตระกูลปัจจุบันในหนานเฉิงก็อยู่ในระดับต้นๆ เธอเป็นคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรักและความตามใจตั้งแต่เด็ก นอกเหนือจากเคยถูกมู่วี่สิงปฏิเสธแล้ว ยังไม่มีใครกล้าปฏิเสธเธอเลย

“ที่ฉันยอมแต่งงานกับคุณ ก็ถือว่าตระกูลหลิงให้เกียรติตระกูลหยีมากว่า คุณยังเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เหรอ แม้ว่าเวินจิ้งจะเป็นคุณหญิงมู่ก็ตาม แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่รู้มีความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงกับผู้ชายตั้งเท่าไหร่ ใครจะไปรู้เธอต้องการอะไรจากคุณล่ะ”

เวินจิ้งรู้สึกว่า อารมณ์ของเธอในตอนนี้ไม่ได้ทนเก่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมตอนนี้เธอรักคนของเธอมาก

ทนเห็นไม่ได้ว่าคนอื่นพูดไม่ดีกับเพื่อนของตัวเอง

เธอหยุดเดินทันที เธอยิ้มเบาๆและค่อยๆพูดว่า”ดูเหมือนว่าตระกูลหลิงให้เกียรติตระกูลหยีก็จริง แต่หลิงเหยา ถ้าคุณยืนอยู่กับหยีเป่ยโจว ดูยังไงก็รู้สึกว่าฐานะหยีเป่ยโจวสูงกว่าคุณสิ”

มันเหมือนกับตอนที่เธออยู่กับมู่วี่สิง

ทั้งออร่าและทิศทางของผู้ชายมีความสง่างาม เนื้อแท้สูงมากจนทำให้คนอื่นชื่นชมไปหมด

หลิงเหยาหน้าตาสวยงามพอ แต่ออร่าและทิศทางจะขาดนิดหนึ่ง

“เวินจิ้ง”หลิงเหยารู้สึกโกรธมากในตอนนี้ และสติก็แตกไปแล้ว เธอหยิบกาแฟที่หยีเป่ยโจวไม่ได้ดื่มแล้วรินใส่ในตัวของเวินจิ้ง แต่มือเพิ่งยกขึ้น ข้อมือก็ถูกจับไว้อย่างแน่นแล้ว

ใบหน้าที่สง่างามของเวินจิ้งเย้ยหยันขึ้นมาทันที แค่ใช้แรงหน่อยก็ทำให้หลิงเหยาเจ็บจนหมดแรงแล้ว ถ้วยก็ตกลงที่พื้นและแตกเป็นชิ้นๆเรียบร้อย กาแฟเข้มข้นก็เต็มพื้นเลย

ความเจ็บปวดที่ข้อมือทำให้มือของหลิงเหยาแทบบิด

เวินจิ้งมองเธอเย็นเยือก ปล่อยมือ”หยีเป่ยโจวจะยอมแต่งงานกับคุณหรือเปล่า มันเป็นเรื่องระหว่างพวกคุณสองคน อย่าดึงฉันเข้าไปยุ่งด้วย หลิงเหยา อย่าทำเป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อนอีก”

นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาที่นี่

เมื่อเธอออกมาเห็นว่ารถของมู่วี่สิงยังไม่ได้ขับออกไป เธอก็เลยหากุญแจขับออกไปโดยตรง ตอนนี้ยังเหลือเวลาเยอะอยู่ เธอคิดไปคิดมาตัดสินใจไปซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อวัตถุดิบสดใหม่กลับบ้าน

หลังจากเจอหยีเป่ยโจวและหลิงเหยาเสร็จ อารมณ์ของเธอก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ตั้งแต่ตื่นเช้าจนถึงตอนนี้ อารมณ์ของเธอสงบและเงียบเป็นพิเศษ

ในซูเปอร์มาร์เก็ต เธอซื้ออาหารให้คนสองคนโดยไม่รู้ตัว และเธอก็พึมพำในใจว่า ตอนนี้เธออาศัยอยู่ในบ้านของเขา ก็ถือว่าจ่ายค่าเช่าแล้วกัน

เมื่อคิดแบบนี้ เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

เดินซื่อของเกือบสองชั่วโมง เมื่อเธอขับรถถึงบ้านก็จะ6 โมงเย็นแล้ว ถอดเสื้อและใส่ผ้ากันเปื้อน พับแขนเสื้อขึ้นเริ่มเตรียมอาหารเย็น เธอก็เหนื่อยมากเหมือนกัน

ฝีมือการทำอาหารของเธอเก่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าอยากเก่งเหมือนมู่วี่สิง ก็ยังต้องพยายามอีกนาน

เมื่อผู้ชายกลับมา กดล็อครหัสและผลักประตู เพียงก้าวเข้ามาเท้าข้างเดียวก็ได้กลิ่นหอมของอาหาแล้ว

เขาอึ้งไปสักพัก รู้สึกเหมือนว่าเข้าบ้านผิดหลัง

ลังเลสองสามวินาที เขาก็รีบเข้าไปในบ้านและวิ่งไปห้องครัวโดยตรง เพิ่งเดินเข้าห้องอาหารก็เห็นผู้หญิงที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างหม้อแล้ว

มือข้างหนึ่งเขย่าซุปข้นในหม้อเรื่อยๆ อีกข้างหนึ่งประคองแก้มของเธอและมองไปนอกหน้าต่าง แขนเสื้อที่พับขึ้นเผยให้เห็นข้อมือสีขาวของเธอ พระอาทิตย์ตกสีส้มก็โปรยลงมาบนตัวเธอ กลายเป็นแสงสีทองอ่อน ๆ

มู่วี่สิงสึกว่าหัวใจของเขาอ่อนลงและนุ่มนวลขึ้นในอก

จู่ๆเอวก็ถูกกอดไว้ เวินจิ้งตกใจหมดเลย หน้าอกที่ร้อนผ่าวติดกับหลังของเธออย่างแน่นๆทันที ผู้ชายก็กอดเธอจากด้านหลังแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท