Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 755

ตอนที่ 755

บทที่ 755 รักกันจริงๆ

เขากลืนคำพูดที่เตรียมไว้ของเขาลงลำคอไป เมื่อเห็นอารมณ์กลัดกลุ้มใจของเธอที่แสดงออกมา เวินจิ้งยังคงคิดว่าเธอเดาถูก “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการนะ”

เธอยิ้มกว้างเห็นฟันขาวครบทุกซี่ “ไม่กี่วันมานี้ประจำเดือนฉันมา ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ อดทนอีกหน่อย โอเคไหม?”

ยังพูดไม่ทันจบดี เธอก็มีอันต้องอึ้งไปเสียก่อน

ชายหนุ่มนำมือขึ้นมาก่อนจะค่อยๆกางออกต่อหน้าเธอ ภายในฝ่ามือใหญ่ของเขามีแหวนหนึ่งวงส่องประกายระยิบระยับ ส่องแสงแวววาวสะท้อนกับแสงไฟ

ดีไซน์ของแหวนเรียบง่ายสวยงาม ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็ก ขนาดกำลังพอดี

love you all my life

แหวนวงนี้ เป็นวงเดียวกับที่เขาเคยใส่ไว้ในดอกกุหลาบที่เคยให้เธอเมื่อสี่ปีก่อนตอนเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน

ต่อมาเธอก็รู้มาจากอั้ยเถียนว่า แหวนวงนี้ถึงจะดีไซน์เรียบง่าย ทว่าบ่งบอกถึงความรักที่เป็นหนึ่งเดียว เป็นผลงานของนักออกแบบระดับโลก มูลค่ากว่าร้อยล้าน

ดวงตาที่ลึกซึ้งร้อนแรงของมู่วี่สิงคล้ายกับจะทำให้ผิวเนื้อของเธอร้อนผ่าว เสียงแหบต่ำดังขึ้นในความเงียบที่สามารถได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจ จนทุกๆทำนองเสียงสามารถดังเข้ามาในโสตประสาทเธออย่างชัดเจน “แต่งงานกับผมนะ ตกลงไหม?”

เขามองเข้าไปในดวงตาเธอ ดวงตาสีดำขลับของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง เหมือนภาพลวงตาเมื่อถูกดึงเข้าไปคล้ายกับจะออกมาไม่ได้อีก

“ผมรักคุณ ชีวิตละอนาคตทั้งหมดของผม เป็นของคุณแล้วนะ”

มือของเธอยังคงจับที่ผ้าเช็ดผมที่ยังคงอยู่บนหัวของเธอ ก่อนที่ผ้าผืนนั้นจะไถลตามโครงหน้าลงมา

เธอได้ยินเสียงแหบต่ำที่ดูแข็งทื่อของตัวเองดังขึ้น “พวกเราไม่ใช่ว่าแต่งงานกันแล้วหรือไง?”

นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาขอเธอแต่งงาน

มีบางความทรงจำที่ช่างยาวนานเหลือเกิน แต่เธอยังคงจำมันได้ชัดเจน ในงานที่พวกเขาแต่งงานกัน เขาคุกเข่าลงเพื่อที่จะขอเธอแต่งงาน

เธอมองไปที่แหวนวงนั้น ก่อนที่น้ำตาจะร่วงลงมา

มู่วี่สิงเมื่อเห็นน้ำตาของเธอเขาก็พลันตกใจทำอะไรไม่ถูก เขายกมืออีกข้างขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้เธอ เสียงของชายหนุ่มลุกลี้ลุกลนแบบที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน “จิ้งจิ้ง อันนี้ผมต้องการหนึ่งอัน ที่เป็นของงานแต่งของพวกเรา”

เขารู้ดีว่าการแต่งงานเมื่อสี่ปีก่อนไม่ใช่เป็นเพราะความรัก แต่เป็นเพราะความต้องการ หลังจากความต้องการของหลินเจิ้นที่อยากให้จัดงานแต่ง เพื่อเป็นการสนองความต้องการเขาก่อนตาย มิหนำซ้ำงานแต่งนั่นก็ไม่สมบูรณ์อีก

เขาบรรจงใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสายบนใบหน้าของเธอ

เธอร้องไห้แบบนี้มันยิ่งทำให้เขาเจ็บปวด เธอเพียงแค่ร้องไห้เงียบๆ ไม่ได้สะอึกสะอื้นหรือถามคำถามใดๆ

“จิ้งจิ้ง ผมอยากเห็นคุณในชุดแต่งงานอีกสักครั้ง”

งานแต่งครั้งนี้ของพวกเรา มันเกิดจากความรักระหว่างคนสองคนจริงๆ

เสียงทุ้มต่ำของเขาฟังดูอบอุ่นอ่อนโยน “แต่งงานกับผมอีกครั้งนะ ตกลงไหม? ผมอยากมองดูคุณเต็มใจที่จะมอบตัวคุณให้กับผม”

เธอแต่งงานกับเขา นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เราจะแต่งงานกัน ไม่ว่าหลังจากนี้จะมีการหย่ากันอีกหรือไม่ จะไม่มีครั้งที่สามเกิดขึ้นอีกแล้ว

เวินจิ้งเม้มริมฝีปากก่อนจะยิ้มออกมา ใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา แต่เสียงของเธอไม่มีร่องรอยจากการร้องไห้ มันเงียบสงบผิดปกติ

เธอพึมพำว่า “มู่วี่สิง คำที่คุณขอฉันแต่งงาน เหมือนกับที่ฉันฝันเปี๊ยบเลย”

เหมือนกันมาก เมื่อตอนที่เธอสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด นี่เป็นเสียงที่เธออยากจะได้ยินที่สุด

“แล้วทำไมคุณถึงมาบอกฉันเอาตอนนี้”

ทั้งหมดทั้งมวล เป็นอะไรที่เธอชอบมากที่สุด

ผู้ชายที่เธอชอบ แหวนที่เธอชอบ คำขอแต่งงานที่เธอชอบ

แต่ว่าทำไมถึงพูดออกมาตอนนี้? พวกเขาสองคนไม่มีทางที่จะไปด้วยกันรอดแล้วแท้ๆ

เธอหัวเราะกับตัวเอง ดวงตาไม่ปิดบังความเหนื่อยล้าเลยสักนิด

“พวกเรารู้จักกันตั้งแต่สี่ขวบจนกระทั่งตอนนี้ ตอนนั้น ฉันก็มั่นใจแล้วว่า… ….ฉัน… … รักคุณมาตลอด”

รักเขา เหมือนที่เขารักเธอ

มู่วี่สิงรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงในหัวใจ เจ็บปวดยิ่งกว่าช่วงเวลาที่เซ็นหย่ากับเธอ และความรู้สึกนี้ก็ชัดเจนเกินไปราวกับว่ามีดกำลังทิ่มแทงที่หัวใจของเขา

“ก็แค่งานแต่งงาน” เขาก้มลงไปมองนิ้วเรียวสวยของเธอ จินตนาการภาพว่าถ้าเธอสวมแหวนวงนี้อีกครั้งมันจะสวยงามมากแค่ไหน

คิ้วของเขาเลิกขึ้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพูดทีละประโยคด้วยความหนักแน่น “เป็นเจ้าสาวของผม ถ้าหากว่าคุณเต็มใจ ก็คือเป็นตลอดชีวิต แต่ถ้าหากว่าคุณไม่เต็มใจ ก็อีกแค่สองปี ผมแค่ต้องการแค่ครั้งนี้เท่านั้น”

“เวินจิ้ง ว่าที่เจ้าสาวของผม มันเป็นคุณมาโดยตลอด ไม่มีใครคนไหนอีก”

เขาจับมือเธอมาวางไว้กลางฝ่ามือเขา

เขาหยิบแหวนเพชรขึ้นมาแล้วค่อยๆบรรจงสวมลงบนนิ้วนางของเธอ เวินจิ้งพยายามที่จะดึงออก ทว่าชายหนุ่มก็บังคับให้เธอใส่

เธอจึงเลือกที่จะเลิกขัดขืน ก่อนมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเขา และพูดอย่างเฉยเมยว่า “มู่วี่สิง แหวนเพชรวงนี้มันเล็กไป”

เธอจงใจที่จะแสดงสีหน้าดูถูกดูแคลน “แหวนที่คุณเคยให้หลิงเหยามันใหญ่กว่าวงนี้ คุณไม่ใช่เป็นประธานอยู่เหรอ? ตำแหน่งก็เลื่อนขึ้นไปกี่ระดับแล้ว แล้วทำไมยังซื้อวงเล็กแค่นี้”

ดังนั้นการกระทำรักใคร่หลงใหลของชายหนุ่มที่อยากจะให้เธอสวมแหวนวงนี้จึงสะดุดลง

แหวนวงนี้มันเล็กเกินไปอย่างนั้นหรือ?

เขาจำได้ว่าเมื่อสี่ปีก่อนแหวนวงนี้เป็นแหวนที่เขาวางองค์ประกอบคร่าวๆด้วยตัวเอง ตั้งแต่ขนาดไปจนถึงเลือกวัสดุ ทุกอย่างเป็นเขาที่ลงแรงทำเองจนเสร็จ เปลี่ยนแปลงนู้นนี่มานับไม่ถ้วนก่อนจะออกมาเป็นแบบนี้

แหวนที่เขามอบให้เธอ ต้องไม่มีทางที่จะด้อยกว่าของหลิงเหยาแน่นอน

เพราะว่ากระดูกของเธอเล็ก นิ้วมือของเธอก็เลยเล็กตาม เขาคิดว่าแหวนเพชรขนาดเท่านี้ถ้าสวมเข้าที่นิ้วมือของเธอจะต้องเข้ากับรูปมือเธอมากๆแน่

จริงๆแล้วเขาไม่ได้พูดแบบนั้น ก่อนจะหันไปมองเธอ “คุณชอบเพชรเม็ดใหญ่เหรอ?”

เวินจิ้งพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบเพชรเม็ดใหญ่บ้างล่ะ?”

มู่วี่สิงดึงแหวนเพชรวงเดิมกลับไปอย่างใจเย็น เวินจิ้งเมื่อเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ชายหนุ่มพลันจับข้อมือเธอขึ้นมาอีกครั้ง

วินาทีต่อมา ทันใดกล่องแหวนสีน้ำเงินก็ได้มาอยู่ตรงหน้า เธอมองเขาอย่างตกตะลึง มือเรียวยาวของเขาเปิดกล่องสีเหลี่ยมออกมา ภายในกล่องกำมะหยี่มีแหวนเพชรรูปไข่นกพิราบขนาดใหญ่วางไว้อยู่ ส่องแสงแวววาวสวยสะท้อนกับแสงไฟสีส้ม

เขาขมวดคิ้ว ก่อนถามอย่างจริงจังว่า “อันนี้ได้ไหม?”

หลังจากนั้นเขาจึงทำท่าที่จะสวมให้เธออีกครั้ง

เวินจิ้ง : … …

เธอกำหมัดแน่น “นี่คุณซื้อมาอีกวง?”

เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่ขอแต่งงานแล้วเตรียมมาสองวงมาก่อน ผู้ชายคนนี้แปลกเกินคน พอเถอะ พอเถอะ

“ไม่ใช่ว่าผมเคยบอกคุณเหรอ ว่าจะส่งแหวนให้คุณทุกวัน?”

เพราะว่าแหวนวงแรกมีการแก้ไขเล็กน้อย ดังนั้นจึงล่าช้า

แค่เพียงไม่กี่คำในเวลานั้น เขาได้แยกนิ้วของเธอออกอย่างชำนาญ และกำลังจะนำแหวนไปสวมให้เธอ

“อันนี้มันขี้เหร่ เอาอันเดิมมาให้ฉัน” เวินจิ้งพูด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท