Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 762

ตอนที่ 762

บทที่ 762 อยากจะพบเธอจริงๆ

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เธอเห็นหลิงเหยาหน้าถอดสี เธอจึงพูดอย่างไม่แยแสว่า “ฉันรู้เรื่องอุบัติเหตุครั้งนี้เธอก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่คงด้วยความเกลียดชังที่เธอมีต่อฉันอย่างไม่เคยจางหาย ไม่ว่าจะเป็นเพราะมู่วี่สิงหรือว่าหยีเป่ยโจว เธอก็เกลียดฉันเข้ากระดูกดำ ถ้าฉันไม่อยู่สักคน ผู้ชายที่เธอชอบก็คงอาจจะชายตามองเธอบ้าง ใช่แบบนี้หรือเปล่า ไอ้ฆาตกร”

หลิงเหยามองดูเธออย่างดูแคลน “เวินจิ้ง เธอต่างหากฆาตกร เป็นเธอต่างหาก เธอไม่ควรเรียนแพทย์ตั้งแต่แรก ถ้าหากเรียนทนายบางทีอาจจะสามารถช่วยแก้ต่างให้ตัวเองให้ลดโทษทางคดีได้”

เวินจิ้งยิ้มแบบไม่ใส่ใจ “จะได้ลดโทษหรือไม่นั้นฉันไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไร ว่าแต่คุณหลิงคุณควรต้องเป็นห่วงตัวเองก่อนไหม ดูซิว่ามู่วี่สิงจะตอบโต้พวกคุณอย่างไร”

เธอยักไหล่ขึ้น “ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำอะไร”

หลิงเหยายิ้มเยาะเย้ย “เขาเชื่อสนิทใจแล้วว่าเธอเป็นคนชนคนตาย ทำไมยังต้องมาตอบโต้พวกเราอีก คนฉลาดก็จะสามารถดูออกว่าเขานั้นผิดหวังกับเธอสุดๆ”

เวินจิ้งยิ้มเย้ยหยัน “คุณหลิงคุณกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม พี่ชายเธอยังไม่สนใจที่เธอชนคนตาย เธอคิดว่ามู่วี่สิงเขาจะสนใจหรอ”

เธอทราบดีว่าที่มู่วี่สิงผิดหวังนั้น เป็นเพราะเธอไม่ได้บอก“เรื่องราวที่แท้จริง”กับเขาตั้งแต่แรก

แต่ว่าเธอก็ไม่อยากจะอธิบายอะไรอีกต่อไปแล้ว

เวินจิ้งปิดตาลงอย่างช้าๆด้วยท่าทีที่ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ยิ่งทำให้หลิงเหยากลับกระวนกระวายมากขึ้น

ตอนนี้ที่การ์เด้นมูเจียวาน

มู่วี่สิงเอนกายพิงโซฟาอย่างเฉื่อยเนือย ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาคือสุดยอดฝีมือช่างเทคนิคแห่งเมืองหนาน ลี่หนานเฉิงก็นั่งอยู่ข้างๆ

“คุณมู่ครับ” ชายคนนั้นได้จดจ่ออยู่ที่คอมพิวเตอร์เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม จนสุดท้ายจึงได้พูดขึ้นว่า “ผมได้ดูคลิปวิดีโอนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ คลิปไม่น่าจะมีการตัดต่อหรือดัดแปลงแต่อย่างใดครับ”

เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ปัจจุบันเทคโนโลยีสามารถลบบุคคลที่มีอยู่ในคลิปวิดีโอออกได้ก็จริง แต่ว่าก็เป็นการยากมากที่ในคลิปวิดีโอจะไม่ทิ้งร่องรอยเหลือไว้ อีกอย่างถ้าหากมีการดัดแปลงคลิปจริง อย่างไรผมก็ต้องดูออกอย่างแน่นอน”

ลี่หนานเฉิงถามขึ้นด้วยความหงุดหงิด “คุณแน่ใจเหรอ เวินจิ้งบอกว่าหลิงเหยาก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน”

เมื่อพูดจบ เขาก็หันไปมองมู่วี่สิง “พี่น้องครับ คุณเชื่อคำพูดของเวินจิ้งไหม และตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเชื่อหรือไม่เชื่ออีกแล้ว เพราะปัญหาคือพวกเราจะผิดประเด็นอีกไม่ได้”

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอชนคนจนเสียชีวิต แต่เป็นเรื่องที่จะทำอย่างไรให้เธอรอดพ้นจากความผิดทางคดี

โครงหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิงที่ยังคงเฉื่อยเนือย “ถ้าเธอชนคนเสียชีวิต ผมมีแต่จะช่วยปกปิดให้ถึงที่สุด เธอไม่จำเป็นเลยที่จะต้องโกหกผม”

เธอไม่สนใจแม้แต่อยากจะอธิบายเรื่องราวให้เขาฟังด้วยซ้ำ แล้วเธอจะสามารถสร้างเรื่องหลอกลวงมาโกหกเขาได้อย่างไร

ช่างเทคนิคเกิดความสงสัยเล็กน้อย มองดูมู่วี่สิงครู่หนึ่ง

“แล้วตอนนี้เรื่องราวเป็นยังไงกันแน่ หรือสิ่งที่เห็นนั้นคือวิญญาณ” ลี่หนานเฉิงยิ่งหงุดหงิด “ผมว่านะ คุณฝีมือไม่ถึงแล้วมาหลอกลวงพวกผมหรือเปล่า”

การเป็นช่างเทคนิค สิ่งที่ไม่ควรที่สุดคือทำให้ผู้อื่นสงสัย เขาจึงพูดด้วยเสียงหนักแน่นโดยไม่สนสถานะของเขาทั้งสอง “ถ้าหากผมยังไม่สามารถมองเห็นถึงร่องรอยได้ อย่างนั้นคงไม่มีใครสามารถทำได้อย่างแน่นอน!”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีที่เหมือนโดนดูถูก ลี่หนานเฉิงจึงได้หุบปากลงชั่วคราว

“พี่น้องครับ อย่างนั้นพวกเราลองถามเวินจิ้งเกี่ยวกับเรื่องราวของเหตุการณ์อย่างละเอียดก่อนดีไหม เพื่อความแน่นอน”

ลี่หนานเฉิงพูดเชิงแนะนำ “ถ้าไม่เช่นนั้น ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรดี และเวลานี้สิ่งที่นายควรทำคือการปลอบใจบรรเทาความรู้สึกของเวินจิ้ง”

เธอต้องการการปลอบใจจากเขาหรือ?

มู่วี่สิงหัวเราะเยาะตัวเอง คงไม่จำเป็นสำหรับเธอ เพราะเธอยิ่งเป็นห่วงว่าเรื่องนี้อาจทำให้เธอยิ่งติดค้างบุญคุณเขา ดังนั้นหลังจากสองปีเธออาจไม่สามารถจากเขาไปอย่างสบายใจได้

มู่วี่สิงไม่ได้พูดใดๆ เพียงแต่ยกมือหมุนหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้หันมา แล้วคลิกปุ่มเล่นคลิปอีกครั้งเพื่อทำการดูใหม่อีกที

ลี่หนานเฉิงพึมพำขึ้น “ผมว่านายดูตั้งหลายรอบแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังดูไม่ออก นับประสาอะไรกับพวกเรา ยิ่งดูไม่ออกเลยมั้ง”

ทันใดนั้น ผู้ชายได้หรี่ตาขึ้น น้ำเสียงโทนต่ำดังขึ้นอย่างเยือกเย็น “ส่งคนไปตรวจสอบที่สำนักงานศุลกากรว่าช่วงนี้มีรถปอร์เช่ที่คล้ายคันนั้นของผมเข้ามาหรือไม่”

“อะไรนะ”

มู่วี่สิงปิดคอมพิวเตอร์อย่างเย็นชา “อย่าพูดมาก”

แม้ลี่หนานเฉิงจะไม่เข้าใจในความหมายของมู่วี่สิง แต่เขาก็พยักหน้าตอบรับ

รถของมู่วี่สิงคันนั้นเป็นรถรุ่นสั่งทำพิเศษ ไม่มีผลิตในประเทศ

“นอกจากที่ศุลกากรแล้ว ให้ทำการตรวจที่มาที่ไปของรถรุ่นนี้ทั้งในและต่างประเทศด้วย”

ลี่หนานเฉิงพยักหน้า ดูเหมือนจะเข้าใจในความหมายของมู่วี่สิงขึ้นเล็กน้อย

ที่ห้องหนังสือได้สงบลงในทันใด มู่วี่สิงหยิบมวนบุหรี่ออกมา แต่เขาก็ยังไม่ทำการจุดในทันที

ไม่นานเสียงรำพึงรำพันก็ดังออกมาจากริมฝีปากที่บางๆ “เธอจะคิดถึงเราไหมน๊า”

สามวันผ่านไปหลังจากขึ้นชั้นศาลในวันนั้น เขาก็เกิดความเข้าใจขึ้นในฉับพลัน ก่อนหน้านี้ดูเหมือนเธอจะสามารถปล่อยวางความบาดหมางระหว่างพวกเขาได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอนั้นจะสามารถปล่อยวางได้จริงๆ

เธอแค่ยอมรับที่เขาบังคับให้เธออยู่ต่ออีกสองปี เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ยังคงเฉยเมยเช่นนี้ต่อไป

ถ้าเขาเชื่อเธอ บางทีเธออาจจะรู้สึกขอบคุณ

แต่ถ้าเขาไม่เชื่อเธอ เธอก็คงจะไม่ผิดหวัง

ถ้าเขาช่วยเธอ เธอก็จะไม่ปฏิเสธ แต่ถ้าหากไม่ช่วย เธอก็จะไม่ฝืนบังคับ

สักพักเขานั้นก็ทิ้งก้นบุหรี่ไป แล้วหยิบกุญแจรถขึ้นมา

ความจริงเขาไม่อยากจะไปพบเธอ เพราะกลัวว่าถ้าได้เจอเธอ เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้

ในวันเกิดเหตุ หลิงอี้ได้วางแผนทุกอย่างไว้อย่างดิบดีแล้ว

เขาจะต้องไม่ใจร้อน ไม่ขี้โมโห และห้ามผิดพลาด

แต่ว่าเขาอยากจะพบเธอจริงๆ

เมื่อเวินจิ้งเห็นชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอนั้นกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ในมือ ใบหน้าดูนุ่มนวล ขี้เล่นและสง่างาม ทันใดนั้นเขาได้บิดขี้เกียจออกมา “ฉันคิดว่าคุณจะโกรธจนไม่อยากมาเจอฉันอีก”

อันที่จริงห้องขังที่เธออยู่ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก หรือบางทีอาจเป็นเพราะมู่วี่สิงได้สั่งกำชับไว้

แววตามู่วี่สิงตกกระทบไปที่เรือนร่างของเธอโดยไม่กะพริบตา หัวใจอันแข็งแกร่งของเขากำลังถูกเธอทำให้หวั่นไหว ก้าวเท้ายาวๆเข้าไปแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมอกอย่างแน่น แน่นสุดๆ ราวกับว่าจะหลอมร่างอันบอบบางของเธอเข้าไปในกระดูกของตัวเองให้ได้

เสียงต่ำๆของเขาได้กระซิบข้างๆใบหูเธอ “ให้เวลาผมสักหน่อยนะ ผมจะพาคุณออกไป”

เธอถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน อ้อมกอดของเขาที่อบอุ่นตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เวินจิ้งถึงกับไม่มีเรี่ยวแรง พูดเพียงเบาๆว่า “อันที่จริงก็ไม่เป็นไรหรอก”

“มู่วี่สิง คุณไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองมากเกินไป” เธอซบอยู่ที่ไหล่ของเขา เป็นท่าทางที่สนิทแนบชิดและอยากพึ่งพิง แต่น้ำเสียงของเธอนั้นกลับเยือกเย็น

คำพูดของเธอกลับทำให้มู่วี่สิงโกรธเคือง เขายินดีที่จะเห็นเธอตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่าอยากจะไปจากเขา ต้องการจะหย่าจากเขามากกว่าที่จะเห็นเธอมีอารมณ์แบบนี้

เขากัดใบหูเธอด้วยความโกรธ “เวินจิ้ง ตอนที่คุณอยู่ข้างๆผม วันๆคุณมีแต่ความต้องการที่อยากจะไปจากผม ตอนนี้คุณถูกคุมขังอยู่ในที่แห่งนี้ คุณกลับบอกผมว่าคุณไม่เป็นไร นี่คุณต้องการจะยั่วโมโหผมใช่ไหม”

เวินจิ้งหัวเราะเบาๆ แล้วตบไหล่เขาพลางพูดขึ้น “ไม่ใช่แบบนั้นอย่างแน่นอน ฉันรู้ว่าคุณวิ่งเต้นทั้งวันเพื่อหาทางช่วยฉันออกไป ตอนนี้ก็ยังมาเยี่ยมฉันอีก ถ้าฉันยังยั่วโมโหคุณฉันนั้นคงไม่มีจิตใจขาดมโนธรรมแล้วแหละ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท