Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 747

ตอนที่ 747

บทที่ 747 เห็นคุณร้องไห้หนักกว่าอีก

ร่างกายของเธอถูกตรึงแน่นมาก ได้แต่เรียกชื่อเขา “มู่วี่สิง … ”

ริมฝีปากบางของเขาตอบแค่คำเดียวว่า “หืม”

ยังไม่เต็มใจเหรอ เมื่อเห็นเธอทำท่าไม่รู้ทำยังไงและสับสน ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เต็มใจจริงๆ

เขาจูบเธออย่างมึนเมาและหมกมุ่น ถามด้วยเสียงต่ำ “ไม่เต็มใจเหรอ ถ้างั้นเราไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหย่าร้างเลยนะ โอเคมั้ย”

แค่อยู่กันแบบนี้ ไม่คิดจะจากไป ไม่คิดเรื่องหย่า พวกเขาก็อยู่กันแบบนี้ …

เวินจิ้งกัดริมฝีปากของเธอแน่นๆ สีหน้าที่เย็นชาของเธอเปลี่ยนเป็นน่าสงสาร เธอพึมพำ “ฉัน … ฉันยังไม่พร้อม ครั้งหน้าได้ไหม”

เธอต้องคิดก่อน คิดอย่างจริงจัง

มู่วี่สิงเหล่ตา แต่การกระทำในมือยิ่งร้อนแรงไปอีก

เธอรีบเอามือไปห้ามเขาทันที การหายใจที่เพิ่งสงบลงก็วุ่นวายไปหมดเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเธอก็แดงมากขึ้นเรื่อย ๆ

“มู่วี่สิง..คุณหยุดก่อน อย่า…”

“ตอนเช้าคุณยังบอกว่าได้เลย… ตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสเหรอ”

น้ำเสียงของเขาช้าและต่ำ พร้อมกับลมหายใจที่รุนแรง ถอนหายใจอย่างพึงพอใจเอ่อล้น “ฉันชอบ … รสชาติของคุณมาก”

“มู่วี่สิง” เวินจิ้งตะโกนอย่างตื่นตระหนก”คุณสัญญาว่าจะไม่แตะต้องตัวฉัน เมื่อก่อนคุณก็เคยสัญญาไว้แล้ว

แล้วจะผิดสัญญาแบบนี้ได้ยังไงล่ะ”

“จิ้งจิ้ง ฉันตามใจคุณได้ แต่คุณต้องทำตามสัญญา ไม่ใช่เหรอ”

ฝ่ามือของเขาไม่ได้หยุดเลย ยังลงไปเรื่อยๆ

ใบหน้าของเวินจิ้งเปียกไปหมดแล้ว อดน้ำตาไหลไม่ได้ “มู่วี่สิง คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้”

เขาไม่เข้าใจว่าเธอขยะแขยงและกลัวอะไรอยู่ แต่เธอรู้อย่างชัดเจน

แม้แต่ลูกเธอก็ไม่อยู่แล้ว เธอตัดสินใจนานแล้วว่าต้องไม่ใจอ่อนให้ตัวเองแม้แต่น้อยเด็ดขาด เธอ

แค่อยากอยู่ไกลๆ

ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน ก็จะไม่มีความเจ็บปวดอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเธอก็ตาม

เธอจะไม่มีอะไรกับเขาอีกครั้งเด็ดขาด …

น้ำตาของเวินจิ้งหยุดไหลกะทันหัน ไม่รู้ว่ากำลังในมือมาจากไหน เธอจึงผลักเขาออกอย่างแรง ผู้ชายไม่คิด

ว่าเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เลยถูกผลักออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

เธอกลิ้งตัวจากโซฟาลงไปพื้นทันที

พรมสีเข้มที่อยู่ข้างโต๊ะกาแฟ ทำให้ขาขาวและเรียวยาวของเธอตกอยู่ในสายตาของผู้ชาย มันยิ่งถูกดึงดูดไป

อีก

ลูกกระเดือกกลิ้งไปมา ดวงตาที่ลึกล้ำของเขามองดูเธอค่อยๆก้าวถอยหลัง ริมฝีปากบางๆของเขายังยิ้มอยู่”

จิ้งจิ้ง เว้นแต่เธอจะออกไปแบบนี้ ไม่งั้นฉันจะไม่ปล่อยคุณแน่”

เธอกัดริมฝีปากและมองผู้ชายบนโซฟาอยู่สักพัก ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวและแทบทรุด เธอไม่สนใจอะไร

แล้ววิ่งไปกอดแขนผู้ชาย พึมพำว่า “ฉันไม่พูดเรื่องหย่าแล้ว … ต่อไปจะไม่พูดอีก คุณอย่าทำแบบนี้ … ”

มู่วี่สิงคิดว่าถ้าเขามีสติอยู่ เขาจะต้องไม่ทำแบบนี้กับเธอแน่นอน แต่ตอนนี้เขาเมา … เมามาก

เวินจิ้งยังไม่ทันตอบสนอง ผู้ชายก็อุ้มเธอจากพื้นโดยตรง แล้วเดินตรงเข้าไปห้องนอนของเธอ

“จิ้งจิ้ง จะทำยังไงดี ทั้งๆที่ฉันเสียใจแทบตายเมื่อเห็นคุณร้องไห้ แต่ฉันยังอยาก … เห็นคุณร้องไห้หนักกว่านี้

สติของเวินจิ้งเริ่มแตกไปมากขึ้นกับความใกล้ชิดแบบนี้ เธอรู้ดีว่าสีแดงเข้มในดวงตาของผู้ชายในตอนนี้นั้นหมายถึงอะไร เธอไม่ทันคิดอย่างอื่น ผลักเขาออกไปอย่างแรง

“จิ้งจิ้ง คุณต้องการฉัน ดังนั้นคุณจึงไปหาฉัน คุณมีความรู้สึกกับฉัน ไม่ใช่เหรอ” เสียงของเขาดังเข้าหูเธอมีความบังคับเต็มไปหมด

เธออยากเปิดปากปฏิเสธ แต่ก็ถูกเขาบดขยี้ในวินาทีต่อมา

เธอจะไม่มีความรู้สึกได้ยังไง

ร่างกายควบคุมยากกว่าหัวใจอีก ดังนั้นเธอจึงกลัวมากขนาดนั้น

เธอกลัวสถานการณ์ที่พยายามควบคุมมา แต่สุดท้ายก็ถูกเขาทำลายลงอย่างง่ายดาย

“มู่วี่สิง คนสารเลว”

“อืม … ฉันมันเลว ชอบคุณจนจะเป็นบ้าแล้ว ..”.

เมื่อเธอลืมตา สติของเวินจิ้งก็ยังไม่ฟื้นกลับมาอย่างเต็มที่ แค่รู้สึกเจ็บไปทั่วตัว ราวกับว่าเธอถูกรถทับอย่าง

หนัก

มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหนื่อยล้า ผ้าม่านก็ถูกเปิดไว้ จากแสงที่เข้ามาจากช่องว่างก็รู้ได้ว่าตอนนี้

ค่อนข้างสายแล้ว

ที่ข้างๆเธอว่างเปล่า เธอกระพริบตา สักพักถึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

คลั่งไคล้และรุนแรงมาก

ร่างกายของเธอสะอาดและสดชื่นมาก เห็นได้ชัดว่าน่าจะอาบน้ำไปแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์และดูเวลา

เกือบเที่ยงแล้ว

เสียงโทรศัพท์เข้าของเธอถูกปิดเสียงหมด มีสายโทรเข้าตั้งยี่สิบกว่าสาย

เธอทำหน้าตึง ทั้งๆที่รู้ตัวเองทำมากเกินไปแค่ไหน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ถูกเขาปิดเสียงไว้ด้วย จะโทรมาหลายๆครั้งทำไมล่ะ

แต่เมื่อกดเข้าไป ชื่อบนมือถือไม่ใช่มู่วี่สิง

ขมวดคิ้ว สายที่ไม่ได้รับโทรจากหลิงเหยา

เธอโทรหาตัวเองทำไม

เธอไม่คิดว่าพวกเธอต้องติดต่อกันด้วย

แม้จะคิดแบบนี้ แต่เธอก็โทรกลับไปด้วย

มือหนึ่งหยิบโทรศัพท์อยู่ มือหนึ่งยกผ้านวมออกแล้วลุกจากเตียง

เธอแค่ใส่เสื้อของผู้ชายตัวหนึ่งอยู่ เสื้อเชิ้ตตัวกว้างก็ใหญ่พอที่จะคลุมเข่าของเธอ ที่บ้านไม่มีเสียงใดๆ เธอคิดว่ามู่วี่สิงคงไม่อยู่บ้านแล้ว เธอก็เลยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า

เธอหิวมาก เท้าเปล่าเหยียบพื้นด้วย มือหนึ่งดึงผ้าม่านอย่างแรง แสงแดดก็สาดส่องเข้ามาในห้อง

โทรศัพท์ถูกเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว เธอยังไม่ได้เปิดปาก เสียงประชดก็ดึงมาจากทางนั้นแล้ว “เวินจิ้ง ฉันยังคิดว่าคุณไม่กล้ารับโทรศัพท์ของฉันเลย”

นี่ความรู้ใหม่ๆเนี่ยๆ ทำไมไม่กล้ารับโทรศัพท์ของเธอล่ะ

เธอพูดอย่างเย็นชา “มีอะไรเหรอ”

“เวินจิ้ง ฉันยกมู่วี่สิงให้คุณแล้ว ทำไมคุณยังพยายามยั่วยวนผู้ชายของฉันอีก”

“ฉันไม่รู้จักผู้ชายของคุณ”

“คุณกล้าบอกฉันต่อหน้าหยีเป่ยโจวว่า คุณไม่รู้จักเขาป่ะล่ะ”

หยีเป่ยโจว

เวินจิ้งขมวดคิ้วและพูดเบา ๆ”เขาเป็นผู้ชายของคุณเหรอ”

พูดคำเหล่านี้ตกอยู่ในหูของหลิงเหยา มันก็จะเป็นการยั่วยุอย่างไม่ต้องสงสัย “ตระกูลหลิงและตระกูลหยีได้สู่ขอกันแล้ว เขาเป็นคู่หมั้นของฉัน เขาไม่ใช่ผู้ชายของฉัน จะเป็นของคุณเหรอ”

เวินจิ้งฟังอย่างเงียบๆและพูดอย่างเกียจคร้าน “อ่อ แล้วไง”

“เวินจิ้ง อย่าให้ฉันเจอคุณติดต่อกับหยีเป่ยโจวอีก”

“ไม่ให้ติดต่อคงเป็นไปไม่ได้หรอก” เวินจิ้งยิ้ม

เธอไม่ได้ยั่วยวนหยีเป่ยโจวเริงๆสักหน่อย ทำไมเธอต้องหลีกเลี่ยงเขาด้วยล่ะ

น้ำเสียงของหลิงเหยาเริ่มเย็นลง”คุณจะแย่งกับฉันจริงๆใช่ไหม”

“คุณก็ตลกดีนะ ฉันบอกตอนไหนว่าจะแย่งกับคุณล่ะ”

“งั้นคุณก็อยู่ห่างๆเขา”

“ฉันไม่ได้อยู่ใกล้เขาอยู่แล้วเนี่ย” เวินจิ้งพูดช้าๆ

เธออยากวางสายแล้ว ไม่อยากคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเธอต่อ

หลิงเหยายิ่งโกรธมากขึ้น “ถ้าคุณไม่ได้ใกล้ชิดกับเขา แล้วทำไมเขาบอกฉันว่าเขาชอบคุณ เพราะฉะนั้นจะยกเลิกงานแต่งงานกับฉันล่ะ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท