Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 774

ตอนที่ 774

บทที่ 774 ไม่อยากทำร้ายใคร

เวินจิ้งรีบกอดเวินซินทันทีแล้วพูดกล่อม “เด็กดี คุณหมอหยูจะวัดไข้ให้ลูก ยกมือขึ้นมา”

แต่เวินซินกัดปากแน่น ดวงตาไร้เดียงสาคู่หนึ่งกะพริบกว้าง วินาทีต่อมาน้ำตาก็ไหลลงมา

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอไม่มีประสบการณ์กับเด็ก พอเห็นลูกสาวร้องไห้หลายๆ ครั้งก็ทำอะไรไม่ถูก พยายามปลอบให้ดีที่สุด

หยูจิ่งห้วนก็เห็นได้ชัดเช่นกัน โน้มตัวลง เขานิ่งไป เขาควักอมยิ้มออกมาเหมือนเล่นมายากล กระดาษห่อเป็นลายสโนว์ไวท์

ดวงตาเวินซินกะพริบ มือเล็กอวบยกขึ้นรีบคว้าอมยิ้มและยิ้มขึ้นมาทันที

อารมณ์นี้ไม่แน่ไม่นอนเหมือนกับสภาพอากาศจริงๆ

หยูจิ่งห้วนก็หัวเราะเช่นกัน ตอนเวินซินกำลังดึงกระดาษห่ออมยิ้มออก เวินจิ้งก็เอาปรอทวัดไข้วางใต้รักแร้ของลูกสาวจากนั้นก็กอดเธอ

เดี๋ยวเวินซินจะต้องไปฉีดยา ทานอาหารเช้าเสร็จเวินจิ้งก็นำปรอทวัดไข้ออกมา ไข้ลดลงเกือบหมดแล้ว

เธอถอนหายใจ

หยูจิ่งห้วนต้องไปผ่าตัดแล้ว ไม่นานพยาบาลก็มาฉีดยาให้เวินซิน เวินจิ้งวางแผนว่าจะส่งลูกกลับบ้านก่อน ตอนบ่ายจะลางานมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนลูกสาว

หลินยี่มารับเธอ เวินจิ้งเพิ่งอุ้มลูกสาวลงมาชั้นหนึ่ง วันนี้บรรยากาศชั้นหนึ่งของโรงพยาบาลค่อนข้างเคร่งเครียด เธอขมวดคิ้ว ตอนที่เบนสายตาขึ้นมาก็มีร่างคุ้นเคยเดินอยู่ข้างผู้อำนวยการไม่ไกลในสายตาเธอ

ตรงหน้าเธอมีพยาบาลหลายคนยืนอยู่เลยไม่ถูกพบเห็นได้ง่าย มู่วี่สิงและผู้อำนวยการเดินไปอีกทางหนึ่ง เวินจิ้งเห็นเขาเลี้ยวขวา จากนั้นก็เห็นแค่แผ่นหลังยาวของเขาเท่านั้น

จนกระทั่งมือของเวินซินจับเธออย่างนุ่มนวล เวินจิ้งถึงได้มีสติกลับมา

เธอผลุบตาลง สีหน้าเธอไม่มีความสั่นไหวแล้ว

คนที่อยู่ชั้นหนึ่งค่อยๆ แยกย้ายกันไป เวินจิ้งอุ้มลูกสาวออกมา วันนี้เวยอานต้องไปทำงาน หลินยี่มารับเธอ

เห็นได้ชัดว่าเขาก็เพิ่งเห็นมู่วี่สิงเช่นกัน ขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “มาช้าขนาดนี้ เห็นเขาแล้ว?”

“เห็นเขาไกลๆ” เวินจิ้งตอบ

“เธออยู่เมืองหนานและทำงานในโรงพยาบาล ต่อไปคงมีโอกาสเจอเขามาก” หลินยี่ขมวดคิ้ว มีความกังวลในสายตา

สีหน้าน้องสาวตอนเดินออกมาเมื่อครู่นี้ไม่ค่อยดีนัก

“อืม ยังไงเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันนานแล้ว”

เธอส่งใบหย่าไปให้เขาแล้ว เขาน่าจะ……เซ็นแล้วมั้ง?

เราไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างกันอีกต่อไป

“พ่อของลูกสาวเธอก็คือเขา ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเหรอ? ”

เวินจิ้งเบ้ปากเล็ก ลูกสาวเป็นของเธอ ตั้งแต่เธอให้กำเนิดเธอโดยลำพัง ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมู่วี่สิง

อยู่เป็นเพื่อนเวินซินที่บ้านสามวันเต็ม เวินจิ้งยากมากที่จะชดเชยวันหยุด วันจันทร์ต้องกลับไปทำงานที่โรงพยาบาล

ปกติสาวใช้ในบ้านและเวยอานจะดูแลเวินซิน แต่ตอนนี้เวยอานเป็นหัวหน้าพยาบาลที่โรงพยาบาลจงซิน ไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนักในช่วงปกติ เวินจิ้งพยายามทำงานให้เสร็จในช่วงกลางวัน ตอนกลางคืนจะใช้เวลาอยู่กับลูกสาว

ถึงแม้วันแบบนี้จะยุ่งมาก แต่ก็เต็มอิ่มมาก

ได้เห็นลูกสาวเติบโตทุกวัน ไม่สามารถอยู่กับเขาได้ แต่ก็ยังมีลูกในสายเลือดเขา ก็ถือว่าไม่น่าเสียดายจนเกินไป

ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ตอนแรกเวินจิ้งวางแผนจะพาลูกสาว พี่ชายและเวยอานออกไปเที่ยวข้างนอก จู่ๆ โรงพยาบาลก็แจ้งให้กลับไปประชุม เวินจิ้งต้องรีบกลับไปทันที

การประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการด้านประสาทวิทยาประจำปีจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยหนานเฉิงในปีนี้ เธอและหยูจิ่งห้วนถูกจัดตารางให้เข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ในนามของโรงพยาบาล

ได้รับตารางการประชุมและรายชื่อแล้ว ชื่อแรกด้านบนคือมู่วี่สิง

เวินจิ้งไม่ได้หยุดสายตา เริ่มเตรียมเนื้อหาสุนทรพจน์ของตัวเอง

หยูจิ่งห้วนพูดคุยกับเธอ เนื่องจากอีกสามวันประชุม เวลาเลยค่อนข้างเร่งด่วน

“ถ้าไม่อยากไป ผมไปคุยกับผู้อำนวยการให้ได้นะ” หยูจิ่งห้วนเอ่ยปากทันที

“ทำไมไม่อยากไป?” เวินจิ้งเลิกคิ้ว

“ผมคิดว่าคุณคงไม่อยากไป” เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเวินจิ้ง หยูจิ่งห้วนรู้สึกว่าตัวเองคงคิดมากไป

“นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้ แต่เป็นครั้งแรกที่ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมใหญ่แบบนี้ ฉันรู้สึกประหม่ามากจริงๆ” เวินจิ้งไม่ได้ซ่อนอารมณ์ของตัวเอง

อย่างไรแล้วตัวเองก็หยุดงานมานานมาก โอกาสแบบนี้ไม่ได้มาง่ายนัก

“อยากให้ผมช่วยก็บอกได้เต็มที่เลยนะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เวินจิ้งพูดอย่างจริงใจ ตั้งแต่ที่ได้เข้ามาทำงาน เธอรู้สึกขอบคุณมากที่หยูจิ่งห้วนดูแลเธอ

“ถ้าอยากขอบคุณผม ชดเชยมื้ออาหารที่ติดผมก่อนหน้านี้ได้ไหม? ”

“ได้สิคะ แต่ฉันต้องไปรับซินซินที่โรงเรียนก่อน”

“คืนนี้ผมไปส่งคุณเอง”

ตอนกลางคืน ร้านอาหารที่หยูจิ่งห้วนจองไว้เป็นร้านอาหารตะวันตกที่มีบรรยากาศดีมาก เวินจิ้งส่งลูกสาวขึ้นไปข้างบน กล่อมเธอจนหลับแล้วถึงได้กลับห้องไปเปลี่ยนชุด หยูจิ่งห้วนรออยู่ข้างล่างตลอด

ตอนออกมาเวยอานเพิ่งกลับมา เห็นเวินจิ้งกำลังออกไป นึกถึงรถคุ้นเคยที่เห็นชั้นล่างเมื่อครู่นี้ “เธอจะกลับโรงพยาบาลเหรอ? ”

“ไปกินข้าว”

“หืม ไปกับคุณหมอหยูคนเดียวเหรอ? ” เวยอ่านเลิกคิ้วใส่เธอ

“คราวที่แล้วซินซินเป็นไข้ เขาช่วยไว้เยอะเลย ถือว่าขอบคุณเขาแล้วกัน”

“ก็ได้ คืนนี้กลับดึกหน่อยไม่เป็นไรนะ” เวยอานตบบ่าเธอ

เวินจิ้งย่นหน้าผากบนใบหน้า เธอย้ำ “คิดอะไรน่ะ แค่กินข้าว”

“ทั้งโรงพยาบาลเขารู้กันหมดว่าคุณหมอหยูชอบเธอ เขารอเธอมานานมากแล้วนะ”

เวินจิ้งเดินเข้าไปในลิฟต์ สิ่งที่เวยอานพูดกับเธอปกติเธอก็ได้ยินมาไม่น้อย แค่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกัน เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงหยูจิ่งห้วนได้อยู่แล้ว

แต่ให้เธอยอมรับเขา ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ห่างไกลมาก

อย่างน้อยตอนนี้ เธอยังทำไม่ได้

ไม่อยากทำร้ายใคร

ร้านอาหารที่หยูจิ่งห้วนจองไว้เป็นร้านอาหารเวียดนามริมฝั่งแม่น้ำ ดนตรีเพราะ ไฟสว่าง บรรยากาศดีมาก

“คิดว่าที่นี่เป็นไงบ้าง? ” รินไวน์แดงให้เธอหนึ่งแก้ว หยูจิ่งห้วนถามเธออย่างประหม่า

จริงๆ แล้วเขาเข้าใจเวินจิ้งแค่เรื่องงาน สำหรับรสนิยมของเธอ เขากำลังค้นหาเรื่อยๆ

“อ่อ รู้สึกหนาวไปหน่อยค่ะ” เวินจิ้งตอบอย่างกระอักกระอ่วน

ที่นี่เป็นที่แจ้ง และคืนนี้ดูเหมือนจะมีลมแรงเล็กน้อย เธอดันไม่ได้สวมเสื้อโค้ตออกมา

วินาทีต่อมา หยูจิ่งห้วนก็เรียกพนักงานเสิร์ฟมาอย่างสุภาพ “ขอผ้าคลุมไหล่ให้ผมหน่อย ขอบคุณครับ”

“ผมไม่ได้คิดให้รอบคอบเองครับ” เขาขอโทษ

“ไม่เป็นไรค่ะ” เวินจิ้งมองเขา หนึ่งปีผ่านไป หยูจิ่งห้วนดูเหมือนไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่กลับเปลี่ยนไปมากเลย

ตอนนี้เขาสงบและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อนเขามีความเป็นเด็กนิดหน่อย ตอนนี้ไม่มีแล้ว

หนึ่งปีก่อนตอนเขาออกมาจากเมืองหนาน จากนั้นหยูจิ่งห้วนบอกเธอว่าเขายังคงอยู่ในครอบครัว แต่ระหว่างนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บุคลิกเขาเปลี่ยนไป สุดท้ายเขาก็แยกตัวออกมาจากตระกูลหยูโดยสมบูรณ์ กลับมาเพียงคนเดียว

เรื่องราวของเขานั้นซ่อนลึกจนเกินไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท