Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 757

ตอนที่ 757

บทที่ 757 ทำไมถึงเป็นเธอ

“หลิงเหยา ออกไปจากรถฉันเดี๋ยวนี้”

ตอนนี้เวินจิ้งโกรธมาก แต่เป็นเพราะว่าเธอได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดีเลยยังคงทำให้เธอเก็บอารมณ์ตัวเองเอาไว้ได้

ไม่คาดคิดว่าเมื่อก่อนเธอจะเคยเป็นเพื่อนกับผู้หญิงบ้าคนนี้ เธอคิดว่าตอนนั้นสมองของเธอคงผิดปกติไปแน่

หลิงเหยาเอื้อมมือจะไปบังคับพวงมาลัยแทน “เวินจิ้ง หยุดรถก่อน”

ตอนนี้ในสมองของหลิงเหยามีแต่ความคิดที่ว่า มู่วี่สิงชายคนนั้นเป็นห่วงเวินจิ้งแค่ไหนเธอรู้ดี เวินจิ้งถูกเธอผลักจนโดนรถเฉี่ยวชนจนบาดเจ็บ ถ้ารู้เขาไม่มีวันวางมือเรื่องนี้

บริเวณบาดแผลที่เวินจิ้งบาดเจ็บยังคงเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ บวกกับตอนที่หลิงเหยาเอื้อมตัวมาแย่งพวงมาลัยและโดนแผลของเธออีก มันทำให้ตอนนี้เลือดจากแผลไหลออกมาเยอะขึ้น

“หลิงเหยา นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ?”

เวินจิ้งกรีดร้อง ความเจ็บปวดจากบาดแผลยังไม่เท่าความโกรธของเธอตอนนี้ “อยากจะตายก็ตายไปคนเดียว อย่าเอาฉันไปตายด้วย!”

หลิงเหยาชะงัก ตอนที่ใจลอย ขาของเธอฉับพลันยื่นออกไปเหยียบคันเร่ง เวินจิ้งห้ามเธอไม่ทัน ก่อนมองไปยังข้างหน้าอย่างตกตะลึง รถที่ควบคุมไม่อยู่กำลังพุ่งไปยังชายหนุ่มเจ้าของรถที่พึ่งชนเธอเมื่อกี้

เธอเห็นความตื่นตระหนกและตกใจอย่างชัดเจนในสายตาเขาเมื่อเห็นรถที่พุ่งไปทางชายหนุ่มด้วยความเร็ว

วินาทีถัดมา ทั้งร่างของชายหนุ่มก็โดนชนกระเด็น หลังจากนั้นร่างของเขาก็ชนเข้ากับกำแพงด้านหลังอย่างแรง เลือดไหลลงมาจากร่าง ก่อนที่จะสลบไป

รถปอร์เช่ที่เวินจิ้งขับมาจากการ์เด้นมูเจียวานพลันหยุดกะทันหัน

ศีรษะของเธอกระแทกกับพวงมาลัยอย่างแรง เลือดบนหน้าผากไหลออกมาไม่ขาดสาย จากนั้นเธอก็ฟุบหน้าลงบนพวงมาลัยอย่างอ่อนแรง ก่อนจะค่อยๆหลับตาลง

ทันใดภายในลานจอดรถใต้ดินก็เงียบลงจนเหมือนไม่มีอากาศหายใจ หลิงเหยาสัมผัสได้ถึงลมหายใจแห่งความตายที่ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปใต้ผิวหนังของเธอทีละนิด

ในที่สุดประสาทสัมผัสที่เครียดเขม็งของเธอค่อยๆสงบลง สิ่งที่พรั่งพรูออกมาคือความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

ชายคนนั้นยังคงนอนอยู่บนพื้น บนร่างเต็มไปด้วยเลือดมากมาย ไหลเจิ่งนองเต็มพื้น

เวินจิ้งยังคงฟุบหน้าสลบอยู่บนพวงมาลัย ไหล่และหน้าผากของเธอไหลรินออกมาจากบาดแผลชโลมชุ่มไปทั่ว

ทันใดภายในอกหลิงเหยาก็มีความรู้สึกรุนแรงที่อยากจะอาเจียน เธอรีบเปิดประตูรถลงมา ก่อนจะตะเกียกตะกายลงมาจากรถ จนล้มลงไปนั่งกับพื้น

เธอเบิกตาโพลงกับภาพที่เห็น แข้งขาอ่อนแรง มือไม้เย็นเฉียบไปหมดราวกับเลือดในกายถูกแช่แข็ง

เธอไม่กล้าไปดูด้วยซ้ำว่าชายคนนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ภายในหัวว่างเปล่าขาวโพลน

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เธอจึงรวบรวมสติใช้มือที่สั่นเทาควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า เมื่อต่อสายติด เธอก็ร้องไห้โฮราวกับเด็กๆออกมา “พี่… …ช่วยฉันด้วย… ….ฉันฆ่าคน… …. มาช่วยฉันที”

หลิงอี้ที่อยู่ปลายสายถามกลับด้วยเสียงอบอุ่นและใจเย็นว่า “อย่าตกใจ บอกพี่มาว่าเธออยู่ไหน พี่จะรีบไป”

ภายในเวลาไม่กี่นาที หลิงอี้ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็มาถึง เขามองไปยังหลิงเหยาที่หน้าซีดตัวสั่นอยู่อีกมุม ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่กับชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ทันใดสีหน้าเขาก็เปลี่ยน

คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหลิงฉิง ลูกพี่ลูกน้องของเขาที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

เขาเดินเข้ามา ก่อนที่จะเอามือไปอังจมูกของชายหนุ่ม

ไม่มีลมหายใจ

เขาขมวดคิ้ว และหันหน้าไปบอกหลิงเหยาที่มีแต่ความหวาดกลัวฉายชัดบนใบหน้า “ตายแล้ว”

ตาย… …ตายแล้ว?

เป็นไปได้ยังไง… …เป็นไปไม่ได้

แต่พี่ชายจะโกหกเธอไปทำไม… …

ลานจอดรถใต้ดินเงียบสงัด หลิงเหยาเงยหน้าขึ้นไปมองกล้องวงจรปิดบนหัวมุม น้ำตาพลันไหลพรากลงมา “พี่… …ช่วยฉันด้วย”

เป็นครั้งแรก ที่หญิงสาวผู้เย่อหยิ่งคุณนายคนที่สองตระกูลหลิงรู้สึกอับอายหวาดกลัว “พี่ มีแค่พี่เท่านั้นที่ช่วยฉันได้… …”

เธอลุกขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะเข้าไปกอดแขนหลิงอี้แน่น ใบหน้าสวยที่ซีดขาวเต็มไปด้วยหยาดน้ำตานั้นดูน่าเวทนายิ่งนัก หลิงอี้กัดริมฝีปากอย่างแรง พลางโอบท้ายทอยของน้องสาวตัวเองแน่น

หลิงอี้มองไปยังร่างคุ้นเคยที่สลบอยู่ภายในรถ เวินจิ้ง… …

เวินจิ้ง… …ทำไมถึงต้องเป็นเธอด้วย

… …

เมื่อมู่วี่สิงได้รับสายจากโรงพยาบาลเหรินหมิน เขาก็รีบตรงดิ่งมาทันที เวินจิ้งถูกวางให้นอนอยู่บนรถเข็นก่อนที่จะถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด

ร่างกายของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือดราวกับไม่มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว ดวงตาปิดสนิท

มือของเธอห้อยตกลงมา นิ้วนางข้างที่สวมแหวนนั้นอาบไปด้วยเลือด

หมอที่เป็นคนรับผิดชอบบังเอิญรู้จักกับมู่วี่สิงพอดี เขาตบบ่าปลอบใจ ก่อนพูด “ไม่มีอะไรหรอก”

ด้านหลังรถพยาบาลได้มีตำรวจสองสามนายตามเข้ามา เขาเห็นห้องผ่าตัดปิดลงแล้ว จึงหมุนกายเข้าไปจับปกเสื้อของตำรวจหนึ่งนายในนั้นไว้แน่น สายตาแปรเป็นเย็นชา “ฉันต้องการคำอธิบายที่สมเหตุสมผล”

“คุณมู่ ” ฝั่งตรงข้ามที่ยังคงเกรงอำนาจคนในตระกูลมู่ พูดอย่างสั่นกลัว “พวกเราได้รับแจ้งความมาว่า… …คุณผู้หญิงมู่ เจตนาฆ่าคนครับ พวกเราไปถึงที่เกิดเหตุเธออยู่ในสภาวะไม่ได้สติ ดังนั้นจึงนำมาส่งโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยแจ้งให้ท่านทราบ”

เจตนาฆ่า?

ดวงตาของมู่วี่สิงมืดลงเรื่อยๆ “เธอเจตนาฆ่าคน?”

นายตำรวจพยักหน้าอย่างลังเล “ครับ เมื่อมองจากสถานการณ์ มันเป็นแบบนั้น”

ชายหนุ่มเหลือบมอง ดวงตาเย็นชาจนน่ากลัว “ใครตาย?”

ขนาดเขาเวินจิ้งยังฆ่าไม่แล้ว เธอจะไปฆ่าคนแบบไม่มีสาเหตุได้อย่างไร

“คุณชายน้อยตระกูลหลิงครับหลิงฉิง”

มู่วี่สิงบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอฆ่าคนไม่ได้หรอก รบกวนพวกคุณใช้สมองกันในการสืบคดีสักนิด คนที่ตายก็เป็นอันว่าเขาแทงตัวเองตายไป เป็นไปไม่ได้ที่ภรรยาของฉันจะฆ่าใคร”

ตำรวจลำบากใจไม่น้อย จำใจต้องฝืนพูดต่อไป “คุณมู่ครับ เรื่องนี้มันค่อนข้างที่จะยุ่งยากสักหน่อย ในจุดเกิดเหตุก็มีแค่คุณผู้หญิงมู่กับเจ้าของรถที่เสียชีวิตแค่นั้น การเสียชีวิตของคุณหลิงมาจากรถปอร์เช่ที่คุณผู้หญิงมู่ขับมาชนเมื่อเช้า หลังจากเปรียบเทียบดีเอ็นเอของลายนิ้วมือที่เปื้อนเลือดแล้ว ถ้าหากว่าไม่มีหลักฐานอื่นที่หนักแน่นพอ เรื่องนี้คุณผู้หญิงคงหนีไม่พ้นต้องเกี่ยวข้องครับ”

ใบหน้าของมู่วี่สิงมืดครึ้มลง “ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว เธอไม่ได้เป็นคนทำแน่ๆ ฉันขอเอาเกียรติของฉันเป็นประกัน”

ท่าทางของชายหนุ่มไม่มีวี่แววจะคลายความเย็นชาลงสักนิด ตำรวจหนุ่มกลืนคำพูดทุกอย่างลงคอไป เรื่องนี้จะว่าเล็กก็เล็ก แต่จะว่าใหญ่มันก็ใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วมีการยืนยันในเบื้องต้นว่าชายที่เสียชีวิตเป็นสมาชิกของตระกูลหลิง ตระกูลที่มีอิทธิพลคับฟ้าตระกูลหนึ่งของเมืองหนาน

ถ้าหากผู้เสียชีวิตไม่ใช่คนของตระกูลหลิง ก็มีโอกาสที่ตระกูลมู่จะสามารถใช้อำนาจทำให้เรื่องไม่แดงได้

บาดแผลของเวินจิ้งไม่ร้ายแรงนัก แผลที่ไหล่และหน้านั้นก็เป็นแค่บาดแผลภายนอก ดังนั้นใช้เวลาไม่นานก็น่าจะออกมาจากห้องผ่าตัดได้แล้ว

ภายในห้องพักฟื้นวีไอพี ชายหนุ่มยืนเฝ้าอยู่ตรงหน้าเตียงไม่ไปไหน หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายต่างๆเวลาก็ล่วงผ่านมาตอนเย็น

เขาจับมือเรียวสวยของหญิงสาวออกมาจากใต้ผ้าห่ม แหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายสะท้อนกับแดดยามเย็นดูสวยงามยิ่งนัก เขาก้มลงมอง ก่อนก้มลงไปจูบนิ้วสวยของเธอทีละนิ้วอย่างรักใคร่

ทันใด เสียงสูดหายใจเบาๆก็ได้ดังขึ้น เขาเลิกคิ้วก่อนจะมองไปยังใบหน้าเธอ คุกเข่าลงข้างเตียง พลางจับใบหน้าที่ซีดขาว ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนสั่นเครือถามเธอว่า “เป็นยังไงบ้าง? มีตรงไหนที่รู้สึกไม่สบายไหม?”

เพราะว่าแผลเธอไม่ได้ร้ายแรง ดังนั้นหมอเลยไม่ได้ฉีดยาสลบให้เธอ ก็เลยตื่นมาเร็วแบบนี้

เวินจิ้งกลอกตาไปมา เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เจอใบหน้าที่ร้อนรนใจของมู่วี่สิง ที่คล้ายว่าจะช่วยเยียวยาใจที่มันยับยู่ยี่ของเธอได้ น้ำเสียงอ่อนโยนพูดขึ้นมาอย่างอ่อนแรง “เจ็บ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท