Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 763

ตอนที่ 763

บทที่ 763 เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลา

มู่วี่สิงยังคงกอดเวินจิ้งไว้ตลอด และเขามองไม่เห็นสีหน้าของเธอ

เขาคิดว่าเธอนั้นไม่ได้ไร้จิตใจหรือขาดมโนธรรมแต่อย่างใด เพียงแต่แค่หมดความรู้สึกไปแล้ว ก็เหมือนกับเธอที่ไม่แม้แต่อยากจะโกหกเขา และไม่แม้แต่อยากจะยั่วโมโหเขาเช่นกัน

ฝ่ายชายที่มือหนักนิดๆ ถูเข้าคางและแก้มนุ่มๆของเธอ ทิ้งน้ำเสียงเศร้าพร้อมด้วยอารมณ์น้อยใจ “ไม่คิดว่าคุณอยู่ที่ห้องขังนี้จะดูอึดอัดใจน้อยกว่าการอยู่ข้างๆผมเสียอีก”

หัวใจของเขากำลังสั่นอย่างรุนแรง และเขาที่เพิ่งทราบในตอนนี้

ถึงกับบางทีมีความคิดแวบเข้ามาหัวสมอง ถ้า…..หลังจากที่เธอออกมาแล้วล่ะ

เขายิ้มขึ้น “จิ้งจิ้ง หลังจากที่คุณออกมาแล้ว หากคุณยังรู้สึกว่าการอยู่ข้างๆผมมันอึดอัดลำบากใจ อย่างนั้นก็อย่าได้ปกปิดความเจ็บปวดและความลำบากใจนั้นอีก”

ฝ่ามือเรียวใหญ่ของเขาได้ลูบผมเธอที่นุ่มสลวย พูดเสียงเบาๆขึ้น “ไม่แน่คุณอาจจะจากผมไปก่อนก็ได้”

ในตอนแรกเธอตั้งใจจะตอบโต้ หาทุกวิถีทางเพื่อจะไปจากเขา เขาที่รู้สึกหมดหวัง แต่ด้วยความดื้อรั้นจึงยังคงรั้งเธอไว้ข้างกาย

เมื่อเธอต้องการจะจากไปเขาก็รั้งเธอไว้ทุกที ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม นี่คือปฏิกิริยาลึกๆที่อยู่ภายใต้จิตใจของเขา

ตอนนี้เธอเฉยๆแล้ว ไม่แยแสไม่ใส่ใจใดๆอีก เธอเหมือนกับลูกระเบิดที่ทำให้เขาถึงกับตาสว่าง

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น พูดช้าๆว่า “ฉันไม่ได้หมายความเช่นนี้ คุณอย่าคิดแบบนี้สิ”

เธอเพียงแต่คิดว่าสองสามวันที่อยู่ที่นี่ ไม่มีคนรบกวน ไม่ต้องคิดมากเรื่องพี่ชาย อีกทั้งไม่ต้องคิดมากว่าการที่เธอรักเขานั้นเป็นเรื่องที่ผิด แม้แต่การที่เขารักเธอมากเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องที่เธอไม่อาจจะยอมรับได้เช่นกัน

ตอนนี้เธอผ่อนคลายมาก

เวินจิ้งกะพริบตา น้ำเสียงอ่อนลง “ตอนนี้ฉันเพิ่งถูกขังไม่กี่วัน อยู่ที่นี่ทุกคนต่างก็ดีกับฉันเพราะเห็นแก่หน้าคุณ ดังนั้นฉันจึงรู้สึกว่ามันก็ดีเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คุณช่วยฉันออกไป เพราะการอยู่ที่นี่คนเดียวนานๆ โดยไม่มีเพื่อนคุยสักคนก็จะทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ง่าย”

เขาต้องการเป็นที่พึ่งพาสำหรับเธอ รอเขาช่วยเธอออกมาได้ เธอจะเข้าใจทุกอย่างได้เอง

“อืม” เขาตอบด้วยเสียงต่ำๆ พร้อมกับหอมไปที่แก้มของเธอซ้ำๆ

สุดท้ายก็อดไม่ได้จึงพูดขึ้นด้วยเสียงแหบๆว่า “เวินจิ้ง ท่าทางความเมตตาของคุณในตอนนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นทั้งใจร้ายทั้งน่าสงสารมาก”

เวินจิ้งเงยหน้ามองเขา พึมพำ “คุณอย่าเป็นแบบนี้สิ”

ระหว่างพวกเขาสองคนไม่ได้มีอะไรติดค้างกันอีก เธอไม่ได้โทษเขาและก็ไม่ได้เกลียดเขา และยิ่งไม่ต้องการให้เขาใช้ชีวิตอยู่กับเงาในอดีต

“อืม” น้ำเสียงของเขาสงบลงทันที คำพูดที่น้อยใจหรืออารมณ์ที่ดิ่งลงเมื่อสักครู่ได้หายไปแล้ว

“ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้คนข้างนอกมาบอกผมนะ รู้ไหม”

“ฉันทราบแล้วค่ะ”

เธอทราบดีว่าไม่มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธออย่างแน่นอน และก็ไม่มีไปทางรบกวนเขา

เขามองท่าทีเมินเฉยของเธอ และรู้ดีแก่ใจทุกอย่าง

มู่วี่สิงอยู่ที่นี่เพียงครู่เดียว เพราะว่าเขามีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากมาย แม้แต่การมาเจอเวินจิ้งแค่เพียงชั่วครู่ เขาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลาเหลือเกิน

…..

เพียงแค่พริบตาเวลาก็ผ่านไปครึ่งเดือน

ณ บ้านใหญ่ตระกูลมู่

มู่เฉิงมองดูหลานชายตัวเองอย่างเวทนาสงสาร พูดขึ้นเบาๆ “วี่สิง พักนี้ยุ่งมากหรอ ทำไมแกดูซูบผอมเช่นนี้”

ใบหน้ามู่วี่สิงที่ไร้ซึ่งความรู้สึก นั่งทานซุปอย่างเย็นชา “ไม่มีอะไรครับ”

เขามักจะมีลักษณะท่าทางเฉยชาและห่างเหิน ไม่มีความอบอุ่นสักนิดเดียว

ถ้าหากมู่เฉิงไม่มาหาเขาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง เขาก็คงจะไม่มีทางกลับบ้านใหญ่ตระกูลมู่ แม้จะแค่ไปทานข้าวเพียงมื้อเดียวก็ตาม

ลูกตามู่ซีกลอกไปมา “คุณชายกำลังคิดหาวิธีช่วยพี่สะใภ้ คุณชายลองบอกคุณปู่ดูสิคะ บางทีพวกเราอาจจะสามารถช่วยอะไรได้”

ผู้ชายไม่มีการพูดจาใดๆ สีหน้ามู่ซีจึงอึดอัดใจ

เมื่อทานอาหารเสร็จ มู่วี่สิงก็จากไป เวลาที่เขาอยู่ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ

มู่เฉิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ อยากจะรั้งให้เขาอยู่ต่อแต่ก็ไม่ทราบว่าจะเอ่ยปากอย่างไร และก็ทราบดีว่าถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางที่จะอยู่ต่อ

มู่ซีพูดกับคุณปู่ว่า “เดี๋ยวหนูจะไปดูคุณชายนะคะ รู้สึกว่าเขาทานอาหารไม่เยอะเลย”

มู่เฉิงครุ่นคิด “ฉันได้ข่าวจากคนรอบข้างของเขาว่าเขาแทบจะไม่มีเวลากลับการ์เด้นมูเจียวานเลย เธอไปดูสิเขากลับไปหรือไม่”

มู่ซีพยักหน้าแล้วลุกขึ้นตามออกไป

อาศัยช่วงจังหวะผู้ชายไปเอาของที่ห้องนอน เธอไปหารถที่มู่วี่สิงขับมาจอดอยู่ในลานจอดรถจนเจอ จากนั้นก็ซ่อนตัวอยู่ท้ายรถดังกล่าว

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้น แล้วทำการปิดเสียงโทรศัพท์เพื่อเป็นการป้องกัน จากนั้นก็ค้นหาหมายเลขหนึ่งที่อยู่ในโทรศัพท์

ตอนนี้หลักฐานชัดเจน อีกทั้งเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่โจษจันกันทั่วบ้านทั่วเมือง เธอก็อยากจะทราบว่ามู่วี่สิงจะช่วยเวินจิ้งให้พ้นผิดได้อย่างไร

จนกระทั่งเสียงรอบข้างได้เงียบสงบลงมู่ซีถึงได้ค่อยๆโผล่ออกมาจากท้ายรถ

ที่นี่เป็นที่ว่างเปล่ารกร้างและหนาวเยือกเย็น

เธอหันหน้าแล้วเงยขึ้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าเป็นโรงงานร้าง ผนังกำแพงเริ่มมีรอยด่างดำขาวซีดแล้ว ด้านนอกมีรถสีดำประมาณสิบกว่าคันจอดอยู่

เธอลงจากรถอย่างเงียบๆ ฝีเท้าของเธอมุ่งหน้าไปที่โรงงาน

ค่อยๆย่างเท้าเข้าใกล้โรงงาน มีเสียงต่างๆดังมาจากด้านใน เธอเจอหน้าต่างที่มีรูผุพัง เธอจึงแอบมองทะลุผ่านเข้าไป

ตาเธอเบิกกว้างฉับพลัน เธอแทบจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา และหัวใจก็เต้นขึ้นลงอย่างรุนแรง

ผ่านไปสักพักเธอถึงได้สงบสติลง หยิบโทรศัพท์ที่ติดอยู่ในตัวออกมาแล้วเปิดกล้องขึ้น

หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป

ผู้ชายรูปหล่อรูปร่างสูงใหญ่สองคนเดินออกมา เสียงลมคำรามพัดหนาวเย็นอยู่ด้านนอก “ผมคิดว่าน่าจะประมาณสามวันก็จะซ่อมแซมลานจอดรถให้คืนสู่สภาพเดิมครับ”

มู่วี่สิงตอบรับเบาๆ และวินาทีต่อมาสีหน้าก็ขรึมขึ้น

เขาหรี่ตาแล้วพูดอย่างเย็นชา “มีคนมา”

“ใคร เป็นคนบ้านหลิงเหรอ”

ด้านนอกโรงงานร้างที่พื้นคอนกรีตที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เนื่องด้วยฝนตกหนักเมื่อวาน ดังนั้นจึงทำให้สามารถมองเห็นรอยเท้าได้จางๆ

“เป็นผู้หญิง”

ผู้หญิง?

มู่วี่สิงเดินตามรอยเท้าที่อยู่บนพื้น จนมาถึงหน้าต่างที่ไม่สูงไม่ต่ำ ชะงักขึ้น แล้วก็หมุนตัวกลับอย่างเร็ว

“หนานเฉิง รีบขับรถตามไป เธอจากไปประมาณสิบนาที มีเพียงถนนเส้นนี้ที่จะสามารถเข้ามาได้”

“ครับ” ลี่หนานเฉิงจากไปในทันที

มู่วี่สิงยืนหนาวเหน็บอยู่คนเดียวภายใต้แสงจันทร์ เงาสะท้อนร่างสูงยาวอย่างเลือนราง

เหมือนดังที่มู่วี่สิงพูดไว้ไม่มีผิด ที่นี่มีเพียงถนนเส้นเดียว ลี่หนานเฉิงขับเพียงไม่นานก็ตามทันผู้หญิงที่กำลังวิ่งอยู่ไม่ไกล

เขาสบถคำด่าออกมา พร้อมกับเร่งความเร็วรถมู่ซีถูกแสงไฟหน้ารถส่องจ้าจนแยงตาเธอ เธอตกใจจนหน้าขาวซีด

เธอวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามอง เพียงแต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวเธอก็โซเซแล้วล้มลง ด้านหน้าเธอมีบึงน้ำเล็กๆ เธอนิ่งอยู่สักพัก จากนั้นเธอก็โยนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือนั้นทิ้งไป

ลี่หนานเฉิงคว้าแขนเรียวยาวของเธอจากด้านหลัง “คุณเองเหรอนี่”

เขามองมู่ซีที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย น้ำเสียงที่ชวนน่าสะพรึงกลัว “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้”

และเมื่อสักครู่ทำไมเธอถึงโยนโทรศัพท์ทิ้งไป

มู่ซีอธิบายด้วยความตกใจ “คุณปู่ให้ฉันตามพี่วี่สิงมา……มาดูว่าช่วงนี้พี่เขายุ่งอยู่กับอะไร ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดี…..”

“คุณอธิบายกับผมมันไม่มีประโยชน์หรอก ไปอธิบายกับพี่น้องผมดีกว่า”

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยทะนุถนอมอ่อนโยนต่อสุภาพสตรี นอกจากหญิงสาวที่ชื่อโจวหย่านคนนั้น เขาก็ไม่เคยเอ็นดูใครอีก เขาโยนมู่ซีเข้าไปในรถ แล้วรีบเลี้ยวรถกลับทันที

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท