Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 778

ตอนที่ 778

บทที่ 778 นานแค่ไหนที่ไม่ได้ยิ้มให้เขาแบบนี้

โรงพยาบาลหนานเฉิง

ตอนที่มู่วี่สิงกลับมา สิ่งที่เกาเชียนต้องรายงานมันติดอยู่ที่คอ

สีหน้าbossอึมครึมมาก……

เขาไม่สนใจมาตลอดทั้งปีนี้ เขาแทบไม่เคยเห็นเขาดูโกรธขนาดนี้เลย

ถึงจะมีหญิงสาวไม่น้อยแอบตามเขาทุกวัน เขายังไม่โกรธเคืองขนาดนี้เลย

เข้าไปในห้องทำงานได้ไม่นาน มู่วี่สิงก็ให้เกาเชียนเข้ามา

“ประธานมู่”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว อ่านข้อมูลในมือทีละหน้า “ข้อมูลเวินจิ้งเยอะขนาดนี้เลย? เธอแต่งงานกับลู่เซิ่นมาหนึ่งปีแล้ว เด็กคนนั้นเกิดตอนไหน?”

เมื่อพูดจบ ลี่หนานเฉิงก็เปิดประตูเข้ามา ได้ยินสิ่งที่มู่วี่สิงพูด พึมพำอย่างไม่พอใจ “คุณนายลู่ก็เป็นคนลึกลับมากตั้งแต่แรก”

เขาก็เพิ่งรู้ว่าเวินจิ้งกลับมาเมืองหนานแล้ว และแต่งงานมีลูกสาวแล้ว

“ไม่แน่ลู่เซิ่นอาจจะไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเขาแต่งงานกับผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาก่อน”

ผู้ชายคนนั้นหยุดการกระทำในมือลง เงยศีรษะขึ้นทันที ดวงตาแหลมคมถึงขีดสุด ลี่หนานเฉิงตกใจกลัว ทำหน้าจะร้องไห้ทันที “ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย……คิดซะว่าฉันไม่ได้พูด……”

เขาพูดเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ไม่กี่ประโยคเอง……ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอก็แต่งงานกับคนอื่นแล้ว สายตาปกป้องของมู่วี่สิงมันทำให้เขาโกรธและหมดหนทางจริงๆ

มู่วี่สิงทิ้งข้อมูลในมือ นวดคิ้วอย่างหงุดหงิด สั่งเกาเชียน “เด็กคนนั้นอยู่โรงพยาบาลจงซิน นายเช็กอาการป่วยเธอหน่อย”

พูดจบ มู่วี่สิงก็หมกมุ่นทำงานต่อไป ทำท่าไม่สนใจใครทั้งนั้น

หลังจากเกาเชียนออกไปแล้ว ลี่หนานเฉิงก็นั่งโซฟา ไขว่ห้างมองชายที่น่าเบื่อ “นายกำลังสงสัยใช่ไหมว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกสาวนาย?”

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากบาง ไม่ได้พูดอะไร

ตอนนี้เด็กยังเล็กอยู่ เขามองไม่เห็นความคล้ายคลึงระหว่างเธอกับเขา แต่ดวงตานั้นเหมือนเวินจิ้งมากเป็นพิเศษ

แค่ทำงานได้ไม่นาน เขาก็โยนปากกาในมือทิ้งไปอย่างหงุดหงิด หยิบเสื้อโค้ตขึ้นมาใส่แล้วออกไป

“ฉันบอกพี่ๆ ว่าเดี๋ยวจะต้องประชุมไม่ใช่เหรอ?” ลี่หนานเฉิงเงยศีรษะขึ้นมาจากกองเอกสาร

“นายช่วยฉันประชุมที”

ลี่หนานเฉิง:……

ทำไมเขารู้สึกว่ามู่วี่สิงจะไปหาเวินจิ้งนะ

โรงพยาบาลจงซิน

ตอนบ่ายเวินจิ้งยังต้องตรวจคนไข้ หลังจากตอนเช้าอยู่เป็นเพื่อนเวินซินตรวจรักษาใหม่ก็ทานอาหารกลางวันกับเธอและพี่ชายแล้วก็กลับโรงพยาบาล

แต่ตอนบ่ายมาถึงโรงพยาบาล ก็เห็นชายหล่อคนนั้นยืนอยู่หน้าห้องทำงานเธอ

เธอขมวดคิ้ว ก้าวเดินช้าลง

ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาตรวจคนไข้ คนคงไม่เยอะ แต่เพราะมีมู่วี่สิงอยู่ สายตาเลื่อมใสและชื่นชมต่างๆ ก็ค่อยๆ มองเขา

เขาเย็นชาอยู่ตลอด ตอนเห็นเวินจิ้ง ก็มีความรู้สึกบ้างในดวงตา

“คุณมู่” เธอเรียกเขาอย่างห่างเหิน

“เลิกงานกี่โมง? ” เขาถาม น้ำเสียงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร

“มีอะไรเหรอคะ? ”

“ตอนเย็นกินข้าวด้วยกันไหม หืม? ” เสียงทุ้มต่ำของเขาไพเราะเช่นเคย

สีหน้าเวินจิ้งแข็งทื่อ “คุณมู่ ฉันยุ่งมากต้องทำโอที ต้องไปรับลูก”

เขามองเธออย่างหนักอึ้ง ดวงตาค่อยๆ กระจายความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย

เวินจิ้งไม่สนใจเขาอีก เดินตรงเข้าไปในห้องทำงาน หลังจากยุ่งตรวจคนไข้ในช่วงบ่าย เธอไม่คิดเลยว่าตอนเลิกงานมู่วี่สิงก็ยังไม่ไป

ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ว่างขนาดนี้เชียวเหรอ……

สีหน้าเธอหงุดหงิดนิดหน่อย และตอนนี้หยูจิ่งห้วนก็มาหาเธอพอดี

เห็นมู่วี่สิง เขาก็ดูเหมือนไม่ประหลาดใจเลย

“วันนี้ซินซินไม่เป็นไรใช่ไหม?” เขาถามอย่างเป็นห่วง

“อืม เกือบจะหายดีแล้ว” เวินจิ้งยิ้ม

รอยยิ้มแบบนี้อยู่ในสายตามู่วี่สิง แต่มันทิ่มแทงสายตามาก

นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ยิ้มให้เขาแบบนี้

ทันใดนั้นออร่าในร่างกายก็ยิ่งน่ากลัว

“ผมคิดถึงซินซิน วันนี้ผมไปเยี่ยมเธอได้ไหม”

“ได้ค่ะ……”

“คืนนี้เธอต้องไปกินข้าวกับผม” จู่ๆ มู่วี่สิงก็พูดขึ้น

พูดจบ หยูจิ่งห้วนและเวินจิ้งก็มองไปที่เขา

“เวินจิ้ง คุณกับเขา……” สีหน้าหยูจิ่งห้วนค่อนข้างหนักอึ้ง

“คุณหมอหยู งั้นคุณกลับไปก่อนเถอะ” เวินจิ้งพูดเสียงทุ้มต่ำ

หยูจิ่งห้วนมองเวินจิ้งด้วยสายตาเป็นห่วง ฝีเท้ายังไม่ขยับตั้งแต่ต้นจนจบ

ริมฝีปากบางของมู่วี่สิงยกขึ้น สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปข้างหน้า

“เวินจิ้ง” หยูจิ่งห้วนหยุดฝีเท้าที่กำลังจากไปของเธอ

“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร” เวินจิ้งยิ้ม

คาเยนน์ที่คุ้นเคยจอดอยู่ประตูทางเข้าโรงพยาบาล เวินจิ้งเปลี่ยนเสื้อคลุมสีขาว สวมแค่เสื้อกันหนาวตัวกว้าง เผยกระดูกไหปลาร้าบอบบางและลำคอขาว ผมยาวมัดขึ้น ทำให้เสน่ห์ของผู้ใหญ่ดูลดลง และยิ่งมีความอ่อนเยาว์และฉลาดมากขึ้น

เธอเข้าไปนั่งเบาะหลัง และมู่วี่สิงขับรถอยู่เบาะคนขับ

รถคันนี้ เธอจำได้ว่าหนึ่งปีก่อนมู่วี่สิงจะขับมันเป็นครั้งคราว ดูเหมือนรถคันนี้จะเก่ามากแล้ว

“ไม่คิดว่าคุณจะรักรถคันนี้นานมากขนาดนี้” เวินจิ้งพูดขึ้นเรียบๆ

“อืม โดยเฉพาะผู้หญิง” มู่วี่สิงตอบ

เวินจิ้ง:……

ทำไมเธอรู้สึกว่ามู่วี่สิงเหมือนแกล้งเธอโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ……

เมื่อครู่นี้ตอบตกลงไปทานอาหารกับเขาเพราะกลัวว่าต่อไปเขาจะมาหาเธอบ่อยๆ เธอเลยตอบตกลงไปเลย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขามารบกวนเธออีกในอนาคต

รถจอดตรงทางเข้าร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง เมื่อก่อนเวินจิ้งมาหลายครั้ง เป็นร้านที่เธอชอบมาก

ไม่คิดว่ามู่วี่สิงยังจำได้

เพิ่งลงจากรถ ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงที่ไม่อยากจะเชื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น “คุณหมอมู่ เธอเป็นใครคะ? ”

ดวงตาประหลาดใจแวบผ่านมา เวินจิ้งหันตัวไปมอง เห็นเด็กสาวที่ไม่รู้มาจากที่ไหนตรงหน้า

จึ๊ๆ หน้าตาน่ารังแก น่ารักมากจริงๆ

ออร่าของผู้ชายคนนั้นก็เย็นยะเยือกลง สายตาเฉยเมยเหลือบมองเด็กหญิง จากนั้นก็พูดกับเวินจิ้ง “คุณเข้าไปก่อน ผมจองที่ไว้แล้ว”

“อืมๆ” ถึงเวินจิ้งจะอยากดูละครมาก แต่รู้สึกเสมอว่าตัวเองอาจจะกลายเป็นตัวเอกก็ได้ ดังนั้นเลยหายไปก่อนดีกว่า

แต่เมื่อเด็กหญิงเห็นเวินจิ้งกำลังจะไปก็รีบพุ่งมาด้านหน้าเธอ มองเธอด้วยสีหน้าตึงเครียด เหมือนกับเผชิญหน้ากับศัตรู

เธอมองสำรวจเวินจิ้งขึ้นลง “ดูเหมือนคุณจะอายุมากแล้ว จีบผู้ชายมันน่าสนใจเหรอ? ”

อายุมากแล้ว……

เวินจิ้งถามตัวเองว่าผิวเธอมันมีน้ำมีนวลและไม่แก่เลยสักนิด ถึงตัวเองจะใกล้สามสิบแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่เด็กหญิงคนนี้จะมาวิจารณ์ซี้ซั้วได้นะ

แต่เด็กหญิงตรงหน้าเห็นได้ชัดว่าเด็กมาก เดาว่าประมาณยี่สิบ ถ้าทะเลาะกับเธอคงจะน่าเบื่อมาก เวินจิ้งจึงยิ้มเรียบๆ พูดขึ้น “สาวน้อย เธออย่าเข้าใจผิดนะ ฉันกับคุณหมอมู่ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่เธอคิด เราไม่ได้เป็นแม้แต่เพื่อนกัน”

เห็นได้ชัดว่าเด็กหญิงไม่เชื่อ พูดขึ้นด้วยความโกรธ “ถ้าคุณไม่เป็นอะไรกับเขาทำไมลงมาจากรถเขาแล้วยังกินข้าวด้วยกันอีก? คุณทำแล้วไม่กล้ายอมรับ!”

อารมณ์ของเวินจิ้งยังคงเบาบาง รักษาท่าทีของตัวเองไว้ “ถ้าเธอเป็นแฟนคุณหมอมู่ งั้นฉันจะได้อธิบายกับเธอให้เข้าใจ แต่ถ้าเธอไม่ใช่แฟนเขา งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้ว รู้ไหม?

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท