Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 779

ตอนที่ 779

บทที่ 779 เพราะพวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกันหรือเปล่า

เด็กหญิงก็อับอายจนโกรธ “คุณ!”

“ไม่อยากให้ฉันไล่เธอออกจากเมืองหนาน ก็อย่าให้ฉันเจอเธออีก” คำพูดเย็นชาดังมาจากด้านหลัง แขนเวินจิ้งถูกคนจับไว้ มู่วี่สิงพาเธอเข้าไปในร้านอาหาร

เด็กหญิงยิ่งไม่อยากจะเชื่อ ช่วงนี้เธอตามมู่วี่สิงอยู่ตลอด ไม่เคยเห็นเขาปฏิบัติกับผู้หญิงคนไหนดีแบบนี้เลย สีหน้าที่ดีที่สุดก็มีแค่เมียของเพื่อนๆ ของเขา

“คุณหมอมู่เย็นชากับผู้หญิงเหมือนเคยจริงๆ ” นั่งลงในห้องส่วนตัว น้ำเสียงเวินจิ้งก็มีความถอนหายใจเล็กน้อย

เธอยิ้ม “เธอชอบคุณจากใจจริง ไม่มีอะไรผิดไม่ใช่เหรอ?”

ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ตอบเธอ แต่ถามกลับ “ทำไมลูกสาวชื่อเวินซิน? ”

มือเวินจิ้งที่ยกแก้วชาแข็งทื่อ มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าละเอียดอ่อน แต่น้ำเสียงเบาบางไม่น้อย “ลูกสาวใช้นามสกุลฉันแปลกมากเหรอ?”

“เวินจิ้ง” ผู้ชายคนนั้นเรียกชื่อเธอด้วยเสียงทุ้ม ราวกับพยายามข่มใจ “กลับมาที่คำถามผม ทำไมลูกสาวคุณใช้นามสกุลคุณ?”

เวินจิ้งผลุบตาลง กลีบปากยิ้มสบายๆ “คุณอยากรู้อะไร?”

เธอเหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา ยิ้มลึกซึ้งยิ่งขึ้น “คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ฉันไม่ได้ท้องนะตอนที่หย่า และฉันไม่ได้กีดกันคุณสมบัติในการเป็นพ่อของคุณด้วย”

มู่วี่สิงมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างหนักอึ้ง หัวใจเหมือนถูกมือใหญ่หนึ่งจับอย่างรุนแรง ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยการดูถูกตัวเอง

นานสักพักเขาถึงได้พูดขึ้น “ผมแค่อยากรู้ว่าที่ลูกสาวคุณไม่ใช้นามสกุลเขาเพราะพวกคุณมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกันหรือเปล่า”

เสียงผู้ชายคนนี้สงบเหมือนเป็นเส้นตรง แต่ตึงเครียดมาก “ปีนี้ที่พวกคุณแต่งงานกัน และไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

เขาสืบเรื่องราวเธอจริงๆ

เวินจิ้งไม่ได้รู้สึกอะไร สีหน้าสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา

เธอยิ้มอย่างเย็นยะเยือก “ยังไงถึงเรียกว่าความสัมพันธ์ดี? บนโลกใบนี้มีการแต่งงานหลายแบบ มีหลายวิธีในการคบกัน ไม่ใช่ว่าทุกการแต่งงานจะต้องรักกันหวานชื่น บางครั้งก็เคารพกันเหมือนแขก บางครั้งก็เคารพกันอย่างเย็นชา ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ตลอด”

ใบหน้าหล่อของผู้ชายคนนี้ซีดเซียว เสียงทุ้มต่ำตึงเครียดราวกับจะแตกได้ทุกเมื่อ “คุณรักเขาไหม?”

ครั้งนี้เวินจิ้งหัวเราะออกเสียงจริงๆ แต่รอยยิ้มนี้ดูห่างเหินมาก “ถ้าฉันบอกว่าไม่รัก คุณจะจีบฉันเหรอ?”

“เวินจิ้ง ”

มู่วี่สิงกล่าวข้อเท็จจริงด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “คุณกลับมาที่เมืองหนานคนเดียว ดังนั้นอย่าให้ผมรู้ว่าคุณไม่มีความสุขในการแต่งงานนี้”

พูดประโยคนี้จบเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มคาดหวังว่าเวินจิ้งจะไม่มีความสุขในชีวิตแต่งงานนี้

ถ้าเธอไม่มีความสุขเขาจะได้มีโอกาส

เวินจิ้งยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า อาหารมื้อนี้ เธอแค่อยากพูดกับเขาให้ชัดเจน

“คุณรู้ไหมว่าทำไมตอนแรกฉันต้องไป? ”

เขารักเธอมาตลอด เธอรู้ และไม่เคยสงสัยมาก่อนเลย

“มู่วี่สิง เราเดินกันมาตั้งหลายปีสุดท้ายก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ฉันไม่เชื่อว่าเรายังมีอนาคตอีก ถนนเส้นเดิมฉันไม่อยากเดินอีกครั้งแล้ว”

อารมณ์ที่เขาอดกลั้นมาตลอดถูกผลักขึ้นมาอย่างรุนแรง จากนั้นความเจ็บปวดอันรุนแรงก็เหมือนฉีกเส้นประสาทเขา “เวินจิ้ง ถ้าคุณไม่ไป เราจะอยู่ด้วยกันได้”

หนึ่งปีก่อนมันคือครั้งสุดท้ายแล้ว หลินยี่ไม่ได้ตาย แต่เธอก็ไม่ยอมอยู่ต่อ

ความโกรธที่ถูกระงับไว้ยังคงแพร่กระจาย เสียงของผู้ชายคนนี้สั่นเล็กน้อย “เวินจิ้ง ผมปล่อยให้คุณไป คุณหันไปแต่งงานกับคนอื่น ตอนแรกผมคิดว่าคุณผ่านอุปสรรคในใจไม่ได้ เมื่อก่อนผมทำร้ายคุณมากเกินไป คุณเลยยืนกรานที่จะทิ้งผม ผมเลยควบคุมตัวเองไม่ให้บังคับคุณ”

“แต่ไม่ถึงเดือนคุณก็แต่งงานกับผู้ชายอีกคน แถมยังมีลูกกับเขา คุณไม่รักผมก็ไม่เป็นไร คุณบอกผมให้ชัดเลยก็ได้ว่าคุณไม่ได้รักผม ไม่ต้องหาเหตุผลอะไรมาเล่นละครตบตา”

เธอรู้สึกว่าเขาเย็นชากับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักเกินไป แต่เขาแค่ให้คำตอบที่ง่ายที่สุดเท่านั้น เขาเย็นชาแบบนี้แค่เพราะพวกเธอส่งผลต่อชีวิตเขา

แค่ไม่รักก็ไม่เป็นไร หรือมันทำให้เขายิ่งรู้สึกแย่เมื่อเห็นรายงานการแต่งงานของเธอ?

“เวินจิ้ง คุณแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นแล้ว ผมไม่อยากได้ยินเหตุผลเสแสร้งพวกนี้อีก”

เกิดความเงียบในห้องส่วนตัว เงียบจนได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่าย มีความถี่นิดหน่อย

เวินจิ้งเม้มปาก นานสักพักกว่าจะเอ่ยปาก “ฉันไม่รู้เลยว่าที่แท้คุณก็เกลียดฉันขนาดนี้”

เธอกัดฟัน หลุดยิ้มและพูดขึ้น “ตอนแรกคุณเคยบอกว่าจะไม่แต่งงานหรือรักคนอื่นตลอดไปเพราะมัน ฉันเอาจริงเอาจัง ฉันเลยคิดว่าระหว่างเราจะไม่ลำบากใจกัน”

รอยยิ้มเธอค่อยๆ กลายเป็นเย็นชา “ช่วงนี้ฉันอยู่ที่เมืองหนาน แต่ต่อไปนี้ได้โปรดอย่ามาหาฉันอีก ฉันก็จะพยายามไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณเหมือนกัน”

เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมา ยังไม่ทันสั่งอาหารก็คิดจะไปแล้ว

แค่วินาทีต่อมาข้อมือก็ถูกผู้ชายคนนั้นจับไว้ ลมหายใจเขาใกล้แค่เอื้อม “เวินจิ้ง คุณคิดว่าผมเกลียดคุณเหรอ? ”

จู่ๆ ใบหน้าหล่อของเขาก็เข้ามาใกล้เธอ ลมหายใจอุ่นแทบจะทำให้เธอไหม้ หางคิ้วของเขาเยาะเย้ยตัวเอง “ทำไมไม่พูดตรงๆ ว่าฉันยังรักคุณ เพราะคุณกลัวใช่ไหม?”

ดวงตาเวินจิ้งเบิกกว้าง ดูเหมือนว่าตกใจกลัวเขาจริงๆ

จริงๆ แล้วปีที่ผ่านมานี้เขาไม่เคยจงใจรอให้เธอกลับมาหรือไม่อยากลืมเธอ แค่สงสัยว่าตอนงานแต่งงานที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ตระกูลลู่จัดขึ้นผู้หญิงคนนั้นคือเธอหรือไม่ ถ้าเป็นเธอ เขาก็อยากทำลายงานแต่งของเธอ

เมื่อเหงาและโกรธเขาแค่อยากลบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอออกจากหัวให้หมด

แค่ปีเดียวมันไม่พอ เขายังไม่เจอผู้หญิงที่ทำให้เขาชอบได้

จากนั้นเธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาโดยไม่คาดคิด สดใสสวยงามมีเสน่ห์น่าหลงใหลแบบนี้

ตอนแรกเขาคิดว่าเธอหลั่งน้ำตามากมายเพราะเสียดาย แต่ตอนนี้ดูเหมือนเป็นแค่เรื่องตลก

เขาเกลียดเธอ แต่ทำอะไรไม่ได้เลยสักนิดจริงๆ

“มู่วี่สิง คุณบีบฉันเจ็บนะ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว พูดอย่างดิ้นรน เห็นดวงตาลุ่มลึกของเขา ยังคงยิ้มเหมือนเดิม “ฉันกลัวอะไร? เพราะคุณบอกว่าคุณยังรักฉัน?”

เขาไม่ปล่อยเธอ เวินจิ้งสะบัดมือเขาออกอย่างแรงอยู่ตลอด “ตอนแรกฉันรักคุณจริงๆ แต่ตอนนี้เราหย่ากันแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยสักนิด ไม่ว่าจะแต่งงานกับใครมันก็เป็นอิสระของฉัน ก็เหมือนกับไม่ว่าฉันจะรักหรือเกลียดมันก็เป็นอิสระของฉัน”

“ผมไม่เคยมีหน้าที่ต้องแบกรับความกังวลของคุณ”

วันเวลาเหล่านั้นตอนอยู่ประเทศ F เธอจะคิดถึงเขาเป็นครั้งคราว แค่เป็นครั้งคราวเท่านั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท