Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 792

ตอนที่ 792

บทที่ 792 ลู่เซิ่นไม่ได้รักเธอมากขนาดนั้น

มือของมู่วี่สิงกำลังลูบผมนุ่มสลวยของเธอ ใบหน้ายังคงผุดรอยยิ้มจางๆ“ลู่เซิ่นไม่ได้รักเธอมากขนากนั้นหรอก ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่ได้อยู่ข้างเธอในตอนนี้ ”

เขาเงียบไปชั่วขณะ รอยยิ้มจางๆที่ทำให้รู้สึกถึงความเย็นชา “และถ้าเขาไม่แยแสว่าเธอนอนกับฉันแล้ว แต่คนในตระกูลลู่ต้องไม่ยอมให้คุณนายลู่อย่างเธอ…มีชู้ในระหว่างที่แต่งงาน”

เวินจิ้งไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา มู่วี่สิงก้มหัวลงมาจูบที่ริมฝีปากของเธอ น้ำเสียงยังคงเฉยเมย ค่อยๆบอกข้อเท็จจริงในตอนนี้ให้กับเธอ “นับตั้งแต่เมื่อคืนที่เธอเริ่มกอดฉันและขอให้ฉันเข้ามา ในตอนนั้นฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะไม่ยอมให้เธอจากฉันไปอีก จิ้งจิ้ง ถ้าฉันต้องการ ฉันมีวิธีที่จะทำให้เธออยู่เคียงข้างฉัน”

ตลอดเวลาเธอก้มหัวมองต่ำ พูดเสียงอ่อย“ฉันอยากใส่เสื้อผ้า”

มู่วี่สิงเหลือบมองเธอ เขาเชยคางเธอขึ้นและชี้ไปที่ภาพบนหน้าจอ “เธอก็เห็นแล้วไม่ใช่รึไง เธอฉีกเสื้อตัวเองขาดไปแล้ว”

เธอดึงกระดุมบนเสื้อเชิ้ตหลุดจนหมด ตอนนี้สวมเพียงเสื้อหลวมๆ เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกที่สมบูรณ์แบบ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว การเปลือยกายต่อหน้าเขามันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะตอนที่เขาแต่งตัวเรียบร้อย มันทำให้รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังปรนนิบัติเขาอยู่

เธอไม่ได้หลีกเลี่ยงความสงสัยใดๆ กลับตรงเข้าไปถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออก มู่วี่สิงคาดไม่ถึงว่าเธอจะทำเช่นนี้ เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยพลางพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ“เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอ”

ความสุขแพร่กระจายไปทั่วดวงตา ไม่ว่าเมื่อคืนเวินจิ้งจะเร่าร้อนแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพราะฤทธิ์ยา เทียบกับเธอในตอนนี้ช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เขาถือโอกาสกดเธอลงบนโซฟา เตรียมจะทำศึกอีกครั้ง

เวินจิ้งผลักเขาออกด้วยความโกรธ พูดอย่างเคืองๆ “มู่วี่สิง นายมันสัตว์เดรัจฉาน อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนนายจับฉันพลิกไปพลิกมาระหว่างที่ฉันกำลังนอนหลับอยู่”

ตอนนี้ ตรงนั้นของเธอยังคงปวดแสบปวดร้อนอยู่เลย แต่เขากลับมีหน้ามาคิดเรื่องแบบนี้อยู่อีก

เขาเลิกคิ้วขึ้น ถ้าหากเธอไม่ต้องการแล้วทำไมถึงเป็นฝ่ายถอดเสื้อของเขาออกล่ะ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก พูดพึมพำ“ฉันจะใส่เสื้อ นายก็เปลือยไปสิ”

พูดจบก็ถอดเสื้อเชิ้ตที่เขาใส่อยู่ออกแล้วเอามาใส่เอง

เธอโดดลงออกจากร่างของชายหนุ่ม ตั้งใจติดกระดุมทีละเม็ด ปลายชายเสื้อยาวจนแทบปิดหัวเข่าของเธอ

ผมนุ่มยาวสลวยแผ่ลงล่าง ผิวขาวเนียนของเธอสวยกว่าเสื้อเชิ้ตสีขาว โดยเฉพาะรอยดูดถี่ๆที่ไหปลาร้าทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

มันคือความงามอันน่าหลงใหลที่เกิดขึ้นจากการถูกรักเท่านั้น

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ เวินจิ้งรีบเดินตรงไปปิดทีวีทันที ภายในห้องนั่งเล่นกลับมาเงียบอีกครั้ง เธอหยิบโทรศัพท์ของชายหนุ่มแล้วขว้างลงพื้นอย่างรุนแรง

“เธอพังโทรศัพท์ฉัน”

เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างสงบนิ่ง “ฉันเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าสามีของเธอจะเห็นรูปภาพเมื่อกี้ไปแล้วหรือยัง”

เวินจิ้งยังคงเม้มปากอยู่อย่างนั้น มู่วี่สิงยกใบหน้าที่ก้มต่ำให้เงยขึ้น ลมหายใจที่แผดเผาและสายตาที่ดึงดูดไม่สามารถทำให้เธอหลบไปไหนได้“บอกคำตอบของเธอมาสิ ฮืม?”

เธอพยายามดิ้นรน แต่เพราะเขาไม่อนุญาต เธอจึงทำได้แค่พึมพำ “ฉันขอคิดดูก่อน”

“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอไม่ได้กำลังโกหกฉันอยู่”เขาโน้มตัว ประทับริมฝีปากบางลงบนระหว่างคิ้วของเธอ “เธอยังจะกล้าโกหกฉันอีกไหม ถ้าเธอโกหกฉัน เธอจะไม่เหลืออะไรเลย แต่หากเธออยู่เคียงข้างฉัน ฉันจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ”

เขายังคงสบตาเธอนิ่งๆ“ถ้าเธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นด้วยเรื่องบนเตียง ฉันจีบเธอได้นะจนกว่าเธอจะยอมหย่าและมาแต่งงานกับฉัน”

เธอถูกกอดไว้ในอ้อมแขนของเขา ลมหายใจปกคลุมไปทั่วร่างกายของเธอ เวินจิ้งถอนลมหายใจ “มู่วี่สิง ทำไมนายถึงทำแบบนี้”

เธอหันหน้าไปพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหมดหนทาง “เรื่องเมื่อคืนมันเป็นอุบัติเหตุ”

เธอหยุดไปครู่หนึ่งและพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ตลอดเวลาที่ฉันอยู่เมืองหนาน ฉันไม่เคยคิดยั่วนายเลยนะ”

ในสมองของเธอยุ่งเหยิงราวกับผูกเงื่อนตาย สับสนในหลายๆเรื่อง

เขายังคงยิ้มจางๆ “ฉันไม่อยากคุยเหตุผลพวกนี้กับเธอ”

แววตาของชายหนุ่มดูลึกซึ้ง“การเป็นสุภาพบุรุษไม่ใช่เป้าหมายของฉัน”

เธอคือเป้าหมายเดียวของเขา

เธอก้มหน้าลง น้ำเสียงยังคงอู้อี้“เมื่อคืนฉันไม่ได้กลับ เขาคงตามหาฉันอยู่”

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “นายให้ฉันกลับไปคิดดูก่อน ได้ไหม”

มู่วี่สิงมองเธออย่างเคร่งขรึม ไม่ได้ส่ายหัวหรือพยักหน้า

สีหน้าของเวินจิ้งไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้วิดีโอก็อยู่ในมือนาย คิดว่าฉันจะกล้าหนีเหรอ หรือว่านายคิดอยากจะประกาศสงครามกับลู่เซิ่น?นายไม่กลัวว่าทุกคนในเมืองจะบอกว่านายเป็นมือที่สามที่เข้ามาในครอบครัวของคนอื่นเหรอ”

ใบหน้าของชายหนุ่มสงบนิ่ง เดิมทีเขาเองก็ไม่สนใจอยู่แล้ว

“เธอยังต้องคิดอะไรอีก”

เขาขมวดคิ้ว น้ำเสียงฟังดูไม่พอใจเล็กน้อย “ฉันจะปฏิบัติต่อเธอไม่ให้แย่ไปกว่าลู่เซิ่น อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผู้หญิงพวกนั้น”

เธอเอนกายช้าๆในอ้อมแขนของเขา ท่าทางอ่อนโยนของหญิงสาวช่วยคลายความไม่มั่นใจภายในใจของชายหนุ่ม เขาก้มหัวลงพึมพำข้างหูของเธอ“แยกกันอยู่กับเขาก่อนได้ไหม ฮืม?”

ตอนนี้เขาไม่สามารถทนให้เธออยู่กับผู้ชายคนนั้นได้อีกต่อไป

เวินจิ้งหน้าบึ้งตึง “นายกล้าอัดวิดีโอแบบนี้เพื่อมาขู่ฉัน ส่วนเขาไปหาผู้หญิงคนอื่นแล้วมันยังไง ไม่ว่าจะมองยังไงนายก็เลวกว่าตั้งเยอะ

มู่วี่สิงก้มหัวลงจูบใบหน้าของเธอโดยที่ไม่ปฏิเสธ แน่นอนว่าเขารู้ว่าวิธีการของเขามันไม่ดี แต่ทว่า ชีวิตนี้ไม่มีเธอไม่ได้ เพราะอย่างนั้นในสายตาเขาแล้วไม่ว่าจะวิธีการไหนก็ตาม ขอแค่ในที่สุดให้ได้เธอมา เขาก็พร้อมจะทำทุกวิถีทาง

“ถ้าเธอแต่งงานกับฉัน ฉันยังเลวได้มากกว่านี้อีก”

เวินจิ้งตอบกลับอย่างเย็นช้า “ฉันไม่ได้ชอบนายแล้ว”

ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มพลันแข็งกร้าว นัยน์ตาเศร้า แต่รอยยิ้มจางๆยังคงปรากฏบนใบหน้าของเขา “จริงเหรอ เมื่อคืนเธอยังชอบฉันอยู่เลย ชอบมากๆเลยด้วย”

ทันใดนั้นเวินจิ้งก็เกิดหน้าแดงขึ้นมา จ้องมองเขาอย่างบูดบึ้ง “ฉันจะกลับแล้ว”

“อืม”เขาอุ้มเธอขึ้น ค่อยๆเดินตรงไปยังห้องนอน“ฉันให้เวลาเธอสามวันไปทำเรื่องหย่าซะ”

เขาก้มหน้าและจ้องไปที่เธออย่างเคร่งขรึม“ถ้าหย่าไม่ได้ ฉันจะใช้วิธีของฉันช่วยเธอเอง”

ใช้วิธีของเขา…

ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันคือการขู่…

วางแก้มลงบนไหล่ของชายหนุ่ม เวินจิ้งมองใบหน้าด้านข้างของเขา แนวคางคมสัน ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ไร้ที่ติ

จริงๆแล้วมู่วี่สิงเป็นผู้ชายที่ดูดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

เพราะอย่างนั้นเธอจึงแทบไม่รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนไหนอีกเลย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท