Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 800

ตอนที่ 800

บทที่ 800 สิ่งที่สั่งคือสิ่งที่เธอชอบ

ในมือทั้งสองข้างมู่วี่สิงเต็มไปด้วยป๊อปคอร์นและน้ำแร่จึงไม่สามารถโอบรอบตัวเธอได้ แต่เมื่อเห็นเธอรับโทรศัพท์ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอามากๆ

“มีอะไร” น้ำเสียงของเวินจิ้งไม่ได้กระตือรือร้นแต่ก็ไม่ได้เย็นชา

น้ำเสียงของลู่เซิ่นฟังรื่นหูอีกทั้งยังดูมีความสุข “ผมได้ยินมาว่าคุณซื้อเครื่องลายครามราคาสามร้อยล้านให้ครอบครัวเรา?”

เวินจิ้งพูดเยาะเย้ย “คุณคิดมากเกินไปแล้ว”

ลู่เซิ่นไม่แปลกใจ “คุณนายลู่ คุณให้ชู้ของคุณทำตัวดีๆกับผมหน่อยสิ ถ้ามีคนบอกว่าผมโดนสวมเขา เขาได้ใช้ชีวิตลำบากแน่ๆ”

ในตอนนี้สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องที่เขาจะปิดตาข้างหนึ่ง แต่เขาก็ต้องรักษาหน้าเช่นกัน

เวินจิ้งฮึดฮัด“มีเวลานักก็ไปจัดการเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ”

หลายปีแล้วยังหาผู้หญิงของตัวเองไม่เจอ ยังจะมีใจมาคิดถึงภรรยาในนามคนนี้อีกอย่างนั้นเหรอ

เห็นได้ชัดว่าคุณชายลู่จี้ถูกจุดที่เขาเจ็บปวด รีบวางสายโทรศัพท์อย่างไม่พอใจทันที

เธอเก็บโทรศัพท์เพื่อจะถือป๊อบคอร์น เงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม

เขายกแขนขึ้นโอบรอบเอวของเธอ “พวกเธอคุยกันสนุกมากเหรอ”

แม้ว่ามันจะไม่หวานเลี่ยน แต่จากน้ำเสียงของเวินจิ้งแล้วฟังดูก็รู้ว่าเธอไม่ได้เกลียดลู่เซิ่น

เธอพูดผ่านๆอย่างเรียบนิ่งว่า “ก็อย่างนั้นแหละ”

เธอกระพริบตา ยิ้มอย่างไม่เต็มใจนัก “ฉันบอกว่าเราทุกคนต่างก็เดินเกมของตัวเองไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นความสัมพันธ์จะแย่เกินไปไม่ได้”

แขนของชายหนุ่มกระชับขึ้นเล็กน้อย สายตาของเขาเย็นชา “ถ้าฉันไม่บังคับเธอ เธอวางแผนที่จะอยู่กับเขาไปตลอดงั้นเหรอ”

เวินจิ้งไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงโกรธ เธอถามไปด้วยอย่างสงสัย “ถ้าไม่มีนาย ฉันก็ไม่ได้แต่งงานกับนายและไปแต่งงานกับคนอื่น นี่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”

ใบหน้าของมู่วี่สิงขุ่นมัวมากขึ้น

เธอพูดถูก ถ้าเธอไม่แต่งงานกับเขา เธอก็จะแต่งงานกับคนอื่น

เวินจิ้งเลือกหนังสยองขวัญ พวกเขาเข้ามาช้า หนังกำลังฉายอยู่เธอตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเสียง แต่จู่ๆเธอก็กรีดร้องเมื่อมองไปที่หน้าจอ

“กรี๊ด!”

มือของเธอสั่นจนเกือบจะทำป๊อปคอร์นหก แต่โชคดีที่มู่วี่สิงรีบช่วยเธอถือมันไว้

มู่วี่สิงมองใบหน้าที่กลัวของเธอ ขมวดคิ้วและถามว่า “อยากเปลี่ยนเรื่องไหม”

เขาไม่คิดว่าเธอจะเลือกดูหนังสยองขวัญ แต่เมื่อมาคิดๆดูแล้ว เขาไม่ค่อยเข้าใจความชอบของเธอเลย

“ดูอันนี้แหละ” เวินจิ้งพูดอย่างดื้อดึง

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว นั่งลงข้างๆเวินจิ้ง

แม้ว่านี่จะไม่ใช่ภาพยนตร์ 3 มิติ แต่เอฟเฟกต์และเสียงก็ยังคงให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกไปทุกหนทุกแห่ง

แม้ว่าตอนนี้มู่วี่สิงจะไม่ได้กอดเธอ เวินจิ้งก็เริ่มโน้มตัวเข้ามาในอ้อมแขนและดึงมือของเขามาไว้ข้างหน้าเธอเพื่อกอด

หลังจากที่พลิกไปจนได้ที่เธอก็พูดขึ้นว่า “ถ้านายจะดื่มน้ำหรือกินป๊อบคอร์น ฉันจะป้อนนาย”

เมื่อเห็นเธอตื่นตระหนกและหวาดกลัว ชายหนุ่มก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “กลัวขนาดนี้แล้วยังจะดูหนังสยองขวัญอีก”

เวินจิ้งกอดแขนชายหนุ่ม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คว้าป๊อปคอร์นมากิน “ถ้าไม่กลัวก็ดูหนังสยองขวัญไม่สนุกสิ”

เธอใช้ประโยชน์จากช่องว่างในเพลงเปิดพูดต่อไปว่า “ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะได้ดูหนังสยองขวัญในอ้อมแขนของแฟน”

นี่เป็นประสบการณ์ที่เธอไม่เคยมีมาก่อน แต่เธอเคยคิดถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน

มู่วี่สิงมองใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอที่มีผ้าพันคอปิดตาอยู่ ดวงตาของเธอส่องแสงในที่สลัว ความโกรธในงานประมูลหายไปโดยปริยาย ในขณะนี้ไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความละมุน

เขาเอื้อมมือดึงผ้าพันคอของเธอลง เผยให้เห็นริมฝีปากและคางอันบอบบางของเธอ เหลือบมองไปที่แขนที่เธอจับอยู่ เขากอดเธอแน่นขึ้น พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ฉันกอดเธอไว้แบบนี้ มืออีกข้างก็ป้อนป๊อบคอร์นให้เธอได้”

ไฟในโรงภาพยนตร์ดับสนิท เหลือเพียงแสงที่สาดมาจากจอฉาย เงาตกกระทบบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม เธอเหลือบไปมองจนรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรง

เธอปล่อยกล่องป๊อปคอร์นที่ถือไว้ในมือทั้งสองข้าง ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นและจูบใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาพลางยิ้มหวาน “มู่วี่สิง ฉันชอบนาย”

มือที่เขากำลังจะหยิบป๊อปคอร์นแข็งทื่อ หัวใจของเขาอ่อนยวบโดยไม่ทันทั้งตัว อะไรบางอย่างกำลังพลุ่งพล่านจนกำลังจะล้นออกมา ทันใดนั้นแววตาของเขาก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ

มือของเขาเปลี่ยนทิศทาง เชยคางเธอขึ้นและประทับจูบลงไปลุ่มลึก ราวกับว่าเขากำลังจะกินเธอเข้าไปในท้องของเขา

เขาไม่ละจากริมฝีปากของเธอจนเธอแทบหมดลมหายใจ ลมหายใจที่แผดเผามาพร้อมกับอุณหภูมิที่ร้อนระอุ “จิ้งจิ้ง ฉันรักเธอ”

กระแสไฟฟ้าเคลื่อนจากหัวใจแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ใบหน้าของเวินจิ้งค่อยๆกลายเป็นสีแดง แต่ ณ เวลานี้แสงนั้นมืดสลัวเกินไป มู่วี่สิงมองไม่เห็น เธอปรับการหายใจของตัวและอดไม่ได้ที่จะจูบที่คางของเขาอีกครั้ง

มุมปากของมู่วี่สิงยกขึ้นโดยอัตโนมัติ เขาหยิบป๊อปคอร์นสองสามชิ้นป้อนเข้าปากเธอ เสียงทุ้มแหบแห้ง “ฉันจะดูหนังกับเธอก่อน”

อ้อมกอดของชายหนุ่มอบอุ่นมาก เวินจิ้งดูหนังอย่างตั้งใจ บางครั้งที่มีป๊อปคอร์นป้อนเข้าปากของเธอ มีบางช่วงที่ริมฝีปากของเธอพาดผ่านปลายนิ้วของเขาพอดี

เมื่อดูหนังจบ ใบหน้าของเวินจิ้งซีดเซียว

ในห้องอาหาร มู่วี่สิงเลือกตำแหน่งริมหน้าต่างและนั่งลงข้างๆเธอ

“ฉันจะสั่งของที่เธอชอบกินให้นะ” เขาถือเมนูและถามเธออย่างเอาใจ

เวินจิ้งส่ายหัว เธอเอาเมนูวางไว้ตรงกลางและทั้งคู่ก็ดูด้วยกัน

พวกเขาไม่ได้ไปร้านอาหารตะวันตกหรูหรา แต่กลับหาร้านหม้อไฟที่ครึกครื้นและสะอาดแทน

สิ่งที่เขาสั่งคือสิ่งที่เธอชอบทั้งหมด

เวินจิ้งยิ้มและสั่งสิ่งที่เขาชอบด้วยความคุ้นเคย

หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟนำเมนูออก มู่วี่สิงก็โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาเข้ามาใกล้ “เธอยังจำได้เหรอ”

เวินจิ้งกระพริบตาและมองเขาด้วยรอยยิ้ม“แน่นอนว่าฉันยังจำสิ่งที่นายชอบได้ นายก็ยังจำได้ใช่ไหม”

เธอมองเขาคิ้วขมวด เอ่ยถามขึ้น “ที่จริงแล้วนายเริ่มชอบฉันเมื่อไหร่”

เธอยังจำตอนที่เขาขอเธอแต่งงานได้ เขาเคยพูดว่าไม่มีทางชอบเธอหรอก

อย่างนั้นเขาก็กลืนน้ำลายตัวเองมานานแล้วสิ?

เมื่อได้ยิน มู่วี่สิงก็ละสายตาไป ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่งเฉย

เวินจิ้งขยับเข้ามาใกล้ กุมมือของเขาไว้และถามเบาๆ “บอกฉันหน่อย เมื่อกี้ฉันกลัวไปหมดแล้ว นายช่วยรีบพูดอะไรดีๆเพื่อปลอบฉันที”

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ยิ้มน้อยๆและพูดขึ้น “เธอแน่ใจเหรอว่าคำตอบของฉันจะทำให้เธอมีความสุข?”

“นายกล้าทำให้ฉันไม่มีความสุขเหรอ”เวินจิ้งย่นคิ้วจ้องเขา

ดวงตาของเธอไม่ได้หวาดกลัว แต่เต็มไปด้วยความโกรธของผู้หญิงตัวเล็กๆ มู่วี่สิงยื่นมือมาบีบใบหน้าที่อ่อนนุ่มของเธอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยการเอาใจ “ตั้งนานแล้ว นานมากๆแล้ว ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ทีนี้รู้แล้วรึยัง”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท