Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 798

ตอนที่ 798

บทที่ 798 เขาไม่เสียดายเงินแต่ฉันเสียดายนะ

“อืม”ลู่เซิ่นเลิกคิ้วด้วยความคาดไม่ถึง“คุณจะทำอะไร”

เวินจิ้งยิ้ม “ดี คุณให้เขามาหาฉันที ฉันจะประมูลของ”

“ผู้ชายของคุณก็อยู่ที่นั่นไม่ใช่รึไง”

เวินจิ้งยิ้มอย่างพอใจหลังจากได้ยินคำพูดลู่เซิ่น “คุณถูกใจอะไรถึงขนาดที่เขาไม่สามารถจ่ายให้ได้จนต้องประมูลเอง?”

เวินจิ้งพูดเสียงเรียบ “เหอะ แค่ดูก็รู้แล้วคุณคงไม่เคยถูกผู้หญิงรักสินะ อย่ามาถ่วงเวลาฉัน เลขาคุณอยู่ไหน”

ลู่เซิ่นและตระกูลลู่ไม่สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นลู่เซิ่นก็คงจะมาด้วยตัวเอง คงไม่ทำเพียงแค่ส่งเลขามาเท่านั้น

มู่วี่สิงเปลี่ยนที่นั่งและกวาดสายตามองผ่านฝูงชนแต่เขากลับไม่พบเวินจิ้ง

ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำ ผู้รับผิดชอบงานมองไปที่ใบหน้าเย็นชาของเขา เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “คุณมู่ครับ ต้องการให้ผมปิดฉากเพื่อคุณจะได้สามารถตามหาคนก่อนดีไหมครับ”

มู่วี่สิงมองกลับพลางส่ายหน้า “ไม่ต้อง”

ในเมื่อเธอต้องการเล่นซ่อนแอบ อย่างนั้นก็ตามใจเธอหน่อยแล้วกัน

“เครื่องเคลือบโบราณหยกจากราชวงศ์ถัง เริ่มเปิดประมูลที่สิบล้านหยวน ตอนนี้ทุกคนเริ่มประมูลได้แล้วครับ”

คิ้วดูดีของมู่วี่สิงยังคงขมวดเป็นปมเหมือนกำลังเหม่อลอย ปลายนิ้วเรียวเคาะลงบนหัวเข่าของเขาอย่างช้าๆ

ศึกชิงการประมูลเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ยี่สิบสิบล้าน”

“ห้าสิบล้าน”

“……”

มู่วี่สิงเหลือบมองไปที่เกาเชียนที่ปรากฏตัวอย่างไม่เฉยเมย เขารับรู้และยกเสนอราคาในทันที “ร้อยล้าน”

เวินจิ้งมองไปที่ต้นเสียง ที่มุมตาของเธอกระตุก มองเห็นเกาเชียนส่วนมู่วี่สิงเองก็เป็นธรรมชาติเช่นกัน

ผู้ชายคนนี้เปิดราคาได้น่ากลัวมาก….

“คุณนายเวิน เราจะประมูลสิ่งนี้จริงๆหรือครับ?” เลขาของลู่เซิ่นที่อยู่ข้างๆเธอถามขึ้นอย่างไม่สบายใจ

บอสแค่ให้เขามาที่งานประมูลแต่ไม่ได้บอกให้มาซื้ออะไร แม้ว่าต้องการจะซื้อจริงๆ…ก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินขนาดนี้ บอสเองก็ไม่ได้สะสมของเก่าเหล่านี้เป็นงานอดิเรก

เวินจิ้งยึดบัตรประมูลในมือของเขาไป เธอยิ้มหวานและเสนอราคา “หนึ่งร้อยห้าสิบล้าน”

เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานของหญิงสาวดังก้องไปทั่งฮอล

มู่วี่สิงมองไปที่ต้นเสียงที่คุ้นเคย เขาก็เห็นร่างของเวินจิ้งจากระยะไกล ดวงตาเขาขุ่นมัวเพราะบริเวณนั้นคือเขตของตระกูลลู่

เกาเชียนที่อยู่ด้านข้างยกป้ายตามมาทันที “สองร้อยล้าน”

เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ หันหน้าไปถามเลขาที่อยู่ข้างๆเธอ“ หยกก้อนนั้นมีมูลค่าสองร้อยล้านหยวนเลยหรือเปล่า”

เลขาตอบอย่างประหม่า “คุ้มค่ากับราคาครับ… ”

แต่หลังจากได้เห็นสายตาของเวินจิ้งเขาก็พูดทันทีว่า “ในสายตาของคุณลู่ สิ่งนี้ไม่น่าจะมีมูลค่าถึงสองร้อยล้านครับ”

เวินจิ้งมองเขาอย่างสงสัย“ ฉันไม่ได้ประมูลให้เขา”

ในใจของเลขา ณ ตอนนี้กำลังจะบ้าตายแล้ว ไม่ได้ซื้อให้บอสหรอกเหรอ….

แต่เวินจิ้งในตอนนี้เป็นตัวแทนของตระกูลลู่ ถ้าไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นก็ต้องให้ท่านประธานลู่เป็นคนจ่ายน่ะสิ….

เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกไล่ออก

ดวงตาที่เย็นชาของมู่วี่สิงมองไปที่คนทั้งสองที่ดูเหมือนจะคุยกันอยู่ไม่ไกล สีหน้าของเขาตึงเครียดมากขึ้น เขายังคงพูดเสนอราคาต่อ “สองร้อยห้าสิบล้าน”

จะแข่งกับเธอจริงๆสินะ!

เวินจิ้งกัดริมฝีปากของเธอ ราวกับเลือดกำลังหลั่งรินภายในใจ “สามร้อยล้าน”

ถ้ามู่วี่สิงยังคงเสนอราคาอีกเธอจะไม่เล่นแล้ว เขาไม่เสียดายเงินแต่เป็นเธอเองที่เสียดาย

นิ้วของมู่วี่สิงที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ได้ขยับแล้ว ดวงตาที่มีความหมายลึกซึ้งทำให้ผู้คนไม่สามารถมองผ่านได้

เกาเชียนมองบอสที่นิ่งเงียบเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ “ท่านประธานมู่ครับ พวกเราไม่ประมูลแล้วหรือครับ เพิ่มอีกไม่กี่สิบล้านอีกฝ่ายก็ไม่เอาแล้ว คุณปู่มู่บอกว่าแม้ราคาจะสูงแต่ก็ต้องซื้อกลับไปให้ได้ไม่ใช่เหรอครับ”

มู่วี่สิงไม่เคยยอมแพ้และไม่มีราคาใดที่เขารับมือไม่ได้

ดวงตาเหลือบมองไปที่เครื่องลายครามที่มีลวดลายวิจิตรบรรจงบนเวที ดวงตาของชายหนุ่มไม่เฉยเมย ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงแค่ริมฝีปากที่เม้มแน่นเผยให้เห็นความไม่พอใจเล็กน้อย

ผู้รับผิดชอบงานก็ประหลาดใจเช่นกัน เครื่องลายครามนี้คงไม่พ้นมือมู่เฉิงแน่นอนเพราะเมื่อครู่มู่วี่สิงบอกว่าเขาจะออกไปก่อนเวลาเขาจึงจัดเตรียมเครื่องลายครามนี้ให้ประมูลล่วงหน้าเป็นกรณีพิเศษ

แต่สุดท้ายกลับไม่ต้องการแล้วอย่างนั้นหรือ

“สามร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง” พิธีกรพูดขึ้นหลังจากภายในงานเงียบสงบ

“สามร้อยล้านครั้งที่สอง”

“สามร้อยล้านครั้งที่สาม”

ไม่มีใครประมูลอีกแล้ว“ เคาะราคาที่สามร้อยล้าน!”

ใบหน้าซีดเซียวของเลขามองไปที่ใบหน้าผ่อนคลายของเวินจิ้ง พูดด้วยเสียงต่ำ “คุณนายเวินครับ รายการนี้ไม่ได้จ่ายโดยคุณลู่ใช่ไหมครับ”

เวินจิ้งลุกขึ้นยืน ตามองไปยังเลขาที่กลัวจนเหงื่อแตก “นายว่าไงนะ”

ดวงตาของเลขาเป็นประกาย “คุณหลินสั่งให้คุณซื้อใช่ไหมครับ”

เวินจิ้งส่ายหัว “รีบไปจ่ายสิ”

เลขา:……

เวินจิ้งก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้ใครเห็นใบหน้าของเธอ แต่ระหว่างทางที่เดินไปก็ยังคงมีการพูดคุยเกิดขึ้นไม่น้อย

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมดูมีอำนาจจังแถมยังชิงของที่ตระกูลมู่ต้องการไปอีก?”

“เธอไม่เห็นเหรอว่าเธออยู่ฝั่งตระกูลลู่น่ะ เธอคงจะเป็นนายหญิงของตระกูลลู่”

“ดูแล้วไม่เห็นเหมือนเลย… ”

เดิมทีที่นี่เป็นสถานที่ทางการ เวินจิ้งจึงปกคลุมตัวเพื่อไม่ให้ใครเห็น เลขาที่อยู่ข้างหลังเธอก็ยิ่งดูเศร้า ฉากนี้ทำให้คนอื่นรู้สึกตลก

“เฮ้ ทำไมฉันถึงคิดว่าคุณนายลู่ดูคุ้นๆนะ… ”

หลังเวที

“คุณนายลู่ครับ งานประมูลยังไม่จบ อยู่จนจบงานก่อนแล้วค่อย… ”

“ฉันจะกลับตอนนี้” เวินจิ้งพูดตัดบทอีกฝ่ายอย่างนิ่งๆ

ทันทีที่สิ้นเสียง ออร่าอันน่าเกรงขามปรากฏขึ้นจากทางด้านหลัง แขนของชายหนุ่มดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้ว “จะไปแล้วเหรอ รีบร้อนจังเลยนะ”

ผู้จัดงานจ้องไปที่คนใกล้ชิดทั้งสองที่อยู่ต่อหน้าเขาด้วยสีหน้างุนงง

มู่วี่สิง…กับคุณนายลู่…กอดกัน?

เวินจิ้งไม่แปลกใจเลยที่มู่วี่สิงจะปรากฏตัวที่นี่ เธอเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้เขา ยืนเขย่งตัวพูดที่ข้างหูของเขาอย่างไม่รู้ไม่ชี้“เดี๋ยวไปดูหนังด้วยกันไหม”

“เวินจิ้ง” มู่วี่สิงจ้องไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนอบอุ่นของเขา เสียงของเขาตึงเครียด “เธอแย่งของของฉันไป”

เวินจิ้งจูบไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเบาๆ ยิ้มหวานและพูดว่า “นายไม่ได้ตั้งใจให้ฉันหรอกเหรอ”

“เธอซื้อให้ใคร” ตอนนี้มู่วี่สิงโกรธมาก แต่เขาก็อดกลั้นความโกรธของตัวเองไว้

เวินจิ้งกระพริบตา พูดอย่างเป็นธรรมชาติ “แน่นอนว่าซื้อให้ผู้ใหญ่น่ะสิ ไม่งั้นจะให้ใครล่ะ”

ของพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบ

ผู้ใหญ่เหรอ

ผู้ใหญ่ของตระกูลลู่หรือเปล่า

เธอแย่งของที่คุณปู่ของเขาต้องการไปให้ผู้ใหญ่ตระกูลลู่อย่างนั้นเหรอ

เวินจิ้งดูเหมือนจะรู้ว่ามู่วี่สิงกำลังโกรธ หลังจากที่รู้ตัวก็เอ่ยถามอย่างกังวลว่า “นายไม่ดีใจเหรอ”

ริมฝีปากบางของชายหนุ่มโค้งลง

สีหน้าของผู้คนรอบข้างดูอึมครึมไปหมด ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอว่ามู่วี่สิงกำลังไม่พอใจอยู่….

เวินจิ้งกลับยิ้ม ลูบแผงอกของเขาอย่างออดอ้อน พูดเสียงค่อย “นายไม่พอใจจริงๆเหรอ”

ท่าทางเช่นนี้ของเวินจิ้ง แต่ดูๆแล้วกลับทำให้รู้สึกน้อยใจนิดๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท