บทที่ 811 มอบความอ่อนโยนและความรักให้กับเธอ
เวินจิ้งยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องของมู่เฉิงอีก เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวต่างๆก็จะค่อยๆเลือนรางตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือว่ามู่วี่สิงก็ตาม
หญิงสาวถูไถอยู่ที่หลังของเขาจนเวลาผ่านสักพัก มู่วี่สิงอดไม่ได้จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเชิงข่มขู่เล็กน้อย “นี่คุณชอบอยู่ที่ห้องครัว หรือว่าคุณอยากได้ผมจนตัวสั่น”
เวินจิ้งตกใจก่อนที่จะเข้าใจในความหมายคำพูดของมู่วี่สิง จึงพูดตะโกนขึ้น “คุณอย่าได้แม้แต่จะคิด คืนนี้ฉันจะนอนกับซินซิน”
มู่วี่สิงจึงปิดแก๊สไฟที่กำลังต้มหม้อซุปอยู่ จากนั้นเขาก็วางช้อนซุปลง หรี่ตาขึ้นแล้วมองไปทางเวินจิ้งด้วยแววตาดุดัน “คืนนี้คุณจะนอนกับใครนะ”
เวินจิ้งมองหม้อซุปที่ถูกละเลยอย่างน่าสงสาร คลายมือออกแล้วถอยหลังเล็กน้อย พูดด้วยความโมโหซ้ำๆว่า “นอนกับเวินซิน”
มู่วี่สิงที่สีหน้าเดิมทีเย็นชา ยิ้มขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำยืนยันจากเวินจิ้ง แล้วเหยียดเท้าที่ยาวก้าวไปยังทางประตู
เวินจิ้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งสติ คิดว่าเขาคงโกรธแล้ว เดี๋ยวนี้ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ใจดำจัง แม้แต่ซุปถ้วยเดียวก็ไม่ยอมตักให้ก็จากไปแล้ว
เธอไม่นอนกับเขาก็เป็นเรื่องที่ปกติไม่ใช่หรือ พวกเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้วนิ…..
ตอนนี้อาหารก็ทำเสร็จแล้ว เธอกับป้าหลี่และซินซินทานกันเองก็ได้
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ร่างสูงยาวของชายหนุ่มได้เดินกลับมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งปิดประตูห้องครัวตามอำเภอใจ แถมยังล็อกประตูอีก!
เขา…..เขาคิดจะทำอะไรนะ…..
เมื่อเห็นรอยยิ้มจากริมฝีปากอันบอบบางของเขาที่กำลังเดินมาทางเธอ เวินจิ้งก็ทำท่าจะเดินหนี
แต่ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะถอยหนีได้
แค่แวบเดียวชายหนุ่มก็มองทะลุปรุโปร่งถึงความคิดเธอ แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย น้ำเสียงเซ็กซี่ชวนให้คนฟังรู้สึกสยิว แล้วเขาก็หันไปมองเธอ “ทำไงดีล่ะ ผมชอบที่นี่จังเลย”
เวินจิ้งกะพริบตา และเข้าใจในความหมายของคำพูดมู่วี่สิง…..
แต่เธอทำได้เพียงใจเย็นๆ แล้วมองเขาด้วยแววตาที่จริงจัง “มู่วี่สิง ฉันมีกฎของฉัน ฉันไม่ยอมให้คุณบังคับฉันทำเรื่อง…..โอ๊ย…..ก็ได้ฉันผิดไปแล้วก็ได้…..”
น้ำเสียงที่ยิ่งพูดยิ่งไม่มีความมั่นใจ จนสุดท้ายกลายเป็นความอ้อนวอน…..
เธอถูกกอดด้วยมือที่เรียวใหญ่ของเขาแล้วถูกวางนั่งลงบนโต๊ะในห้องครัว โดยมีตัวเขาขวางตัวเธอไว้ และมือของเขาก็เริ่มบรรเลงจุดไฟในตัวเธอให้เร่าร้อน
เวินจิ้งดึงมือของเขาที่กำลังซุกซนลูบไล้อยู่บนตัวเธอ พูดด้วยเสียงออดอ้อนและอ่อนโยน “มู่วี่สิงฉันหิวจังเลยซินซินก็หิวเช่นกัน คุณจะแกล้งฉันก็ได้นะ แต่คุณอย่าแกล้งซินซินได้ไหม…..”
มู่วี่สิงแค่อยากจะแกล้งเธอเล่นๆเท่านั้น แต่เมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนของเวินจิ้ง ความรู้สึกอย่างว่าก็มาทันที
แววตาลุ่มลึกค่อยๆลุกโชนด้วยเปลวไฟ ฝ่ามือเรียวใหญ่จึงบีบขึ้น “นี่คือแกล้งใช่ไหม”
เวินจิ้งสั่นไปทั้งตัว ผู้ชายคนนี้…..บ้าไปแล้ว!
เวินซินยังอยู่ด้านนอกนะ!
เธอตระหนกพะวงไปหมด สมองที่ว่างเปล่าเหลือไว้เพียงความคิดเดียว “มู่วี่สิง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ดูเหมือนเธอจะโกรธแล้วจริงๆ “ปกติคุณจะทำอะไรยังไงก็ได้ แต่ว่าเวินซินยังอยู่ที่นี่ เธอยังเล็กมาก…..หรือว่าถ้าคุณเป็นพ่อคนในวันข้างหน้าคุณก็จะไร้ยางอายแบบนี้”
ความเร่าร้อนในร่างกายของชายหนุ่มยังคงปะทุ เขาโต้ตอบกลับเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ “จิ้งจิ้ง คุณไม่ต้องการท้องลูกของผมอีก แล้วผมจะเป็นพ่อคนได้อีกเหรอ”
หลังจากที่ผู้ชายพูดจบ เวินจิ้งถึงกับอึ้งอยู่กับที่
มู่วี่สิงมองดูใบหน้าซีดเซียวของเธอ สักพักก็เริ่มได้สติ ความเร่าร้อนบนตัวก็เริ่มคลายลง เขาเข้าไปกอดเวินจิ้งและปลอบประโลมเธอด้วยความเป็นห่วง “จิ้งจิ้ง…..”
ระหว่างพวกเขาลูกเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะก้าวข้ามผ่านไปได้ เป็นแผลเป็นที่ยังคงฝังลึกอยู่ในใจของเธอมาโดยตลอด ไม่ควรที่จะกล่าวถึง ยิ่งเวลานี้ยิ่งไม่ควรที่กล่าวถึง
ในบรรยากาศที่เงียบสงบเช่นนี้ ได้มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านนอก เป็นเสียงร้องไห้ของเวินซิน!
เวินจิ้งจึงผลักมือของเขาออกทันทีและจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่อย่างลนลาน แล้วโดดลงพื้นอย่างโซซัดโซเซ กำชับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าที่ความร้อนแทบจะปะทุออกมา “คุณอย่าลืมตักซุปให้ด้วย ฉันจะออกไปแล้ว”
จากนั้นเธอก็วิ่งตรงไปที่ประตู เปิดล็อกอย่างรีบร้อนแล้วหายวับไปจากสายตาของเขา
มู่วี่สิงมองด้านหลังของเธอ ความเจ็บปวดก็ค่อยๆแผ่กระจายเข้าสู่หัวใจ
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จป้าหลี่ก็เก็บโต๊ะอาหารล้างจานทำความสะอาด ส่วนเวินจิ้งอาบน้ำให้เวินซิน จากนั้นก็เตรียมตัวอ่านหนังสือนิทานเด็กให้เวินซินฟัง เพียงแต่ยังไม่ทันได้อ่าน มู่วี่สิงก็ผลักประตูเข้ามา
เขายื่นมือมารับหนังสือที่อยู่ในมือเธอ รอยยิ้มจางๆจากริมฝีปากที่บางเบา เดินมานั่งลงข้างๆเวินจิ้ง “ให้ผมอ่านนะ”
เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจ ยื่นหนังสือนิทานเด็กให้เขาด้วยความงุนงง พร้อมกับเปิดหน้าให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ลุกขึ้นแล้วยืนมองเขาที่ท่าทางอ่อนโยน หัวใจของเธอก็เจ็บแปลบขึ้น
วัยเด็กของมู่วี่สิงอาศัยอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่เคยมีใครมานั่งอ่านหนังสือนิทานเด็กให้เขาฟัง แต่ตอนนี้เขากลับรักและเอ็นดูเวินซินเป็นอย่างมาก
มอบความอ่อนโยนและความรักให้กับเธอ
เวินจิ้งละสายตาแล้วพูดด้วยเสียงโทนต่ำ “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”
เมื่อพูดจบเธอก็ก้าวเท้าออกไปอย่างเบาๆ
ยืนอยู่ที่ระเบียง เวินจิ้งกลับมีความรู้สึกที่เจ็บปวด ในสมองมีแต่คำพูดที่เยือกเย็นของมู่วี่สิง
คุณไม่ต้องการท้องลูกของผมอีก แล้วผมจะเป็นพ่อคนได้อีกเหรอ
ในน้ำเสียงของเขาไม่มีการกล่าวโทษหรือตำหนิแต่อย่างใด และเธอก็ทราบมาโดยตลอดว่าเขาไม่มีทางที่จะโทษหรือตำหนิเธอ
เธอยังคงทราบด้วยว่าที่เขาพูดเรื่องนี้ขึ้นในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาไม่ได้ตั้งใจ แต่อากัปกิริยาของเขาเมื่อสักครู่ ทำให้เธอทราบว่าเขาต้องการมีลูกมาก
ดังนั้นถึงได้โกรธขนาดนี้ ถึงได้พูดออกมาอย่างไม่ทันระวังปาก
ความสับสนค่อยๆปรากฏบนใบหน้าเธอ จนในที่สุดเธอเลือกที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก
มู่วี่สิงได้กล่อมเวินซินให้นอนหลับไปในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาห่มผ้าให้เธอแล้วปิดไฟก่อนจะออกจากห้องนอนไป
แต่เมื่อกลับมาถึงห้องนอนใหญ่ ด้านในทั้งมืดและเงียบมาก
เวินจิ้งไม่อยู่ เขารู้ได้ทันที
ความรู้สึกใจคอไม่ดีได้เกิดขึ้น ทั้งๆที่ทราบดีว่าเวินซินยังอยู่ที่นี่ ไม่มีทางที่เธอจะจากไปไหนได้
เมื่อมาถึงห้องรับรองแขกป้าหลี่เห็นเขาก็เดินมาหาทันที แล้วพูดด้วยความเป็นห่วง “คุณท่าน เมื่อสักครู่คุณเวินบอกว่าจะออกไปเดินเล่น…..”
ใบหน้ารูปงามของมู่วี่สิงก็ดิ่งลงทันทีป้าหลี่ยังคงพูดต่ออย่างกระสับกระส่ายว่า “คุณเวินยังบอกอีกว่าจะกลับมาก่อนห้าทุ่ม คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
เธอแค่ต้องการอยากจะเดินเล่นคนเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดเช่นนี้
มู่วี่สิงเม้มปาก แล้วพูดทิ้งประโยคว่าดูแลเวินซินให้ดีๆ จากนั้นก็คว้ากุญแจรถแล้วจะออกไป
ป้าหลี่มองดูเขาที่แม้ว่าสีหน้าจะสงบนิ่งแต่ท่าทางยังคงลนลาน จึงอดไม่ได้ที่จะเรียกเขา “มู่วี่สิง…..”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “มีอะไรครับ”
ป้าหลี่ท่าทางลังเล ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “คุณเวินคงมีเรื่องไม่สบายใจ…..ซินซินยังอยู่ที่นี่ เธอคงแค่ออกไปเดินเล่น บางครั้งผู้หญิงต้องการความเป็นส่วนตัว จะดีกว่าถ้าให้เธออยู่คนเดียวสักพัก”
มู่วี่สิงเงียบอยู่สักครู่ สุดท้ายเขาก็ชะงักเท้า “ผมเข้าใจแล้วครับ