Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 813

ตอนที่ 813

บทที่ 813 ลักษณะท่าทางที่อ่อนโยนเช่นนี้ ไม่เคยเป็นมาก่อน

เวินจิ้งยิ้มจางๆ มู่ซีถึงกับประหลาดใจ เมื่อเธอเอื้อมมือไปรับแก้วเหล้าแก้วนั้นจริงๆ

ดูแล้ว…..น่าสมเพชจริงๆ….ที่ลดตัวไปรับแก้วเหล้าแก้วนั้นจากเธอ…..

แต่วินาทีต่อมา ——

“เวินจิ้ง!”

ทันใดนั้นของเหลวเย็นๆได้สาดกระเด็น กลิ่นเหล้าเข้มข้นได้กระจายไปทั่วใบหน้าของมู่ซี เธอจึงส่งเสียงกรีดร้องขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นยืน

เวินจิ้งยังคงเย็นชา ท่าทางเฉยเมย เธอพูดขึ้นเบาๆ “เธอคิดว่าเธอมีคุณสมบัติพอที่จะเชิญฉันมาดื่มเหล้าด้วยเหรอ”

มู่ซีหายใจอย่างลึกๆ มองเวินจิ้งด้วยสายตาอาฆาต

แวบเดียวเธอก็มองทะลุความโกรธเกลียดของเธอ “อย่าโยนความผิดให้ฉันเรื่องที่เธอมีชีวิตความเป็นอยู่ในตอนนี้ ฉันไม่มีหน้าที่ที่ต้องมารับผิดชอบถึงผลที่เกิดขึ้นกับเธอ”

เมื่อเธอปล่อยมือ แก้วเหล้าใบใสก็ตกแตกกระจายเต็มพื้น ดวงตาของเธอเหมือนมีชั้นน้ำแข็งผุดขึ้น “เธอรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงออกดื่มเหล้า โดยเฉพาะวันนี้”

เธอพูดออกมาทีละคำๆ “ก็เพราะฉันกำลังคิดว่า ถ้าตอนนั้นฉันไม่กลิ้งตกลงมาจากบันได…..ลูกของฉันก็น่าจะหนึ่งขวบได้”

มันก็น่าขำที่เธอมาเจอกับมู่ซีที่นี่ ความทรงจำที่ได้เลือนรางกลับชัดเจนขึ้นในทันที

สีหน้ามู่ซีขาวซีดฉับพลัน เพราะสายตาลุ่มลึกเยือกเย็นของเวินจิ้ง

เธอทำเป็นใจเย็น แล้วค่อยๆยิ้มเยาะเย้ยออกมา “ที่แท้เธอก็ทำเพื่อลูกที่ถูกฆ่าด้วยน้ำมือของเธอเอง เพื่อต้องการใส่ร้ายฉันจึงฆ่าลูกในไส้ของตัวเอง เวินจิ้งเธอคงจะฝันร้ายทุกคืนสินะ”

มู่ซีมองสีหน้าของเวินจิ้งที่ดูไม่ค่อยจะสงบนิ่งเหมือนเมื่อสักครู่ เธอยิ่งยิ้มขึ้น “ลูกคนนั้นเธอเป็นคนฆ่าด้วยน้ำมือของเธอเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันแม้แต่สักนิดเดียว”

เวินจิ้งที่กำหมัดแน่นอยู่ข้างๆ จึงหัวเราะขึ้น ก็จริงนะ เธอก็เหมือนกับมู่ซี ทำเองเจ็บเอง แล้วยังจะสรรหาเหตุผลเพื่อโทษคนอื่น

เหมือนกับว่าความผิดนั้นเกิดขึ้นจากคนอื่น ตัวเองจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานมาก

ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะถูกกระตุ้นถูกหลอกลวงจากมู่ซี แต่การตัดสินใจครั้งนั้น…..เป็นการกระทำของเธอเอง เป็นการเลือกของเธอเอง เป็นการเลือก…..ที่จะไม่เก็บเด็กคนนั้นไว้

ทันใดนั้นเธอก็ไม่อยากสนใจอะไรอีก เหลือบไปมองมู่ซีที่แต่งหน้าอย่างเข้ม เธอคงผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย เธออายุน้อยกว่าเธอมาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธอเสียอีก

เมื่อหันหลังกลับ เธอไม่อยากจะสนใจคนพวกนี้อีก จึงก้าวเท้าเพื่อจะจากไป

แต่ทว่าชายสองคนที่สวมชุดสูทสีดำได้เข้ามาขวางทางของเธอไว้

เวินจิ้งนิ่วหน้า หางตาเหลือบเห็นชายรูปร่างสูงเพรียวกำลังเดินมาทางนี้

ใบหน้ารูปงามของมู่วี่สิงที่มองไม่ออกว่าโกรธหรือไม่ ยื่นมือมาจับไหล่ของเวินจิ้ง ก้มหน้าลงก็ได้กลิ่นเหล้าจางๆจากตัวเธอ ดวงตาหยี จะเผยให้เห็นก็ต่อเมื่อยิ้มต่อหน้าเขาเท่านั้น

ประธานหซู่เห็นชายหนุ่มเย็นชารูปร่างสูงยาว จากอาการที่มึนเมาก็สร่างเมาทันที ชะงักมองชายผู้มีอำนาจที่สุดในเมืองหนานที่กำลังปลอบประโลมเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน

ถึงแม้ว่าจะเจอมู่วี่สิงเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ว่าความเย็นชาของเขาเป็นที่โจษจันซึ่งใครๆก็รู้จัก ลักษณะท่าทางที่อ่อนโยนเช่นนี้ ไม่เคยเป็นมาก่อน

และที่เป็นตอนนี้ ก็เพราะเวินจิ้งหญิงสาวคนนี้

ประธานหซู่นั่งอยู่บนโซฟาที่นุ่มนิ่ม กลับรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนกองไฟ

เวินจิ้งยื่นมือไปกอดเอวของมู่วี่สิง ลูบไล้ไปมาแล้วถามอย่างออดอ้อนว่า “คุณมาได้ยังไงคะ”

มู่วี่สิงก็กอดเธอ “มาดูการเต้นรำ”

ทันใดนั้นเวินจิ้งตะโกนขึ้นด้วยความไม่พอใจในคำตอบ “เวินซินหลับแล้วหรอ”

เขาตอบกลับ “อืม หลับแล้ว”

เธอตอบรับแล้วค่อยๆปิดตาซบลงที่หน้าอกของเขา “อย่างนั้นพวกเรากลับกันเถอะ ฉันก็ง่วงแล้วเช่นกัน”

เมื่อตอนกลางวันเธอนอนนานขนาดนั้น ตอนนี้ยังง่วงอีกหรือ

มู่วี่สิงก้มต่ำพูดว่ารอแป๊บ จากนั้นเงยหน้าขึ้น แววตาความรักความอ่อนโยนเหมือนเมื่อสักครู่ไม่หลงเหลือแล้ว เหลือไว้เพียงความเย็นชา “เมื่อกี้ใครแตะต้องตัวเธอ”

มู่ซีมองหญิงสาวที่ถูกกอดอยู่ในอ้อมแขน แล้วก็หัวเราะ เธอเชิดคางขึ้นพูด “คุณชายมู่จะโกรธอะไรกันนักกันหนาคะ พวกเราก็แค่เห็นคุณเวินอารมณ์ไม่ดีจึงแค่อยากเชิญเธอมาร่วมดื่มเท่านั้น”

สายตามู่วี่สิงยังคงเยือกเย็น แต่ไม่มีการจ้องจดจ่ออยู่ที่ใคร ให้ความรู้สึกเหมือนคนเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในสายตา

“เชิญเธอดื่มเหล้างั้นเหรอ เธอมีคุณสมบัติอะไร”

สมแล้วที่เป็นสามีภรรยา คำพูดคำจาช่างเหมือนกันจริงๆ มู่ซีได้แต่คิดประชดประชัน

อยู่ท่ามกลางที่รายล้อมไปด้วยคนกลุ่มนี้ แต่กลับไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดประธานหซู่จึงต้องลุกขึ้นยืนด้วยความจำใจ ยืนอยู่ตรงหน้ามู่วี่สิง ใบหน้ายิ้มแล้วพูดด้วยเสียงโทนต่ำ “ต้องขออภัยคุณชายมู่ด้วยครับ พวกเราไม่ทราบว่าคุณเวิน…..”

ไม่กล้าสบตามู่วี่สิง เขาจึงหันไปทางเวินจิ้ง “คุณเวินครับ ต้องขออภัยที่เสียมารยาท คุณอย่าได้ถือสาพวกเราเลยนะครับ”

เวินจิ้งที่รู้สึกรำคาญมาก จึงพูดขึ้นเบาๆ “พวกเราไปกันเถอะ ที่นี่เสียงดังเกินไป”

เมื่อสักครู่ยังรู้สึกอยู่เลยว่าบรรยากาศรอบๆมีความคึกคักหน่อย จิตใจถึงจะได้สงบ แต่ทำไมตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าที่ไหนก็เสียงดังไปหมด

“เวินจิ้ง คุณอย่ามาแสร้งทำเป็นคนดีไปหน่อยเลย!” มู่ซีพูดขึ้นอย่างเย็นชา รอยยิ้มก่อนหน้านั้นได้หายไปแล้ว เหลือเพียงความแดกดันที่เชือดเฉือน “ที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพราะคุณ คุณมาที่นี่ก็เพื่ออยากจะมาเยาะเย้ยฉันไม่ใช่เหรอ….”

“เพี๊ยะ” เสียงตบดังฟังชัดได้ดังขึ้น มู่ซียังไม่ทันได้พูดจบ กลับต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นกลับทันที

“หุบปากของเธอซะ! เธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น” ประธานหซู่ตะคอกใส่เธอด้วยความโกรธ และมองดูมู่ซีที่ล้มลงอยู่บนโซฟา

เมื่อเวินจิ้งได้ยินดังนั้นก็หันกลับมา หญิงสาวที่สวมใส่ชุดเดรสกระโปรงสั้นนอนทรุดอยู่บนโซฟาโดยมีเลือดค่อยๆไหลออกมาจากริมฝีปากเธอ

ประธานหซู่ยังคงหันไปทางมู่วี่สิงแล้วโค้งคำนับเพื่อกล่าวคำขอโทษ “ต้องขออภัยด้วยครับคุณชายมู่……แล้วผมจะสั่งสอนเธอครับ หรือว่า…..”

เขามองไปที่ใบหน้ารูปงามที่ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ของผู้ชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง “หรือท่านอยากจะลงมือเอง”

มู่วี่สิงที่สีหน้ายังคงไร้ความรู้สึก เพียงแต่ทิ้งประโยคว่า “อย่าให้เธอมาปรากฏตัวต่อหน้าภรรยาของผมอีก”

ประธานหซู่ชะงักขึ้นและเข้าใจความหมายของมู่วี่สิงทันที

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เงยหน้ามองผู้ชายที่กำลังกอดตัวเธอ “คุณเป็นคนให้มู่ซีอยู่ที่นี่เหรอ”

มู่ซีบอกกับเธอแบบนี้เมื่อสักครู่ อีกทั้งสายตาที่เธอมองเธอนั้นมีแต่ความเกลียดชังและไม่พอใจ ซึ่งเธอก็พอจะเดาว่าคงน่าเป็นแบบนี้

มู่วี่สิงตอบรับเสียงเบาๆ ยกมือขึ้นเพื่อจัดผ้าพันคอของเธอให้เป็นระเบียบ “พวกเรากลับกันเถอะ”

เธอยอมให้เขาจัดผ้าพันคอให้อย่างตามใจ แต่สายตานั้นมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนโซฟาอย่างกระเซอะกระเซิง พูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น “เธอสามารถไปจากที่นี่ได้ถ้าหากเธอต้องการ”

ในขณะที่เธอกำลังพูด สายตาเธอก็เหลือบไปมองร่างประธานหซู่ ถึงแม้ว่าจะไม่เย็นชาเท่ามู่วี่สิง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนรอบตัวนั้นตกใจได้

“เธอสามารถเลือกที่จะเป็นแบบนี้ต่อไป หรืออยากทำงานอย่างอื่นก็ได้ ต่อไปจะไม่มีใครมาบังคับเธอได้อีก”

ประธานหซู่ถึงกับเหงื่อตก คำพูดของเวินจิ้งเป็นคำพูดที่พูดกับมู่ซี แต่ก็เหมือนพูดกับเขาด้วยเช่นกัน

ผู้หญิงคนนี้คงเป็นเพราะอยู่กับมู่วี่สิงเป็นเวลานาน ท่าทางเย็นชาจึงละม้ายคล้ายกัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท