Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 828

ตอนที่ 828

บทที่ 828 ฉันสู้ไม่ไหว

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ ปล่อยฉัน … “ฉินซีหน้าตึง และพยายามจะผลักมือออก

“ฉินซี คุณร้อนเงินมากเหรอ เงินที่ผู้ชายคนนั้นให้คุณไม่พอใช้เหรอ”คำพูดของหซู่หนานเต็มไปด้วยเย้ยหยัน

ฉินซีอึ้งไป สักพักถึงเข้าใจที่หซู่หนานพูด

ผู้ชายคนนั้น … หมายถึงลู่เซิ่นเหรอ เขารู้ได้ยังไง

“ใช่ ฉันร้อนเงินมาก ทำไม นายหซู่คิดจะซื้อฉันเหรอ”ฉินซีหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์เยาะเย้ยเหมือนกัน

ในวินาทีถัดมา หซู่หนานยกมือขึ้นและจะตบหน้าของฉินซี แต่ฉินซีรู้ตัวก่อนและหยุดเขาอย่างรวดเร็ว

เธอเยาะเย้ย”ถ้านายหซู่ไม่คิดจะซื้อฉัน ก็อย่าแตะต้องตัวฉัน”

เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังจากไป แต่หซู่หนานไม่ยอมปล่อยเธอไป รีบตามไปด้วยขายาว

“ฉินซี ทำไมคุณถึงต่ำต้อยแบบนี้ คุณยอมขายตัวให้กับผู้ชายเพื่อเงิน คุณกล้ากรรโชกน้องชายของฉันเพื่อเงิน”ดวงตาของหซู่หนานค่อยๆผิดหวัง ฉินซีที่อยู่ตรงหน้าสำหรับเขา มันแปลกหน้าเกินไป

เธอเปลี่ยนไป

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินซีขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าหซู่หนานไปสอบสวนเธอแล้ว แต่เรื่องของเธอ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเขาอยู่แล้ว

อีกอย่าง การขู่กรรโชกที่เขาพูดหมายถึงอะไร

เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของฉินซี เขายิ่งโกรธมากขึ้น”ทำไม ถึงป่านนี้แล้วคุณยังจะปฏิเสธเหรอ คุณไปแอบถ่ายรูปของน้องชายฉันเมื่อสองวันก่อนใช่ไหม ฉินซี น้องชายของฉัน ไม่ใช่คนที่คุณไม่สามารถแตกต้องได้”

คำพูดของหซู่หนานเย็นชาและน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ

เธอเคยเห็นท่าโกรธของหซู่หนานมาก่อน แต่ต่อหน้าฉินซี เขาไม่เคยโกรธอย่างจริงจังเลย

แต่ในตอนนี้ เขาโกรธมากจริงๆ

แต่เรื่องที่เขาพูดถึง เธอไม่รู้อะไรจริงๆ

“เรื่องที่ฉันไม่ได้ทำ ฉันต้องปฏิเสธอยู่แล้ว ฉันไม่ได้กรรโชกน้องชายของคุณ คุณอย่ามาใส่ร้ายฉัน”ฉินซีตอบโต้อย่างเย็นชา

ในเวลานี้ หซู่หนาน ตกตะลึง

การแสดงออกของฉินซีสงบมาก โดยไม่มีร่องรอยของความอับอายหลังจากถูกเปิดเผยว่าโกหก

เขาค่อยๆกำหมัดแน่นๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความลังเล

ผ่านไปสักพัก ฉินซีก็นึกถึงอะไรบางอย่าง และถามอย่างกระวนกระวายว่า”ที่หซู่เป่ยถูกกรรโชก คือรูปถ่ายที่เขาตบคนอื่นชาไหม”

“ใช่”หซู่หนานพยักหน้าและมองฉินซีอย่างไม่กระพริบตามาโดยตลอด

ตอนนี้เขาดูไม่ออกว่าเธอโกหกเขาหรือเปล่า

“ฉันไม่เคยคิดจะถ่ายรูปที่เขาต่อสู้กับคนอื่น ฉันแค่อยากถ่ายรูปแฟนที่มีข่าวลือกับเขาเท่านั้น ฉันทิ้งเมมโมรี่การ์ดอันนั้นตั้งนานแล้ว มันไม่ได้อยู่ในมือฉัน … ”

“ทิ้งแล้ว ทิ้งที่ไหน”หซู่หนานใจร้อนขึ้นมา

“ก็ … ถังขยะของอาคารอพาร์ตเมนต์ที่คุณพักอยู่… “ฉินซีพูดเบาๆ

ถ้ารู้แบบนี้เธอควรตัดมันให้พังก่อน ก็ไม่ต้องถูกคนที่ไม่หวังดีเอาไปใช้แล้ว

ฉินซี คุณโง่เหลือเกิน

“ฉินซี ตอนนี้คนนั้นเอารูปที่น้องชายฉันตบคนอื่นมากรรโชกเขา30 ล้าน”

30 ล้าน

ดวงตาของฉินซีเบิกกว้างขึ้น พระเจ้า …

เธอหน้าซีดทันที เธอรู้ว่าเธอเองก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้เหมือนกัน แต่เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้

ดูเหมือนแน่ใจว่าฉินซีไม่ได้โกหก หซู่หนานจึงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า”ในเมื่อคนที่กรรโชกไม่ใช่คุณ ถ้าไม่หาตัวตนของคนนั้นไม่เจอ ฉันก็มีแต่จ่าย 30 ล้านเท่านั้น”

เมื่อคำพูดจบ หซู่หนานก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขาหนักใจกับเรื่องนี้มาก ไม่มีอารมณ์ใดๆ

ฉินซีเรียกเขาไว้”มีอะไรที่ฉันพอช่วยได้ไหม … ”

บางทีเธออาจจะสืบว่าคนที่กรรโชกเป็นใครก่อนก็ได้

ฉินซีเงียบอยู่ เพียงเพราะเธอกดชัตเตอร์ไม่กี่ครั้ง ก็ต้องจ่าย30 ล้านแบบนี้เหรอ…

เธอเสียดายเงิน …

“หซู่หนาน เราถ่วงเวลาก่อน จะจ่ายเงินฟรีๆไม่ได้ ต้องมีทางแก้แน่นอน”

“ได้ งั้นเราช่วยหาวิธีกันนะ”

ฉินซีที่เวลานี้ ค่อยเป็นคนที่เขารู้จักมาก่อน ปากบางๆของหซู่หนานก็ค่อยๆยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ช่วงนี้ลู่เซิ่นไม่อยู่ ฉินซีไม่ได้กลับวิลล่า แต่ไปพักที่อพาร์ตเมนต์ของอานหยัน

“ส่งรูปเรียบร้อยแล้วเหรอ”เธอถาม

“ใช่”ฉินซีตอบอย่างไม่มีอารมณ์

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ลู่เซิ่นยังไม่กลับ เธออดไม่ไหวเหรอ”อานหยันขยิบตาแซวเธอ

“ไม่ใช่ ฉันเกือบลืมเขาไปแล้ว”ฉินซีพึมพำ สักพักถึงพูดว่า”คุณให้ฉันถ่ายรูปหซู่เป่ยไม่ใช่เหรอ ในวันนั้นฉันนอนจากถ่ายภาพแฟนที่มีข่าวลือกับหซู่เป่ยได้ ยังถ่ายรูปที่หซู่เป่ยต่อสู้กับผู้ชายคนหนึ่งด้วย ตอนนี้รูปภาพหลุดออกไปแล้ว หซู่เป่ยถูกกรรโชก ”

“อะไรนะ”อานหยันตะลึง สักพักถึงจะมีสติขึ้นมา กรรโชกเหรอ

“กรรโชกก็กรรโชกไปเลย พวกดาราดังมีเงินเยอะจะตาย ไม่มีสิ่งใดที่เงินแก้ไม่ได้ในใบโลกนี้”อานหยันไม่ได้หนักใจ

“หซู่เป่ยเป็นน้องชายของหซู่หนาน และฉันก็เป็นเหตุการณ์ส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ คนที่กรรโชกต้องการ30 ล้าน 30 ล้านเลยนะ”ฉินซีก้มใจมาก

เท่าที่เธอรู้จัก เธอคิดว่าหซู่หนานคงไม่สามารถหาเงินมากขนาดนี้ได้ในเวลาสั่นๆ

ตระกูลหซู่ไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยมาก หซู่หนานค่อยๆขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เงินจำนวนมากขนาดนี้ นอกจากว่าหซู่หนานจะยืนมาเท่านั้น

“ที่แท้เป็นน้องชายของคนรักเก่านี้เอง ไม่น่าละที่คุณห่วงใยมาก ฉันไม่น่าให้คุณรับงานนี้เลย”อานหยันพูดอย่างเสียดายภายหลัง

หซู่เป่ย หซู่หนาน ทำไมเธอถึงไม่เคยคิดความสัมพันธ์ของสองคนนี้ละ

“ไม่ใช่คนรักเก่าสักหน่อย อย่ามัว เรื่องนี้คุณพอมีทางช่วยมั้ย ฉันไม่อยากให้หซู่หนานต้องติดหนี้เพราะเรื่องนี้”ฉินซีพูดอย่างหนักใจ

“โอ้ คุณยังเป็นห่วงหซู่หนานเหรอ ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว ยังลืมเขาไม่ได้เหรอ”

“ไม่ใช่ ฉันเลิกคิดเรื่องของหซู่หนานตั้งนานแล้ว รีบบอกว่าคุณสามารถสืบได้ปะ”ฉินซีมองอานหยันและพูดว่า

ในสายตาของเธอ อานหยันเป็นผู้หญิงสามารถทำทุกอย่างได้

เธอเคยทำงานที่หน่วยสืบราชาการลับ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆเธอก็ไปเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการของนิตยสารทั้งสองอาชีพนี้ไม่เกี่ยวข้องกันสักนิดเลย แต่อานหยันก็ยังทำงานได้ดีมาก

“น่าจะทำได้นะ คืนนี้คุณรอข่าวอยู่นี่แล้วกัน คุณดูร้อนใจเหลือเกิน… “อานหยันส่ายหัวแบบไม่รู้ทำไง

ฉินซีลูบแขนของเธอ”ฉันแล้วรู้ว่าเสี่ยวซีของฉันเก่งที่สุดเลย”

ผ่านไปสามชั่วโมง อานหยันเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม”คนนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจ ฉันคิดว่าเขาไม่ใช่แค่ต้องการเงิน30ล้าน แถมยังต้องการทำร้ายเชื่อเสียงของหซู่เป่ยด้วย”

“คือใคร”

“ประธานของบริษัทเถยนเถยน บริษัทนี้เป็นคู่แข่งของบริษัทนายหน้าของหซู่เป่ย ที่กัดกันตลอด ตอนนี้พวกเขามีรูปของหซู่เป่ยในมือ จะยอมปล่อยง่ายๆที่ไหนละ”

ฉินซีจับแก้มและถอนหายใจลึกๆ

ตอนนี้เธอไม่มีคนที่ช่วยได้ คนที่มีความสามารถสุดก็คืออานหยัน

“อย่ามองฉันแบบนี้ .. ฉันช่วยไม่ได้ คนมีอำนาจพวกนี้ ฉันไม่กล้าทำอะไรหรอก”อานหยันส่ายหัว

“แต่เรื่องนี้ ผู้ชายของคุณต้องจัดการได้แน่นอน”อานหยันพูดว่า

ฉินซีตกตะลึง ลู่เซิ่นเหรอ

ไม่รู้ว่าตอนนี้ลู่เซิ่นกำลังอยู่กับผู้หญิงคนไหนเลย ตอนนี้เธอไม่อยากหาเขาหรอก

“อย่าพูดถึงเขาเลย” ผู้ชายขี้งอน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท