บทที่ 828 ฉันสู้ไม่ไหว
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ ปล่อยฉัน … “ฉินซีหน้าตึง และพยายามจะผลักมือออก
“ฉินซี คุณร้อนเงินมากเหรอ เงินที่ผู้ชายคนนั้นให้คุณไม่พอใช้เหรอ”คำพูดของหซู่หนานเต็มไปด้วยเย้ยหยัน
ฉินซีอึ้งไป สักพักถึงเข้าใจที่หซู่หนานพูด
ผู้ชายคนนั้น … หมายถึงลู่เซิ่นเหรอ เขารู้ได้ยังไง
“ใช่ ฉันร้อนเงินมาก ทำไม นายหซู่คิดจะซื้อฉันเหรอ”ฉินซีหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์เยาะเย้ยเหมือนกัน
ในวินาทีถัดมา หซู่หนานยกมือขึ้นและจะตบหน้าของฉินซี แต่ฉินซีรู้ตัวก่อนและหยุดเขาอย่างรวดเร็ว
เธอเยาะเย้ย”ถ้านายหซู่ไม่คิดจะซื้อฉัน ก็อย่าแตะต้องตัวฉัน”
เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังจากไป แต่หซู่หนานไม่ยอมปล่อยเธอไป รีบตามไปด้วยขายาว
“ฉินซี ทำไมคุณถึงต่ำต้อยแบบนี้ คุณยอมขายตัวให้กับผู้ชายเพื่อเงิน คุณกล้ากรรโชกน้องชายของฉันเพื่อเงิน”ดวงตาของหซู่หนานค่อยๆผิดหวัง ฉินซีที่อยู่ตรงหน้าสำหรับเขา มันแปลกหน้าเกินไป
เธอเปลี่ยนไป
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินซีขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าหซู่หนานไปสอบสวนเธอแล้ว แต่เรื่องของเธอ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเขาอยู่แล้ว
อีกอย่าง การขู่กรรโชกที่เขาพูดหมายถึงอะไร
เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของฉินซี เขายิ่งโกรธมากขึ้น”ทำไม ถึงป่านนี้แล้วคุณยังจะปฏิเสธเหรอ คุณไปแอบถ่ายรูปของน้องชายฉันเมื่อสองวันก่อนใช่ไหม ฉินซี น้องชายของฉัน ไม่ใช่คนที่คุณไม่สามารถแตกต้องได้”
คำพูดของหซู่หนานเย็นชาและน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
เธอเคยเห็นท่าโกรธของหซู่หนานมาก่อน แต่ต่อหน้าฉินซี เขาไม่เคยโกรธอย่างจริงจังเลย
แต่ในตอนนี้ เขาโกรธมากจริงๆ
แต่เรื่องที่เขาพูดถึง เธอไม่รู้อะไรจริงๆ
“เรื่องที่ฉันไม่ได้ทำ ฉันต้องปฏิเสธอยู่แล้ว ฉันไม่ได้กรรโชกน้องชายของคุณ คุณอย่ามาใส่ร้ายฉัน”ฉินซีตอบโต้อย่างเย็นชา
ในเวลานี้ หซู่หนาน ตกตะลึง
การแสดงออกของฉินซีสงบมาก โดยไม่มีร่องรอยของความอับอายหลังจากถูกเปิดเผยว่าโกหก
เขาค่อยๆกำหมัดแน่นๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความลังเล
ผ่านไปสักพัก ฉินซีก็นึกถึงอะไรบางอย่าง และถามอย่างกระวนกระวายว่า”ที่หซู่เป่ยถูกกรรโชก คือรูปถ่ายที่เขาตบคนอื่นชาไหม”
“ใช่”หซู่หนานพยักหน้าและมองฉินซีอย่างไม่กระพริบตามาโดยตลอด
ตอนนี้เขาดูไม่ออกว่าเธอโกหกเขาหรือเปล่า
“ฉันไม่เคยคิดจะถ่ายรูปที่เขาต่อสู้กับคนอื่น ฉันแค่อยากถ่ายรูปแฟนที่มีข่าวลือกับเขาเท่านั้น ฉันทิ้งเมมโมรี่การ์ดอันนั้นตั้งนานแล้ว มันไม่ได้อยู่ในมือฉัน … ”
“ทิ้งแล้ว ทิ้งที่ไหน”หซู่หนานใจร้อนขึ้นมา
“ก็ … ถังขยะของอาคารอพาร์ตเมนต์ที่คุณพักอยู่… “ฉินซีพูดเบาๆ
ถ้ารู้แบบนี้เธอควรตัดมันให้พังก่อน ก็ไม่ต้องถูกคนที่ไม่หวังดีเอาไปใช้แล้ว
ฉินซี คุณโง่เหลือเกิน
“ฉินซี ตอนนี้คนนั้นเอารูปที่น้องชายฉันตบคนอื่นมากรรโชกเขา30 ล้าน”
30 ล้าน
ดวงตาของฉินซีเบิกกว้างขึ้น พระเจ้า …
เธอหน้าซีดทันที เธอรู้ว่าเธอเองก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้เหมือนกัน แต่เธอไม่คิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
ดูเหมือนแน่ใจว่าฉินซีไม่ได้โกหก หซู่หนานจึงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า”ในเมื่อคนที่กรรโชกไม่ใช่คุณ ถ้าไม่หาตัวตนของคนนั้นไม่เจอ ฉันก็มีแต่จ่าย 30 ล้านเท่านั้น”
เมื่อคำพูดจบ หซู่หนานก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขาหนักใจกับเรื่องนี้มาก ไม่มีอารมณ์ใดๆ
ฉินซีเรียกเขาไว้”มีอะไรที่ฉันพอช่วยได้ไหม … ”
บางทีเธออาจจะสืบว่าคนที่กรรโชกเป็นใครก่อนก็ได้
ฉินซีเงียบอยู่ เพียงเพราะเธอกดชัตเตอร์ไม่กี่ครั้ง ก็ต้องจ่าย30 ล้านแบบนี้เหรอ…
เธอเสียดายเงิน …
“หซู่หนาน เราถ่วงเวลาก่อน จะจ่ายเงินฟรีๆไม่ได้ ต้องมีทางแก้แน่นอน”
“ได้ งั้นเราช่วยหาวิธีกันนะ”
ฉินซีที่เวลานี้ ค่อยเป็นคนที่เขารู้จักมาก่อน ปากบางๆของหซู่หนานก็ค่อยๆยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ช่วงนี้ลู่เซิ่นไม่อยู่ ฉินซีไม่ได้กลับวิลล่า แต่ไปพักที่อพาร์ตเมนต์ของอานหยัน
“ส่งรูปเรียบร้อยแล้วเหรอ”เธอถาม
“ใช่”ฉินซีตอบอย่างไม่มีอารมณ์
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ลู่เซิ่นยังไม่กลับ เธออดไม่ไหวเหรอ”อานหยันขยิบตาแซวเธอ
“ไม่ใช่ ฉันเกือบลืมเขาไปแล้ว”ฉินซีพึมพำ สักพักถึงพูดว่า”คุณให้ฉันถ่ายรูปหซู่เป่ยไม่ใช่เหรอ ในวันนั้นฉันนอนจากถ่ายภาพแฟนที่มีข่าวลือกับหซู่เป่ยได้ ยังถ่ายรูปที่หซู่เป่ยต่อสู้กับผู้ชายคนหนึ่งด้วย ตอนนี้รูปภาพหลุดออกไปแล้ว หซู่เป่ยถูกกรรโชก ”
“อะไรนะ”อานหยันตะลึง สักพักถึงจะมีสติขึ้นมา กรรโชกเหรอ
“กรรโชกก็กรรโชกไปเลย พวกดาราดังมีเงินเยอะจะตาย ไม่มีสิ่งใดที่เงินแก้ไม่ได้ในใบโลกนี้”อานหยันไม่ได้หนักใจ
“หซู่เป่ยเป็นน้องชายของหซู่หนาน และฉันก็เป็นเหตุการณ์ส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ คนที่กรรโชกต้องการ30 ล้าน 30 ล้านเลยนะ”ฉินซีก้มใจมาก
เท่าที่เธอรู้จัก เธอคิดว่าหซู่หนานคงไม่สามารถหาเงินมากขนาดนี้ได้ในเวลาสั่นๆ
ตระกูลหซู่ไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยมาก หซู่หนานค่อยๆขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เงินจำนวนมากขนาดนี้ นอกจากว่าหซู่หนานจะยืนมาเท่านั้น
“ที่แท้เป็นน้องชายของคนรักเก่านี้เอง ไม่น่าละที่คุณห่วงใยมาก ฉันไม่น่าให้คุณรับงานนี้เลย”อานหยันพูดอย่างเสียดายภายหลัง
หซู่เป่ย หซู่หนาน ทำไมเธอถึงไม่เคยคิดความสัมพันธ์ของสองคนนี้ละ
“ไม่ใช่คนรักเก่าสักหน่อย อย่ามัว เรื่องนี้คุณพอมีทางช่วยมั้ย ฉันไม่อยากให้หซู่หนานต้องติดหนี้เพราะเรื่องนี้”ฉินซีพูดอย่างหนักใจ
“โอ้ คุณยังเป็นห่วงหซู่หนานเหรอ ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว ยังลืมเขาไม่ได้เหรอ”
“ไม่ใช่ ฉันเลิกคิดเรื่องของหซู่หนานตั้งนานแล้ว รีบบอกว่าคุณสามารถสืบได้ปะ”ฉินซีมองอานหยันและพูดว่า
ในสายตาของเธอ อานหยันเป็นผู้หญิงสามารถทำทุกอย่างได้
เธอเคยทำงานที่หน่วยสืบราชาการลับ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆเธอก็ไปเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการของนิตยสารทั้งสองอาชีพนี้ไม่เกี่ยวข้องกันสักนิดเลย แต่อานหยันก็ยังทำงานได้ดีมาก
“น่าจะทำได้นะ คืนนี้คุณรอข่าวอยู่นี่แล้วกัน คุณดูร้อนใจเหลือเกิน… “อานหยันส่ายหัวแบบไม่รู้ทำไง
ฉินซีลูบแขนของเธอ”ฉันแล้วรู้ว่าเสี่ยวซีของฉันเก่งที่สุดเลย”
ผ่านไปสามชั่วโมง อานหยันเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม”คนนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจ ฉันคิดว่าเขาไม่ใช่แค่ต้องการเงิน30ล้าน แถมยังต้องการทำร้ายเชื่อเสียงของหซู่เป่ยด้วย”
“คือใคร”
“ประธานของบริษัทเถยนเถยน บริษัทนี้เป็นคู่แข่งของบริษัทนายหน้าของหซู่เป่ย ที่กัดกันตลอด ตอนนี้พวกเขามีรูปของหซู่เป่ยในมือ จะยอมปล่อยง่ายๆที่ไหนละ”
ฉินซีจับแก้มและถอนหายใจลึกๆ
ตอนนี้เธอไม่มีคนที่ช่วยได้ คนที่มีความสามารถสุดก็คืออานหยัน
“อย่ามองฉันแบบนี้ .. ฉันช่วยไม่ได้ คนมีอำนาจพวกนี้ ฉันไม่กล้าทำอะไรหรอก”อานหยันส่ายหัว
“แต่เรื่องนี้ ผู้ชายของคุณต้องจัดการได้แน่นอน”อานหยันพูดว่า
ฉินซีตกตะลึง ลู่เซิ่นเหรอ
ไม่รู้ว่าตอนนี้ลู่เซิ่นกำลังอยู่กับผู้หญิงคนไหนเลย ตอนนี้เธอไม่อยากหาเขาหรอก
“อย่าพูดถึงเขาเลย” ผู้ชายขี้งอน