Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 815

ตอนที่ 815

815 ฉันอยากจะให้อภัยตัวเอง

ชายหนุ่มอุ้มเวินจิ้งลงจากรถเบาๆ เขาที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาที่ห้องรับรองแขก แวบแรกก็เห็นชายชรานั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา

บนโต๊ะยังมีแก้วชาดอกไม้อุ่นๆวางอยู่ เป็นชาที่เวินจิ้งเอามาฝาก

เมื่อได้ยินเสียง มู่เฉิงทำท่าจะเอ่ยปากพูด แต่เมื่อเห็นเวินจิ้งหลับอย่างเงียบๆในอ้อมอกของมู่วี่สิง จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เวินจิ้งหลับแล้วเหรอ แกอุ้มเธอไปที่ห้องนอนก่อน”

มู่วี่สิงพยักหน้าเบาๆ

เมื่อออกมาป้าหลี่ก็ได้ชงชาดอกไม้ให้เขาแก้วหนึ่ง พร้อมพูดอย่างชื่นชม “ชาดอกไม้ที่คุณเวินซื้อมารสชาติสุดยอดจริงๆ คุณปู่มู่ท่านก็ชอบมากๆ”

มู่เฉิงยิ้มแฉ่งและพูดว่า “รสชาติดีจริงๆ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และได้ยินมู่เฉิงพูดต่อว่า “แกกับเวินจิ้งจะเอายังไงกัน ให้ฉันช่วยหาฤกษ์มงคลเพื่อนจดทะเบียนไหม จองชุดแต่งงานหรือยัง งานแต่งก็แล้วแต่พวกแกนะว่าอยากจะจัดหรือเปล่า แต่ทะเบียนสมรสต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยนะ ไม่อย่างนั้นเมียแกหนีตามคนไปอีก”

มู่วี่สิงนิ่วหน้า แต่อารมณ์ยังคงอ่อนโยน “คุณปู่กังวลเรื่องงานแต่งงานของพวกเราเหรอครับ”

มู่เฉิงลูบคางตัวเองไปมาแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันแค่อยากเตือนแกอย่าปล่อยให้เวินจิ้งหนีไปอีก แกนะแก หลายปีที่ผ่านมาแกคงมัวแต่โทษตำหนิปู่คนนี้ ไม่แสดงความกตัญญูต่อฉันบ้างเลย แกต้องเอาเด็กอย่างเวินจิ้งเป็นแบบอย่างแล้วนะ มอบเครื่องลายครามที่ฉันชอบมากที่สุดให้กับฉัน”

ดูเหมือนมู่เฉิงจะปล่อยวางทุกอย่างแล้ว กล่าวอย่างจริงใจว่า “ฉันอายุก็ปูนนี้แล้วรู้สึกปลาบปลื้มใจจริงๆ”

มู่วี่สิงถึงกับตัวสั่นทันใด ในหัวสมองหวนคิดถึงสาวน้อยที่น่าสงสารคนนั้น…..ตอนนั้นรอยยิ้มในดวงตาของเธอดูเปล่งประกายสดใส

จู่ๆมีกระแสความอบอุ่นได้ไหลกระจายสู่หน้าอก

เขามองชายชราที่ภาคภูมิใจอยู่ข้างๆอย่างจนปัญญา จึงพูดขึ้นเบาๆ “เธอกตัญญูต่อปู่ ก็เป็นความดีความชอบของผมด้วย”

ความหมายก็คือ เป็นเพราะเขาที่หาภรรยาถึงได้มาแสดงความกตัญญูต่อคุณปู่ได้

มู่เฉิงกลับคิดว่ามู่วี่สิงนั้นหมายถึงการใช้เงินของเขา จึงพูดด้วยอารมณ์โกรธโมโหทันที “ใช้เงินแกแล้วยังไง เงินของแกแน่นอนก็ต้องให้ผู้หญิงของแกใช้สิ ถึงจะใช้เงินแกซื้อแต่เธอก็ซื้อให้ฉัน”

มู่วี่สิงเม้มปากที่บางๆ และไม่ต่อล้อต่อเถียงคุณปู่อีก “ครับ เธอมอบให้ปู่ กตัญญูต่อปู่”

เขาหรี่ตาขึ้นแล้วหวนคิดถึงเสื้อตัวนั้นที่เขาได้ลองสวม ใช่ ต้องเป็นเวินจิ้งสาวน้อยคนนี้ซื้อให้เขาแน่ๆ แล้วยังจงใจหลอกว่าเธอนั้นซื้อให้ลู่เซิ่น

เขาเรียกหาป้าหลี่

“คะ” ป้าหลี่ที่กำลังเช็ดคราบน้ำในมือ “คุณท่าน มีอะไรให้รับใช้คะ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น “สองสามวันมานี้ที่บ้านได้รับพัสดุอะไรบ้างไหม”

ป้าหลี่จึงนึกอย่างตั้งใจ ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “ได้รับพัสดุจริง แต่ว่าได้จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว”

สีหน้าชายหนุ่มดูบึ้งตึงขึ้นทันที รูปร่างสูงยาวลุกขึ้นมาจากโซฟาทันใด ด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด “จัดการแล้วงั้นเหรอ”

สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้นฉับพลัน ใบหน้าที่น่ากลัว “ผมยังไม่รู้เลยเอาไปจัดการได้ยังไง”

ตอนนั้นเขาเกือบจะทะเลาะกับเธอด้วยเรื่องเสื้อตัวนั้น

ป้าหลี่ที่แทบจะไม่เคยเห็นมู่วี่สิงโกรธเธอถึงขนาดนี้มาก่อน เธอตกใจมากจนพูดตะกุกตะกัก “มีของขวัญส่งมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านได้สั่งกำชับว่านอกจากเอกสารและของที่เกี่ยวข้องกับงานแล้ว พัสดุหรือของขวัญอย่างอื่นให้จัดการเรียบร้อยให้หมด เมื่อดิฉันเห็นข้างในเป็นเสื้อ คิดว่าน่าจะเป็นของขวัญที่คนอื่นมอบให้ ดิฉันจึงไม่ได้บอกท่าน…..”

คือ…..เธอก็ทำตามคำสั่งนิ

หลังจากที่มู่วี่สิงหย่าร้าง ผู้หญิงที่ชอบเขาก็มีมากจนสามารถต่อคิวจากเมืองหนานถึงเมืองเป่ยเฉิงได้เลย เฉลี่ยต่อวันมีเสื้อผ้ามาส่งตั้งหลายชุด เมื่อก่อนเขาออกจะรำคาญด้วยซ้ำ

ป้าหลี่มองใบหน้าโกรธของเขา แล้วจึงถามขั้นอย่างรวดเร็วว่า “นั่นเป็นของขวัญที่คุณเวินมอบให้เหรอคะ”

คงน่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้….เขาถึงโมโหถึงเพียงนี้

มู่วี่สิงที่ใบหน้าแสนเย็นชา ก็รู้ดีว่าไม่ใช่ความผิดของป้าหลี่ แต่ก็ถามอย่างเคร่งขรึมว่า “บอกผมมาว่าได้จัดการยังไง”

คุณปู่มู่ที่ทนดูต่อไปไม่ได้ป้าหลี่ก็อายุมากขนาดนี้ยังอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเขา ทนไม่ไหวกับอารมณ์ร้อนของเขา จึงพูดห้ามปรามทันที “พอแล้ว ก็แค่เสื้อตัวหนึ่ง เห็นแก่ที่เมียแกมอบเครื่องลายครามให้แก่ฉัน เดี๋ยวคนแก่อย่างฉันจะซื้อคืนให้แกเอง”

“ดิ…..ดิฉันบริจาคไปแล้ว…..”ป้าหลี่พูดอย่างลำบากใจ “เดี๋ยวดิฉันจะรีบติดต่อฝั่งนั้นว่าสามารถหาคืนกลับมาได้ไหม…..”

บริจาคไปแล้ว…..

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เป็นครั้งแรกที่เขาหนังหน้าหนา กำชับขึ้นว่า “อืม รีบไปหากลับคืนให้ได้”

คุณปู่มู่ยืนดูอยู่ข้างๆอย่างอนาถใจ “มันจะไม่ดีนะ ถ้าผู้อื่นได้สวมใส่ไปแล้ว”

บริจาคไปแล้วจะเอากลับคืนมาได้อย่างไร มู่เฉิงรู้สึกว่าหลานชายคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีเหตุผล

มู่วี่สิงจ้องมองเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึงและพูดด้วยความโกรธว่า “ไม่หรอก!”

มู่เฉิงส่ายหน้า ไม่อยากสนใจเรื่องนี้อีก และถามต่อว่า “พวกเธอจะแต่งงานกันเมื่อไร ครั้งแรกที่พวกเธอแต่งงานก็แค่จดทะเบียนสมรสแบบกะทันหันเท่านั้น จดแบบสายฟ้าแลบด้วย ถ้าให้ฉันเดาตอนนั้นคงไม่มีการขอแต่งงานสินะ ครั้งนี้ไม่ว่าจะอย่างไรแกก็จะต้องเตรียมการขอแต่งงาน รู้ไหม”

ขอแต่งงาน

มู่วี่สิงพยักหน้า “ผมทราบแล้วครับ”

เขาจะเตรียมการขอเธอแต่งงานให้สมบูรณ์แบบที่สุด หลังจากที่จดทะเบียนสมรสแล้ว ก็จะจัดพิธีงานแต่งงานด้วยเช่นกัน

ครั้งนี้จะเป็นงานแต่งงานจริงๆของพวกเขา

เมื่อมู่เฉิงได้ยินคำตอบของหลานชาย ก็รู้สึกพอใจแล้วจากไปทันที

มู่วี่สิงกลับไปที่ห้องนอน เวินจิ้งยังคงหลับใหลอยู่ เมื่อเขาเขยิบเข้าไปใกล้ เวินจิ้งก็ได้กอดเข้าไปเอวของเขา ลูบไล้ไปมา ถามขึ้นอย่างสะลึมสะลือ “มู่วี่สิง”

“ผมอยู่นี่” เขาก้มไปจูบที่แก้มเธอเบาๆ

“ฉันรักคุณ” คำสารภาพรักอย่างกะทันหันราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังกระแทกเข้ามาในหู

เขาเอนกายอยู่ข้างๆเธอ นิ่งไปชั่วขณะ ไม่กล้าแม้แต่ที่จะหายใจแรง กลัวว่าจะไปรบกวนคำพูดต่อไปของเธอ

“ฉันให้อภัยมู่ซีแล้ว” เสียงทุ้มต่ำของหญิงสาวดังขึ้นรางๆ เขาแทบจะเอาหูไปแนบฟังถึงจะฟังได้อย่างชัดเจน

“เพราะว่าฉัน…..ฉันอยากจะให้อภัยตัวเอง”

“เป็นความผิดของผมเองจิ้งจิ้ง ผมไม่ควรที่จะให้คุณแบกรับเรื่องราวทั้งหมดไว้”

มู่วี่สิงก้มมองหน้าหญิงสาวที่ครึ่งหน้าหนุนนอนอยู่บนหมอน เหมือนเธอกำลังนอนฝัน มือนั้นจับเสื้อของเขาไว้อย่างแน่น เขาจึงยื่นมือไปกอดเธอไว้ในอ้อมกอด ด้วยจิตใจที่เผยอารมณ์ที่หลากหลายออกมา

เขาก้มหน้าจูบหอมหน้าผากเธออย่างนุ่มนวลครั้งแล้วครั้งเล่า “เป็นความผิดของผม เด็กโง่ ทำไมถึงคิดว่าเป็นความผิดของคุณ ไม่ใช่ความผิดขอคุณเลย”

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะจิตใจที่เคียดแค้นเคืองโกรธในตอนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่จัดการความสัมพันธ์กับหลินยี่ ถ้าไม่ใช่เพราะยินยอมให้มู่ซีอยู่บ้านตระกูลมู่ เรื่องราวทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้น เธอก็คงไม่ถึงทางตันจนถึงกับฆ่าลูกของตัวเอง

สำหรับเขานั้นก็แค่สูญเสียลูกที่ยังไม่ได้เกิดเท่านั้น

แต่สำหรับเวินจิ้งเธอต้องแบกรับตราบาปของการเป็นฆาตกร

จิ้งจิ้งของเขา ดูเฉยเมยเย็นชาเยือกเย็น แต่ว่าหัวใจเธอใสเหมือนดั่งกระจก แข็งแกร่ง แต่อ่อนโยน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท