Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 829

ตอนที่ 829

บทที่ 829 ดูการกระทำของคุณ

“งั้นฉันก็ช่วยไม่ได้ ไม่งั้นคุณก็ให้ หซู่หนาน30 ล้านโดยตรงไปเลย”

“คุณคิดว่าฉันจะมี30 ล้านเหรอ”ฉินซีอยากจะร้องไห้

ตอนนั้นที่เธออยู่กับลู่เซิ่นเพื่อเงินก็จริง แต่เงินพวกนั้นเอาไปใช้หนี้คุณแม่หมดแล้ว

และเงินเดือนของเธอก็ไม่ได้มาก 30ล้านสำหรับเธอในตอนนี้ มันเป็นตัวเลขที่เยอะมากๆ

“ผู้ชายของคุณมี”

“อย่าพูดถึงเขาอีก”ฉินซีปิดหู

อานหยันหัวเราะเบาๆ และพูดอย่างมีสติว่า”ฉันไม่มีเงิน30ล้าน และถึงมีฉันจะไม่ยืม เพราะฉันไม่ได้ชอบหซู่หนาน ก็ไม่ชอบหซู่เป่ยด้วย”

“เอาล่ะ ขอฉันคิดก่อนนะ”

“ไม่ต้องคิดแล้ว ฉันบอกคุณนะ อีก1ชั่วโมงเที่ยวบินของลู่เซิ่นก็จะถึงแล้ว คุณจะไปรับเขาที่สนามบินตอนนี้ทันแน่นอน”

ฉินซี…

“แต่ถ้าเขารู้ว่าคุณจะใช้เงิน30ล้านไปช่วยน้องชายของคนที่คุณชอบ อยากรู้ปฏิกิริยาของลู่เซิ่นหลังจากรู้ถูกนอกใจจัง…”

“ออกไป–”

ฉินซีรีบออกไป เธอจะมีเพื่อนร้ายแบบนี้ได้ยังไง เพื่อนไม่ดีชัวร์

แต่ตามข้อมูลที่เพื่อนให้มา สุดท้ายเธอก็มาที่สนามบิน

ระหว่างทาง ฉินซีได้รับโทรศัพท์จากหซู่หนาน ผู้ลักพาตัวเพิ่มเงินการขู่กรรโชกเป็น50 ล้านแล้ว

“หซู่หนาน… “ฉินซียิ่งเสียใจภายหลังไปอีก

“ฉันยืมเงิน10ล้านจากตระกูลฉินแล้ว ส่วนที่เหลือ ฉันจะหาทางต่อ”

ฉินซีไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี ต่อให้เธอของให้ลู่เซิ่นช่วย แต่เขาน่าจะไม่ยอมช่วยก็ได้

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันจะไม่ปล่อยให้หซู่เป่ยเกิดเรื่องแน่นอน คุณก็อย่าโทษตัวเองนะ”เมื่อพูดคุยกับฉินซีในขณะนี้ น้ำเสียงของหซู่หนานก็เริ่มอ่อนโยนขึ้น

“หซู่หนาน ฉัน… ”

กำลังจะพูดอะไร ร่างสูงที่เดินผ่านมาทำให้ฉินซีหยุดพูดทันที

ลู่เซิ่นก็เห็นเธอเหมือนกันและหยุดเดิน

ถ้าเขาจำไม่ผิด ที่เธอเรียกคือ”หซู่หนาน”

“ฉันวางสายก่อนนะ เดี๋ยวติดต่อกันใหม่”

ฉินซีวางโทรศัพท์และเงยหน้าขึ้น ก็เห็นสายตาที่เย็นชาของผู้ชาย

“รอหซู่หนานเหรอ”เขาพูด

“ไม่ใช่สิ ฉันกำลังรอคุณอยู่”ฉินซีจับแขนของลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว ดึงมือออก แล้วขึ้นรถอย่างเย็นชา…

ยังโกรธอยู่เหรอ ฉินซีขมวดคิ้วอย่างก้มใจ

เมื่อเห็นว่าประตูรถกำลังจะปิด เธอจึงวิ่งไปเบียดเข้าไปในรถ

ลู่เซิ่นทำหน้าเย็นชาเหมือนเดิม ฉินซีมองเขา อยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด

“ลู่เซิ่น ไม่มีใครไปทำธุระที่ต่างเมืองกับคุณเหรอ”ฉินซีถาม

เมื่อกี้ตอนลู่เซิ่นออกมา เหมือนมีแต่เขาคนเดียว ยังคิดว่าเขาจะพาสูหวั่นหรือผู้หญิงคนอื่นไปด้วย

ลู่เซิ่นไม่ได้ตอบ

ฉินซีถามต่อ”ทำไมคุณไม่บอกให้ฉันมารับคุณละ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน … ”

เสียงหยุดทันที ฉินซีเงียบทันที

จะบอกว่าได้อานหยันตรวจสอบตารางของลู่เซิ่นไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด

“ไม่ใช่เพราะอะไร”ตอนนี้ ลู่เซิ่นยอมเงยหน้าขึ้นและมองเธอสักที

ฉินซีกลืนน้ำลายและพูดมั่วว่า”ถ้าไม่ใช่ฉันมารอคุณที่นี่ทั้งวัน คุณคงต้องกลับบ้านคนเดียวแล้วแหละ”

ฉินซีแกล้งสูดดมจมูก และมองลู่เซิ่นอย่างอ่อนแอ

“คุณกินซุปเผ็ดเสฉวนไปและรอฉันไปที่สนามบินเหรอ”ลู่เซิ่นกล่าว

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินซีก็ตกตะลึงไป ลู่เซิ่นรู้ได้ยังไงว่าเธอเพิ่งกินซุปเผ็ดเสฉวนที่บ้านอานหยัน

“กลิ่นแรงมาก”ลู่เซิ่นพูดตามตรง

ฉินซีก็เหมือนมะเขือม่วงที่เหี่ยวไป

ในวินาทีถัดมา มือเล็กๆถูกจับไว้ ฉินซีมองลู่เซิ่นอย่างหน้าซีด

บนหน้าเธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า”ฉันไม่ดีใจ”

“เธอต้องมีอะไรแน่ เกิดอะไรขึ้น”

โดยปกติแล้ว ฉินซีอยู่ห่างจากเขาเท่าที่จะทำได้ นี้เป็นครั้งแรกที่มาสนามบินรับเขา ลู่เซิ่นจะไม่รู้เธอคิดอะไรได้ยังไง

ฉินซีกัดริมฝีปากและไม่พูดอะไร

ลู่เซิ่นค่อยๆปล่อยมือเล็ก ของเธอ แต่ฉินซีรีบจับมันไว้แน่นๆ

“ก่อนหน้านี้ฉันไปแอบถ่ายรูปดาราชายคนหนึ่งมา แต่ว่าบังเอิญถ่ายภาพที่เขาต่อสู้กันด้วย แล้วรูปพวกนี้ก็หลุดออกไปแล้ว ดาราชายโดนกรรโชก 50 ล้าน…”

“คุณสนิทกับดาราชายคนนั้นมากเหรอ”ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว

“ไม่เลย”

“อืม”บนหน้าของลู่เซิ่นไม่มีการแสดงออกใดๆเลย

“คนที่กรรโชกเป็นคู่แข่งของบริษัทนายหน้า อีกฝ่ายต้องการให้ดาราชายเจ๊ง”ฉินซีกล่าวต่อ

“อืม”ลู่เซิ่นยังไม่แสดงออกเหมือนกัน

“เขาก็น่าสงสารมากเลย”ฉินซีถอนหายใจ

ในวินาทีต่อมา คางของเธอถูกบีบอย่างรุนแรง ฉินซีก็เลยต้องเห็นดวงตาที่ลึกล้ำและมืดมนคู่นั้น

“คุณชอบดาราชายคนนั้นเหรอ”น้ำเสียงของลู่เซิ่นเย็นชามาก

“ไม่ชอบสิ ฉันแค่คิดว่าฉันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ ถ้าจะทำให้ชื่อเสียงของคนอื่นต้องเสียหาย ฉันคงรู้สึกผิดแย่เลย”ฉินซีพูดเบาๆ

เมื่อพูดจบ มือที่จับคางของเธออยู่ถึงค่อยๆเบาลง

แต่เขายังทำหน้าตึงอยู่

“อยากให้ฉันช่วย ก็บอกตรงๆ”ลู่เซิ่นพูดความจริงออกมา

ฉินซีไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เธอไม่มีทางออก ไม่รู้จะทำยังไงดี

ไม่คาดหวังว่าลู่เซิ่นจะช่วย แต่ก็หวังว่าเขาจะช่วย

“แล้วคุณจะช่วยไหม ”

“มันขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณ “ลู่เซิ่นบอกสั่นๆ

ในวินาทีถัดมา ฉินซีก็จับปกเสื้อของเขาและมองเขาด้วยดวงตาที่เอ่อล้น เธอรู้อยู่แล้วว่าลู่เซิ่นหมายถึงว่ายังไง

แต่มีบางเรื่อง เธออยากบอกเขาให้ชัดเจนไปก่อน ไม่งั้นถ้าลู่เซิ่นรู้เรื่อง เขาอาจโกรธมากกว่านี้ก็ได้

“หซู่เป่ย เป็นน้องชายของผู้ชายที่ฉันเคยชอบ”

ในวินาทีถัดมา สีหน้าของลู่เซิ่นก็มืดมนทันที

ยกมือขึ้นและผลักมือของฉินซีที่รอบคอของเขาอยู่ออกไปอย่างเย็นชา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยเยาะเย้ย”เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงลู่มาขอร้องฉันเพื่อคนรักเก่าเหรอ”

น้ำเสียงของเขาไม่มีความโกรธมาก แต่ฉินซีอดไม่ได้ที่จะหดคอเบาๆ เธอก้มหัวลดไม่กล้ามองดวงตาของลู่เซิ่นต่อ”ไม่ใช่คนรักเก่าสักหน่อย เราไม่เคยอยู่ด้วยกัน คุณอย่ามั่ว แค่รูปถ่ายถูกหลุดออกไปฉันก็มีความผิดส่วนหนึ่ง ฉัน… ”

ลู่เซิ่นไม่ยอมให้เธอหนีสายตาไป และยื่นมือยกคางของเธอขึ้นอีกครั้ง”เพราะฉะนั้นที่คุณช่วยเขา เป็นเพราะว่าเขาเป็นน้องชายของหซู่หนานเหรอ”

ลู่เซิ่นตอบสนองอย่างรวดเร็วและส่ายหัวทันที”ไม่ใช่สิ ถ้าเป็นคนแปลกหน้า เพราะฉันถึงเดือดร้อนตัว

ฉันก็จะอยู่เฉยๆไม่ได้แน่นอน”

ที่เธอพูดไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด แค่มองสีหน้าของลู่เซิ่น ถ้าฉินซีปฏิเสธช้ากว่านี้ อย่าพูดว่าให้เขาช่วยเลย ตัวเองก็คงเดือดร้อนไปด้วยแน่

ดูเหมือนลู่เซิ่นจะพอใจเบาๆที่เธอปฏิเสธอย่างแน่วแน่ อย่างน้อยสีหน้าของเขาก็ดีขึ้น แต่เขาพูดอย่างเย็นชาเล็กน้อยว่า”ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ”

ฉินซีทำหน้าอย่างเสียใจทันที”งั้น… งั้นฉันคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเลย … ”

ดวงตาของลู่เซิ่นเฉียบคม เขารู้ว่าฉินซีคิดยังไงอยู่แล้ว และพูดอย่างเย็นชาว่า”ในเมื่อคุณอยากช่วยหซู่หนาน งั้นก็ยืมเงินไปเองแล้วกัน”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท