Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 830

ตอนที่ 830

บทที่ 830 จะไม่ทำให้เธอต้องลำบากใจ

สีหน้าที่เพิ่งดีขึ้นของลู่เซิ่นก็รีบตึงขึ้นทันที นิ้วยาวบีบคางของฉินซี”ฉินซี คุณจำให้ดีๆ ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้ว ถ้าให้ฉันรู้ว่าคุณมีผู้ชายอยู่ข้างนอก… ”

เขาโน้มตัวลงและเข้าใกล้หูของ”หซู่หนานและคุณจะได้รับผลยังไง คุณเองก็คงยากที่จินตนาการว่าด้วยซ้ำ”ผิวรอบหูของฉินซีขนลุกขึ้นมาเพราะความใกล้ชิดของเขา เธอกระซิบในใจว่า คุณไม่รู้มีผู้หญิงอยู่ตั้งเท่าไหร่ ฉันไม่เคยยุ่งเลย คุณจะยุ่งเรื่องฉันทำไม

แต่ตอนนี้เธอกำลังขอความช่วยเหลืออยู่ ดังนั้นคำพูดพวกเธอแค่กล้าพูดในใจ ไม่กล้าที่จะพูดออกมาหรอก แค่หันหน้าหนีและพูดด้วยเสียงต่ำว่า”ฉันบอกแล้วไง เขาแค่เป็นคนที่ฉันเคยชอบ ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรตั้งมานานแล้ว … และตอนนี้เขาก็เป็นแฟนของฉินหว่านแล้ว ฉันไม่ทางคิดอะไรกับเขาแน่”

ลู่เซิ่นหันหัวไปและพูดเบาๆว่า”เป็นแบบนี้ดีที่สุด”

ตอนนี้ฉินซีกำลังขอความช่วยเหลืออยู่ เลยต้องยอมเขา แต่พูดไปพูดมา เธอถึงรู้ว่าตัวเองยังไม่ได้รับคำตกลงจากลู่เซิ่นเลย จึงต้องถามด้วยความกล้าหาญว่า”งั้นเรื่องนี้ คุณจะช่วยฉันไหม … ”

เธอคว้ามุมเสื้อผ้าของลู่เซิ่นโดยไม่รู้ตัว น้ำเสียงของเธอดูเสียใจเล็กน้อย ลู่เซิ่นมองเธอแล้วหันหลังกลับ”ฉันบอกแล้ว ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณ”

ฉินซีตาสว่างขึ้น นี้แสดงว่าลู่เซิ่นจะช่วยเหรอ

ลู่เซิ่นหยุดไปสักพักแล้วพูดต่อว่า”นอกจากอันนี้ ยังมีเงื่อนไขอีกอย่าง”

ฉินซีหยุดยิ้มทันที”อะไรเหรอ”

“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง แต่หลังจากนี้ คุณห้ามต่อติดกับหซู่หนานเด็ดขาด”

ลู่เซิ่นมองไปนอกหน้าต่าง แต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขาดใจไม่ได้

ตอนแรกฉินซีคิดว่าเขาจะมีเงื่อนไขที่ไร้เหตุผล แต่เมื่อได้ยินเป็นเรื่องนี้ เธอก็พยักหน้าทันที “ตกลง”

เธอไม่คิดจะติดต่อหซู่หนานอีกอยู่แล้ว เงื่อนไขของลู่เซิ่นไม่ได้ทำให้เธอต้องลำบากใจเลย

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว เหมือนไม่คิดว่าเธอจะตกลงง่ายแบบนี้

ฉินซีทำสนิทมากกว่า เอื้อมมือไปกอดคอของลู่เซิ่น เงยหน้าขึ้นมองเขาและสูดลมหายใจเข้าหูเขาเบา ๆ

ลู่เซิ่นดูเหมือนจะไม่มีการหวั่นไหวใดๆ และไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ

ฉินซีก็ไม่ท้อถอยเหมือนกัน เธอรู้ว่านี่คือสิ่งที่ลู่เซิ่นหมายถึง”ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณ”

ปลายนิ้วของเธอปัดลูกกระเดือกของลู่เซิ่น ไปถึงกระดุมเสื้อเม็ดแรก คิดไปสักพัก คิดจะใช้ปากกัดกระดุมออก

แต่ลู่เซิ่นจับมือเธอไว้

“กลับบ้านทำต่อ”

เสียงของเขาทึบ มองฉินซีด้วยสายตาที่มีความหมาย

ฉินซีรู้สึกหนาวขึ้นมาเบาๆ

การกระทำที่ลู่เซิ่นบอกมาเข้มงวดกว่าที่ฉินซีคิดอีก เธอรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเธอเกือบถูกถอดเป็นชิ้นส่วนแล้ว เมื่อลู่เซิ่นพอใจ เธอก็หมดแรงแล้ว

เมื่อเธอนอนหลับอย่างเวียนหัว เธอก็แอบด่าอานหยันในใจ

ขอเสนอที่ดีของเธอเอง

ฉินซีนอนหลับจนถึงเที่ยงของวันรุ่งขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะโทรศัพท์สั่นทำให้เธอตื่น เธอคงนอนยาวถึงบ่ายไปเลย

เธอลุกขึ้นนั่งอย่างง่วงนอน ในห้องนอนไม่มีใครอยู่แล้ว

เมื่อคืนลู่เซิ่นเอาเธอจนท้องฟ้าสว่างถึงจะหยุด นี่นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง …

เมื่อตระหนักว่าในสมองเธอมีแต่ภาพของเมื่อคืน ฉินซีรีบหยุดความคิดที่บ้าๆบอๆทันที โทรศัพท์ที่เพิ่งเงียบไปก็ดังขึ้นอีกครั้ง เธอโน้มตัวไปหยิบมัน

คนที่โทรมาไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นอานหยัน

“ฉินซี คุณดู Weibo หรือยัง” น้ำเสียงของอานหยันตื่นเต้นมาก ราวกับว่าเธอได้ข่าวใหญ่

ฉินซีลูบเอวของตัวเอง และพูดอย่างไม่สนใจว่า”ยังไม่ได้ดู… เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

แต่อานหยันไม่ยอมบอก”ฉันก็ไม่รู้พูดยังไง คุณไปอ่านเอาเองแล้วกัน รีบๆไป”

เมื่อพูดจบ ก็ไม่รอฉินซีตอบ เธอก็วางสายไปแล้ว

ฉินซีไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แต่อานหยันไม่ได้ตื่นเต้นแบบนี้มานานแล้ว ที่ทำให้เธอตื่นเต้นขนาดนี้ ต้องไม่ใช่ข่าวเล็กแน่ๆ

เพราะฉะนั้นฉินซีคิดไปสักพัก ก็เปิด Weiboเลย

อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เห็นทวิตที่”ฮอต”ทันที

แต่เมื่อดูชัดๆ มันคือชื่อของหซู่เป่ย

ฉินซีกลัวมากจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ

เป็นไปได้ยังไง

เมื่อวานลู่เซิ่นรับปากว่าจะจัดการเรื่องของหซู่เป่ยไม่ใช่เหรอ

หรือว่าจะมีเรื่องที่ลู่เซิ่นจัดการไม่ได้เหรอ

งั้นการพยายามของเธอในเมื่อคืน..

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เอวของฉินซีไม่เจ็บแล้ว เธอรีบเปิดดู ยังไม่ทันอ่านข้อความ เธอตกใจกับภาพซักแล้วนี่ … ไม่ใช่ภาพที่ตัวเองถ่ายเหรอ

ตอนนั้นเธอยืนอยู่ใกล้มาก และภาพที่เธอถ่ายก็เห็นหน้าของหซู่เป่ยได้ชัดมาก ไม่เหมือนภาพที่เบลอทั่วไปไม่ว่าแฟนคลับหรือบริษัทก็ยากที่จะทำการประชาสัมพันธ์

ทั้งๆที่ลู่เซิ่นสัญญาว่าจะจัดการให้เรียบร้อย งั้นทำไมยังหลุดออกมาได้อีก

เธออึ้งไปหลายวินาที ค่อยเงยหน้าขึ้นอ่านคำบรรยายของภาพ

“หซู่เป่ย ฮีโร่ช่วยชีวิตสาวสวย และละครกลายเป็นชีวิตจริง”

อะไร นี่อะไรกัน

ฉินซีงงไปหมดแล้ว อ่านข้อความอย่างระมัดระวังและใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าใจ

เธอกำลังจะอ่านให้ละเอียด โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก

เมื่อเธอรับสาย เสียงของอานหยันก็ยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น”ว้าว นายลู่ของคุณจัดการได้สุดยอดมาก สุดยอดจริงๆ”

ไม่แปลกใจเลยที่อานหยันตื่นเต้นขนาดนี้ ลู่เซิ่นใช้วิธีนี้จัดการเรื่องนี้ สุดยอดจริงๆ

คนที่จะกรรโชกหซู่เป่ยก็เพราะว่ามีรูปอยู่ในมือไม่ใช่เหรอ ได้ งั้นฉันก็หาคนปล่อยออกไปก่อน

แต่แต่งเรื่องจากภาพใครๆก็ทำได้ เพียงแค่ปรับความพร่ามัวและลำดับเล็กน้อย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว

“ถ้าฉันไม่ได้ฟังจากคุณก่อน ฉันคงเชื่อเรื่องในอินเทอร์เน็ตแล้ว”อานหยันติดนิสัยอาชีพ อ่านสำเนาอีกครั้งและพึมพำ”คนเดินเท้าถูกปล้นบนถนน หซู่เป่ยตามหลังไป หาเวลาที่เหมาะสมช่วยชีวิตสาวสวย เก่งจริงๆ ถ้าเรื่องเป็นแบบนี้ ก็สามารถอธิบายได้เลยทำไมต้องแตกต้องสาวสวย สามารถอธิบายได้ว่าทำไมอยู่ในทางเดิน ทุกอย่างมีเหตุมีผล เว้นแต่อีกฝ่ายได้กล้องไปด้วย ไม่งั้นก็อธิบายไม่ได้สิ ถ้าอยากจะกรรโชก ก็ไม่มีทางแล้ว ”

ฉินซีพยักหน้าอย่างลับๆในใจ แต่เธอก็รู้ว่า ตามบุคลิกของลู่เซิ่น ในเมื่อเขารับมือจัดการเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่มีทางเก็บกล้องไว้แน่นอน

คิกกลับมา เธอก็สงสัยเบาๆ”คุณแน่ใจได้ยังไงว่าลู่เซิ่นเป็นคนทำ”

อานหยันหัวเราะเบาๆ”นอกจากลู่เซิ่นแล้ว จะมีใครกล้าทำแบบนี้แหละ ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจ ถ้าเป็นคนอื่น จะกดดันอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแบบนี้ได้ยังไง”

ฉินซีโค้งงอปาก ไม่ได้ถูกเธอหลอก”คุณสืบมาแล้วใช่มั้ย”

อานหยันหยุดไปสักพักและถอนหายใจ”บริษัทประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่ข่าวนี้มีเงินจำนวนมากเข้าบัญชี ที่มาจากบริษัทลูกของลู่เซิ่น”

ฉินซีรู้สึกโล่งใจและพึมพำเสียงเบาว่า”ไม่เสียแรงที่ฉันเหนื่อยตัวในเมื่อคืน”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท