Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 823

ตอนที่ 823

บทที่ 823 คุณจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ไหม

เวยอานประหม่าขึ้นมาทันที “คุณหมายความว่ายังไง…เธอจะหายไปได้ยังไง”

มู่วี่สิงเม้มปากบางของเขา และพูดเบาๆว่า “คนขับโทรมาบอกว่า เขาไม่ได้ไปรับเวินจิ้ง เธอบอกคนขับว่าให้เขากลับมาก่อน ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน”

อยู่โรงพยาบาล … ไปตรวจเหรอ เธอรู้เรื่องการตั้งครรภ์แล้วหรือเปล่า

“คุณโทรหาเธอหรือยัง”

“เธอปิดเครื่อง”

สีหน้าของเวยอานก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน เธอพูดแบบเอือมระอา “ฉันควรไปรับเธอเลิกงานเร็วกว่านี้ ถ้าฉันไปหาเธอแล้ว อาจจะไม่ … ”

มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก คางของเขาตึงแน่นมาก และดวงตาของเขาก็มืดพล่าไปหมด

“เธอไม่อยากมีลูกจริงๆเหรอ”เวยอานอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเป็นห่วงมากเหมือนกัน

เธอรู้ว่าตัวเองท้อง แล้วปิดเครื่องหายไปงั้นเหรอ …

เวยอานยิ่งคิดยิ่งรู้สึกลุกลี้ลุกลน “ถ้าเธอไม่อยากได้เด็กคนนี้จริงๆ เธอจะไปไหนล่ะ”

อยากหาที่เงียบๆอยู่คนเดียว หรือว่าจะตรงไป…

ดวงตาของมู่วี่สิงเย็นชาขึ้น ร่างสูงของเขาสั่นเบาๆและหัวเราะเบาๆ “ก่อนที่ฉันจะหาเธอเจอ … ก็เอาเด็กออกเรียบร้อยแล้ว”

เวยอานพูดอย่างไม่เห็นด้วยว่า “ไม่… เวินจิ้งจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด”

เป็นเพราะว่าเคยแท้งลูก ก็เลยจะดูแลตัวเองมากขึ้นแน่นอน

เธอต้องไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด

ถึงแม้ว่าเธอจะคิดอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นการแสดงออกที่มืดมนของมู่วี่สิง เธอก็ไม่มีความมั่นใจแล้ว

“งั้นตอนนี้จะทำอะไรได้บ้าง … ฉันจะบอกหลินยี่… ”

“ไม่ต้อง” มู่วี่สิงขัดจังหวะเธออย่างเย็นชา และโทรออกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เกาเชียน แจ้งโรงพยาบาลทุกแห่งในเมืองหนานเฉิงว่า ไม่ว่าใครก็ตาม วันนี้ห้ามทำแท้งเด็ดขาด”

จนกระทั่งมู่วี่สิงวางสาย เวยอานถึงพึมพำ “มู่วี่สิง คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าเวินจิ้งไม่อยากมีลูกจริงๆ … คุณจะทำยังไง”

ข้อนิ้วที่จับโทรศัพท์มือถือของมู่วี่สิงกำแน่นมาก ถ้าเธอไม่อยากมีลูกจริงๆ … เขาจะทำยังไง

ร่างกายของชายหนุ่มสั่นโดยมองไม่เห็น “เธอจะไม่ใจร้ายขนาดนั้นอย่างแน่นอน”

เขาเชื่อมั่นอย่างนั้น

รถCayenneวิ่งอยู่ในย่านใจกลางเมืองหนานเฉิงที่เจริญรุ่งเรืองไปเรื่อยๆ เวินจิ้งไม่ได้อยู่ที่หนานเฉิงมาหลายปีเขานึกไม่ออกว่า ตอนอารมณ์ไม่ดีเธอจะไปไหน

ผ่านไปสักพัก รถก็จอดที่ทางเข้าของร้านชุดแต่งงาน ชุดแต่งงานที่สวยงามวิจิตรแขวนอยู่ที่หน้าต่าง ซึ่งสวยงามเหมือนในฝัน

ดวงตาอย่างออบซิเดียนมองหน้าต่างนานมาก จนกระทั่งโทรศัพท์สั่น เขาก็รีบรับสาย เสียงเงียบและต่ำ “หาเจอหรือยัง ”

“นายมู่ ยังครับ “เกาเชียนกล่าว “แต่ผมกระจายข่าวออกไปแล้ว และผมก็ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่มีวี่แววว่าคุณผู้หญิงจะไปทำแท้งครับ ”

ชายหนุ่มมองถนนที่คนเดินไปเดินมาที่นอกหน้าต่างรถ ใบหน้าหล่อยังตึงอยู่

เกาเชียนปลอบอย่างประหม่า “บางทีคุณผู้หญิงอาจจะแค่อยากอยู่คนเดียวจริงๆก็ได้ นายมู่ คุณไม่ต้องเป็นห่วงมากครับ ”

เขาเหยียบคันเร่ง ผ่านไปสักพัก เขาก็สั่งอย่างเย็นชาว่า “หาต่อ”

ตลอดทั้งคืน มู่วี่สิงขับรถไปทั้งเมืองเกือบทุกที่ สถานที่ที่เธออาจจะไปเมื่ออารมณ์ไม่ดีที่เขาสามารถนึกออกได้ แต่ก็ไม่เจอเธอเลย

โทรไปหาเธอเรื่อยๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ปิดอยู่ตลอด

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และหัวใจของมู่วี่สิงก็อึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ

จนกระทั่งเช้าตรู่ โทรศัพท์ที่เขาโยนไว้ที่เบาะคนขับก็สั่นอีกครั้ง เขากังวลและหยิบมันขึ้นมาโดยไม่มองว่าเป็นใครโทรมา น้ำเสียงด้วยความโกรธมาก “ผ่านไปนานมากแล้ว ยังหาไม่เจออีก หาไม่เจอก็ไม่ต้องโทรมา”

โทรศัพท์ทางนั้นเงียบไป สักพักเสียงที่คุ้นเคยถึงค่อยๆดังขึ้น “คุณกำลังหาใครอยู่เหรอ ยังทำงานอยู่เหรอ”

ทันใดนั้น มู่วี่สิงก็ตัวแข็งไปทันที มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัยไว้ เขาพยายามทำให้เสียงสงบลง “จิ้งจิ้ง คุณอยู่ไหน”

เวินจิ้งยังไม่กลับมาจากความโกรธของมู่วี่สิงในเมื่อกี้ เธอก็เลยไม่ได้พูดสักพัก เธอไม่เห็นเขาโกรธแบบนี้นานมากแล้ว

ความเงียบของเวินจิ้งทำให้เขารู้สึกประหม่าอีกครั้ง น้ำเสียงที่เย็นชามาตลอดของเขามีระมัดระวังเบาๆ “คุณบอกฉันก่อนว่าคุณอยู่ไหน เราค่อยๆคุยกัน…

“คุณยุ่งอยู่ไม่ใช่เหรอ วันนี้ฉันไปโรงพยาบาลเพื่อเคลียร์งาน และคนขับรถกลับไปแล้ว งั้นคุณให้เขามารับฉันหน่อยได้มั้ย”

เวินจิ้งบอกที่อยู่แห่งหนึ่งอย่างเชื่อฟัง มู่วี่สิงก็ตกตะลึง มันเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเขตชานเมือง

เขายังไม่ทันถามอะไร เสียงอ่อนโยนของเวินจิ้งที่จากทางนั้นดังขึ้นอีก “คุณไปทำงานก่อนเถอะ ฉันจะรอคนขับรถอยู่ที่นี่ ฉันยืมโทรศัพท์ของคนอื่นมา วางสายก่อนนะ”

จากนั้นมู่วี่สิงก็ได้ยินแต่เสียงวางสายเท่านั้น

เวินจิ้งนั่งอยู่บนขั้นบันได โดยใช้มือยันเข่าและคาง ดวงตาดำขาวมองดูว่ารถที่วิ่งผ่านมีรถที่คุ้นเคยหรือเปล่า มืออีกข้างก็นวดขาที่เมื่อยอยู่

เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เกือบเช้าแล้ว และไม่มีใครสักคนอยู่รอบๆเลย ลมก็หนาวมากด้วย ทำให้เธอรู้สึกเหงาเล็กน้อย

ค่อยๆมีเสียงฝีเท้า หัวใจของเธอเต้นอย่างวุ่นวาย หันหน้าไปตามรอยเท้าก็เห็นร่างยาวของผู้ชาย เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นๆ

มู่วี่สิงกอดเธอแน่นมาก โดยไม่ได้นึงถึงว่าเธอกำลังท้องอยู่ด้วยซ้ำ ความดีใจที่หาเจอเธอทำให้เขาหลงอยู่ในนรกและสวรรค์

เวินจิ้งรู้สึกถึงอารมณ์เขาผิดปกติอย่างชัดเจน และอดไม่ได้ที่จะถามอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันรบกวนคุณทำงานหรือเปล่า”

“ทำไมไม่รับสายฉัน”

“โทรศัพท์ฉันแบตหมด … ” เวินจิ้งสมองประมวลผลต่อเนื่องทันที เธอลืมตามองเขาด้วยความประหลาดใจ “เพราะโทรหาฉันไม่ติดถึงอารมณ์เสียเหรอ คนที่คุณกำลังหาอยู่คงไม่ใช่ฉันมั้ง”

มู่วี่สิงมองหญิงสาวตาไม่กระพริบ ใบหน้าที่ตึงอยู่ไม่ได้ดีขึ้น “ทำไมถึงมาสถานที่ที่ไกลแบบนี้คนเดียว และให้คนขับกลับไปก่อนด้วย”

“ฉัน… ฉันแค่อยากไหว้องค์พระโพธิสัตว์คนเดียว”

เมื่อเห็นใบหน้าของเขาน่าเกลียด เวินจิ้งจึงโอบรอบคอของเขา “ฉันขอโทษ ตอนแรกคิดว่าจะได้กลับไปเร็วๆ แต่ไม่คิดว่าขาจะเจ็บและเรียกรถไม่ได้เลย อยากโทรหาคนขับมารับฉัน แต่โทรศัพท์ก็แบตหมดไปอีก

“กว่าจะหายืมโทรศัพท์ได้ ฉันจำได้แค่เบอร์คุณและพี่ชาย”

เวินจิ้งอธิบายอย่างอ่อนโยน มือยังนวดขาอยู่ตลอด

มู่วี่สิงรีบอุ้มเธอขึ้นทันที และเดินไปที่ทางของรถCayenne

“ฉันอธิบายเรียบร้อยแล้ว ทำไมคุณยังดุมากอยู่ละ” เวินจิ้งมองหน้าตึงของชายหนุ่ม เอานิ้วลูบคางของชายหนุ่มเบา ๆ แล้วอ้อนว่า “ยิ้มให้ดูหน่อยนะ”

มือที่จับเอวเรียวของเธอแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ยิ้มอยู่ในอ้อมแขนของเขา พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำและดูเศร้าหมองเบาๆว่า “คุณรู้แล้วใช่มั้ย … เพราะฉะนั้นถึงมาไหว้พระโพธิสัตว์”

เขาหยุดไปสักพัก มีความเจ็บปวดเล็กน้อยในใจ “จิ้งจิ้ง … คุณจะเก็บเด็กคนนี้ไว้มั้ย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท