Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 841

ตอนที่ 841

บทที่ 841 ความทรงจำที่เป็นของเธอหายไปนานแล้ว

ขณะนั้นฉินซีไม่มีเงินติดตัว ทำได้แต่นั่งรถเมล์ เปลี่ยนรถถึงสามรอบ กว่าจะถึงจุดหมายในที่สุด

ฝนยังคงตกหนัก แม้เธอจะกางร่มก็ไม่ช่วยอะไร รองเท้าเปียกชื้นตั้งนานแล้ว กระโปรงเปียกโชกจนแนบกับขา

กระทั่งเธอเดินมาถึงรีสอร์ทชิงหยวนอยู่เบื้องหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเยาะตัวเอง

ทำไมเธอรู้สึกว่าบ้านเดิมไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปนะ

ตอนนี้ที่เธอยืนอยู่ด้านนอกรีสอร์ทชิงหยวนเธอมองไม่เห็นอะไรเลย

ดูเหมือนว่ากำแพงด้านนอกของรีสอร์ทชิงหยวนจะถูกเพิ่มความสูง ประตูใหญ่ก็ปิดแน่นหนา เธอหาเหตุผลที่จะกดกริ่งไม่ได้ จึงได้แต่เดินไปทางร้านกาแฟ

ยังดีที่ร้านกาแฟยังคงตั้งอยู่ที่เดิม เพียงแต่เปลี่ยนเจ้าของแล้วไม่ใช่คุณป้าใจดีที่เธอเคยสนิทสนม แต่เปลี่ยนเป็นหญิงสาวรุ่นแทน

ดูเหมือนเธอจะประหลาดใจมากที่ยังมีคนเข้าร้านในเวลาที่อากาศแปรปรวนเช่นนี้ เมื่อเห็นฉินซีสภาพเปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำ สีหน้าก็อดไม่ได้ที่จะ หยิบผ้าขนหนูที่วางตรงหลังเคาเตอร์เดินมาส่งให้เธอ “อากาศอย่างนี้ทำไมยังเดินทางมาอีกคะ วันนี้มองไม่เห็นอะไรแน่ๆ”

ฉินซีเงยหน้าขึ้นรู้สึกแปลกใจ “คุณรู้ได้อย่างไรคะ…ฉันอยากจะมาดูรีสอร์ทชิงหยวน”

หญิงสาวยิ้มให้เธอ “ช่วงนี้คนมาดูบ้านและช่างภาพมาที่นี่กันไม่ขาดสาย กิจการร้านของฉันก็พลอยดีตามไปด้วยไม่น้อย”

“มาดูบ้านหรือคะ” อาจจะเป็นเพราะตากฝน ปฏิกิริยาของฉินซีจึงช้าไปบ้าง

ในร้านไม่มีลูกค้าคนอื่น หญิงสาวนั่งลงตรงข้าม ฉินซีแล้วชี้ไปทางรีสอร์ทชิงหยวน“คุณไม่ได้จะมาดูเหมือนกับคนอื่นหรือคะ บ้านนี้เดิมทีเป็นของนักธุรกิจทำอะไรสักอย่าง ย้ายไปแล้วก็ขายให้คนอื่น ได้ยินมาว่าก็เป็นมหาเศรษฐีเหมือนกัน ซื้อทั้งหมดนี้ห้าร้อยล้าน ร้านกาแฟของฉันอยู่ตรงข้าม ทุกวันฟังเสียงบ้านนี้ซ่อมโครมครามอยู่สองเดือน แต่กำแพงนี่สูงเหลือเกิน ฉันมองไม่เห็นอะไรเลยไม่กี่วันก่อนบังเอิญถูกคนบังคับโดรนแถวนี้บันทึกภาพ ฉันได้ยินเขาพูดกันข้างในหรูหรามาก และสวยมากด้วย พอข่าวนี้แพร่ออกไปตามเว็บบอร์ดก็เลยมีคนมาดูกันใหญ่ อีกอย่างเมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นบ้านของเศรษฐีลึกลับ ทุกวันก็เลยมีคนมากันมากมาย”

ฉินซีฟังจนจบอย่างรู้สึกสับสน มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มเจื่อนๆ

ที่แท้ก็ตกแต่งเสร็จแล้วนี่เอง…

เช่นนั้นเธอยังมาที่นี่เพื่ออะไร

ความทรงจำในอดีตที่เป็นของเธอหายไปนานแล้ว

อาจเป็นเพราะเธอดูผิดหวังชัดเจนมาก เจ้าของร้านอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ ตากฝนไม่สบายหรือเปล่า”

ฉินซีส่ายศีรษะ “ฉันไม่เป็นไรค่ะก็แค่…ไม่เห็นบ้าน เลยผิดหวังนิดหน่อยแค่นั้น”

เจ้าของร้านพูดปลอบใจ “คุณเพิ่งมาแค่ครั้งเดียวไม่เห็นก็ไม่แปลกค่ะ พวกนั้นมากันทุกวันก็ไม่ได้ยินมีคนพูดว่าถ่ายรูปอะไรได้”

ฉินซียิ้มตอบความหวังดีของเจ้าของร้าน ยื่นผ้าขนหนูในมือให้แล้วลุกขึ้น “ขอบคุณมากค่ะ วันหลังฉันคงไม่ได้มาอีก ขอตัวก่อนค่ะ”

เจ้าของร้านดูออกไม่น้อยว่าเธอไม่เหมือนกับพวกคนที่มาถ่ายรูปบ้านอย่างเดียว แต่ก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้ เพียงแต่พูดขึ้นประโยคหนึ่ง “ตอนนี้ข้างนอกฝนตกหนักขนาดนี้ รออีกหน่อยดีมั้ยคะ ฝนซากว่านี้แล้วค่อยไป”

บางครั้งฉินซีก็คิดถึงตอนนั้น วันนั้นถ้าเธอฟังที่เจ้าของร้านแนะนำ อยู่ที่ร้านต่ออีกหน่อยค่อยกลับไม่ดื้อดึงไปดูรีสอร์ทชิงหยวนเป็นครั้งสุดท้าย คงจะไม่เจอเข้ากับลู่เซิ่นใช่ไหม และหลังจากนั้นคงไม่เกิดเรื่องราวมากมายตามมา

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็คือเธอก็ปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าของร้านอย่างสุภาพ ฝ่าฝนห่าใหญ่ออกไปจากร้านกาแฟ

ฉินซีเดิมทีตั้งใจจะเดินไปทางป้ายรถเมล์ แต่เดินไปได้เพียงครึ่งทางก็เปลี่ยนใจกะทันหัน

ในเมื่อจะมาครั้งสุดท้ายแล้ว แม้ว่าจะไม่เห็นข้างใน อย่างน้อย…ไปทางเล็กที่เธอคุ้นเคยดูหน่อยเถอะ

ตอนเธอเด็กๆ ซุกซนไม่ยอมทำการบ้าน กลัวคุณปู่จะจับได้ แอบซ่อนไปรอบๆ สวน บังเอิญเห็นทางเล็กๆ ต่อมาเป็นเพราะทางเข้ามิดชิดพอ กลายเป็นเส้นทางที่บางครั้งเธอกลับบ้านช้า ขี้เกียจเข้าทางประตูใหญ่ไม่อยากทำให้คนในบ้านตกใจก็ต้องผ่านทางนี้

ตอนนี้…แม้ว่าจะตกแต่งใหม่แล้วก็ยังน่าจะมองเห็นเส้นทางเล็กนั้นจากไกลๆ ได้กระมัง

เมื่อคิดเช่นนี้ ฉินซีก็เดินไปตามกำแพงที่ล้อมรอบรีสอร์ทชิงหยวนเดินไปตามเส้นทางในความทรงจำ อ้อมไปทางด้านหลัง

แต่ตอนที่เจ้าของร้านกาแฟคุยกับเธอลืมบอกไปอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่โดรนถ่ายรูปข้างในเกิดขึ้นอีก รีสอร์ทชิงหยวนติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด เธอจึงไม่รู้ว่าเวลานี้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอ ทั้งหมดปรากฏในกล้องวงจรปิดที่ติดทุกหนแห่งแล้ว

เธอไม่รู้ด้วยว่าพวกบอดี้การ์ดเห็นความเคลื่อนไหวผิดปกตินานแล้ว กลัวว่าจะเกิดเหตุขึ้น รีบรายงานหัวหน้าให้ทราบ

พอดีกับที่วันนั้นฝนตกหนัก ลู่เซิ่นออกจากบ้านช้ากว่าที่ตั้งใจไว้ ที่จริงแล้วบอดี้การ์ดจะรายงานกับหลินหยังไม่รู้เพราะเหตุใดรายงานตรงไปหาลู่เซิ่น

ฉินซีรู้เพียงอย่างเดียว ขณะที่เธอเดินอ้อมไปไกลจนถึงทางสายเล็กที่อยู่ในความทรงจำ ดีใจที่ได้เห็นเส้นทางนั้นยังไม่ถูกปรับเปลี่ยนถึงขนาดยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ทันใดนั้นก็มีเงาของคนหนึ่งปรากฏขึ้น

ในวันฝนตกหนักมองเห็นไม่ชัด ที่จริงภายหลังเธอมาย้อนคิด อีกฝ่ายคงจะอยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว แต่เธอมัวแต่สนใจเรื่องอื่น จึงตกใจที่จู่ๆก็เห็นร่างคนผู้นั้น

ถ้าเป็นเวลาปกติ ตกใจก็อาจไม่เป็นไร แต่วันนั้นฝนตกหนักทำให้ถนนลื่นมาก ฉินซีถอยหลังก้าวใหญ่ เสี้ยววินาทีนั้นทรงตัวไม่ได้

โครม ลื่นล้มลงก้นจ้ำเบ้า

วันนั้นสมองของเธอไม่ว่องไว หลังจากล้มแล้วยังคงนั่งนิ่งตรงนั้นอยู่นาน ราวกับไม่อาจยอมรับว่าเกิดอะไรขึ้น

ในที่สุดคนนั้นที่จู่ๆก็ปรากฏตัวทนดูต่อไปไม่ไหว ยื่นมือให้เธอ

ฉินซีเงยหน้ามอง

สายฝนและร่มที่กั้นไว้ ท่ามกลางแสงสลัวช่วงพลบค่ำ ใบหน้าของอีกฝ่ายพร่ามัว เธอมองออกเพียงอีกฝ่ายรูปร่างสูงใหญ่ รอบตัวมีพลังอ่อนๆ ที่มีแต่คนมีอำนาจเท่านั้นถึงจะมี

ในใจเธอคาดเดาคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ไม่กล้าที่จะมั่นใจนัก

คนนั้นไม่พูดอะไร และไม่ใส่ใจที่ ฉินซีรู้สึกตัวช้า ดูเหมือนจะใจเย็นมาก ยังคงยื่นมือมาตรงหน้า ฉินซี

ฉินซียื่นมือไปจับมือนั้น ยืมแรงดึงตัวลุกขึ้น แล้วรีบปล่อยมือทันที

“ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงต่ำไม่คิดจะสนทนาอะไรต่อกับคนผู้นั้น เพียงแต่ก้มหน้าสำรวจตัวเอง

ยังดีที่เดิมกระโปรงของเธอเปียกชุ่มอยู่แล้ว เมื่อล้มลงไปก็มองความสกปรกที่เพิ่มขึ้นไม่ออก เธอแค่กังวลนิดหน่อย สภาพกระโปรงเช่นนี้เดี๋ยวขึ้นรถเมล์แล้ว เกรงว่าจะนั่งไม่ได้

แค่เธอได้เห็นถนนเล็กก็พอใจแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็ก้มศีรษะให้คนที่มาช่วย เตรียมจะเดินจากไป

คิดไม่ถึงว่าแค่ขยับนิดเดียว เธอก็ต้องขมวดคิ้ว

คุณพระ เธอ…ขาแพลงแล้ว

ดูเหมือนคนผู้นั้นจะเห็นความผิดปกติของเธอ ถามขึ้น “เป็นอะไรครับ”

ฉินซีรู้สึกเคอะเขินไม่น้อย แต่เมื่อคิดว่าไหนๆ เขาก็เห็นฉากน่าอายตอนที่เธอล้มลงเมื่อครู่แล้วจะขายหน้าไปกว่านี้คงไม่เป็นไรถึงอย่างไรก็เจอกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป ตอบอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี “ฉันคงจะข้อเท้าแพลงแล้วค่ะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท