Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 846

ตอนที่ 846

บทที่ 846 สงสัยหนักมาก

แต่งงานกับใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว แน่นอนว่าไม่มีทางปรากฏในกระดานประกาศด้านนอก แต่ฉินซีไม่มีตำแหน่งอะไรภายในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป จึงไม่มีการประกาศเอกสารใดๆเป็นการภายในเช่นกัน

คนที่เธอแต่งงานด้วยจึงเป็นปริศนา

แต่ขั้นตอนการแต่งงานนั้นมีอยู่จริง เอกสารทางกฎหมายปลอมแปลงไม่ได้

ตั้งแต่เมื่อวานที่ข่าวแพร่สะพัดออกไปก็มีนิตยสารกอสซิปหลายเล่มแข่งขันกันหาข่าวให้วุ่น แต่สื่อส่วนใหญ่ก็คว้าน้ำเหลว สื่อไม่กี่เจ้าที่มีช่องทางหาข่าวก็ดูเหมือนว่าจะเก็บเป็นความลับ ปิดปากสนิทไม่เปิดเผยข้อมูลออกไปภายนอก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งกระตุ้นให้ผู้คนสงสัยมากยิ่งขึ้น

การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเริ่มสิบโมงเช้า ตั้งแต่เริ่มข่าวเช้าเจ็ดโมงก็มีข่าวที่ดึงดูดความสนใจหลั่งไหลออกมาไม่หยุด

สื่อสายเศรษฐกิจทุกสำนักต่างอภิปรายว่าการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นครั้งนี้ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะส่งผลอย่างไรบ้าง แต่สื่อบันเทิงและนิตยสารกอสซิปไม่ได้จำกัดแต่หัวข้อน่าเบื่อพวกนี้ ข่าวกอสซิปแพร่สะพัด เดี๋ยวก็บอกว่านี่เป็นก้าวแรกของเส้นทางการแก้แค้นของลูกสาวบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เดี๋ยวก็บอกว่าเธอยังไม่แต่งงานจริงๆ ทั้งหมดล้วนแต่งขึ้น เดี๋ยวก็พูดอีกว่าเธอแต่งงานสายฟ้าแลบ การสมรสก็เป็นเพียงบันไดเพื่อเอาหุ้นคืน อีกเดี๋ยวก็เล่าว่าคู่สมรสของเธอคือลูกมหาเศรษฐี สักพักก็เล่าอีกว่าเป็นคนจนที่หวังตกถังข้าวสารพูดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็โยงไปถึงเรื่องในอดีตที่ แม่ฉินถูกจับได้ว่ามีชู้จนสุดท้ายกระโดดตึกฆ่าตัวตาย

ทั้งจริงทั้งเท็จ แยกแยะไม่ออก

กอสซิปคนรวยเป็นข่าวที่คนดูข่าวชอบมากที่สุดเสมอ ทุกคนรอเผือกกันสนุกสนานถึงจะดูข่าวเศรษฐกิจไม่รู้เรื่องก็เฝ้าข่าวรอดูข่าวการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น

โลกภายนอกวุ่นวาย แต่ฉินซีไม่รับรู้

หรืออาจพูดได้ว่า เธอรู้ เพียงแต่ไม่แยแส

ในสายตาของคนรับใช้ เธอเหมือนทุกวันไม่มีอะไรแตกต่าง ตื่นนอนสีหน้าปกติลงมากินมื้อเช้า จากนั้นก็ขึ้นไปเลือกเสื้อผ้า เตรียมตัวออกจากบ้าน

ใช่ว่าฉินซีเองจะไม่รู้สึก แม้แต่คนรับใช้หนุ่มสาวในรีสอร์ทชิงหยวนยังสนใจข่าวซุบซิบวันนี้มาก อาศัยตอนที่พ่อบ้านไม่สนใจ สายตาคอยมองเธออยู่เรื่อย แม้ว่าจะถูกพ่อบ้านดุให้หยุด แต่อีกเดี๋ยวสายตาก็ยังมองสอดส่องอีก

เห็นได้ว่าตอนนี้เธอออกไปจะต้องพบกับสื่อแบบไหน

แต่เธอกลับไม่คิดจะเอามาใส่ใจ

สิ่งที่เธอจะทำวันนี้ เพียงแต่ประกาศกับฉินซึ่งเทียนอย่างเป็นทางการ เธอต้องการทวงทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนก็เท่านั้น

แน่นอนว่าเธอต้องการแก้แค้น แต่ไม่ใช่ตอนนี้

เพราะมีบางเรื่อง เธอยังไม่ได้เตรียมให้เรียบร้อย

รอจนทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกสิ่งที่เธอสูญเสียไปจะคืนกลับมาในมือเธอในที่สุด

ทางด้านลู่เซิ่นระหว่างประชุมก็ดูรายงานข่าวแบบปิดเสียงไปด้วย

เขานั่งคนเดียวที่มุมหนึ่งของโต๊ะยาว จึงไม่มีคนเห็นว่าเขาจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ตลอดเพื่อดูอะไร

แน่นอน แม้ว่าจะมีคนนั่งข้างๆ เห็นเขาดูรายงานสดของสถานีโทรทัศน์ก็ไม่กล้าถามอะไรมากอยู่ดี

เพราะดูแล้วเหมือนรายงานข่าวธรรมดาข่าวหนึ่งเท่านั้น

ถึงแม้คนอื่นดูไม่ออก แต่หลินหยังดูไม่ผิดแน่นอน

แม้ว่าลู่เซิ่นทำท่าประชุมจริงจัง แต่ที่จริงแล้วจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือ

ถ้าเขาจำไม่ผิด เวลานี้ น่าจะเป็นเวลาที่การประชุมใหญ่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปใกล้จะเริ่มแล้ว

ลู่เซิ่นกำลังดูอะไร…ไม่ต้องพูดก็รู้ชัด

แต่หลินหยังไม่เข้าใจอยู่ดี สื่อใหญ่ที่สุดคือบริษัทในเครือของบริษัทลู่ซื่อ เขาสั่งหลินหยังให้แจ้งไปแล้ว อะไรเผยแพร่ได้ หรืออะไรที่ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเขาทั้งหมด

อย่างนั้นทำไมเขายังนั่งจ้องใจจดใจจ่อขนาดนี้

ความสงสัยนี้หลินหยัง ทำได้แต่ครุ่นคิดในใจ เขาต้องมีสมาธิจดจ่อ บันทึกรายงานการประชุมให้เรียบร้อยไม่อย่างนั้นเดี๋ยวลู่เซิ่นต้องการข้อมูล เขาจะถามอะไรก็ไม่รู้ไม่ได้

แต่หลินหยังคาดเดาไม่ถูกต้องทั้งหมด

ก่อนฉินซีจะปรากฏตัว แม้เขาจะมองหน้าจอมือถือ แต่สมาธิยังคงอยู่กับการประชุม บางครั้งก็หยุด จับข้อผิดพลาดได้หลายที่

กระทั่งฉินซีปรากฏตัว

ลู่เซิ่นเคาะโต๊ะ “พักสิบนาที”

คนอื่นไม่กล้าเห็นต่างแต่อย่างใด พากันมองหน้า แล้วหยุดประชุม

ลู่เซิ่นลุกขึ้น เดินออกไปห้องรับรอง ปรับเสียงคลิปให้ดังขึ้น

……

การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเริ่มสิบโมงตรง เก้าโมงเช้าพวกผู้ถือหุ้นทยอยเดินทางมาถึง ส่วนใหญ่จะขับรถตรงเข้าไปจอดที่ลานจอดรถใต้ดินไม่สนใจสื่อที่ไล่ตามรุมล้อม บางคนลงรถที่หน้าประตูใหญ่ ส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธการสัมภาษณ์ของสื่อไม่ปริปากแต่อย่างใด

ฉินซีปรากฏตัวตอนเก้าโมงครึ่งไม่ถือว่าสาย แต่ก็ไม่ถือว่าเร็วมากเป็นเวลาที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน

เธอกลัวว่าป้ายทะเบียนรถยนต์ของลู่เซิ่นจะถูกถ่ายภาพจนเปิดเผยข้อมูล จึงนั่งรถของเขามาลงก่อนถึงบริษัทหลายช่วงถนน แล้วค่อยต่อรถแท็กซี่มาลงที่หน้าประตูบริษัทฉินชื่อกรุ๊ป

รถแท็กซี่เข้าไปจอดในลานจอดรถใต้ดินของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ได้ แต่เธอก็ไม่กริ่งเกรง ลงรถที่หน้าประตูอย่างผ่อนคลาย

วันนี้ฉินซีสวมชุดสูทสีดำ และสวมรองเท้าส้นสูงสีแดง รวบผมมวยขึ้น ทั้งตัวดูสง่างาม ฉายออร่าผู้บริหารหญิงระดับสูง

รูปลักษณ์ของเธอสะดุดตา สื่อมวลชนแทบจะเห็นเธอในทันทีไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน “ฉินซีอยู่ตรงนั้น” สื่อจึงพากันเฮโลไปทางนั้น รุมล้อมรอบตัว ฉินซีแทบจะยัดไมโครโฟนเข้าไปในปากของเธอ

“คุณฉิน ขั้นตอนการรับหุ้นของคุณถูกต้องจริงมั้ยคะ”

“คุณฉิน คุณแต่งงานกับใครกันแน่ครับ”

“…แต่งงานเพื่อรับมรดกหรือเปล่าคะ”

“คุณฉิน คุณแต่งงานแล้วจริงๆ หรือครับ”

ไฟแฟลชส่องจ้าจนเกือบทำให้ตาลาย ใบหน้าฉินซีเปื้อนยิ้มตลอดไม่ปริปากตอบคำถามแต่อย่างใด

ลู่เซิ่นที่อยู่ตรงหน้าจอขมวดคิ้ว

วันนี้ตัวละครหลักของการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นนอกจากฉินซึ่งเทียนแล้วก็คือฉินซี ฝ่ายแรกยังมาไม่ถึง หรืออาจจะมาถึงแล้วแต่ตรงไปที่ลานจอดรถใต้ดิน

ในกลุ่มสื่อที่อออยู่หน้าประตูมีบางคนมีสิทธิ์เข้าไปในพื้นที่สื่อหลังจากนี้ สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวหลังการประชุมเสร็จสิ้น แต่บางคนไม่มีโอกาสเข้าไป คนที่พวกเขาดักสัมภาษณ์ได้ที่หน้าประตู จึงเป็นแหล่งข่าวทั้งหมดที่พวกเขามี

ตอนนี้เห็นฉินซีย่อมไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แน่

ฉินซีเดินทางมาคนเดียว แต่จำนวนสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ ในตอนแรกยังทำตามกฎระเบียบ รักษาระยะห่างจาก ฉินซีแต่ยิ่งเข้าใกล้ประตูใหญ่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเท่าไร พวกนักข่าวยังไม่ได้คำตอบอะไรก็ร้อนใจจนควบคุมไม่ได้

ถ้าช่างภาพอยู่ใกล้เกินไปจะถ่ายรูปไม่ได้ แต่นักข่าวไม่มีข้อจำกัดนี้ พากันรุมล้อม ฉินซีบางคนถึงกับขวางทาง ทำให้เธอแทบเดินต่อไปไม่ได้ และไม่ทันระวังเบียดเธอด้วย

ฉินซีขมวดคิ้ว แต่เธอยังไม่ทันพูดอะไรก็มีกลุ่มบอดี้การ์ดฝ่าวงล้อมเข้ามาประชิดตัว

บอดี้การ์ดเข้ามาอย่างกะทันหัน พวกนักข่าวในที่นั้นไม่ทันระวังตัว แม้พวกนักข่าวจะยืนเบียดเสียดติดกัน แต่ไม่อาจว่องไวไปกว่าบอดี้การ์ดที่ฝึกฝนมาโดยเฉพาะ กระทั่งพวกเขารู้สึกตัว ฉินซีก็ถูกพวกบอดี้การ์ดล้อมอยู่ตรงกลางแล้วไม่มีช่องให้แทรกเข้าไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท