Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 855

ตอนที่ 855

บทที่ 855 ไม่เข้าใจ

หลี่เหวยพยักหน้า

“แล้วคู่แต่งงานของฉินซี……ก็คือลู่เซิ่น!”

หลี่เหวยมองเธอด้วยความประหลาดใจ และพยักหน้าอีกครั้ง

ฉินหว่านจำได้ในทันทีว่า ในวันนั้นงานเลี้ยงวันเกิดของฉินซึ่งเทียน เมื่อตอนที่เธอได้พบกับฉินซี เธอก็ได้พบกันลู่เซิ่นด้วย และฉินซีก็ได้พูดออกมาลอยๆ ว่ารีสอร์ทชิงหยวน เป็นที่ที่ลู่เซิ่นอาศัยอยู่

เธอที่รู้สึกมึนงงเล็กน้อยในตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ใครจะไปคิดว่า ในตอนนั้นฉินซีกับลู่เซิ่น ……ได้แต่งงานกันแล้ว?

เธอไม่สามารถบอกได้ว่าในใจของเธอในตอนนี้ มีความหึงหวงหรือมีความโกรธมากกว่ากัน ทำได้เพียงแค่พูดกัดฟันพูดออกมา

“เธอใช้อะไร!”

ฉินซีที่จริงแล้วเธอมีเสน่ห์มากๆ แต่การแต่งงานกับคนที่สูงศักดิ์อย่างลู่เซิ่น มีเพียงแค่หน้าตาอย่างเดียว ก็ไม่สามารถทำได้

หลี่เหวยตบแขนของเธออย่างปลอบใจ“ฉินซีเป็นคนจำพวกคดในข้อ งอในกระดูก ใครจะไปรู้ว่าใช้วิธีไหน ตัวเองถึงได้แต่งงานกับลู่เซิ่น แต่ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีไหน เธอก็ได้แต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลลู่แล้ว และได้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้ มีมากมายเลย”

ฉินหว่านเอียงหัวอย่างสงสัย“เนื่องจากเธอได้ถือหุ้น และได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการแล้ว เราจะทำอะไรได้อีก?”

หลี่เหวยยิ้มอ่อน“หว่านหว่าน หนูต้องสัญญากับแม่ก่อน ว่าหลังจากนี้จะไม่ขัดแย้งกับคุณพ่อ เหมือนวันนี้อีก”

ฉินหว่านขมวดคิ้ว“ทำไมคะ!เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจชีวิตแม่เลย ขี้ขลาดตาขาว!”

หลี่เหวยใช้นิ้วแตะที่ริมฝีปากของเธอ“พูดเสียงเบาๆ หน่อย!ตอนนี้ฉินซีได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่พวกเราทั้งสองไม่มี เธอที่เคลื่อนไหวอยู่ในส่วนของคณะกรรมการ ในส่วนนี้แม่ก็ไม่อาจเข้าใจได้ ยังไงก็ต้องผ่านคุณพ่อ เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสถานการณ์ของฉินซี”

ฉินหว่านจับคางอย่างใช้ความคิด“ก็ถูก”

หลี่เหวยจับใบหน้าของเธอ และโน้มตัวใกล้เข้าไปใกล้หูของเธอ แล้วพูดว่า“นอกจากนี้ สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่แค่สิ่งที่ฉินซีถืออยู่ในมือเท่านั้น แต่ยังต้องให้พ่อของหนู มอบสิ่งที่เขามีอยู่ให้หนูด้วย ดังนั้นอย่าเผชิญหน้าแบบนั้นกับเขาอีก”

ฉินหว่านลดสายตาลง และคิดสองถึงสามวินาที ในที่สุดก็ตัดสินใจพยักหน้าให้กับหลี่เหวย“หนูทราบแล้วค่ะ”

หลี่เหวยนั่งตัวตรง จับมือของฉินหว่านอย่างจริงจัง แล้วบอกเป็นนัยๆ ว่า“หว่านหว่านอ่า ฉินซีมีพลังอำนาจมากกว่าที่แม่คิด ในตอนแรกแม่ว่าจะจัดการเธอได้ด้วยตัวเอง ไม่คิดว่าเธอจะมีคนหนุนหลังที่ทรงพลังมากกว่า ดังนั้นแม่ถึงได้มาหาหนูไง”

ฉินหว่านส่ายหัวทันที“แม่คะ แม่พูดถึงอะไร!หนูเป็นลูกสาวแม่นะ ไม่มีเหตุผลอะไรเพื่อหนู หรือเพื่อแม่ พวกเราจะคิดหาวิธีด้วยกันค่ะ”

……

ฉินซีไม่ได้นึกถึงเสียงกระซิบที่“อบอุ่น”ของสองแม่ลูก เธอตามลู่เซิ่น อย่างมึนๆ งงๆ

เวลาย้อนกลับไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว

พวกเขาลงจากรถ ในลานจอดรถของโรงพยาบาล หลินหยังไม่ได้ตามออกมา มีเพียงแค่เธอและลู่เซิ่น

โรงพยาบาลนี้ค่อนข้างใหญ่ ระหว่างตึกอาคารมีสวนดอกไม้ มองดูแวบแรกดูไม่เหมือนกับเป็นโรงพยาบาล แต่ดูเหมือนสถานที่ท่องเที่ยว

แต่ฉินซีไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามในขณะนี้

เป็นเพราะ……ระยะทางที่ไกลเกินไป และรองเท้าส้นสูงของเธอที่สูงเกินไป ยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อย คิดแต่เพียงอยากให้ถึงเร็วๆ แล้วรีบหาที่นั่งพักสักครู่

โชคดีที่ลู่เซิ่น ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี เขาเดินตามทางไปเรื่อยๆ ราวกับว่าเขากำลังใช้ทางลัด

ทั้งสองคน เดินมากกว่าสิบนาที ในที่สุดก็เดินมาถึงหน้าตึก

ลู่เซิ่นหันหน้าไปมองฉินซีอย่างละเอียด ก่อนที่จะถามว่า“คุณคิดว่าโรงพยาบาลนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ฉินซีอธิบายไม่ถูก“โรงพยาบาล……ดีทีเดียวเลยค่ะ”

มีความคิดเห็นอย่างไรกับโรงพยาบาลเหรอ

ในความคิดเห็นของเธอ โรงพยาบาลไม่มีความแตกต่าง ระหว่างโรงพยาบาลที่ดีและไม่ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ หมอเป็นยังไง!

แต่ลู่เซิ่นไม่ค่อยพอใจกับคำตอบของเธอ แล้วหมุนตัวเดินต่อไป

ฉินซีไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงทำได้แค่ตามไป

ทำไมถึงรู้สึกว่าลู่เซิ่นเหมือนจะโกรธ?

มีอะไรให้ต้องโกรธ?เป็นไปได้ไหม ที่ลู่เซิ่นจะลงทุนกับโรงพยาบาลแห่งนี้ และตัวเธอเองไม่ได้กล่าวชมเหรอ?

ของแบบนี้ใครจะไปรู้ได้ล่ะ!

ฉินซีมุ่ยปาก ความคิดของลู่เซิ่นยากที่จะคาดเดา

หลังจากออกจากลิฟต์ ลู่เซิ่นก็หันซ้ายหันขวา แล้วเดินต่อไปได้สักพัก เมื่อตอนที่ฉินซีกำลังจะพูดกับเขา ว่าจะขอพักสักครู่หนึ่ง ลู่เซิ่นก็หยุดเดินอย่างกะทันหัน

ฉินซีมองไปที่ป้ายที่ประตู

“แผนกประสาทวิทยา แพทย์ผู้รับผิดชอบ เวินจิ้ง”

“แผนกประสาทวิทยา?”ฉินซีไม่มีคำพูด แล้วมองไปที่ลู่เซิ่น“บนใบหน้าของฉันมีรอยถลอกนิดหน่อย ไม่ถึงกับต้องมาถึงแผนกประสาทวิทยาก็ได้นะ!ถ้าจะต้องไป ก็ต้องไปที่แผนกศัลยกรรมถึงจะถูก?”

ลู่เซิ่นกลับเพิกเฉยต่อการประท้วงของเธอ ยื่นมือออกไปโอบเอวของเธอ แล้วกอดเธอไว้พาเข้าไปในห้องให้คำปรึกษา

ฉินซีเงยหน้าขึ้น และเห็นเวินจิ้งที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะ

ผมของเธอถูกมัดไว้ด้านหลังศีรษะอย่างเรียบร้อย มีเสื้อคลุมสีขาวสะอาด เต็มไปด้วยอารมณ์อ่อนโยน ถึงแม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากสีขาว และเผยให้เห็นแค่ดวงตาคู่หนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถหยุดออร่าอันอ่อนโยนนั้นได้

บางที่อาจจะเป็นเพราะ ผนังสีขาวของห้องปรึกษาของโรงพยาบาล หรือกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่ลอยอยู่ในอากาศ ฉินซีมีความรู้สึกที่คลุมเครือและคุ้นเคย ราวกับว่าตัวเธอเองเคยอยู่ที่นี่มาก่อน

สายตาที่สับสนอยู่เล็กน้อย ปรากฏขึ้นในดวงตาของฉินซี และก็มองกลับไปที่ลู่เซิ่น อย่างไม่รู้ตัว

และลู่เซิ่นก็ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในโรงพยาบาล ก็มองดูฉินซีไม่หยุด เมื่อเธอหันหน้ากลับมา ทั้งสองก็ประสานสายตากัน

แต่ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไร

ลู่เซิ่นดูเหมือนจะมีคำพูดมากมาย ที่อยากจะพูดออกมา แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดไม่ออก และฉินซีก็รู้สึกว่าตัวเธอเองอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้

บรรยากาศแปลกขึ้นเล็กน้อย

ในที่สุดเวินจิ้งก็ทำลายความเงียบ“ขอโทษนะ……ท่านไหนต้องการที่จะรับการรักษาคะ?”

ลู่เซิ่นที่เรียกสติกลับคืนมาได้ก่อน แล้วผลักฉินซี “เธอ ใบหน้าของเธอมีรอยถลอกน่ะ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว และมองไปที่ฉินซีอย่างละเอียด แล้วพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง“นี่เป็นเพียงบาดแผลเล็กๆ ถ้าพวกคุณมาช้ากว่านี้อีกนิด อาจจะได้รักษามันด้วยตัวเองนะ”

ฉินซีในที่สุดที่เรียกสติกลับคืนมาได้ ก็ตอบว่า“ฉันก็บอกแล้วว่ามันเป็นแผลเล็กๆ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาถึงที่นี่เลย!”

ลู่เซิ่นไม่ได้รับผลกระทบเลย จากสิ่งที่ทั้งสองคนพูด“ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่บาดแผลเล็กๆ ก็ต้องได้รับการรักษาที่ดี ไม่ใช่เหรอ?”

ฉินซีตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง

ประโยคนี้……ทำไมถึงฟังดูคุ้นๆ ยังไงนะ?

ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่คำที่มีความหมายที่พิเศษอะไร แต่น้ำเสียงและการออกเสียง ในคำพูดของลู่เซิ่น ก็ทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างไม่อาจบรรยายได้ ราวกับว่าเธอเคยได้ยินมันด้วยหูของเธอเอง

“……แล้วความคิดเห็นของผู้ป่วยล่ะ?”เวินจิ้งตบหลังมือของฉินซีเบาๆ หลังจากที่สติ และเรียกความทรงจำในอดีตให้กลับมา

“ขอโทษค่ะ เมื่อกี้ฉันสติหลุดลอยไป”

เวินจิ้งเกือบที่จะพูดไม่ออก แต่เธอก็ยังพูดย้ำเบาๆ ว่า“ความเห็นของฉันคือบาดแผลนั้นเล็กมาก และไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งสิ้น แต่สุภาพบุรษท่านนี้ ยืนยันที่จะให้เย็บแผล ฉันจึงต้องถามความคิดเห็นของคุณ”

เมื่อรับรู้ถึงดวงตาที่ลุกโชนของลู่เซิ่น ที่อยู่ด้านหลัง ฉินซีก็จับหน้า และถามหนึ่งคำถามอย่างจริงจัง“คุณหมอคะ ฉันจะเสียโฉมไหมคะ?”

เวินจิ้งหัวเราะ“ไม่ค่ะ”

ฉินซีคลายมือออก“ถ้ามันทำให้หายเร็วขึ้น ก็ทำเถอะค่ะ!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท