Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 856

ตอนที่ 856

บทที่ 856 ลืมไม่ลง

เวินจิ้งพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเย็บแผล ฉันจะสั่งยาให้ มันจะหายได้เร็วขึ้น และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น”

ฉินซีตอบรับ

ทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โดยไม่สนใจลู่เซิ่นที่อยู่ด้านหลังแม้แต่น้อย

หลังจากที่เวินจิ้งสั่งยาให้ ฉินซีก็พยักหน้า เพื่อเป็นการขอบคุณ แล้วดึงลู่เซิ่นเดินออกมา

เวินจิ้งมองไปที่ด้านหลังจองคนทั้งสองคน ที่ลากกันออกไป อย่างรู้สึกสับสนเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

หลังจากที่ฉินซีไปรับยาเรียบร้อยแล้ว ก็หันหน้ากลับมาหาลู่เซิ่น ซึ่งยังคงมีสีหน้าที่ไม่พอใจ

“ขอร้องเถอะค่ะ วิธีนี้ใบหน้าของฉันจะหายไวขึ้น คุณไม่พอใจอะไร?”

ฉินซียังคงไม่หยุด ที่จะโพล่งคำพูดออกมา

สีหน้าของลู่เซิ่นเปลี่ยนไป แล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า“ผมไม่ได้อารมณ์เสียเพราะเรื่องนี้”

ฉินซีมองเขา“งั้นเป็นเพราะอะไรคะ?รู้สึกหลังจากเข้าโรงพยาบาล โดยเฉพาะหลังจากที่ได้พบกับคุณหมอเวิน ก็เห็นได้ชัดว่าคุณอารมณ์เสีย เป็นไปได้ไหมว่า……คุณชอบคุณหมอเวิน?”

ลู่เซิ่นถลึงตา“คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรเนี่ย?”

ฉินซียักไหล่“ฉันก็แค่พูดออกไปลอยๆ”

เธอก้มหน้าลง เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับยาครบแล้ว แล้วจึงเดินออกจากตัวอาคารผู้ป่วยนอก พร้อมกับลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นเดินอยู่ข้างหน้า ฉินซีเลียนแบบตามเขาทุกย่างก้าวอยู่ข้างหลัง

ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาของตัวเธอเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าทางที่พวกเขากำลังออกไปในตอนนี้ มันเป็นทางอ้อมมากกว่าตอนที่พวกเขาเพิ่งเดินเข้ามา

ทิวทัศน์ของโรงพยาบาลนั้นสวยงามมาก ปกติแล้วเธอคงไม่รังเกียจที่จะมอง แต่ตอนนี้เธอสวมรองเท้าส้นสูงมากกว่าสิบเซนติเมตร เมื่อตอนที่เดินราวกับเต้นรำบนปลายมีด เธอไม่มีอารมณ์แม้กระทั่งจะชื่นชมวิวทิวทัศน์

กำลังคิดที่จะถามลู่เซิ่น ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ เขาก็หันหลังกลับมา

ฉินซีที่หยุดไม่ทัน และทั้งตัวก็พุ่งเข้าสู่อ้อมแขนของลู่เซิ่น

“ทำไมจู่ๆ คุณถึงหันหลังกลับมา?”ฉินซีพยายามที่จะลุกออกจากอ้อมแขนของเขา พร้อมกับไม่พอใจ

ลู่เซิ่นยื่นมือไปโอบเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง และถามที่ข้างหูของเธอว่า“คุณคิดว่าหมอเวินเป็นยังไงบ้าง?”

ฉินซีรู้สึกได้ว่า ลมหายใจของเขากำลังผ่านวูบอยู่ข้างหูของตัวเอง ปลายประสาทใต้ผิวหนังสั่นสะท้าน อย่างไม่สามารถควบคุมได้ หลังจากใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที สมองก็ได้รับรู้คำถามของเขา

กอดตัวเอง แต่ถามถึงผู้หญิงคนอื่น มันยังไงเหรอ?

ฉินซีไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ค่อยพอใจ และพยายามดิ้นรนเพื่อหนีออกจากอ้อมกอดของลู่เซิ่น“หมอเวินน่ารักดีค่ะ เมื่อตอนที่ฉันไปรับยา ได้ยินพวกเขาพูดว่า หมอเวินมาจากเมืองหนาน และมีจรรยาบรรณทางการแพทย์มากๆ”

“เป็นแบบนั้นเองเหรอ?”ลู่เซิ่นซักถาม

ฉินซีสับสน“ก็เป็นแบบนั้นสิ พวกเราเพิ่งจะแตะเนื้อต้องตัวกันนิดเดียว ยังจะรู้สึกอะไรได้อีก?”

“เดิมทีโรงพยาบาลแห่งนี้ มีความร่วมมือกับโรงพยาบาลหนานเฉิง มีการแบ่งปันทรัพยากรทางการแพทย์ และแพทย์ก็จะไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อหมุนเวียนกันสักสองสามวัน เมื่อก่อนหมอเวินก็เคยมาที่นี่”ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงอธิบายออกมา

ฉินซีไม่รู้ว่าทำไมถึงมองไปที่ลู่เซิ่น หลังจากนั้นสายตาก็เปล่งประกายขึ้น และก็เริ่มล้อเลียนเขา“ไหนคุณพูดว่าไม่ชอบคุณหมอเวิน เป็นเพราะเมื่อก่อนคุณมาที่นี่เพื่อรักษา แล้วพบเธอใช่ไหมคะ ลืมไม่ลงเหรอ?ฉันเพิ่งจะได้ยินจากคนในแผนกเภสัชกรรมว่า คุณขอให้ใครบางคนหาเบอร์ของหมอเวินเพื่อให้ฉัน เพียงแค่ต้องการใช้โอกาสนี้ เพื่อพบเธออีกครั้ง ใช่ไหมคะ?”

ลู่เซิ่นหยุดนิ่งไปชั่วขณะ“ถ้าผมชอบเวินจิ้งจริงๆ คุณจะไม่รังเกียจใช่ไหม?”

ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย“พูดไม่ได้ว่ารังเกียจหรือเปล่า แต่คุณต้องเข้าใจนะ ว่าตอนนี้พวกเราแต่งงานกันแล้ว คุณอย่าทำให้ฉันลำบากใจไปมากกว่านี้ ถ้าคุณต้องการที่จะอยู่กับคนอื่น อย่างน้อยก็รอจนกว่าพวกเราจะหย่าร้างกัน”

เมื่อเธอพูดคำว่า“หย่าร้าง”สองคำนี้ สีหน้าของลู่เซิ่นก็มืดมนลง จนไม่สามารถมืดมนลงได้กว่านี้อีกแล้ว เขาจงใจมองไปที่ฉินซีในไม่กี่วินาที หลังจากนั้นก็หมุนตัวกลับ และเดินไปต่อ“ลืมไปซะเถอะ”

อารมณ์ของเขายากเดินจะอธิบาย ฉินซีเดินตามเขาไป ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

ขอร้องล่ะ เธอเป็นภรรยาน้อยของลู่เซิ่น ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกันตามข้อตกลง แต่มันไม่สมเหตุสมผลเลย ที่ผู้หญิงที่ลู่เซิ่นชอบ ต้องมาถามความคิดเห็นของเธอเองด้วยใช่ไหม?ลู่เซิ่นไม่ว่าเขาจะชอบใครก็ตาม ทำไมเขาถึงต้องการให้คนอื่นไปช่วยตัดสินด้วย?

คำตอบที่เพิ่งจะตอบไป มีอะไรผิดอย่างงั้นเหรอ?

ฉินซีไม่รู้ว่าความอึดอัด ที่คลุมเครืออยู่ในใจของเธอ มาจากไหน แค่รู้สึกหงุดหงิดกับบุคลิกที่ไม่แน่นอนของลู่เซิ่น ดังนั้นจึงก้มหัวลง และบุ้ยริมฝีปาก ตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่ออารมณ์แปรปรวนของลู่เซิ่น

เมื่อทั้งสองคนออกไป บรรยากาศก็เหมือนจะสนิทสนมกลมเกลียว แต่เมื่อกลับมาแทบจะไม่มองหน้ากัน และเหมือนไม่รู้จักกัน

หลินหยังถอนหายใจให้กับทั้งสองคนในก้นบึ้งของหัวใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันยากที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องความรู้สึกระหว่างทั้งสองคน จึงทำได้เพียงแค่หันกลับไปและกำชับว่า“กลับบ้าน”

……

บ้านตระกูลฉิน

หลังจากที่หลี่เหวยและฉินหว่านพูดคุยกันเสร็จแล้ว ก็ลงไปชั้นล่างเพื่อไปที่ห้องครัว เพื่อสั่งทำเมนูของวันนี้ ฉินหว่านที่อยู่ในห้องคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมา เคาะประตูห้องหนังสือของฉินซึ่งเทียน

หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของฉินซึ่งเทียน “เข้ามา”

ฉินหว่านผลักประตูเข้ามา ฉินซึ่งเทียนที่กำลังขมวดคิ้ว และมองไปที่คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าฉินหว่านเข้ามา ก็ปิดหน้าจอแสดงผลทันที“หว่านหว่าน มีอะไรเหรอ?”

ฉินหว่านเห็นการกระทำของจิตใต้สำนึกทั้งหมด ในดวงตาของเขา และมีรอยยิ้มที่น่ารักปรากฏบนใบหน้า“หนูมาดูพ่อน่ะค่ะ”

ฉินซึ่งเทียนมองไปที่เธออย่างไม่เข้าใจ

ฉินหว่านเดินเข้าไปใกล้ๆ คิดสักพัก แล้วไปพิงที่ไหล่ของฉินซึ่งเทียน“พ่อคะ เมื่อตอนบ่ายหนูไม่ดีเอง หนูแค่อารมณ์เสีย เพราะกังวลมากไปหน่อย พ่ออย่าโกรธหนูเลยนะคะ มันไม่ดีต่อสุขภาพของพ่อ”

ฉินซึ่งเทียนถึงได้คลายคิ้วลง และตบที่หลังของเธอ“พ่อรู้ว่าหนูเป็นห่วงแม่ พ่อก็ไม่สบายใจ พ่อรู้ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจที่จะอารมณ์เสีย หนูเป็นเด็กดี”

ฉินหว่านเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา“พ่อคะ พ่อก็เหนื่อยแล้วค่ะ”

ฉินซึ่งเทียนถอนหายใจยาวๆ ออกมา“โชคดีที่ยังมีหนูอยู่ ถ้าไม่มีลูกสาวที่น่ารักแบบนี้ พ่อต้องถูกฉินซีทำให้โกรธจนตายไปแน่ๆ”

ฉินหว่านเอียงหัว ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“พี่สาวทำไมเหรอคะ?”

ฉินซึ่งเทียนมองไปที่เธอ เขาลืมการแสดงออกที่วิตกกังวล และอาการหดหู่ในตอนแรกไปหมดสิ้น ในตอนนี้ท่าทีว่านอนสอนง่ายของฉินหว่าน ช่างแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับการปรากฏตัวของฉินซี และรู้สึกทอดถอนใจขึ้นมาในทันที เปิดปากอยากจะพูดถึงเหตุและผล แต่ในที่สุดก็ส่ายหัว แล้วพูดว่า“ไม่มีอะไร ถ้าพี่สาวรู้ใจได้เท่าครึ่งหนึ่งของหนู พ่อก็พอใจแล้ว”

“พี่สาวก็เก่งไม่ใช่เหรอคะ?”ฉินหว่านพูด“เธอได้เข้าไปเป็นคณะกรรมการแล้ว”

ฉินซึ่งเทียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“กลัวก็แค่เธอเข้ามา และไม่คิดที่จะช่วยพ่อ แต่คิดที่จะทำยังไงเพื่อทำลายพ่อ”

ฉินหว่านส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า“พ่อก็เป็นพ่อของเธอเหมือนกัน เขาจะลงมือทำแบบนั้นได้ยังไงคะ”

ฉินซึ่งเทียนกลับไม่พูดอะไรอีก เขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วตบที่ไหล่ของฉินหว่าน“รีบๆ ลงไปดูว่าห้องครัวเตรียมของเสร็จเป็นยังไงบ้างแล้ว เตรียมตัวทานข้าวกันเถอะ”

นี่ถือว่าเป็นคำสั่งที่สละสลวยในการไล่แขกออกไป ฉินหว่านทำไมถึงจะฟังไม่ออก แต่เธอก็ยืนขึ้นอย่างเชื่อฟัง แล้วเดินออกไป

ก่อนจะปิดประตู เธอเหลือบมองเข้าไปด้านใน

ฉินซึ่งเทียนเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง แล้วขมวดคิ้วดูต่อ

ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่

ฉินหว่านอยากรู้อยากเห็นราวกับกรงเล็บแมว แต่ก็ปิดประตูลงอย่างเบามือ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท