Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 882

ตอนที่ 882

บทที่ 882 พวกเราคืนดีกัน ได้ไหม

ท้องฟ้าค่อยๆสว่าง ในที่สุดฉินหว่านก็รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย ในขณะที่เธอกำลังจะนอน ประตูก็ถูกเคาะดังขึ้น

“ใคร?”เธอรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์

“ฉินหว่าน ผมเอง”

ได้ยินเสียงอบอุ่นที่ลอยมาจากนอกประตู ตัวฉินหว่านแข็งทื่อไปทันที

ทำไมถึงเป็น……หซู่หนาน!

ฉินหว่านรีบลุกขึ้นมา เดินเข้าไปตรงหน้าประตู อยากจะเปิด แต่กลับลังเลขึ้นมา

เมื่อวานเธอไล่เขาออกไปต่อหน้าผู้คนเยอะแยะมากมาย วันนี้เขา……ถึงยังกลับมาล่ะ?

หรือว่า วันนี้เขามาหาเธอ เพื่ออธิบายเรื่องเมื่อวานที่ยังพูดไม่จบเหรอ?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินหว่านก็ไม่อยากเปิดประตู

ถ้าได้ยินหซู่หนานบอกเลิกกับตัวเองอีกครั้ง ฉินหว่านไม่สามารถรับประกันว่าตัวเองจะทำเรื่องอะไรขึ้นมา

เธอรักหซู่หนานมาก ไม่สามารถทนต่อหซู่หนานไปจากตัวเอง

ฉินหว่านเข้าใจหซู่หนาน รู้ว่ายังไงเขาก็รักศักดิ์ศรีไม่มากก็น้อย ดังนั้นถึงได้หวาดกลัว แต่ในขณะที่เธอยืนคิดอยู่หลังประตู ประตูก็ถูกเคาะอีกครั้ง?

“ฉินหว่าน ผมรู้ว่าคุณอยู่ ผมจะมาขอโทษคุณ คุณ……เปิดประตูหน่อยได้ไหม?”

ขอโทษ?

หรือว่า……หซู่หนานไม่เลิกกับตัวเองแล้วเหรอ?

“เมื่อวานผมไม่ดีเอง ผมไม่ควรบอกเลิกคุณ ผม——”

น้ำเสียงของหซู่หนานยังคงอบอุ่นเหมือนเดิม “ไม่เลิก”สองคำนี้ผ่านเข้าหูของฉินหว่าน ในที่สุดเธอทนไม่ไหวอีกแล้ว เปิดประตูทันที

คำพูดที่หซู่หนานยังพูดไม่จบได้หยุดไว้

ทั้งสองยืนจ้องมองกันหน้าประตู

ฉินหว่านไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งร้องไห้ทั้งคิดมาก ขอบตาดำ ตาก็บวม จะสวยได้แค่ไหน?

หซู่หนานพยายามควบคุมสีหน้าของตัวเอง ไม่ให้ฉินหว่านเห็นว่าเขารู้สึกรังเกียจ

แต่เป็นเพราะหซู่หนานจะมาขอโทษ ได้แต่งตัวอย่างละเอียด ชุดสูทเรียบร้อย ผมเซ็ตเรียบร้อย ทั้งตัวเผยความสง่าออกมา

นอกจากฉินหว่าน แม้ว่าใครมอง ก็จะรู้สึกไม่คู่ควร

ตาของฉินหว่านมองจนตาจะทะลุออกมา

“ผม……รบกวนคุณพักผ่อนไหม?” ทั้งสองต่างเงียบสักพัก หซู่หนานก็พูดขึ้นทำลายบรรยากาศความเงียบ

ฉินหว่านส่ายหัว อยากจะพูดอะไรสักอย่าง เพิ่งสังเกตว่าเสียงตัวเองแหบจนน่ากลัว “ไม่หรอก……”

เธอหันข้างให้หซู่หนานเดินเข้ามา ตัวเองก็ปิดประตู

หซู่หนานเหลือบไปมองเตียงที่รกเล็กน้อยของเธอ ถามอย่างใส่ใจว่า “คุณเพิ่งตื่นเหรอ?”

ฉินหว่านจะบอกว่าตัวเองไม่ได้นอนทั้งคืนก็ไม่ดี ก็เลยส่ายหัว

หซู่หนานวางของที่ถือว่าในมือลง “งั้นคุณไปล้างหน้าแต่งตัวก่อน ผมรอคุณที่ข้างนอก”

ฉินหว่านเพิ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้หน้าตาเธอตอนนี้น่ากลัวมาก รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

หลังจากไม่นาน ในที่สุดเธอก็แต่งตัวเสร็จ และเดินออกจากห้องน้ำ

เธอได้แต่งหน้า รอยช้ำใต้ตาถูกปกปิดไปหมด หน้าก็ดูไม่ค่อยบวมแล้ว มองจากที่ไกลๆ ก็ยังถือว่าสวยน่ามอง

หซู่หนานรู้สึกค่อยยังน่ามองขึ้นเยอะ ในใจแอบโล่งอกขึ้นเยอะเลย

เมื่อเผชิญกับฉินหว่านแบบนี้ เขายังสามารถรื้อฟื้นความจำได้บ้างว่าตอนนั้นตัวเองตัดสินใจคบกับเธอได้อย่างไร

งั้นคำพูดขอโทษ ก็ไม่ยากที่จะพูดออกมาสักเท่าไหร่

“นาย……มาทำอะไร?” ฉินหว่านยังคงจำคำพูดที่หซู่หนานพูดนอกประตูได้เสมอ แต่ไม่เห็นเขาเอ่ยขึ้นสักที ก็เลยถามขึ้นก่อน

ในที่สุดหซู่หนานก็ดึงสติกลับมา มองตาฉินหว่านแล้วพูด “ผมมาเพื่อขอโทษ”

แววตาเขาดูจริงจังมาก ต่างจากคนที่บอกรักคนอื่นในเมื่อวานนั้นมาก

และทำให้ฉินหว่านให้อภัยเขาในใจทันที

แต่เธอไม่สามารถพูดคำว่าอภัยออกจากปากได้เร็วขนาดนั้น แค่ก้มหน้า “แต่เมื่อวานนายพูดว่า……”

“ตอนนั้นผมแค่ใจร้อน”หซู่หนานคิดข้อแก้ตัวไว้ก่อนแล้ว “เรื่องของหซู่เป่ยฉินซีเป็นคนจัดการก็จริง แต่เธอมาติดต่อผมก่อน ระหว่างพวกเราสองคนไม่ได้มีอะไร เมื่อวาน……เป็นเพราะคุณสงสัยผม ผมรู้สึกโกรธนิดๆ เลยพูดคำพูดที่ว่าผมรักเธอนั้นออกมา”

ข้อแก้ตัวของหซู่หนานไม่สามารถยืนหยัดต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ ดูจากสถานการณ์ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงนี่แล้ว เขาและหลี่เหวยเป็นครอบครัวเดียวกัน

แต่ฉินหว่านกลับไม่ได้สงสัย ก็เลือกที่จะเชื่อเขา

เธอก็ว่า! ต้องเป็นฉินซีไปอ่อยหซู่หนานก่อนแน่เลย!

หซู่หนานเป็นเพียงแค่ผู้เคราะห์ร้าย……

“แต่ไม่ว่ายังไง ผมพูดคำแบบนี้ ก็ทำร้ายคนมาก ดังนั้นฉินหว่าน วันนี้ผมตั้งใจจะมาขอโทษคุณ คุณจะรับได้ไหม……ให้ผมกลับมาเคียงข้างคุณ?”

ฉินหว่านเงยหน้าขึ้นมามองเขา “อะไร……”

แต่ความหวั่นไหวของเธอเขียนไว้บนใบหน้าอย่างชัดเจน หซู่หนานเดินเข้าใกล้อย่างไม่ลังเล กอดฉินหว่านเข้าในอ้อมกอดของตัวเอง “เราคืนดีกัน ได้ไหม?”

ปากของฉินหว่านตอบไวกว่าสมองอีก ตอบโดยจิตใต้สำนึก “ได้……”

ได้ยินคำตอบของฉินหว่าน หซู่หนานรู้สึกโล่งใจ มุมปากกระตุกขึ้นบนใบหน้าแวบๆ

ทั้งสองคนกอดไปสักพัก ฉินหว่านปล่อยแขนลง หันไปมองของที่หซู่หนานวางบนโต๊ะในเมื่อกี้ “นายเอาอะไรมา?”

หซู่หนานหันกลับมา ยื่นของให้กับเธอ “นาฬิกาครั้งก่อนที่คุณบอกผมว่าอยากได้ ผมสั่งไว้ล่วงหน้าแล้ว ตอนที่มาก็แวะไปเอามาให้คุณด้วย”

ฉินหว่านมองโลโก้บนถุง แววตาก็สว่างเลย “นายยังจำได้……”

ใบหน้าของหซู่หนานยิ้มอ่อน “สิ่งที่คุณชอบ ผมจะลืมได้ยังไง”

มองดูฉินหว่านก้มหน้าแกะผลิตภัณฑ์ ท่าทีร้อนอกร้อนใจ ในใจหซู่หนานเกิดรู้สึกดูถูกไปแวบนึง

เธอยังคงเป็นแบบนี้ เอาของที่มีค่าหน่อยมาโอ๋ก็หายดีแล้ว

ครั้งแรกที่หซู่หนานรู้จักกับฉินหว่านยังรู้สึกแปลก เธอเป็นพี่น้องแท้ๆกับฉินซี แต่รสนิยมกลับต่างกันราวกับฟ้ากับเหว

ฉินหว่านชอบเสื้อผ้าแฟชั่นของแบรนด์อย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าตัวเองใส่ของแบรนด์ ต่างกับความชอบของฉินซีไปเลย

แต่พอหลังจากที่ชิน หซู่หนานก็ไม่รู้แปลกอีกแล้ว กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดี

อย่างน้อยหลังจากที่ให้ของกับฉินหว่าน ให้ของที่ราคาแพง ก็คงถูกใจเธอแน่นอน

……

ดึงความทรงจำกลับจากตอนเช้านี้ สายตาของหซู่หนานก็กลับสู่ตัวฉินซีอีกครั้ง

หลังจากที่ฉินซีย้ายออกจากบ้านตระกูลฉินไป ทั้งสองไม่ได้เจอกันหนึ่งปีเต็ม หซู่หนานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉินซีบ้าง ถ้ามองแค่ภายนอกแล้ว ไม่ได้รู้สึกว่าเธอต่างอะไรจากเมื่อก่อน

วันนี้ฉินซีเป็นชุดเสื้อกันลมที่พอดีตัว ข้างในสวมกับชุดเดรสสีขาว หซู่หนานไม่ค่อยรู้เรื่องแฟชั่นสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเป็นแบรนด์อะไร รู้แค่ว่าพอใส่บนตัวฉินซีแล้ว ทุกอย่างดูสง่าไปหมด

เมื่อเทียบกับเสื้อธรรมดาของฉินหว่านแล้ว ต่างราวกับฟ้ากับดิน

ความรู้ดีๆต่อฉินหว่านที่เขาเพิ่งจะสะสมได้เล็กน้อยในเช้านี้ หายไปในพริบตาเมื่อเทียนกับฉินซี

แต่ฉินซีไม่รู้การเปลี่ยนแปลงในใจของหซู่หนาน

เธอเพียงแค่ก้มหน้าดูเอกสารอย่างตั้งใจ ขมวดคิ้วขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ

หซู่หนานรู้สึกถึงว่าท่าทีเธอไม่ปกติ แล้วถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “เป็นอะไร? มีอะไรผิดปกติเหรอ?”

สายตาของฉินซียังคงอยู่ในเอกสาร ได้ยินนั้นแค่ส่ายหัว “ไม่มีอะไร”

ท่าทีของเธอทำให้คำพูดเธอฟังแล้วดูไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท