Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 880

ตอนที่ 880

บทที่ 880 ตอนนี้ก็จะไปขอเลิกกับเขา

ลู่เซิ่นแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน โบกมือให้กับฉินซี “ไปกันเถอะ”

ฉินซีและลู่โยวโยวบอกลากัน และขึ้นรถไปกับลู่เซิ่น

ลู่โยวโยวและลู่เจิ้นยังยืนอยู่ที่เดิม มองรถของลู่เซิ่นค่อยๆ ไกลออกไป

ทันใดนั้นลู่เจิ้นก็พูดว่า“คุณคิดว่า แบบนี้พวกเขาดีไหม?”

ลู่โยวโยวเหลือบมองเขา“มีอะไรไม่ดีเหรอ?”

ลู่เจิ้นหมุนตัวไปทางบ้านตระกูลลู่ แล้วเบ้ปาก“เห็นได้ชัดว่าแม่ของคุณไม่ชอบฉินซีอ่า”

ลู่โยวโยวยักไหล่“คุณเห็นเธอชอบอะไรมาก่อนไหมล่ะ?”

ลู่เจิ้นหัวเราะออกมา“ก็ใช่”

ลู่โยวโยวหมุนตัวกลับมา เดินเข้าไปข้างใน“จำเป็นแล้วล่ะ ฉันจะไม่ยอมให้พี่ชายของฉันต้องทุกข์ใจ”

ลู่เจิ้นยิ้ม และเดิมตามเข้าไป

……

เมื่อคืนฉินซีนอนดึก วันนี้ตอนเช้าก็ถูกเรียกให้ลุกขึ้นมาทานอาหารเช้า แล้วภายในรถตอนนี้ ก็มีอาการตาปรือ ง่วงนอนเล็กน้อย

ลู่เซิ่นรับเอกสารหลายชุดมาจากหลินหยัง เปิดดูมันผ่านๆ แล้วแบ่งส่วนหนึ่งส่งไปตรงหน้าของฉินซี“คุณเซ็นชื่อหน่อย”

ฉินซีบังคับตาให้เปิดขึ้น“เอกสารอะไรคะ?”

ลู่เซิ่นไม่พูดอะไร เพียงแค่ยื่นของไปไว้ตรงหน้าเธอ

ฉินซีจ้องเขม็ง

สัญญาโอนหุ้น

อาการเคลิ้มของเธอหายไป แล้วก็นั่งตัวตรงทันที“นี่……อะไร?”

ลู่เซิ่นก้มหน้ามองเอกสารของตัวเอง แล้วพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาว่า“ผมมีหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือแล้ว ถือมาไว้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ผมจะโอนมันคืนให้คุณ”

ฉินซีปิดเอกสาร ส่งกลับมันคืนให้ลู่เซิ่น“ไม่ได้ ฉันรับมันไว้ไม่ได้”

ในที่สุดลู่เซิ่นก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ทำไม?”

ฉินซีคิดว่ามันแปลกที่เขามองแบบนี้“นี่เป็นหุ้นของคุณ ทำไมคุณถึงต้องให้ฉัน?”

ลู่เซิ่นโบกมืออย่างไม่แยแส“มันเป็นแค่หุ้นเล็กๆ น้อยๆ ส่วนแบ่งแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เอง”

เขาเกือบจะพูดออกไปว่าแค่เงินไม่กี่บาท

ถ้าถูกฉินซึ่งเทียนได้ยินเข้า เกรงว่าจะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายทันที

ฉินซีกลับยืนกราน“ฉันรับไว้ไม่ได้”

ลู่เซิ่นที่ไม่ค่อยมีความอดทน“งั้นคุณจะเอายังไง?ผมไม่มีความคิดเกี่ยวกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ถือแค่หุ้นเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ มันจะดีกว่าถ้าโอนให้คุณ”

“หุ้นนั้นไม่ใช่ว่าฉันเอาไม่ได้”ฉินซีก้มหน้าลงไปพลิกดูเอกสาร“แต่การเสนอราคาของคุณต่ำเกินไป พวกเราควรจะซื้อและขายในราคาตลาด”

ลู่เซิ่นยิ้ม“เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่า มีคนคิดว่าของมีราคาถูกเกินไป”

ฉินซีส่งเอกสารคืนให้เขา“คุณประเมินราคามา ฉันจะซื้อมัน”

ลู่เซิ่นหยิบเอกสารขึ้นมา ประเมินราคาด้วยสายตา แล้วเงยหน้าถามฉินซี“ถ้านี่เป็นการประเมินราคาที่ผ่านมาแล้วล่ะ?”

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้น“เป็นไปไม่ได้”

ลู่เซิ่นยกมุมปากของเขา“ถ้าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ยังให้ตาเฒ่าฉินซึ่งเทียนกุมอยู่ต่อไป นี่จะเป็นการประเมินราคาที่สมเหตุสมผลที่สุด”

ฉินซีจ้องมองเขาอย่างสงสัย

ราคาในสัญญาน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ของประมาณการปัจจุบันของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ลู่เซิ่นหมายถึง……

“บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ใช่โอกาสในการลงทุนที่ดี”เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของฉินซี ลู่เซิ่นก็พูดอีกว่า“แต่คุณมีความรู้สึกกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป และผมจะไม่ขัดขวางให้คุณกลับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ผมแค่จะเตือนคุณก็แค่นั้น”

ฉินซีลดสายตาลง และพูดเบาๆ ว่า“งั้นก็ขอบคุณคุณมากนะคะ”

ลู่เซิ่นตรงไปที่บริษัทลู่ซื่อ เมื่อฉินซีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก็ไม่กลับไปที่รีสอร์ทชิงหยวน แต่เลือกที่จะไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสมาชิก ของคณะกรรมการบริหารอยู่แล้ว แต่เธอไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เกรงว่าจะไม่เข้าใจลึกซึ้งมากเท่ากับลู่เซิ่น

นอกจากนี้ เธอก็อยากที่จะรู้คำเตือนของลู่เซิ่นที่ให้กับตัวเธอ เป็นความจริงไหม

สถานการณ์ทางธุรกิจ ในปัจจุบันของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป……มันเลวร้ายขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?

……

เมื่อวานเธอเพิ่งจะมาที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป และเมื่อก้าวเข้ามาในสถานที่เดียวกันในวันนี้

อาคารของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ถูกสร้างขึ้นในใจกลางเมือง หลายปีที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นอาคารที่โดดเด่น ภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาคารโดยรอบก็ได้รับการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป กลายเป็นหนึ่งในอาคารสำนักงานธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรเด่นชัด

ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเธอเองจะกลับมาถี่ขนาดนี้

ต่างจากเมื่อวาน ถ้าหากไม่มีผู้ถือหุ้นที่ครึกครื้น และผ่านเวลาการทำงานมา อาคารใหญ่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็ดูร้างไปเล็กน้อย

ฉินซีต้องการเข้าไปข้างใน แต่ก็กลับพบกับปัญหาหนึ่ง——

ตัวเองไม่สามารถเข้าไปได้

ที่ชั้นล่างของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป มีประตูทางเข้าอัตโนมัติ ที่มีชื่อของแต่ละคนอยู่ เมื่อวานเธอเข้าไปได้ในฐานะผู้ถือหุ้น วันนี้หากไม่มีบัตรผ่านแบบนั้น เธอก็ทำได้เพียงยืนจ้องมองอยู่ตรงนอกประตู

ดังนั้น……ควรจะเรียกให้ใครมาเปิดประตูอัตโนมัตินี้ให้นะ?

ฉินซึ่งเทียน?เขาจะช่วยเธอเปิดไหม?

เมื่อวานสร้างปัญหาจนกระดิกกระเดี้ยไม่ได้……เกรงว่าเขาจะไม่อยากเห็นหน้าของเธออีก?

จนในที่สุด พนักงานเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์ก็ทนไม่ไหว เข้ามาถามเธอว่า“ขอโทษนะคะ มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ?”

ฉินซีดึงความคิดของเธอออกมา และยิ้มให้กับแผนกประชาสัมพันธ์“ฉันมาหาประธานของพวกคุณค่ะ”

แผนกประชาสัมพันธ์ยังคิดไม่ออกว่าเธอคือใคร แล้วจึงถามคำถามตามปกติว่า“ขอโทษนะคะ คุณได้นัดไว้ไหมคะ?”

ฉินซีตกตะลึง แล้วส่ายหัว

แผนกประชาสัมพันธ์เพิ่งจะมาใหม่ ดูไม่คุ้นเคยกับฉินซี เธอก็ส่ายหัวโดยไม่ต้องคิด“ขอโทษด้วยนะคะ ถ้าหากไม่การนัด……”

“ฉินซี”

ทันใดนั้นก็มีคนเรียกชื่อของเธอจากทางด้านหลัง

ฉินซีตกใจไปชั่วขณะ หันหน้าไปมองคนที่เรียก

เป็นหซู่หนาน

ดูเหมือนเขาจะจำไม่ได้เลยว่า เมื่อวานนี้เขาถูกพบว่าได้ติดตามฉินซี แล้วยิ้มอย่างสุภาพและคุ้นเคย“ทำไมถึงมาได้ล่ะ?”

ฉินซีไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับเขาอีกแม้แต่น้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เนื่องจากฉันเป็นสมาชิกของคณะกรรมการ เข้ามาดูสถานการณ์ของบริษัท เป็นเรื่องแปลกไหม?”

หซู่หนานเลิกคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แล้วยื่นมือออกมา“งั้นก็เข้าไปกันเถอะ”

แผนกประชาสัมพันธ์ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง มองทั้งสองคนที่แลกเปลี่ยนประโยคคำพูดกัน ในที่สุดก็หาโอกาสที่จะพูดแทรกขึ้นมาได้ แล้วรีบพูดกับหซู่หนานว่า“ผู้จัดการหซู่คะ คุณผู้หญิงท่านนี้บอกว่าจะมาหาท่านประธานค่ะ แต่ไม่ได้นัด……”

หซู่หนานยังคงมีรอยยิ้มที่อ่อนโยน ปรากฏบนใบหน้าของเขา“เธอจะเป็นกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในอนาคต ฝ่ายบุคคลจะให้คีย์การ์ดกับเธอโดยเร็วที่สุด พวกคุณก็ควรทำความรู้จักกับเธอให้เร็วที่สุด”

เขาเป็นแบบนี้ในสายตาคนนอกมาโดยตลอด เป็นคนอ่อนโยน และมีความเป็นสุภาพบุรุษ

เมื่อก่อนฉินซีก็ชอบที่เขาเป็นแบบนี้

แต่ตอนนี้ใช้สายตาเย็นชามองไปที่เขาอีกครั้ง แต่กลับไม่รู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอีกต่อไป

แผนกประชาสัมพันธ์เอาแต่พยักหน้า และรูดบัตรผ่านประตูให้หซู่หนาน หซู่หนานผายมือ เพื่อแสดงให้ฉินซีเชิญเข้าไปก่อน ฉินซีก็ไม่ปฏิเสธ ตัวเธอเองก็เดินเข้าไปข้างใน

รอจนหซู่หนานก็เดินเข้ามา และกดลิฟต์ให้เธอ เธอถึงพบว่าหซู่หนานไม่มีเลขา และไม่มีผู้ช่วย

นี่เป็นเรื่องผิดปกติ แต่เธอไม่ต้องการถามเรื่องเกี่ยวกับหซู่หนานให้มากมาย ดังนั้นจึงไม่ได้พูด

ในทางตรงกันข้าม เป็นหซู่หนานที่อยากจะสนทนาด้วย

“ผมเพิ่งจะกลับมาจากตระกูลฉิน”

ฉินซีขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่เหลือร่องรอย สายตาก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวเช่นกัน

“เมื่อวานผมไปที่ตระกูลฉิน และขอเลิกกับฉินหว่าน”

น้ำเสียงของหซู่หนานดูสงบ ราวกับว่า เขามาแชร์ว่าอาหารเช้าเขาทานอะไรให้ฉินซีฟัง

ทันใดนั้นฉินซีก็หันกลับไป จ้องมองไปที่หซู่หนาน

เธอยังจำคำพูดที่เมื่อวาน หซู่หนานพูดกับเธอในรถได้ ถ้าหากคุณยังห่วงใย ตอนนี้ก็จะไปขอเลิกกับเขา

ในตอนนั้นหซู่หนานที่ดูประหม่า ฉินซีคิดว่าเขาจะเป็นเพียงแค่คนหุนหันพลันแล่น แต่ไม่คาดคิดว่า เขาจะลงมือทำมันจริงๆ…

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท