Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 884

ตอนที่ 884

บทที่ 884 นิสัยเผด็จการ

ฉินซีขมวดขึ้นอย่างช้าๆ ดูท่าแล้ว ทั้งบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป หวาดกลัวฉินซึ่งเทียนมาก

การกดขี่ข่มเหงในบริษัทแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

รวมกับเอกสารที่ตัวเองได้ดูที่หซู่หนานในเช้านี้……

คิ้วของฉินซีก็ขมวดมากขึ้นกว่าเดิม

ในตอนที่ผู้จัดการเอาคีย์การ์ดชั่วคราวมาให้ ก็เห็นท่าทีที่ฉินซีขมวดคิ้ว ในใจเกิดตกใจ

คุณหญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าคิดเรื่องอื่นออกอีกนะ?

ยังดีที่เขาเดินไปอย่างระมัดวัง หลังจากที่ยื่นของให้ฉินซี เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พยักหน้าเดินจากไป

ผู้จัดการค่อยโล่งอกสักที เมื่อเห็นฉินซีเดินออกไป ก็รีบโทรหาฉินซึ่งเทียน

……

ฉินซีรับคีย์การ์ดมา แล้วเดินดูไปอีกสองสามแผนก ผู้จัดการแต่ละคนรู้สึกลำบากใจต่อเธอ ในใจก็คงพอรู้บ้างแล้ว

เธอไม่ได้จะทำให้พวกเขาลำบากใจ เพราะยังไงเธอก็ได้ข่าวสารที่ตัวเองอยากรู้มาแล้ว ยังอยู่ต่อที่นี่คงไม่มีความหมาย ก็กะจะเดินออกจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

แต่เห็นได้ชัด มีคนไม่อยากให้เธอเดินจากไปแบบนี้

ตอนเช้าเธอนั่งรถของลู่เซิ่นมา ตอนนี้จะกลับไปคงจะต้องนั่งแท็กซี่ ในใจเธอยังคิดตลอดว่าตรงไหนสามารถขึ้นแท็กซี่ได้ พอกดปุ่มลงลิฟต์

ลิฟต์ก็ลงจากชั้นบน แต่พอเปิดออกตรงหน้าเธอ ในนั้นกลับไม่ได้ว่างเปล่า

คนที่ยืนอยู่ในนั้น มีบางคนที่ฉินซีเพิ่งเจอเมื่อกี้

ฉินซึ่งเทียน หลี่เหวยและหซู่หนาน

ฉินซียักคิ้ว แล้วเดินเข้าไป

ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลงฉินซึ่งเทียนก็ปริปากอย่างอดไม่ได้ “ฉินซี แกอย่าคิดว่าแกเป็นผู้อำนวยการถือหุ้นส่วนไว้ก็จะสามารถยกมือยกไม้ในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้! นี่แค่วันที่สอง แกก็รีบมาตรวจสอบบัญชีซะแล้ว ยังเอาคีย์การ์ดไปอีก แกหมายความว่าไง?”

ท่าทีของฉินซีดูเหมือนจะชิลล์กว่าฉินซึ่งเทียนเยอะ เธอเหลือบไปมองฉินซึ่งเทียนทีหนึ่ง พูดอย่างเฉยชาว่า “ฉันก็แค่ผ่านมาพอดี รวดแวะดูเท่านั้น คีย์การ์ดฉันควรมีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ก็แค่ตรวจสอบบัญชีเก่าๆเฉยๆ ท่านจะร้อนรนอะไรกัน? หรือว่า……บัญชีของท่านมีอะไรบางอย่างที่ไม่ควรดูเหรอ?”

ราวกับจี้โดนจุดอ่อนของฉินซึ่งเทียน น้ำเสียงก็ดังขึ้นมา “ฉินซี! ฉันเป็นพ่อแก! แกพูดกับพ่อแกแบบนี้เหรอ——”

เขายังพูดไม่จบ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก

ฉินซีไม่สนใจที่จะอยู่เพื่อฟังเสียงคำรามของเขา ว่าจะยกเท้าของเธอเพื่อเดินจากไป แต่หลี่เหวยที่ยืนอยู่ข้างประตูได้กดปุ่มปิดอย่างรวดเร็ว

ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลงต่อหน้าตัวเอง

ฉินซีกลอกตามองบน หันมาเผชิญหน้ากับฉินซึ่งเทียน

ฉินซึ่งเทียนอายุมากแล้ว ผมสีขาวตรงจอนเห็นได้ชัดเจน แต่เสียดายฉินซีไม่มีความเศร้าในใจ แค่แอบถอนหายใจในใจ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาอายุมากแล้ว จะทำเรื่องอะไรก็คงไม่เบลอแบบนี้

“ตอนนี้ฉันเป็นผู้ถือหุ้นส่วนของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป สิ่งที่ฉันทำในวันนี้ไม่ได้ผิดปกติต่อบริษัท อีกอย่าง ฉันก็แค่แวะมาดูเฉยๆ ท่านไม่จำเป็นต้องตื่นเต้น” ฉินซียิ้ม “ยังไงหลังจากนี้ก็จะเจอฉันที่บริษัทบ่อยๆอยู่แล้ว ถ้าจะตกใจแบบนี้ทุกครั้ง ฉันกลัวว่าหัวใจคุณจะรับไม่ไหว”

พูดเสร็จ ไม่รอให้ฉินซึ่งเทียนตอบสนองอะไร เธอก็หันเข้าหาหลี่เหวย “อีกอย่าง อย่าคิดว่าหลบๆซ่อนๆจะมีประโยชน์ พวกเธอทำอะไรไว้ สักวันฉันจะเปิดโปงมัน”

หลี่เหวยมองแววตาของเธอ ก็ตกใจ มือก็ปล่อยลงจากปุ่มของลิฟต์

ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดอย่างช้าๆ

ฉินซีไม่สนใจที่จะอยู่ต่อที่นี่และเปลืองน้ำลายกับพวกเขา ยกเท้าแล้วเดินออกไป

แม้กระทั่งสายตาที่เหลือบมองหซู่หนานก็ไม่มี แม้ว่าสายตาของคนหลังจะจับจ้องเธอตั้งแต่ต้นจนจบ

ฉินซึ่งเทียนอยากจะตามออกไป กลับถูกหลี่เหวยดึงไว้ก่อน

“ข้างนอกมีคนมองอยู่”

หลี่เหวยพูดเสียงเบา

ฉินซึ่งเทียนกวาดสายตามอง ตามที่พูด สายตาของพนักงานแผนกต้อนรับกำลังจับจ้องมาทางนี้

เขากลัวว่าฉินซีจะพูดอะไรมากกว่านี้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เขาเสียหน้า เลยหยุดความคิดที่จะตามออกไป

หลี่เหวยกดชั้น ประตูลิฟต์ก็ปิดลง

“หซู่หนาน นายพูดมาอย่างละเอียดเลยนะ วันนี้ฉินซีดูเอกสารอะไรไปบ้าง?”

ฉินซึ่งเทียนยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เลยหันไปถามหซู่หนาน

ราวกับว่าคำพูดของเขาจะดึงสติของหซู่หนานกลับมา เงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที แต่ก็ครุ่นคิดไปสักพักก่อนที่จะตอบ “เธอไม่มีสิทธิ์เข้าถึงฐานข้อมูล ผมก็ไม่ได้ให้เธอดูครับ เธอแค่เอาเอกสารที่วางบนโต๊ะผมขึ้นมาดู เป็นเพียงธุรกิจในประจำวันเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรสำคัญ”

ฉินซึ่งเทียนได้ยินนั้น ค่อยรู้สึกโล่งใจหน่อย

แต่หลี่เหวยยังคงขมวดคิ้วไว้

จากสัญชาตญาณของผู้หญิง เธอรู้สึกท่าทีแบบนั้นของฉินซี เหมือนเจอข่าวอะไรสำคัญเข้า

แต่ว่าเธอไม่มีหลักฐาน จึงไม่พูดอะไรมากระตุ้นฉินซึ่งเทียนอีก

ส่วนหซู่หนานนั้นแอบดีใจ หลี่เหวยรู้สึกระแวงที่ฉินซีมาแทรกแซงธุรกิจของบริษัท มากกว่าห่วงใยความรักของฉินหว่านและตัวเอง ดังนั้นเลยเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย จึงไม่ได้ถามหาว่าทำไมฉินซีถึงอยู่กับตัวเองสองต่อสองที่ห้องทำงาน ดูเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจอะไรขนาดนั้นด้วย

ทั้งสามคนต่างคิดคนละอย่าง

……

ฉินซีเดินออกจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป มองซ้ายมองขวา ไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนดี

แม้ว่าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะสร้างอยู่ในใจกลางเมือง แต่ถนนทางซ้ายและขวานั้นแคบ นั่งแท็กซี่ได้ยาก

ในขณะที่เธอกำลังจะเลือกไปฝั่งไหนฝั่งหนึ่ง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

คนที่โทรเข้ามา ลู่เซิ่น

ฉินซีรับโทรศัพท์อย่างประหลาดใจ “ฮัลโหล?”

น้ำเสียงของลู่เซิ่นยังคงเสียงทุ้มไพเราะ “ยังอยู่ที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป?”

ฉินซียิ่งสงสัย ตอนเช้าลู่เซิ่นอยากส่งเธอมา เขารู้ว่าตัวเองอยู่ที่บริษัทไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ยังโทรมาถามโดยเฉพาะ ก็ยิ่งแปลก“ฉันเพิ่งออกมา มีอะไรเหรอ?”

ลู่เซิ่นก็ไม่พูดมาก “มาที่นี่ ทานข้าวกลางวัน”

ไม่รอให้ฉินซีถามอะไร เขาก็วางโทรศัพท์ไปแล้ว

ฉินซีมองโทรศัพท์ หมดคำจะพูด

นิสัยเผด็จการของลู่เซิ่นแบบนี้เมื่อไหร่จะแก้ไขสักที?

แต่ว่า……บริษัทลู่ซื่อก็ไม่ได้ห่างไกลจากที่นี่มาก กินข้าวกันมื้อหนึ่งไม่แน่อาจไปส่งด้วย สะดวกกว่านั่งรถกลับไปเองเยอะ

คิดแบบนี้ ฉินซีก็เลยตกลงข้อเสนอแนะจากลู่เซิ่นอย่างจำใจ เดินไปทางบริษัทลู่ซื่อ

ยังเดินไม่ถึงประตู เธอก็เห็นหลินหยังที่ยืนรอมานาน

“ผู้ช่วยหลิน” เธอเดินไปสองสามชั้นเพื่อให้ปกติในงาน “ลู่เซิ่นล่ะ?”

หลินหยังยิ่งกับเธออย่างเกรงใจ “ประธานลู่เชิญคุณขึ้นไปครับ”

“ขึ้นไป?”ฉินซีอึ้งไปสักพัก “ไปทานข้าวไม่ใช่เหรอ? ขึ้นไปทำไม?”

หลินหยังส่ายหัว “ลู่เซิ่นบอกอย่างนั้นครับ ผมแค่ลงมารับคุณ”

ฉินซีขมวดคิ้ว “ฉันรอเขาที่นี่นะ”

เธอรู้ ในบริษัทลู่ซื่อหลินหยังก็เป็นเหมือนตัวแทนของลู่เซิ่น ถ้าตัวเองเข้าไปกับหลินหยังแบบนี้ คงจะดึงดูดสายตาไม่น้อย

ตอนนั้นที่แต่งงานกัน ทั้งสองก็ตกลงกันไว้ว่า ไม่เปิดเผยข่าวนี้ให้กับคนนอก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท