Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 878

ตอนที่ 878

บทที่ 878 ไม่อยากตื่น

ลู่เซิ่นหัวเราะเยาะ“อืม”

“ถ้าอย่างงั้น……แม่ของคุณให้เธอมาอยู่ข้างๆ คุณ ก็เพื่อมาคอยดูคุณ?”ฉินซีมองไปที่ลู่เซิ่น ด้วยความประหลาดใจ

ลู่เซิ่นไม่ผิดคาดอะไรเท่าไหร่ แต่มีความเหน็บแนมภายในรอยยิ้ม“มันยากที่จะจินตนาการใช่ไหมล่ะ และคาดไม่ถึงว่าเธอต้องการที่จะตามดูความคิดของผม?”

ฉินซีต้องการที่จะพยักหน้า แต่ก็ต้องหยุดลงกลางคัน

สูหยิงต้องการที่จะตามดูลู่เซิ่น อันที่จริงแล้ว……มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะเข้าใจ

เมื่อดูจากภูมิหลังการเติบโตของลู่เซิ่นแล้ว เขาเติบโตมาอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ มาโดยตลอด การเรียนดี นอกจากนี้เขายังรับช่วงต่อบริษัทลู่ซื่อ ตามความปรารถนาของครอบครัว และยังทำได้ดีอีกด้วย

ดังนั้นแม้แต่สูหยิง ผู้ที่มีอำนาจในการควบคุมคน ก็ค่อยๆ ปล่อยมือ ให้ลู่เซิ่นได้มีอิสระ

ตามแผนการของเธอแล้ว ลู่เซิ่นต้องได้แต่งานกับผู้หญิงที่เหมาะสม การแต่งงานทางธุรกิจที่มั่นคง ก็เพื่อพัฒนาบริษัทลู่ซื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น และยังทำให้ชีวิตของลู่เซิ่นดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

ด้วยวิธีการนี้ เธอถึงสามารถจะยอมปล่อยมือ และลู่เหวยก็จะถอนตัวออกจากการบริหารของบริษัทลู่ซื่อ แล้วไปใช้ชีวิตในวัยหลังเกษียณได้

อย่างไรก็ตาม ชีวิตของลู่เซิ่นที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปนั้น ก็ปรากฏฉินซีขึ้น อย่างไม่คาดคิดคาดฝัน

ฉินซีทำให้แผนการของสูหยิงเปลี่ยนไป และทำให้เธอรู้ว่าลูกชายของเธอ ไม่ได้มีชีวิตตามความคิดคิดของเธอ เธอจะทนต่อเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง?

ดังนั้นเธอจึงพยายาม ที่จะกลับไปในโลกของลู่เซิ่นใหม่อีกครั้ง เพื่อวางคนของตัวเองไว้ข้างๆ เขา ทำให้ชีวิตที่คลาดเคลื่อนของลู่เซิ่น กลับมาสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม

ลู่เซิ่นไม่ทันได้สังเกตเห็น ถึงปฏิกิริยาการลังเลของฉินซี และยังคงพูดกับตัวเองว่า“ไม่ว่าสูหวั่นจะคิดยังไง แม่ของผมก็แค่ใช้เธอ ถึงแม้ว่าแทบจะไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่นามสกุลของเธอคือสู แม่ของผมเป็นบ้าไปแล้ว ที่ให้ผมกับเธอต้องมาอยู่ด้วยกัน”

ฉินซีกระโดดออกมาจากความคิดของตัวเอง เมื่อได้ฟังคำพูดของลู่เซิ่น ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย“ถ้างั้น……ทำไมเธอต้องทำให้สูหวั่นแสดงออกว่าชอบคุณด้วยล่ะ?ถ้าหากว่าคุณสองคนอยู่ด้วยกันจริงๆ เธอจะทำยังไง?”

ลู่เซิ่นยิ้มอย่างเย็นชา“เธอมีความเชื่อมันในตัวของสูหวั่นมากพอ เธอเชื่อว่าตัวเองสามารถบีบบังคับสูหวั่นได้”

ฉินซีแค่พยักหน้า ไม่มีอะไรที่จะพูดอีก

ครั้งหนึ่งเธอเคยรู้สึกสงสารตัวเอง และไม่เคยคิดว่ายังจะมีคนแบบสูหวั่นด้วย

โชคชะตาทั้งหมดถูกคนอื่นบีบบังคับ มันจะรู้สึกยังไงนะ?

ลู่เซิ่นหันหน้ามามองเธอ“สรุปสั้นๆ ก็คือ แม่ของผมให้เธอมา เพื่อให้คนที่คอยเฝ้าดูอยู่ใกล้ตัวผม และถือโอกาสทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราด้วย ให้ผมกับคุณหย่ากันให้เร็วที่สุด เพื่อไปแต่งงานกับคนที่อยู่ในอุดมคติของเธอ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ก็ยังถือว่ามีกลอุบายที่ดี”

“น่าเสียดาย”ฉินซีพยายามอย่างมาก ที่จะกำจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านภายในใจของเธอ แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา“ฉันจะไม่ให้เธอสมปรารถนา”

“หืม?”ลู่เซิ่นยกริมฝีปากของเขาขึ้น“การแสดงออกของคุณในคืนวันนี้ ผมกลับมองไม่เห็นถึงความตั้งใจของคุณเลย”

ฉินซีย่นจมูก“ฉันไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำ”

ลู่เซิ่นขยับเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง“ถ้าอย่างงั้นตอนนี้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใช่ไหม?”

ฉินซีหลับตาลง

ช่วงเวลาที่ริมฝีปากสัมผัสกัน ความคิดแวบแรกในหัวของฉินซีคือ ริมฝีปากของลู่เซิ่นค่อนข้างแห้ง ถ้ารู้แต่แรกจะให้เอาแก้วนมที่สูหวั่นเอามาให้ ให้ทิ้งเอาไว้ที่นี่ก่อน

แต่ลู่เซิ่นก็รู้ได้ทันทีถึงความไม่มีสมาธิของเธอ จึงกัดริมฝีปากล่างของเธอเบาๆ เพื่อเป็นการลงโทษ

ฉินซีตกใจ ถึงเรียกสติกลับคืนมาได้

ทั้งสองคนคุยกันนานมากเป็นประวัติการณ์ พูดไม่ได้ว่ามีความคิดที่ตรงกัน แต่เป็นความรู้สึกที่ขุ่นเคืองมานานมาก ไม่ใช่ฝั่งไหนกำลังระบายความอัดอั้นใจออกมา

ดังนั้นทั้งสองคน จึงรู้สึกไร้ข้อกังขามากกว่าปกติเล็กน้อย

หลังจากจบลงไปหนึ่งครั้ง ลู่เซิ่นกอดเอวของฉินซีจากทางด้านหลัง แล้วกัดหูของเธอเบาๆ“มาต่ออีกครั้ง?”

เอวของฉินซีรู้สึกอ่อนแรง สติก็ฟุ้งซ่านเล็กน้อย

คาดไม่ถึงว่าเธอจะมีภาพลวงตา ว่าเธอได้รับความรัก

ฉินซียิ้มอย่างขมขื่นอยู่ภายในใจ ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะรู้สึกหวั่นไหวกับภาพลวงตานี้

ความอ่อนโยนที่หาได้ยากจากลู่เซิ่น ทุกครั้งจะเจอบนเตียงตลอด

บางทีเขาคนนี้เมื่อกอดกับคนอื่น ก็อาจจะอ่อนโยนเช่นกัน

เมื่อเห็นเธอไม่ตอบสักที ลู่เซิ่นไม่อดทนแล้ว พลิกตัวกดร่างเธอไว้ โดยไม่ต้องรอให้ได้รับอนุญาต ก็จูบลงไป

ฉินซีบังคับตัวเองให้เคลียร์เรื่องอื้อฉาวของลู่เซิ่น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่จู่ๆ ก็เข้ามาในหัวของเธอ ยื่นมือไปกอดหลังของลู่เซิ่น และตอบรับจูบของเขา

เมื่อไม่อยากตื่น ก็ไม่ต้องตื่นแล้ว

……

เมื่อคืนทั้งสองคนอาละวาดกันจนถึงเที่ยงคืน เป็นปกติในตอนเช้า เป็นไปไม่ได้ที่จะตื่นแต่เช้าไหว

แสงแดดส่งเข้ามาจากช่องว่างระหว่างผ้าม่าน และส่องไปที่คนทั้งสองคนที่กำลังกอดกัน และนอนหลับอยู่

สุดท้ายโทรศัพท์มือถือของลู่เซิ่นก็ดังขึ้น ถึงได้ปลุกทั้งสองคนขึ้นมา

“อืม คุณมารับผมที่ตระกูลลู่ก็ได้”ลู่เซิ่นสั่งกำชับปลายสายอีกสองสามประโยค จากนั้นก็วางสาย ลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้า

ฉินซีลืมตาขึ้นมาด้วยความงุนงง แต่สิ่งที่เห็นคือ หลังของลู่เซิ่นที่ได้สัดส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ

ลู่เซิ่นมีระเบียบวินัยในตัวเองมาโดยตลอด และไปออกกำลังกายที่โรงยิมเป็นประจำ ดังนั้นถึงแม้ว่าเมื่อตอนสวมเสื้อผ้า จะไม่สามารถมองเห็น แต่เมื่อถอดเสื้อผ้าออก กล้ามเนื้อด้านหลังมันชัดเจนมาก ด้านบนยังมีรอยแดงจางๆ อยู่ นั่นเป็นสิ่งที่เมื่อคืนวาน ฉินซีอดไม่ได้ที่จะข่วนเอาไว้

เห็นได้ชัดว่า เมื่อคืนพวกเขาสองคนได้ทำทุกอย่าง เมื่อฉินซีมองไปที่ร่องรอยพวกนั้น ก็รู้สึกร้อนที่แก้มทันที เมื่อรู้สึกว่าลู่เซิ่นจะหันหน้ากลับมา ก็รีบหลับตาลงอย่างรวดเร็ว

เธอแกล้งทำเป็นหลับไม่ค่อยเก่ง อาจจะถูกลู่เซิ่นมองผ่านๆ ก็ดูออกแล้ว ไม่อย่างนั้นลู่เซิ่นจะไม่แต่งตัวให้เสร็จ แล้วมายืนอยู่ข้างเตียง พูดช้าๆ ไม่รีบร้อนว่า“ตื่นแล้วก็รีบๆ ลุกสิ จะให้คนขับรถส่งคุณกลับระหว่างทาง หรือว่าคุณอยากอยู่ที่นี่อยู่กับแม่ของผม?เธออาจจะเหลืออาหารกลางวัน……”

ฉินซีลืมตาขึ้นในทันที“งั้นคุณรอฉันก่อน”

ลู่เซิ่นมองดูเธอรีบร้อนวิ่งขึ้นมาสวมเสื้อผ้า และเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป กล้ามเนื้อที่เจ็บจึงโค้งงอ มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกส่วนโค้งที่ไม่ชัดเจนออกมา

โชคดีที่ฉินซีไม่ได้เห็นมัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็น“ลมฉาวโฉ่กับฝนเลือด”ได้อีกครั้ง

ทั้งสองคนเก็บข้าวเก็บของ เมื่อเปิดประตูก็พบเข้ากับสูหวั่น ที่กำลังจะมาเคาะประตูเพื่อปลุกพวกเขา

สูหวั่นดูเหมือนจะลืมสิ่งที่ลู่เซิ่นพูดเมื่อคืน และยิ้มหวานให้เขา“พวกคุณตื่นแล้วเหรอคะ?คุณป้าให้ฉันมาตามพวกคุณไปทานอาหารค่ะ”

แต่ลู่เซิ่นกลับเก็บสีหน้าที่ดีเมื่อกี้ไว้ หันไปแสดงอีกสีหน้า เพื่อให้คนอื่นไม่สามารถรับรู้ได้ พยักหน้าอย่างเย็นชา แล้วดึงฉินซีลงไปชั้นล่าง

ฉินซีหันหน้ากลับไปมองทางเดิม ที่สูหวั่นยืนอยู่ แล้วหันหน้ากลับคิดราวกับคิดอะไรบางอย่าง

ในตอนแรกฉินซีคิดว่าแค่อาหารเช้า แล้วจะสามารถออกจากตระกูลลู่ได้ ไม่คิดว่าเมื่อเดินไปถึงห้องอาหาร กลับพบว่า มีคนนั่งอยู่ที่โต๊ะมากกว่าเมื่อคืนถึงสองคน

เธอมองอย่างระมัดระวัง

ผู้ชายกับผู้หญิงที่เพิ่มมา ทั้งคู่ยังดูอายุน้อยมาก ผู้หญิงดูเหมือนจะโตพอๆ กับสูหวั่น คิ้วของเธอค่อนข้างจะคล้ายกับลู่เซิ่น หรือว่านี่……จะเป็นน้องสาวของลู่เซิ่น ลู่โยวโยวเหรอ

และอีกอย่างหนึ่ง ที่มีอาการเอ้อระเหยลอยชายอยู่เล็กน้อย เธอกลับคิดว่ามันดูค้นๆ แต่กลับจำชื่อไม่ได้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท