Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 888

ตอนที่ 888

บทที่ 888 เดินก้าวหนึ่งนับก้าวหนึ่ง

ฉินซีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ไม่รู้จะตอบอะไรในชั่วครู่นั้น

ทำไมเธอไม่ถามคำถามนี้ก่อน ก็ตกลงกับเขาไปก่อนแล้ว!

การไปเห็นหซู่เป่ยไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอ ในแง่หนึ่งคือความสัมพันธ์ของเขากับหซู่หนานนั้นใกล้ชิดเกินไป เธอไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับหซู่เป่ยมากนัก อีกแง่หนึ่งคือ……ครั้งก่อนเรื่องที่เธอแอบถ่ายภาพ หซู่เป่ยทำให้เขาถูกข่มขู่รีดไถเพิ่งจะผ่านมาไม่ ถ้าทั้งสองมาเจอกัน อาจไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่

อานหยันก็ยุ่งมาก ติดต่อฉินซีโดยไม่คิดอะไรมาก หลังจากที่เธอพูดขึ้นมา ก็จำได้ว่า “เรื่องรีดไถครั้งก่อน……เขารู้ไหมว่าคุณเป็นคนยุยง?”

ฉินซีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครู่ ตอบอย่างไม่แน่ใจว่า “หซู่หนานรู้ว่าฉันเป็นคนถ่ายภาพ งั้นเขา……ก็คงจะรู้แหละมั้ง?”

ทางฝั่งอานหยันเงียบไป

ฉินซีพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เอางี้ เธอหาคนก่อน ถ้าหาช่างภาพคนอื่นได้ยิ่งดี ฉันจะไปที่นั่นด้วย ถ้าหาไม่ได้จริงๆละก็……ก็คงต้องลุย เดินก้าวหนึ่ง นับก้าวหนึ่งละกัน”

อานหยันไม่มีวิธีอื่นเหมือนกัน ก็เลยตกลง

ฉินซีวางโทรศัพท์ หันหน้ากลับมา ก็ถึงบริษัทลู่ซื่อแล้ว ลู่เซิ่นกลับนั่งอยู่ข้างๆไม่ลงรถ

“คุณจะไปถ่ายภาพให้หซู่เป่ย?” ลู่เซิ่นถามตรงๆ

ฉินซีรู้ว่าขานั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินชัดเจนหมดแล้ว หลบๆซ่อนๆกลับไม่มีความหมาย ก็เลยพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ทางอานหยันมีธุระด่วนนิดนึง ฉันจะไปช่วยเธอบ้าง”

สายตาของลู่เซิ่นหนักอึ้ง “คุณ……จะไปช่วยอานหยัน”

ฉินซีเอียงคอ ถามกลับ “ไม่งั้นล่ะ?”

ลู่เซิ่นไม่ตอบ เพียงแค่จ้องมองตาของเธอ ราวตอบจะขอคำตอบผ่านสายตาเธอว่ากำลังโกหกอยู่หรือเปล่า

ฉินซีก็ปล่องให้เขามองอย่างใจกว้าง

สุดท้ายลู่เซิ่นละสายตาจากเธอก่อน พูดน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณไปเถอะ”

พูดเสร็จ เขาก็เปิดประตูรถออกแล้วเดินจากรถ

ฉินซีไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้เขาโกรธอีกแล้ว ยักๆไหล่

อานหยันส่งที่อยู่มา เธอไม่ได้กลับไปเฝ้าลู่เซิ่นอีก เอามือถือออกมา ยื่นหน้าไปบอกกับคนขับรถ “รบกวนส่งฉันไปที่นี่หน่อยค่ะ”

คนขับรถไม่กล้าละเลยเธอ สตาร์ทรถออกทันที

ฟังเสียงเครื่องยนต์ที่ไปไกล สีหน้าของลู่เซิ่นยิ่งอยู่ยิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่

……

สตูดิโอถ่ายภาพอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง ฉินซีใช้เวลาไม่นานก็มาถึงแล้ว

เมื่อเธอลงจากรถเธอก็เห็นอานหยันที่รอเธออยู่ที่หน้าประตู

“กว่าเธอจะมา!” ทันทีที่อานหยันเห็นเธอ ก็วิ่งเข้าไปจับมือเธอ “ผู้จัดการของหซู่เป่ยจะบ้าอยู่แล้ว”

ฉินซีโบกมือ “ไม่แน่ดูรูปภาพที่ฉันถ่ายเสร็จ ผู้จัดการอาจโกรธมากกว่านั้น”

อานหยันตบที่ไหล่เธอ “ฉันเชื่อใจเธอ! ไม่เป็นแบบนั้นหรอก!”

ฉินซีถูกไล่เหมือนเป็ดให้ขึ้นคอนผลักเข้าไปในสตูดิโอ

ทุกคนในสตูดิโอเงยหน้าขึ้นมามองเธอพร้อมกัน

ตามที่อานหยันพูด ในสตูดิโออยู่ในสภาพชะงักงันทุกคน ทุกคนกระจัดกระจายเป็นสองสามกลุ่ม พวกเขาดูเหมือนไม่มีงาน เมื่อมีคนเข้ามา ทุกคนก็จะมองไป

ฉินซีจำใจต้องเดินเข้ามา

เธอไม่ได้มาที่สตูดิโอแบบนี้บ่อยนัก โชคดีที่เธอไม่ได้ขาดประสบการณ์ พอจะรู้ว่าอุปกรณ์พวกนั้นมีไว้เพื่ออะไร

อานหยันผลักเธอไปกลางสถานที่ และแนะนำเธอเสียงดัง “ฉันจะแนะนำคุณให้ทุกคนรู้จัก ช่างภาพที่ฉันเชิญมา ฉินซี เธอจะรับผิดชอบงานปกในครั้งนี้”

เสียงปรบมือดังมาจากทุกทิศทาง แต่สายตาของทุกคนกลับไม่ได้เป็นมิตร

ฉินซีเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ช่างภาพที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ แต่ในหมู่ช่างภาพที่ถ่ายภาพดารา กลับไม่มีชื่อนี้

ดังนั้นพวกเขารู้สึกสงสัยเล็กน้อย ก็เป็นปกติ

สีหน้าผู้จัดการของหซู่เป่ยยิ่งมืดมิดราวกับก้นหม้อ

ผู้จัดการนามสกุลเฉิน นิสัยไม่ค่อยดี ภายใต้ก็ได้นำพาหซู่เป่ยเซเลปดังคนนี้คนเดียว แน่นอนว่าต้องดูแลปกป้องเอาใจใส่เต็มตัว

เดิมทีหซู่เป่ยก็ถือว่าเป็นเซเลปดังคนหนึ่ง เรื่องที่ช่วยเหลือคนอื่นก่อนหน้านี้ได้ดึงดูดความรู้สึกดีมากมาย

ตามความดังของหซู่เป่ยแบบนี้ ไม่ใช่ช่างภาพที่ไหนก็จะสามารถมาถ่ายได้

เขาเดินขึ้นไปสองสามก้าว แล้วถามอานหยันโดยตรงว่า “ตอนเซ็นสัญญาช่างภาพที่พูดถึงไม่ใช่คนนี้! ที่ฉันตกลงถ่ายปกนี้เพราะเห็นแก่หน้าของช่างภาพในครั้งนี้เท่านั้น! คนนี้เธอไปหามาชั่วคราวจากไหน? ถ่ายเป็นจริงเหรอ?”

อานหยันได้แค่หัวเราะตาม “ผู้จัดการเฉิน ช่างภาพที่เซ็นสัญญาก่อนหน้านี้ผิดสัญญากะทันหัน ภายหลังดราจะตามเรื่องให้ แต่กว่าพวกฉันจะเชิญให้หซู่เป่ยมาถ่ายปกให้เรา สำหรับซีซั่นนี้เราไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้ด้วย พวกเราไม่มีทางหาคนมาแทนที่ได้ เรื่องที่ผิดสัญญาพวกเราคอยมาคุยกันทีหลัง ตอนนี้ให้ช่างภาพถ่ายรูปสักสองสามภาพ ถ้าคุณไม่พอใจจริงๆ ฉันค่อยหาคนอื่น ได้ไหม?”

อานหยันวางตัวได้ต่ำมาก ผู้จัดการเฉินปฏิเสธไม่ลง เพราะยังไงท้ายที่สุดเขายังคงต้องร่วมมือกับนิตยสาร ถ้าทำให้ความสัมพันธ์มันไม่ดี เขาทำได้เพียงทำเสียงดัง โบกมือ “เธอหานางแบบสักสองสามคนให้เธอถ่านดู แล้วฉันจะดูผลลัพธ์ก่อนที่จะตัดสิน”

อานหยันรีบขยิบตาให้ฉินซีที่อยู่ข้างๆ ให้เธอรีบไปเตรียมตัว

ฉินซีจนใจ เดินเข้าหาอุปกรณ์

โชคดีที่อานหยันเตรียมพร้อมได้ดี รู้ว่าเลนส์ของเธอไม่เหมาะสำหรับการถ่ายใบหน้าคน จึงเตรียมการเลนส์ถ่ายภาพบุคคลแบบมืออาชีพไว้ล่วงหน้า ฉินซีเดินไปที่ตำแหน่งของตัวเอง ลองถ่ายภาพดูเล่นสักภาพ พอปรับตัวเข้ากับกล้องได้ หันหน้าทำสัญลักษณ์มือให้อานหยันเพื่อแสดงว่าตัวเองพร้อมแล้ว

อานหยันผลักนางแบบที่อยู่ข้างตัวเองไปคนหนึ่ง ยืนกลางสตูดิโอ

ตอนนี้ฉินซียังไม่รู้ว่าธีมของปกครั้งนี้เป็นธีมอะไร แต่พอมองไปรอบๆ การจัดแต่งของการถ่ายนี้ดูเรียบง่าย ฉากสีขาว เก้าอี้สูงเรียบง่าย ในใจก็พอรู้บ้าง

ยิ่งฉากที่ดูเรียบง่ายมากเท่าไหร่ ช่างภาพก็จำเป็นต้องสำรวจเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนางแบบเองมากขึ้นเท่านั้น

เธอ……ไม่ถือว่ามีความมั่นใจ

แต่แม้ว่าในใจแอบกลัวๆเล็กน้อย เธอก็ทำได้เพียงเก็บความกลัวนี้ไว้ในใจ แสดงท่าทีที่นิ่งเข้าไว้ แล้วส่งสัญญาณบอกนางแบบ “เธอไปนั่งที่เก้าอี้ ทำท่าสบายๆหน่อย หันหน้ามามองกล้อง”

เธอไม่สามารถปล่อยไก่ได้ ถ้าหากเธอมีปัญหา อานหยันอาจหาช่างภาพไม่ได้อีกแล้ว ผู้จัดการเฉินคนนั้นดูอึดอัดไม่น่าเล่นด้วยขนาดนั้น คงไม่ยอมรออีกต่อไปแน่นอน งั้นปกครั้งนี้ของ หซู่เป่ยอาจจะถ่ายยากจริงๆ

นางแบบเป็นมืออาชีพ เธอทำตามคำแนะนำของฉินซีโพสต์ท่าเสร็จ ฉินซีปรับกล้องไปทีหนึ่ง แล้วถ่ายภาพชุดแรกออกมา

“โอเค ตอนนี้เธอเปลี่ยนอีกท่าหนึ่ง เธอ——”ฉินซีกำลังจะให้นางแบบเปลี่ยนท่าต่อ ข้างหลังกลับมีเสียงลอยมา

“ช่างภาพมาแล้ว……ทำไมไม่แจ้งให้ผมมาถ่าย?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท