Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 891

ตอนที่ 891

บทที่ 891 ไม่ตายใจ

ผู้จัดการ​พูดไปแค่ครึ่งทาง​ หันหน้าไปมองฉินซีที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบเก็บคำพูดกลับไปทันที มองหน้าหซู่เป่ยอย่างระมัดระวัง​ “พวกคุณ​สองคนอยู่ที่นี่ตามลำพังทำอะไรกันอ่ะ​”?

หซู่เป่ยยักไหล่​ “จะทำอะไรได้หล่ะ?”

คำพูดของเขาคำนี้พูดจนทำให้คนเข้าใจความหมาย​ผิดเพี้ยน​ไป สีหน้าของผู้จัดการเปลี่ยนไปทันที “หซู่เป่ย ปกติ​นายจะเล่นยังไง​ฉันไม่สน แต่ทำไมแม้แต่ตากล้อง​นายก็ยังไม่เว้น”

สายตาของผู้จัดการ​มองไปที่กล้องถ่ายรูป​ซึ่งอยู่​ใน​มือของฉินซี สีหน้ายิ่งดูแย่ไปใหญ่ “พวกนายคงไม่ได้ถ่ายรูป​อะไรอีกแล้ว​นะ? กล้องถ่ายรูป​เอามา ฉันขอดูสิ”

เดิมทีหซู่เป่ยแค่ล้อเล่น​กับ​ผู้จัดการ​เฉยๆ แต่ว่าเขาจะเอากล้อง​ถ่าย​รูป รูปภาพ​ที่​ฉินซีถ่ายเมื่อสักครู่ก็อาจจะ​ถูก​พบเห็น​สินะ

เห็นว่าเรื่องราว​ยุ่งยากและวุ่นวาย​ซะแล้ว เขาเก็บสายตาที่ไม่เอาถ่านเข้าไป กดไหล่ของผู้จัดการ​เอาไว้ “ได้โปรด​ เหล่าเฉิน เวลาแค่นี้ผมจะทำอะไรได้? ผมแค่ออกมา​สูบบุหรี่​และพบปะ​กับเธอพอดีก็แค่นั้น​เอง​ ผมรู้สึก​ว่าตากล้อง​คนนี้ถ่ายได้ดีมากเลยทีเดีย​ว อยากนัดเธอเพื่อร่วมงานกันครั้งหน้า ทำไมคุณ​ถึงคิดไม่ซื่อหล่ะฮ่ะ​”

เดิมทีฉินซีฟังคำพูดของผู้จัดการ​ ก็ตื่นเต้น​กับผลงานของตัวเองอยู่บ้าง แต่ว่ามองดูสีหน้า​ของ​หซู่เป่ยที่พูดจาเหลวไหล​อย่างสีหน้า​ไม่เปลี่ยนแปลง​เลยสักนิด​ สีหน้าก็เลยผ่อนคลาย​ขึ้น​มา​ พูดกับผู้จัดการ​ด้วยตนเองว่า “ใช่แล้ว ฉันออกมาสูดอากาศ​ พบปะ​กับ​คุณหซู่โดยบังเอิญ​และพูดว่าครั้งหน้า​มีโอกาส​สามารถ​ร่วมงานกันได้”

เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​ฉินซีและหซู่เป่ยต่างเปิดเผย​มาก สายตาของผู้จัดการ​ถึงแม้​จะมี​ความสงสัยอยู่​บ้างก็ตาม แต่ก็ไม่อยากถามอีกต่อไป ดึงกระชาก​หซู่เป่ย และลากเขาเข้าไป

ฉินซีตั้งใจสายสักพัก​แล้วค่อยเดินเข้าไปข้างใน​ หน้าจอมือถือ​สว่างแป๊บนึง​ ได้รับข้อความ​นึง

เธอเปิดออกมา​ดูปุ๊บ หซู่เป่ยเป็นคนส่งมาเอง “รูปถ่าย​คุณ​เก็บไว้เอง อย่าเผยแพร่ออกไปอีกนะครับ”

ฉินซียิ้มแย้ม​เล็กน้อย​ ตอบสีหน้าที่พยักหน้า​กลับไป

หซู่เป่ยแตกต่างจากหซู่หนานจริงๆ ตรงไปตรงมา​ แม้แต่ฉินซีอยู่​กับเขา ก็ยังรู้สึก​ผ่อนคลาย​มาก ไม่เหมือนตอนที่เธอคบกับลู่เซิ่นและตอนที่อยู่​ด้วยกัน​ ต้องเดาตลอดว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่……..

ฉินซีไม่รู้​ตัวว่าอารมณ์ความคิดของตัวเองกลับมาที่​ลู่เซิ่น ก้มหน้า​เดินไปที่กองถ่าย​ ยังถูก​อานหยันที่ปรากฏ​ตัวออกมา​อย่างกะทันหัน​ทำให้ตื่นตัว​อย่างตกใจ

“คุณ​ไม่เป็นไร​นะ​?” สีหน้าอานหยันเต็ม​ไปด้วยความเป็นห่วง​” ออกไปกับหซู่เป่ยตั้งนาน ฉันกลัวว่าคุณ​จะถูกหซู่เป่ยสั่งสอน”

ฉินซีหัวเราะ​ และรีบส่ายหน้า​ “ไม่เป็นไร​ หซู่เป่ยเป็นคนไม่เลวเลยทีเดียว​ เราคุย​กันถูกคอ”

อานหยันมองตั้งแต่หัวจรด​เท้า​ เห็นว่าเธอไม่มีอะไรแปลกๆก็เลยสบายใจ​ขึ้น​มา​

ฉินซีนึกถึง​กล้องถ่ายรูปที่อยู่​ในมือตัวเอง ผายมือให้กับอานหยัน “ฉันพกซิมส์​บันทึก​ข้อมูล​ไปได้ไหม? ”

อานหยันเชื่อใจฉินซีแน่นอน​อยู่แล้ว​ ผู้จัดการ​ของ​หซู่เป่ยได้เลือกรูปภาพ​ที่ใช้การได้เรียบร้อย​แล้ว​ รูปถ่ายที่เหลือก็ใช้การอะไรไม่ได้ เธอจึงพยักหน้า​และรับปากไป

แต่​ว่าเธอกำลังทำงานอยู่ ไม่มีเวลาคุย​กับฉินซี ทั้งสองคนคุยกันแค่ไม่กี่คำ เธอก็ถูกเรียกตัว​ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น​ฉินซียังไม่ทันได้พูดด้วยซ้ำว่า​เรื่องที่ตัวเองได้ถ่ายรูป​ให้กับหซู่เป่ย

ฉินซีมองดูอานหยันที่งานยุ่งเหยิง​ ไม่ไปรบกวน​เธออีก วางกล้องถ่ายรูป​ไว้ดีๆ หยิบซิมส์​บันทึก​ข้อมูล​ จึงเดินออกไปที่ข้างนอก

เดิมทีเธอคิดว่า​ตัวเองคงต้องเสียแรงโบกรถซะแล้ว คิดไม่ถึง​รถยนต์​ของลู่เจิ้นจอดอยู่ข้างนอก คนขับรถยนต์​ก็รออยู่ข้างๆ

“ทำไมนายยังอยู่?” ฉินซีแปลกใจ​เล็กน้อย

“ประธาน​ลู่สั่งไว้ครับ ให้รับท่านกลับไป” คนขับรถ​ก้มหน้า อย่าง​มีมารยาท​

ฉินซีคิดถึงตอนที่เจอ​กับ​สีหน้าที่เย็น​ชาของลู่เซิ่นที่เมื่อหลายชั่วโมงก่อน จึงขมวดคิ้ว​

ทางกลับที่รีสอร์ทชิงหยวนนับว่าไม่ใช่ใกล้ๆเลย ท้องฟ้า​ข้างนอก​ค่อยๆมืดมน​ ฉินซีเหนื่อย​มาทั้งวัน พิงอยู่ที่เบาะหลัง มีความเห่าง่วงเกิดขึ้น​มา​

ขณะที่​เธอเกือบจะหลับไปแล้วนั้น คนขับรถ​ที่เป็นคนเงียบๆมาโดยตลอด​ได้เอ่ยปากขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​ น้ำเสียงฟังขึ้น​ไปมีความตื่นตระหนก​เล็กน้อย​ “คุณ​นายครับ เหมือนมีคนกำลังตามหลังเราอยู่นะครับ”

ฉินซีลืมตาขึ้น​มา​ สมองยังคงเบลอๆ ตอบไปคำนึง “มีคนสะกดรอย​ตาม?”

คนขับรถ​นั่งตัวตรง​ ดูขึ้น​ไปตื่นตระหนก​เล็กน้อย “ท่านนั่งดีๆนะครับ ผมขอทดลองฝ่ายตรงข้ามดูซะ​หน่อย”

ฉินซีเพิ่งเอ่ยปากตอบไปว่า”ดี” รถยนต์​ก็ได้วิ่งไปเร็วๆอย่างกะทันหันแล้ว​ ปากซอยถัดไป​เลี้ยวเข้าไปเร็วๆ

ดีนะตอนที่ฉินซีขึ้น​รถไป​ได้คาดเข็มขัด​นิรภัย​ไว้เรียบร้อย​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​คงกระเด็น​ออกไปแล้ว

เธอตกใจตะโกน​ไปนึงครั้ง ความเห่าง่วงก็ได้กระเด็น​ออกไปแล้วเช่นกัน

คนขับรถ​พูดอย่างเสียงเบา “ขอโทษ​ด้วย​นะ​ครับ”

แต่ว่ามือทั้งคู่​ของเขายังคงจับพวงมาลัย​ไว้อย่างแน่นหนา​ จ้องกระจกหลัง​หลายวินาที น้ำเสียงเข้มขรึมขึ้น​มา “รถยนต์​คันนั้นยังตามเราอยู่นะครับ”

ฉินซีเวียนหัว​เหลือเกิน​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็มั่นใจ​เลยว่าถูกสะกดรอย​ตามแล้ว?”

คนขับรถยนต์​พยักหน้า​

ฉินซีกลุ้มใจ​ขึ้น​มา​ “สะบัดออกไปได้ไหม?”

คนขับรถยนต์​บ่นอยู่ในใจคนเดียว​ได้​สักพัก​ “ผมเต็มที่แล้วกันนะครับ” เขาเพิ่งพูดจบ วินาทีต่อไปก็เล็งโอกาส​ดีๆเลี้ยวไปทางซ้ายอย่างกะทันหัน​

ความเร็ว​รถยนต์​รวดเร็วอย่างมาก ล้อยางของรถยนต์​มีการเสียดสีจึงก่อให้เกิดเสียงที่แสบหูดังออกมา

ดีนะตอนที่ออกจากบ้านเมื่อคืนลู่เซิ่นได้เลือกรถยนต์​RANGE ROVER ไม่อย่างนั้น​รถยนต์​โดยทั่วไปไม่สามารถ​ทนทานขนาดนี้

ฉินซีถูกสะบัดไปมาจนเบลอๆ มันสมอง​เหลือ​สติแค่นิดเดียว​

สะกดรอย​ตาม?

ใครกันนะมาสะกดรอย​ตามตัวเองอย่างกะทันหัน?

สมองของเธอนึกถึง​เรื่องราว​เมื่อคืนที่ตัวเองเคยผ่านมา แล้วก็นึกถึง​คำพูดของหซู่หนานตอนที่ไปบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

หรือว่าหซู่หนานยังไม่ตายใจ ตามรังควานตัวเองอยู่ใช่มั้ยเนี่ยะ?

เธอนึกย้อน​กลับไป คนขับรถ​พบว่าตอนที่มีคนสะกดรอย​ตามอยู่นั้น สถานที่​พวกเขาขับรถผ่าน เหมือนจะเป็นสถานที่​ที่​พบปะ​กับหซู่หนาน

เธอก็เลยจับราวจับไว้ เอ่ยปากอย่างยากลำบาก “รถยนต์​ที่สะกดรอย​ตามคือรถยนต์​Volkwagenสีดำใช่รึเปล่า? ”

คนขับรถ​ตั้งหน้าตั้งตา​ขับรถ​ยนต์​ หาเวลาว่าง​มองไปที่กระจกหลัง พยักหน้า​ “ใช่แล้วครับ”

ไฟโกรธ​แค้นของฉินซีลุก​ขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​

เธอรู้สึกว่าตัวเองได้พูดคำพูดที่ควรจะ​พูดให้กับหซู่หนานไปอย่างชัดเจนแล้ว คิดไม่ถึง​หซู่หนานเป็นคนที่ดื้อรั้น​เช่นนี้

” จอดรถ” ฉินซีตะโกนออกมา

ในเมื่อเป็นหซู่หนานเอง ถ้าอย่างนั้น​หนีไปก็ไร้​ความหมาย​ ครั้งนี้เธอจะต้องทำให้​หซู่หนานตื่นขึ้นมาสักที​

คนขับรถ​อึ้ง “คุณ​นายครับ?”

ฉินซีหันหน้าไปดูข้างหลัง แต่ว่าฟ้ามืดมิด​ รถข้างหลังเปิดไฟสูง ทำให้เธอมองป้ายรถยนต์​ได้ไม่ชัดเจน

เธอสะดุดอย่างกระทัน​หัน​

Volkswagenสีดำ…….. ไม่ใช่รถยนต์​พิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น​มีอยู่เต็ม​ถนนใหญ่ด้วยซ้ำ​

ถ้าหาก​ไม่ใช่หซู่หนานหล่ะ?

เธอไม่พูดจาอีก คนขับรถ​ก็ตัดสินใจ​ไม่ได้ ขับรถช้าๆหันหน้าไปมองเธอ “คุณ​นายครับ?”

ระยะห่างระหว่าง​รถยนต์​ทั้งสองคันถือว่าไม่ไกลมากนัก เขาขับช้าๆ ทำให้ระยะห่าง​ของ​รถยนต์​คันหลังใกล้เข้ามาแล้ว

แต่ว่ารถยนต์​คันนั้นไม่มีท่าทีลดความเร็วลง​ เหมือนจะชนเข้ามาทีเดียว​

ระหว่าง​แสงไฟกระพริบ​ ฉินซีนึกถึง​คำถามนึงขึ้น​มา​อย่างกะทันหัน​

รถยนต์​ที่เธอนั่งอยู่ในตอนนี้​ไม่ใช่คันที่ตัวเองขับอยู่เป็น​ประจำ เป็นไปไม่ได้​ที่หซู่หนานเลือกสะกดรอย​ตามรถยนต์​คันนี้

——ถ้าอย่างนั้น​ก็หมายความ​ว่า​ รถยนต์​ที่สะกดรอย​ตามข้างหลัง ไม่ใช่หซู่หนาน

แผ่นหลังของเธอมีเหงื่อไหลออกมา​เล็กน้อย​ รีบสั่งการอย่างด่วน​ “เร็ว รีบขับเร็ว​ๆ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท