Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 892

ตอนที่ 892

บทที่ 892 คุณ​นายเกิดเรื่อง​แล้ว

คนขับรถเห็นว่ารถข้างหลังกำลังจะชนเข้ามาแล้ว รีบเหยียบคันเร่ง​ทันที

รถยนต์​Range rover ตะโกน​เสียงดัง​ ขับไปข้างหน้า​อย่างรวดเร็ว​

ระยะห่างระหว่าง​รถยนต์​ทั้งสองคันถูกเว้นวรรค​อย่างกว้างขวาง​อีกครั้ง

ฉินซีเหงื่อ​ท่วมตัว เธอบังคับ​ตัวเองให้ใจเย็น​ลงและคิดดูดีๆ

ถ้าหาก​เป็นหซู่หนาน กลับไม่มีความอันตราย​ จุดประสงค์​และคำขอร้องของหซู่หนานเธอรู้ดี และยังรู้ว่าเป็นไปไม่ได้​ที่หซู่หนานจะทำอะไรกับตัวเอง

แต่ว่าถ้าหาก​คนที่มาไม่ใช่หซู่หนาน……ถ้าอย่างนั้น​สถานการณ์​ก็ซับซ้อน​แล้ว

จะเป็นใครกันนะที่มาสะกดรอย​ตามตัวเอง?

รถคันนี้ปกติ​ลู่เซิ่นเป็นคนขับ หรือว่ามีคนต้องการจะหาเรื่องลู่เซิ่น​

คนข้างหลังมาในจุดประสงค์​ที่ไม่ชัดเจน​ แต่ว่าเซ้นส์ของฉินซีรู้​ว่า​คนตรงข้ามมาแบบไม่หวังดีแน่ๆ

สมองของฉินซีเต็ม​ไปด้วยความคิดหลากหลาย​ รบกวน​จนขมับ​ของเธอนั้นเจ็บปวดไปหมด

“คุณ​นายครับ รีบโทรหาประธาน​ลู่เร็ว​ๆครับ” คนขับรถ​เห็นว่าเธอไม่ขยับ​ตั้งนานสองนาน ทนไม่ไหวจึง​ต้องเอ่ยปากเร่ง”

ฉินซีก็เลยได้สติกลับมา รีบโทรศัพท์​ให้กับลู่เซิ่นทันที

ถึงแม้​ทั้งสองคนจากกันในเวลาตอนเที่ยงยังงอนๆกันอยู่ แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลางอนกัน โทรศัพท์​ไม่โทรไม่ได้​

ลู่เซิ่นกลับไม่ได้รับสาย​ทันที

มองดูเวลาที่หน้าจอผ่านไปวินาทีต่อวินาที ฉินซีเคาะมือถือ​อย่างใจร้อน แต่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ​ลู่เซิ่นกลับไม่รับสายเลย

น้ำเสียงของคนขับรถสั่นๆเล็กน้อย​ “ประธาน​ลู่รับสายหรือยังครับ?”

ฉินซีส่ายหน้า​ “ยังไม่รับสาย สถานการณ์​ข้าง​หลัง​เป็นยังไง?”

คนขับรถกัดฟัน “ยังพอทนได้สักพัก​ แต่ว่าคุณ​นายครับ ผมรู้สึกว่า……. จุดประสงค์​ของ​คนตรงข้าม​ไม่เพียงแค่สะกดรอยตามนะครับ”

ฉินซีกลุ้มใจ​

คนขับรถ​พูดจาอ้อมๆ เปลี่ยนคำพูดกลับมาก็คือ รถข้างหลัง ต้องการเอาชีวิต​คนที่อยู่​ในรถ​

ความจริง​เธอก็รู้สึ​กได้บ้างว่า คนตรงข้าม​ตามหลังมาอย่างไม่คิดชีวิต​แบบนี้ วิ่งตามอย่างไม่ยอมเลิกลา ดูยังไงก็ไม่ใช่แค่สะกดรอย​ธรรมดา​แค่นั้น

เธอเสียใจเล็ก​น้อย เมื่อสักครู่​ถ้าไม่ใช่ตัวเองคิดผิดไปและให้คนขับรถลดความเร็วลง ตอนนี้ก็ไม่ถึงขั้น​ถูก ตามติดอย่างใกล้ชิด​ขนาดนี้​

มือถือ​ของลู่เซิ่นเพราะว่า​ไม่มีคนรับสายจึงถูก​ตัดไปอย่างอัตโนมัติ​ ฉินซีจนหนทาง จึงได้แต่โทรไปหาหลินหยัง​

หลินหยังรับสายทันที “คุณ​นายลู่ครับ? ประธาน​ลู่กำลังคุย​เรื่องการเซ็นสัญญาอยู่​ครับ มีอะไรหรือครับ——”

“ผู้ช่วยหลิน” ฉินซีทำเสียงตัวเองให้ฟังแล้วนิ่งสงบ “เป็นอย่างนี้นะ ตอนนี้คนขับรถส่งฉันกลับไปที่รีสอร์ทชิงหยวน แต่ว่าระหว่าง​ทางเราถูกสะกดรอย​ตาม”

น้ำเสียงของหลินหยังสูงขึ้นมาเล็กน้อย “สะกดรอยตาม?”

ฉินซีหันหน้าไปดูรถยนต์​ข้างหลังที่ตามติดอย่างไม่ยอมเลิกรา​ น้ำเสียงเร็วมาก” ใช่แล้ว รถที่ตามหลังเราเป็นรถยนต์​Volkswagenสีดำ หลังจากค้นพบ​ว่า​เราได้พบแล้วว่าพวกเขาสะกดรอยตามจึงไม่ไปไหนเลย แต่กลับวิ่งตามมา ตอนนี้วิ่งตามมาติดๆแล้ว……….”

เธอยังจะพูดต่อ หลินหยังทางโน้น​กลับเปลี่​ยนคนรับสายแล้ว “ตอนนี้อยู่ตำแหน่งที่​ไหน”

เป็นเสียงของลู่เซิ่น

ฉินซีอึ้ง เธอตั้งสติดีๆ และหันหน้าสำรวจดูรอบๆ” เมื่อสักครู่​เราเพื่อสะบัดรถยนต์​คันนั้นออกไป เลี้ยวไปเลี้ยวมาตั้งหลายครั้ง​ ตอนนี้กำลังอยู่ที่——”

เหมือนเธอยังอยากพูดอะไรอีก กลับเห็นถนนทางซ้ายมีรถยนต์​คันนึงที่เสียหลักและเหมือนกำลังจะวิ่งชนเข้ามาในทิศทางของเธอ

ทุกอย่างเหมือนเปิดสโลโมชั่น​ รถยนต์​เปิดไฟไว้ ค่อยๆขับเข้ามาชนรถยนต์​ตัวเอง

คนขับรถ​หมุนพวงมาลัย​แรงๆ ต้องการหลบรถยนต์​คันนี้ แต่ว่าทางซ้ายเป็นที่ก้านแล้ว พวกเขาพยายาม​หลบแต่ไม่มีที่หลบ

นัยน์ตา​ของเธอหดลงอย่างเร่งด่วน​

สายทางโน้นจู่ๆก็​ไม่มีเสียงแล้ว ลู่เซิ่นไม่สบายใจ เขาไม่สนคนข้างๆมองอยู่ น้ำเสียงยกสูงขึ้นและตะโกนออกมา​หลายครั้ง “ฉินซี?ฉินซี?”

ส่วนที่ตอบกลับมาให้กับเขานั้น มีแต่หลายวินาทีผ่านไปมีเสียงชนกันที่ดังสนั่นออกมา​จากทางโน้น​

ตุ้ม​——

ทันทีนั้นสีหน้าของลู่เซิ่นเปลี่ยนไป​อย่าง​เย็นชาทันที

……

ฉินซีค่อยๆลืมตาขึ้น​มา​

การมองเห็น​ข้างหน้าขยายแล้วขยายอีก จากนั้นเปลี่ยนไป​จนกลายเป็น​กำแพงที่ขาวไปทั้งแผ่น

สมองของเธอเหมือนกำลังต้มโจ๊ก​ทั้งหม้อที่มีเสียงผลุผลุ สติยังคงอยู่​ที่​วินาที​สุดท้าย​ซึ่ง​หลับตาลง

เธอกำลังโทรศัพท์​ให้กับลู่เซิ่น มีรถยนต์​คันนึงขับวิ่งชนเข้ามาในแนวขวาง ต่อมาหมุนตลบตะแลง​ ตรงหน้าของเธอมืดสนิท และสลบไปเลย

ตื่นมาจากความทรงจํา​ ฉินซีใช้เวลาตั้งหลายวินาทีถึงได้สติกลับมาว่าตัวเองได้มาถึงที่โรงพยาบาลเรียบร้อย​แล้ว​

“ที่รัก คุณ​ตื่นแล้ว” เสียงที่ตื่นเต้นของอานหยันดังออกมา ฉินซีอยากหันหน้าไป แต่ถูก​กดไว้

ฉินซีเอ่ยปาก พบว่าตัวเองยังสามารถ​พูดจา แค่เสียงแหบนิดหน่อย​ “ฉันสลบไปนานเท่าไหร่​แล้ว?”

อานหยันยังไม่ได้พูดจา เสียง​ต่ำเสียงนึงก็ได้ดังผ่านมา

“ไม่นาน หลายชั่วโมง”

ฉินซีค่อยๆลืมตาทั้งคู่ขึ้น​มา​

คือลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นหันไปสั่งหลินหยังให้ไปตามหมอมา ตัวเองเดินไปที่ข้างเตียงฉินซี

สีหน้าอานหยันมีความกังวล​ “คุณ​รู้สึก​ไม่สบาย​ตรงไหน​รึเปล่า?”

ฉินซีส่ายหน้า​เบาๆ” ไม่เป็นไร แค่เวียนหัว​นิดหน่อย”

สีหน้าอานหยันเต็ม​ไปด้วยการโทษ​ตัวเอง​” ฉันเองแท้ๆ ถ้าหาก​ฉันไม่เรียกคุณ​ไปถ่ายรูป​ ก็จะไม่เกิดเรื่อง​แบบนี้ขึ้น​มา……..”

ฉินซีตบมือของเธอ “ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​คุณ​แน่นอน”

คุณ​หมอผลักประตู​เข้ามาอย่างเร่งรีบ​ ถามฉินซีไปหลายคำถาม ตรวจเช็ก​แบบง่ายๆ แล้วก็หันหน้าไปพูดกับลู่เซิ่น​ “ผู้ป่วย​ไม่เป็นอะไรมากนัก​ แต่ว่าต้องพักผ่อน​ให้มากๆ พักผ่อน​นอนอยู่บนเตียงหลายวันค่อยกลับมาตรวจเช็ก​อีกครั้ง”

ลู่เซิ่นพยักหน้า​ และส่งหมอออกไปพร้อมกับหลินหยัง

…………

สามคนยืนอยู่ตรงหน้าห้องผู้ป่วย​ คุณ​หมอเอาผลการตรวจยื่นให้กับลู่เซิ่น “ตรวจเช็ก​เรียบร้อย​แล้ว​ ร่างกาย​คุณ​นายไม่มีปัญหา​ครับ​ แค่สมองถูกกระทบกระเทือน​เล็กน้อย นอนพักผ่อน​บนเตียงประมาณ​หนึ่งอาทิตย์​น่าจะ​ไม่มีปัญหา​อะไร​แล้วครับ”

ลู่เซิ่นพยักหน้า​

หลินหยังเอ่ยปาก​พูดว่า​ “รบกวน​คุณหมอ​แล้ว ผมขอส่งท่านเอง”

คุณ​หมอผายมือปฏิเสธ​ให้เขา เดินไปเอง

หลินหยังหันหน้าไปดู​ลู่เซิ่นที่ยืนอยู่ที่เดิม ไฟที่ระเบียงทางเดินไม่ค่อยสว่างมากนัก​ ใบหน้าของลู่เจิ้นก็เลยถูกครอบคลุม​อยู่​ในเงา ทำให้แลดูเศร้า​หมอง​

เขายังจำเหตุการณ์​หลายชั่วโมง​ก่อนได้ดี

ลูกค้าสำคัญคนนึงของบริษัทลู่ซื่อมาเยี่ยมเยียน​ ฝ่ายตรงข้าม​ซื้อสินค้า​ของบริษัทลู่ซื่อนับหลายร้อยล้านบาท แต่ว่าการค้าขาย​ของพวกเขาต่างสถานะซึ่งกันและกัน​ ยังมีความยุ่งยาก​ซับซ้อน​มาโดยตลอด​ของพวกเขา จึงถึงกับมาเยี่ยมเยียน​ทุกครั้ง ก็ล้วนต้องเป็นลู่เซิ่นเข้ามาต้อนรับด้วยตัวเอง

ทั้งสองฝ่ายนั่งอยู่ในห้องประชุม​ ปรึกษาหารือ​เรื่องรายละเอียด​ของสัญญา​ใหม่​ ตอนที่ลู่เซิ่นอยู่​ในเวลาที่ต้องการ​สติเช่นนี้ ก็จะเอามือถือ​ไว้ที่เขา หลีกเลี่ยง​คนนอกรบกวน​

เวลานี้​เช่นเดียวกัน​ สายของฉินซีโทรเข้ามา

หลินหยังไม่มีสิทธิ์​รับสายส่วนตัวของลู่เซิ่น แต่ว่าการประชุม​ข้างในสำคัญมาก เขาก็ไม่กล้ารบกวน​สุ่มสี่สุ่มห้า​

เพราะฉะนั้น​เขาจึงลังเล​ได้สักพัก​ว่าจะเคาะประตู และ​เข้าไปให้ลู่เซิ่นรับสายรึเปล่า​ ระหว่างเขากำลังลังเล​ มือถือ​ก็วางสายไปโดยอัตโนมัติ​

หลังจาก​หลายวินาที มือถือ​ของหลินหยังเองได้ดังขึ้น​มา​

ผู้ที่โทร​มายังเป็นฉินซีต่างหาก​

หลินหยังขมวดคิ้ว​ รู้สึก​ด้วยความสามารถ​ของตัวเองเหมือนเกิดเรื่อง​วุ่นวาย​ขึ้น​มา​ซะแล้ว เขารับสายไปด้วย และเคาะประตู​ห้องประชุม​ไปด้วย

น้ำเสียงของฉินซีใจร้อนจริงๆด้วย​ พูดอย่างเร่งรีบว่าเธอถูกสะกดรอย​ตามแล้ว

เขาก็เลยไม่รอให้คนในห้องประชุม​พูดคำว่าเชิญ​เข้ามา ก็ได้ผลักประตู​โดยพลการอย่างตื่นตระหนกแล้ว​

คนทั้งหมดในห้องประชุมต่างจับจ้องเขาอยู่​ แต่ว่าเขาก็ไม่มีเวลาใส่ใจ​แล้ว แค่วิ่งอย่างช้าๆและเอามือถือ​ส่งไปให้กับลู่เซิ่น

“คุณ​นายเกิดเรื่อง​แล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท