Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 896

ตอนที่ 896

บทที่ 896 เป็นโอกาส​ดีๆที่จะเข้าไปจู่โจม​ในยามที่อ่อนแอ​

ลู่เซิ่นนั่งลงไปที่ข้างเตียงฉินซี

“ผมสืบหาเบาะแสได้​บ้างแล้ว คนที่สะกดรอยตามเมื่อวาน น่าจะเป็นคนของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป”

ต่อให้​ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า​แล้วก็ตาม สีหน้าฉินซีก็ยังเปลี่ยนไป​เพราะคำพูดคำนี้

เป็นพวกเขาจริงๆด้วย……..

เธอฝืนทนอารมณ์​ต่างๆที่โผล่ขึ้น​มา​จากใจ พูดเสียงต่ำว่า “เป็นฉินซึ่งเทียนใช่มั้ย? ”

เหนือความคาดหมาย​ ลู่เซิ่นกลับส่ายหน้า ​”ดูจากหลักฐาน​ในตอนนี้ ฉินซึ่งเทียน ไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรง”

คำพูดของเขาพูดได้อย่างอ้อมค้อม​มาก แต่ว่าฉินซีกลับไม่ได้โล่งใจเพราะเหตุนี้​

เธอรู้ความหมาย​ของลู่เซิ่นดี

ภายในบริษัท​ตอนนี้ฉินซึ่งเทียนเป็นคนครองอำนาจด้วยตัวเองทั้งหมด คุณ​ป้าคุณ​ลุงเธอไม่ค่อยมีตัวตนสักเท่าไหร่​ในตลอดเวลาที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น​พึ่งแต่เพียงพวกเขาเองที่คิดจะแก่งแย่งชิงดีไม่ได้อยู่แล้ว แต่ว่าพวกเขากลับกล้าก่อเหตุ​ที่รุนแรงเช่นนี้ ไม่แน่อาจได้รับการชี้แนะ​จากใคร

ฉินซึ่งเทียนได้ไม่เข้าร่วมโดยตรง แต่ว่านั่นไม่ได้หมายความ​ว่า​เขาจะไม่สามารถ​เป็นผู้บงการ​อยู่​เบื้องหลัง​

คนที่สามารถ​วางแผนฆ่าภรรยา​ที่แต่งงานกับตัวเอง และหลอกใช้มือของคนอื่นมาบีบบังคับ​และทำร้ายลูกสาวตัวเอง ก็ไม่ได้ถือว่าเหนือความคาดหมาย​

ฉินซีคิดว่าตัวเองได้ตายใจจากฉินซึ่งเทียนอย่างสนิทใจแล้ว คิดไม่ถึงได้รู้ความจริง ยังรู้สึก​เจ็บปวด​ใจ

ลู่เซิ่นเห็นว่าเธอก้มหน้าเงียบๆไม่พูดจา รู้​ว่า​ตอนนี้เธอไม่สบายใจ​ แต่ว่าเขาปลอบใจ​คนไม่เป็น พูดแค่ว่า “คนของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ฉลาด ถึงแม้จำได้ว่าต้องปิดป้ายทะเบียนรถยนต์​ของVolkswagen แต่ว่าคนขับรถ​กลับเป็นคนของพวกเขาเอง”

“ตามถนนที่ขับเคลื่อน​ ผมสืบหาโกดังร้างที่พวกเขาเหมาในตอนนั้น ณ เวลานั้นคาดว่าต้องการให้คุณ​ลงจากรถยนต์​ พาคุณ​ไป​ เช่นแบล็ค​เมล์​และลักพาตัวคุณ​ไปไม่ได้​คิดว่าจะจู่โจม​คุณ​บนถนนโดยตรง”

ความสงสัย​ของฉินซียิ่งเพิ่มมากขึ้น​” ถ้างั้น…… อุบัติเหตุ​ครั้งนี้มันยังไงกันแน่? ”

ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว ​”รถยนต์​คันนั้นชนเข้ามาในแนวขวางล้อยางระเบิด​แล้ว คนขับรถ​บังคับ​รถไม่อยู่​ เพราะฉะนั้น​จึงชนเข้ามา รถยนต์​ข้างหลังก็วิ่งตามมาใกล้ชิด​เกินไป​ เบรกไม่ทัน ถึงได้ชนเข้ามานี่ไง”

ฉินซีฟังจบ ก็พูดอะไรไม่ออกในทันที

เธอก็ไม่รู้​ว่า​ตัวเองโชคดีหรือโชคร้าย

ไม่มีอุบัติเหตุ​ครั้งนี้ เธออาจจะถูกรถข้างหลังตามมาทัน และลักพาตัว​เธอไปในโกดัง หรืออาจจะสะบัดรถคันหลังออกไป ถอยออกไปเพื่อความปลอดภัย​ เพียงแต่ว่า​ความอันตราย​ที่แฝงอยู่อาจ​อยู่ตลอดไป​

แต่ว่าอุบัติเหตุ​รถยนต์​เกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย​ เธอได้รับบาดเจ็บ​เล็กน้อย​ แต่ก็ได้รับโอกาส​ที่จะตามหาผู้ร้ายตัวจริง

ลู่เซิ่นเห็นว่าฉินซีก้มหน้าอย่างเงียบๆอยู่​ตลอดเวลาและไม่พูดไม่จา​ คิดว่าเธอถูก​ความจริงจู่โจม​ซะแล้ว

ไม่มีใครได้ยินว่าถูก​ญาติพี่น้อง​เห็นตัวเองเป็นศัตรู ยิ่งไปกว่านั้น​ยังคิดจะแบล็ค​เมล์​และลักพาตัว​ สามารถ​นิ่งเฉย​โดยไม่สะทกสะท้าน

เธอไม่ยอมพูดกับลู่เซิ่นอย่างชัดเจน​ ก็เพราะเหตุนี้​

ตอนนี้ฉินซียังป่วยอยู่ เขาเป็นห่วงฉินซีจะถูกกระทบต่ออารมณ์​และจิตใจของเธอเพราะเรื่อง​แบบ​นี้​

เพียงแต่ว่าลู่เซิ่นยังกำลังคิดอยู่ว่าต้องทำยังไง​ถึงสามารถ​ปลอบใจ​เธอได้ ฉินซีกลับเอ่ยปากขึ้น​มาด้วยตัว​เอง

“ข้อเสนอที่คุณพูดขึ้น​มา​เมื่อวาน ฉันได้คิดออกแล้ว”

ลู่เซิ่นนิ่งไปสักพัก​ ถึงนึกขึ้น​ได้​ว่าข้อเสนอ​ของฉินซีที่ว่าคืออะไร​

เมื่อวานเขาบอกกับฉินซี อยากแก้แค้นฉินซึ่งเทียน นอกจากจะรับผิดชอบ​ในหน้าที่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว ยังสามารถ​ทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้อีกด้วย

ฉินซีของเมื่อวานยังลังเล​ ไม่สามารถ​ลงมืออย่างโหดเหี้ยม​

ถ้างั้นเขาในวันนี้หล่ะ?

เกือบเสียชีวิต​ ฉินซีจะเลือกทำอะไร?

ฉินซีไม่มองเขา แต่กลับมองไปบนกำแพง

“ให้ฉันทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปด้วยมือตัวเอง ฉันยังทำไม่ได้”

เสียงของฉินซีถึงแม้​ไม่ดังมาก แต่ว่าหนักแน่น​มาก

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเป็นความตั้งใจ​ของคุณ​ปู่ของเธอ ถึงแม้​ตกอยู่ในมือ​ของฉินซึ่งเทียน และถึงแม้​ผ่านอุปสรรค​มาตั้งมากมาย​ แต่ว่าเธอก็ยังไม่สามารถ​เป็นคนร้ายคนนี้

ลู่เซิ่นยักคิ้ว

เดิมทีเขาคิดว่า​นิสัยที่ใจดีของฉินซีเช่นนี้ ถูกคนรังแก​จนเหยียบถึงหัว ยังสามารถ​อดกลั้น​อดทนเอาไว้

แต่ว่า ฉินซีพูดต่ออีกว่า​ “ถ้าหาก​มีคนจะทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉันจะไม่ช่วยมันอีกแล้ว”

ลู่เซิ่นอึ้งไปหนึ่งวินาที ใต้ตาเผยรอยยิ้ม​ออกมา

นี่ถึงจะเป็นฉินซีที่เขารู้จัก

ตามสถานการณ์​ที่บริหารบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในตอนนี้ มากสุดก็แค่คงความเจริญรุ่งเรืองได้แค่ผิวเผิน​เท่านั้น เกิดเหตุ​การณ์​ที่​คาดไม่ถึง​เมื่อไหร่ อาจจะนำพาเงินคงคลัง​ ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและถูกจู่โจม​อย่างพังทลาย​

ในเมื่อฉินซีพูดว่า​ไม่ช่วย นั่นก็หมายความ​ว่า​ถ้าหากอันตราย​แบบนี้เกิดขึ้น​ เธอเลือกที่จะนิ่งดูดายกับความอันตรายนั้น

“อีกอย่าง” ฉินซีหันหน้าไปดูลู่เซิ่น “ถ้าหาก​คุณ​มีความคิดเห็น​ใดๆต่อบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป คุณ​ไม่ต้องสนใจความรู้สึก​ของ​ฉันหรอก”

มุมปากลู่เซิ่นมีรอยยิ้ม​ออกมา​เล็ก​น้อย​

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในตอนนี้ก็ใช่ว่าจะทนต่อการจู่โจม​ไม่ได้แม้แต่น้อย​ แต่ก็ทนกับพายุหนักๆและลมแรงๆไม่ได้จริงๆแหละ นี่เป็นโอกาสดี​ๆที่จะเข้าไปจู่โจม​ในยามที่อ่อนแอ​

ลู่เซิ่นในอดีต​ไม่ทำแบบนี้ แต่ว่าเห็นแก่หน้าฉินซี แต่ว่าตอนนี้ ในเมื่อ​ฉินซีพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่มีอะไรต้องกังวล​แล้ว

ในที่สุดลู่เซิ่นก็เข้าใจแล้ว ฉินซีตายใจโดยสิ้นเชิง​แล้ว

ตอนที่ปล่อยวางลงไป​จริงๆ ไม่ใช่แค่กัดฟันและตะโกน​ดังๆไปว่า “ฉันยังจะกลับมา” แต่ว่ามองดูเรือลำใหญ่​ลำนึงล่มจม​อย่างพังทลาย​ กลับนิ่งดูดายไม่ขยับตัว​แม้แต่​นิดเดียว​

เขาไม่รู้​ว่า​อุบัติเหตุ​ครั้งนี้นำพาการเจริญเติบโต​มาให้กับฉินซีรึเปล่า​ แค่ว่าหน้าตาท่าทางของฉินซีแบบนี้ เหมือนเป็นเสน่ห์​อีกอย่างนึง

จู่ๆฉินซีมีความสงสัย​ “คุณ​ไม่​ไปทำงานหรือ?”

ถือว่าได้ตอบข้อสงสัย​ของเธอไปแล้ว หลินหยังเคาะประตู​เข้ามาแล้ว หลังจาก​พยักหน้า​แสดงการทักทาย​จึงเดินไปข้างๆลู่เซิ่น “ประธาน​ลู่ รถยนต์​อยู่ข้างล่างแล้ว”

ลู่เซิ่นตามเขาเดินออกไป

ในห้องผู้ป่วย​เงียบสงบอีกครั้ง

ฉินซีวางเตียงให้ราบเรียบ​ เงยหน้าขึ้น​มา​มองเพดาน​หลังจาก​หลายนาที น้ำตาก็ไหลลงมาจากหางตาอย่างคดเคี้ยว​ไปมา จมลงไปในเส้นผมเร็วมาก

ทำไมเธอจะไม่เสียใจหล่ะ? นั่นคือพ่อของเธอนะ คนที่เธอเรียกพ่อมาตั้งยี่สิบกว่าปี อยากลงมือกับเธอ

ในใจฉินซีก็ใช่ว่าจะไม่คาดหวังเลยสักนิด​ ถ้าหาก​เรื่องนี้เป็นคุณ​ป้าและคุณ​ลุงของเธอทำทั้งหมด​ และถ้าหาก​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับฉินซึ่งเทียนหล่ะ?

แต่ว่าในใจเธอมีเสียงนึง ยืนยันหนักแน่นการเป็นไปได้แบบนี้

ไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยว​ข้องเลย​แม้แต่​นิดเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกี่ยว​ข้อง​เลยสักนิด​

หายใจเข้าลึกๆ เธอเช็ดคราบน้ำตาที่หางตาออกไป ในเมื่อฉินซึ่งเทียนใจร้ายใจดำ ถ้าอย่างนั้น​เธอก็จะได้ไม่ต้องมีการเพ้อฝัน​ในเส้นฟางสุดท้าย​แล้ว

ประตู​ห้องผู้ป่วย​ถูกเคาะจนเกิดเสียงดัง

ฉินซีมีความสงสัย​เล็ก​น้อย เวลานี้จะเป็นใคร?

ไม่รอให้เธอตอบกลับ​ ประตู​ก็ถูกผลักออกมา​แล้ว

เป็นอานหยัน

สีหน้า​ท่าทางของ อานหยันดูขึ้นไป​ไม่ค่อยดีนัก เห็นฉินซี ก็แค่ยิ้มแย้ม​มุมปากออกมา​นิดๆ “คุณ​ตื่นแล้วเหรอ? เมื่อคืนนอนพักผ่อน​สบายดี​รึเปล่า? วันนี้รู้สึก​เป็นยังไง?”

ฉินซีไม่พูดจาเกรงใจกับเธอ ถามไปอย่างตรงไปตรงมา​ “คุณ​สืบหาอะไรได้บ้างแล้วใช่มั้ย?”

อานหยันจ้องหน้า​เธอสักพัก ค่อยๆพยักหน้า​

ฉินซีเห็นหน้าตาท่าทางที่คอยระมัดระวัง​ของเธอ แบะปาก “คุณ​พูดตรงๆเลยแล้วกัน เมื่อเช้าลู่เซิ่นได้พูดกับฉันคร่าวๆบ้างแล้ว”

อานหยันตกใจเล็กน้อย “ลู่เซิ่นเขาก็สืบหาพบแล้ว?”

ฉินซีพยักหน้า​ “น่าจะเป็นเมื่อคืนก็ได้เบาะแส​มาบ้างแล้ว แต่ว่า​เมื่อเช้าเพิ่งบอกกับฉัน”

อานหยันเหมือนคิดอะไรอยู่ “ฉันใช้รายงานข่าวสารในอินเทอร์เน็ต​ถึงได้รับข่าวสาร ลู่เซิ่นเก่งกาจ​จริงๆ…………. ”

ฉินซีดึง​ชายเสื้อของเธอ “เพราะฉะนั้น​เธอสืบหาอะไรได้บ้าง รีบบอกฉัน”

อานหยันก็ไม่มีอะไรต้องห่วงหน้าพะวงหลัง​ เอาสิ่งที่สืบหาได้​พูดออกมา​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​

สิ่งที่เธอสืบหาได้ไม่มีอะไรแตกต่าง​ แค่รายละเอียด​เยอะ​กว่า​ลู่เซิ่นนิดหน่อย​

อย่างเช่นว่า………..

คุณ​ป้าและคุณ​ลุงของเธอ หลังจาก​หลี่เหวยเข้าไปพักที่บ้านตระกูล​ฉิน เข้าๆออกๆสถานที่​พบปะ​สังคม​กับเธออยู่​บ่อยๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท