Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 901

ตอนที่ 901

บทที่ 901 ต้องได้รับผลกรรม

คุณหญิงฉินยังไม่ได้พูดอะไร แต่ฉินซีก็เหมือนจะได้ยินเสียงฟ้าร้องในรูหู ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ

“จับชู้เหรอ”

เธอพึมพำซ้ำแล้วซ้ำอีก ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองแม่ของตัวเอง

เหยาหมิ่นเงียบ ยืนอยู่กลางสายฝน เฝ้า มองฉินซึ่งเทียนอย่างสงบนิ่ง

จริงๆแล้วฉินซีอยู่ห่างไกลจากเธอมาก แต่เธอรู้สึกว่า เธอเห็นความอัปยศอดสูและความอับอายจากใบหน้าของแม่เธอ

“คุณพ่อ” เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนและเดินไปหาฉินซึ่งเทียน “คุณพ่อเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าคะ”

“ความเข้าใจผิดเหรอ” สีหน้าของฉินซึ่งเทียนแย่มาก เขาหันไปขัดจังหวะคำพูดของฉินซี “ถ้าคุณได้รับข่าวแล้วไปที่โรงแรมเคาะประตู และพบว่าภรรยาของตัวเองกำลังสนุกอยู่กับผู้ชายคนอื่นบนเตียง คุณยังจะพูดได้ว่ามันเป็นความเข้าใจผิดอยู่ไหม”

ฉินซีหน้าซีดเมื่อได้ยินเขาพูดตรงๆ แล้วหันไปมองแม่เธอ

แต่แม่ของเธอไม่ได้มองเธอ เธอยังจ้องมองฉินซึ่งเทียนด้วยสายตาที่สงบ

“คุณแม่ … ” เสียงของเธอสั่นเบาๆ” จริงเหรอคะ แม่บอกมาสิคะ คุณแม่”

ฉินซึ่งเทียนเย้ยหยัน “คุณยังหวังว่าเธอจะแก้ตัวเหรอ ฉันได้เห็นกับตาแล้ว ยังจะต้องถามว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่าเหรอ”

ฉินซีไม่ได้ฟังเขาพูดต่อ เธอเดินฝ่าสายฝนเข้าไปหาแม่ของเธอ เอื้อมมือไปที่เสื้อของเธอ น้ำเสียงเธอแทบจะขอร้องว่า “คุณแม่ …แม่พูดอะไรหน่อยสิ… ”

ในที่สุดเหยาหมิ่นดูเหมือนจะฟื้นคืนสติมา ค่อยๆหันหัวมองดูเธอ “เสี่ยวซี ลูกกลับไปเถอะนะ ข้างนอกฝนตกหนัก”

ฉินซีอึ้ง

ฉินซึ่งเทียนเย้ยหยัน “ป่านนี้แล้วยังจะสร้างภาพอีก ฉินซี มานี่”

ฉินซีไม่ขยับตัวเลย

เธอรู้สึกว่าเรื่องไม่เหมือนที่ฉินซึ่งเทียนพูดแน่ แต่แม่ของเธอไม่ได้เปิดปากอธิบาย เธอก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าความจริงคืออะไร

เธอมีแต่จับแขนเสื้อของเหยาหมิ่นต่ออย่างหมดหวังและขอร้องว่า “คุณแม่ ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ … ”

เหยาหมิ่นไม่พูด แต่ฉินซึ่งเทียนกล่าวว่า “ลูกอยากรู้ความจริงมากเหรอ ได้เลย ฉินซี พ่อจะบอกให้”

เขาก้าวออกไปข้างนอกอีกก้าว เข้าใกล้ฉินซีและเหยาหมิ่นที่อยู่กลางฝนมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ก้าวเข้าไปในสายฝน

“พ่อมีเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ในวงการโรงแรม เราพอมีมิตรภาพกันอยู่บ้าง เขาเคยเจอแม่ของลูกหลายครั้งที่

งานเลี้ยง

ก่อนหน้าพ่อเคยช่วยเหลือเขา เพราะฉะนั้นถือว่าเขาติดบุญคุณพ่ออยู่ วันก่อนเขาโทรมาบอกพ่อว่า เขาเห็น

แม่ของลูกในโรงแรม”

ฉินซึ่งเทียนมองเหยาหมิ่น และมองฉินซีกล่าวต่อว่า “ฉันไม่เชื่อว่า ผู้หญิงอย่างเธอ ถ้าไม่มีอะไรจะไปโรงแรมทำไมล่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยไม่ได้สนใจ แต่วันนี้เขาโทรมาหาฉันอีกและพูดว่า เห็นเธอขึ้นลิฟต์แล้ว

พอดีฉันอยู่แถวๆนี้ พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็สงสัยเบาๆขึ้นมา ก็เลยไปดูสักหน่อย เพื่อไม่ให้มีความสงสัย”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉินซึ่งเทียนจึงเย้ยหยัน “แต่ความจริงละ แม่ของแกให้เซอร์ไพรส์กับฉันใหญ่มาก ต่อหน้า

เพื่อนๆ ฉันเชื่อใจเธอมาก และให้เพื่อนใช้คีย์การ์ดเปิดประตูโดยตรง เพราะฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ทำอะไรเจ็บใจฉันแน่นอน แต่เมื่อเปิดประตู แม่ของแก กำลังสนุกกับคนอื่นอยู่”

เมื่อเขาพูดจบ เหยาหมิ่นที่เงียบมาตลอดก็พูดขึ้นมาทันที “ฉันไม่ได้ทำ”

เสียงของเธอเบามาก ฉินซีได้ยินไม่ชัด เลยขมวดคิ้วและหันไปมองเธอ “คุณแม่”

ฉินซึ่งเทียนดูเหมือนจะรู้ว่าเธอจะพูดอะไร จับมือและหัวเราะ “เธอทำให้ฉันต้องเสียหน้าต่อหน้าเพื่อน ฉัน

กระแทกประตูและเดินออกไป เธอใส่เสื้อและรีบตามออกมา ตอนนี้ยังเถียงว่าเธอไม่ได้ทำอะไร ฉันเข้า

ใจผิดเอง ฉันเข้าใจผิดอะไรเหรอ ฉันเข้าใจผิดตาของฉันเหรอ”

สายตาของฉินซีตกอยู่บนใบหน้าของเหยาหมิ่นตลอด

เมื่อฉินซึ่งเทียนเริ่มเยาะเย้ยเธอ ใบหน้าของเหยาหมิ่นมีความเจ็บปวดเบาๆ

เธอเชื่อแม่ของตัวเอง ว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด แต่คำพูดของฉินซึ่งเทียนก็ดูมีเหตุมีผล

ฉินซีไม่รู้ว่าจะเชื่อใครได้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉินซึ่งเทียนพูดเป็นความจริงหรือเปล่า แค่รู้สึกว่าสมองของเธอจะ

ระเบิดแล้ว

พ่อบ้านสงสารเธอ เอื้อมมือไปดึงเธอเข้าบ้าน แต่ฉินซีผลักมือของเขาออกเบาๆ

น้ำฝนที่เย็นๆ คงสามารถทำให้เธอมีสติขึ้นมั้ง

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ตอนนี้เธอก็รู้สึกสงบลงบ้างแล้ว มองฉินซึ่งเทียน “คุณพ่อ ไม่ว่าคุณแม่จะเคยทำ

อะไรไว้ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม พ่อก็ไม่ควรปล่อยให้แม่ยืนตากฝนอยู่แบบนี้ และก็ไม่ควรจะโยน

สิ่งของทั้งหมดของคุณแม่ออกมาด้วยค่ะ”

ฉินซึ่งเทียนมองเธอ กำลังจะพูดอะไร แต่ได้ยินเหยาหมิ่นพูดว่า

“ฉินซึ่งเทียน ทำสิ่งเลวร้ายมากเกินไป ต้องได้รับผลกรรมแน่”

สมองของฉินซีเต็มไปด้วยความสงสัย หันหัวไปมองฉินซึ่งเทียน

เห็นว่าใบหน้าของฉินซึ่งเทียนมีความโกรธเบาๆ

ความสงสัยของฉินซียิ่งมากขึ้น

“เรื่องที่ฉันเสียใจที่สุด ก็คือพลาดแต่งงานกับคุณ”

เหยาหมิ่นพูดอย่างเสียงดัง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจคำพูดของฉินซึ่งเทียนในเมื่อกี้ และหันตัวออกไปจากตระกูลฉินเลย

ฉินซีมองหลังของเหยาหมิ่นที่จากไป และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณพ่อ ที่คุณแม่พูดหมายความว่าอะไรเหรอ”

ฉินซึ่งเทียนพูดอย่างเย็นชาว่า “ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงบ้าบอคนนี้พูดอะไรล่ะ”

เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่ได้มองฉินซีอีก หันหลังเดินเข้าบ้านเลย

คนรับใช้เห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็เลยแยกย้ายกันไป พ่อบ้านได้โอกาสสักที เขาดึงฉินซีเข้ามาในบ้าน หยิบผ้าเช็ดตัวเช็ดผมให้เธออย่างระมัดระวัง และพึมพำว่า “คุณหนูคุยเรื่องก็คุยไป ทำไมต้องตากฝนด้วยล่ะ คุณเป็นหวัดเพิ่งหาย เดี๋ยวไม่สบายอีกจะทำยังไงล่ะ เด็กๆ ไปเตรียมน้ำให้เรียบร้อย และให้คุณหนูไปอาบน้ำร้อน”

ฉินซีไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเขาเลย ยังไงเธอก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ

เธอก็เลยดึงผ้าเช็ดตัวเบาๆ หันหัวไปถามพ่อบ้านว่า “ตกลงเกิดอะไรขึ้นคะ”

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ด้วย พ่อบ้านจึงกระซิบข้างหูเธอว่า “ตอนที่ข้าวกลางวัน ฉันกำลังเตรียมอาหารอยู่ ก็ได้ยินเสียงจากข้างนอก พอฉันออกไปดู ก็เห็นว่าท่านประธานฉินลากคุณผู้หญิงเข้ามา ท่านเดินไปพูดไป บอกว่าคุณผู้หญิงนอกใจท่าน ตอนแรกคุณผู้หญิงยังแก้ตัวบ้าง แต่พอท่านหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปภาพ และบอกว่าจะปล่อยรูปออกไป คุณผู้หญิงก็หยุดพูดเลยทันที ท่านสั่งให้คนรับใช้เก็บสิ่งของทั้งหมดของคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงก็ยืนอยู่ข้างนอกโดยไม่พูดสักคำเลย ตอนหลังๆก็ฝนตกขึ้นมา ฉันอยากจะดึงเธอเข้ามา แต่คุณผู้หญิงไม่ขยับตัวเลย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย… ”

ฉินซีฟังแล้วค่อยๆขมวดคิ้ว

เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรผิดปกติมาตลอด ตอนนี้เข้าใจสักที

คนที่รักศักดิ์ศรีอย่างฉินซึ่งเทียน เรื่องที่ภรรยาของตัวเองมีชู้ เขาควรจะปิดเรื่องไม่ให้ใครๆได้รู้สิ

ทำไมตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้ทุกคนรู้ ประกาศให้ใครๆก็รู้กันหมด

อีกอย่าง ปฏิกิริยาของคุณแม่ก็ดูผิดปกติมากเหมือนกัน

ถ้าเธอทำอะไรที่ทำร้ายฉินซึ่งเทียนจริงๆ จะแสดงปฏิกิริยาที่นิ่งสงบแบบนั้นได้ยังไง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท