Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 940

ตอนที่ 940

บทที่ 940 ปฏิเสธตัวเลือก

ฉินซีถอนหายใจออกมาเบาๆ หยิบปากกาขึ้นมาขีดชื่อรีสอร์ทชิงหยวนทิ้ง “งั้นก็เปลี่ยนที่ ไม่มีรีสอร์ทชิงหยวนก็ไม่เป็นอะไรหรอก แค่เสียดายที่ต้นทุนค่อนข้างต่ำเท่านั้นเอง”

ทุกคนต่างก็มีเส้นตายของตัวเอง ก็เหมือนตอนถ่ายรูป ไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมหันหน้าเข้าหากล้องเสมอไป

ถึงจะอยากใช้รีสอร์ทชิงหยวน แต่ถ้าลู่เซิ่นยืนกรานไม่เห็นด้วย ฉินซีก็ต้องเคารพ

อีกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทลู่ซื่อหรือรีสอร์ทชิงหยวน ล้วนแล้วแต่ก็เป็นของลู่เซิ่น ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ต้องให้ลู่เซิ่นตัดสินใจเอง

หลังจากเห็นว่าเธอขีดฆ่าชื่อรีสอร์ทชิงหยวนไป สีหน้าของลู่เซิ่นก็ดีขึ้นมานิดหน่อย ฉินซีรู้ ท่าทีแบบนี้ของลู่เซิ่นแสดงออกชัดเจนว่า ไม่อยากได้การโฆษณาในลักษณะนี้

“งั้นฉันคงต้องหาว่ายังมีที่อื่นให้เลือกไหม ไม่อย่างงั้นถ้าเอาแค่ห้ากลุ่ม มันก็จะดูไม่มีอะไร……” เธอพูดพร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์

ลู่เซิ่นยืนอยู่ข้างๆ อยากดูว่าเธอจะคิดอะไรออกมาอีก

เลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆ จู่ๆก็เจอไฟล์อะไรบางอย่าง

ชื่อไฟล์มีแค่คำเดียวโดดๆ คือ “คน”

ฉินซีจำได้ มันเป็นรูปภาพที่เธอถ่ายให้หซู่เป่ย และก็เป็นครั้งเดียวที่เธอถ่ายภาพคนอย่างเป็นทางการ วันนั้นหลังจากเธอถ่ายรูปข้างในสตูดิโอเสร็จ หซู่เป่ยก็ตามออกมาพูดคุยกับเธออยู่สักพัก จากนั้นเธอก็ถ่ายรูปให้หซู่เป่ย ……..

ทันใดนั้นฉินซีก็มีไอเดียผุดขึ้นมาในหัว เธอกดเปิดไฟล์ ไม่นานก็เจอรูปภาพที่เธอถ่ายให้หซู่เป่ยในตอนนั้น

เมื่อเธอขยายภาพเบื้องหลังให้ใหญ่ขึ้น เธอก็เห็นตัวหนังสือคำว่า “บริษัทลู่ซื่อ” รางๆ

“นี่ใช่สถานที่ก่อสร้างของพวกคุณไหม?” ฉินซีหันหน้าไปถามลู่เซิ่น “ทางทิศตะวันออกน่ะ”

ลู่เซิ่นนึกอยู่ไม่นาน ก็พยักหน้า “ใช่”

ดวงตาของฉินซีเผยรอยยิ้มออกมา “ดีเลย หาที่อื่นเจอละ!”

ลู่เซิ่นชี้ไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ “จะใช้ที่นี่?”

“ใช่” ฉินซีเขียนคำว่า ชานเมืองตะวันออก ข้างบนคำว่ารีสอร์ทชิงหยวนที่ถูกขีดทิ้งไปแล้ว พร้อมกับตอบว่า “ตอนนี้หซู่เป่ยเป็นหนึ่งในดาราที่กำลังฮอต ถ้าเขามาถ่ายให้เราได้ ต้องได้รับความสนใจเยอะแน่ๆ”

ยิ่งคิดฉินซีก็ยิ่งรู้สึกเป็นไปได้ ในตอนที่กำลังแก้ไขพล็อตใหม่ ก็ได้ยินเสียงลู่เซิ่นพูดขึ้นว่า “ไม่ได้”

ฉินซีขมวดคิ้วในทันที “ทำไมจะไม่ได้?”

ครั้งนี้ไม่เหมือนกรณีรีสอร์ทชิงหยวน รีสอร์ทชิงหยวนเป็นของลู่เซิ่น เมื่อเขาบอกไม่ให้ถ่ายฉินซีก็เคารพการตัดสินใจ แต่การจะถ่ายหซู่เป่ยหรือไม่นั้น ไม่ใช่ว่าลู่เซิ่นจะมีสิทธิ์ตัดสินใจยังไงก็ได้ซะหน่อย

“ภาพลักษณ์ของเขาไม่ดี” ลู่เซิ่นขมวดคิ้วมองรูปของผู้ชายคนนั้นที่โชว์อยู่บนหน้าจอ พร้อมทั้งพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

ฉินซีโบกมือ “เหตุผลไม่มีน้ำหนักเอาซะเลย”

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเปิดเอกสารเพื่อแก้ไข ลู่เซิ่นก็กดมือของเธอเอาไว้อย่างไม่สบอารมณ์ “เรื่องที่เขาไปมีเรื่องกับคนอื่นจนถูกแบล็กเมล์ก็ไม่ใช่ผมคนนี้หรือไงที่ตามไปเก็บกวาดให้น่ะ? คุณคิดว่าคนแบบนี้จะนำเสนอภาพลักษณ์ของบริษัทลู่ซื่อได้จริงๆเหรอ?”

ฉินซีดึงมือออก หันหน้าไปมองลู่เซิ่น “ประธานลู่ หซู่เป่ยเป็นแค่หนึ่งในผู้บรรยายเรื่องราวเท่านั้น ฉันไม่ได้บอกว่าจะให้เขานำเสนอภาพลักษณ์ของบริษัทลู่ซื่อเสียหน่อย และฉันยังต้องไปสัมภาษณ์พวกพนักงานออฟฟิศกับพวกชาวนาอีก แล้วอย่างนี้พวกเขาต้องนำเสนอภาพลักษณ์บริษัทลู่ซื่อทั้งหมดเลยหรือไง?”

เธอพูดอย่างมีเหตุมีผล จนลู่เซิ่นไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาโต้เถียง แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับแผนนี้”

ฉินซีแค่นยิ้ม “ลู่เซิ่น คุณเลือกมาสักอย่าง จะให้ถ่ายรีสอร์ทชิงหยวนหรือหซู่เป่ย?”

ลู่เซิ่นยังคงยืนกราน “ผมปฏิเสธทุกตัวเลือก”

ท่าทางแบบนี้ของเขาไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก และนิสัยดื้อรั้นของฉินซีก็เริ่มแผลงฤทธิ์แล้วเช่นเดียวกัน เธอหอบคอมพิวเตอร์เดินออกไปข้างนอก “คุณไม่อนุญาตให้ถ่ายก็เรื่องของคุณ ส่วนฉันจะเขียนยังไงมันก็เรื่องของฉัน”

ไม่รอให้ลู่เซิ่นพูดอะไร เธอก็เปิดประตูห้องนอน แล้วเดินไปยังห้องหนังสือของตัวเอง

ในห้องเหลือแค่ลู่เซิ่นที่มีสีหน้าไม่เข้าใจอยู่คนเดียว

……

ฉินซีพูดจริงทำจริง หลังจากเธอแก้พล็อตเรื่องเสร็จ ก็ส่งงานไปให้แผนกโฆษณาของบริษัทลู่ซื่อโดยตรง

เมื่อเธอหอบคอมพิวเตอร์กลับเข้ามาในห้อง ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว

แต่ลู่เซิ่นยังไม่นอน เขานั่งอยู่ข้างเตียง ราวกับกำลังรอเธอกลับมา

ส่วนฉินซีเมื่อส่งข้อมูลได้อย่างราบรื่น ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนนี้แม้ว่าอารมณ์จะเย็นลงแล้ว แต่เธอก็ไม่คิดจะเป็นฝ่ายทักลู่เซิ่นก่อน จึงหันกายเดินไปเข้าห้องน้ำ

เมื่อเธอเดินออกมา ก็พบว่าลู่เซิ่นยังนั่งอยู่ที่เดิม

“ปิดไฟนอนได้แล้ว”

ฉินซีพูดเสียงห้วนขึ้นมา

“แผนกโฆษณาบอกว่า พวกเขาได้รับอีเมลของคุณแล้ว” สายตาของลู่เซิ่นย้ายจากโทรศัพท์ มามองฉินซีช้าๆ

“อืม ฉันแก้เสร็จแล้วก็เลยส่งไป” ฉินซียักไหล่อย่างไม่ยี่หระ แล้วเอื้อมมือไปปิดไฟ

ภายในห้องพลันมืดสนิท แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงสายตาของลู่เซิ่นที่ยังมองมาที่เธอ

“ที่ฉันเลือกรูปของหซู่เป่ย ฉันไม่ได้มีความรู้สึกส่วนตัวอะไรทั้งนั้น” น้ำเสียงของฉินซียังคงห้วนเหมือนเดิม “คุณเป็นเจ้าของรีสอร์ทชิงหยวน ในเมื่อคุณไม่อยากให้ถ่าย ฉันก็เคารพการตัดสินใจของคุณ และการที่ฉันเลือกถ่ายหซู่เป่ย ก็เป็นสิ่งที่ฉันพิจารณามาแล้วเหมือนกัน หวังว่าคุณจะเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย”

พูดจบ เธอก็ไม่สนว่าลู่เซิ่นจะตอบกลับมาว่ายังไง ห่อตัวเองเป็นก้อนกลมๆอยู่ในผ้าห่ม

นิสัยดื้อรั้นของฉินซีไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ถึงหลายปีมานี้เธอจะปรับนิสัยเพื่อให้เข้ากับคนอื่นได้ก็ตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญ เธอก็จะดื้อรั้นเหมือนเดิม ไม่ยอมถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว

ผ่านไปพักใหญ่ เธอก็ได้ยินลู่เซิ่นพูดออกมาอย่างเรียบนิ่งว่า “ได้”

……

เมื่อเป็นแบบนี้ ความสัมพันธ์ที่กว่าจะเชื่อมติดของฉินซีกับลู่เซิ่นก็ค่อยๆส่อแววติดลบลงกว่าเดิม

แต่ว่าทั้งสองก็ไม่คิดที่จะกลับไปทำสงครามประสาทเหมือนเมื่อก่อน อย่างการทำประชดประชันใส่กัน

ก็นับว่าพัฒนาล่ะนะ

แม้ว่าจะส่งพล็อตเรื่องไปก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่ในท้ายที่สุดพล็อตไหนจะถูกนำมาใช้ ก็ยังต้องใช้เวลาตัดสินใจอยู่ดี ฉินซีไม่ได้ถามเรื่องนี้กับลู่เซิ่นบ่อยเท่าไหร่ และเขาก็ไม่ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเอง

เรื่องนี้ ถูกปล่อยผ่านไปทั้งอย่างนี้

แต่กลับมีผลกระทบต่อตัวฉินซี

ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า แผนของลู่เซิ่นจะได้ผลเกินคาด แม้ว่าฉินซีจะทำงานนี้เสร็จแล้ว แต่ก็ยังสนใจเกี่ยวกับการวางพล็อตและกำกับเป็นอย่างมาก

ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอไม่มีเวลาไปเรียนสองวิชานี้ เธอจึงรู้สึกเสียดายมาตลอด ตอนนี้ในที่สุดเธอก็มีโอกาสแล้ว จึงกระหายอยากเรียนเป็นอย่างมาก

พอเบี่ยงเบนความสนใจไปคิดเรื่องอื่นได้ เธอก็ไม่บังคับตัวเองให้คิดหาความจริงเรื่องของเหยาหมิ่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อารมณ์ก็ดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ

ในเมื่อตอนนี้คิดหาวิธีไม่ออก เธอก็ไม่ควรเสียเวลาในขณะที่ยังกังวล

ต้องทำให้ตัวเองแกร่งขึ้น ถึงจะสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายที่หลากหลายในอนาคตได้

……

ผลการตัดสินประกาศในครึ่งเดือนต่อมา

ฉินซีได้รับอีเมล เนื้อหาข้างในเป็นคำพูดยินดีที่พล็อตของเธอได้รับการคัดเลือก จึงเชิญเธอไปพูดคุยที่บริษัทลู่ซื่อ

ฉินซีค่อนข้างจะตกใจ แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

ในตอนที่เธอส่งพล็อตไป จริงๆแล้วเธอพอจะคาดการณ์ได้ว่าตัวเองจะชนะหรือไม่

เธอรู้ว่าพล็อตของตัวเองอยู่ในระดับที่ดีมาก อย่างเดียวที่เธอไม่มั่นใจก็คือพล็อตของคนอื่นจะดึงดูดสายตามากกว่าของเธอหรือเปล่า

และแน่นอน ถ้าดูจากผลล่าสุดแล้ว เธอคือผู้ชนคนนั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท