Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 953

ตอนที่ 953

บทที่ 953 แปลกๆ

ฉินซีแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ครุ่นคิดถึงคนที่จะเป็นไปได้

ก่อนเสียชีวิตเหยาหมิ่นมีเพื่อนไม่เยอะ ผู้ติดต่อรายเดียวที่เธอจำได้มีแค่ทนายความจ้าว หรือว่าจะเป็นทนายความจ้าว?

ฉินซีก็ยังรู้สึกแปลกๆ

และลู่เซิ่นก็ปล่อยมือเธอ ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ย่อตัวลงด้านหน้าหลุมศพเหยาหมิ่น ตรวจดูดอกไฮแดรนเยียอย่างละเอียด

ดอกไฮแดรนเยียยังมีหยดน้ำบนกลีบดอก มันเพิ่งถูกวางสดๆ เป็นไปได้อย่างมากว่าคนที่ทำความสะอาดหลุมศพเพิ่งมา

เขาจึงลุกขึ้นเดินกลับไปข้างๆ ฉินซี “คนที่ทำความสะอาดหลุมศพอาจจะยังไม่ออกไปจากสุสานนี้ คุณอยากตามหาไหม?”

ฉินซีไม่ได้ถามมากว่าเขารู้ได้อย่างไร แค่พยักหน้า วางสิ่งของในมือลง หันตัวกลับไปมองรอบๆ เพื่อค้นหา

การออกแบบสุสานมักจะเหมือนๆ กัน ตรงกลางคือหลุมฝังศพ สองข้างปลูกต้นไม้เขียวชอุ่ม ตอนที่พวกเขาสองคนมาก็ไม่เห็นใครสักคน หลุมฝังศพต่ำไม่สามารถบดบังอะไรได้ ถ้ามีคนมาที่นี่ พวกเขาไม่เห็น ถ้าอย่างนั้นก็ต้องหลบอยู่ด้านหลังต้นไม้เขียวชอุ่มแน่ๆ

คิดถึงตรงนี้ ทั้งคู่ก็แยกกันเดินเข้าไปในป่าข้างๆ

ลู่เซิ่นโทรหาหลินหยัง สั่งให้เขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สุสานสักหน่อย สังเกตว่ามีการเคลื่อนไหวรอบๆ หรือไม่

ฉินซีเพิ่มสมาธิทั้งหมด ต้องการค้นหาร่องรอยการมาที่นี่สักนิด

แต่ทั้งสุสานเงียบสงบตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด

ฉินซีเดินทางฝั่งตัวเองหนึ่งรอบ แล้วอ้อมไปทางด้านลู่เซิ่น ก็เจอลู่เซิ่นที่เดินมาด้านหน้าพอดี

“เป็นไงบ้าง? ” ฉินซีเงยศีรษะมองเขา

ลู่เซิ่นไม่ได้พูดอะไร แค่ส่ายศีรษะ

ทั้งคู่เดินเกือบทั้งสุสานหนึ่งรอบ แต่ก็ไม่เห็นเงาใครสักนิด

ฉินซีห่อไหล่ลง

เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้นั้นหน้าหลุมศพ ฉินซีมีลางสังหรณ์ว่าคนที่มาทำความสะอาดหลุมศพไม่ได้มีเจตนาร้าย มาแสดงความเสียใจด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าใครคือคนที่มากันแน่ ก็เลยวางใจไม่ลง

การบาดเจ็บของเหยาหมิ่นทำให้ฉินซึ่งเทียนเหมือนนกที่ตื่นตระหนกตกใจ ระมัดระวังอย่างมากกับความผิดปกตินิดหน่อย

ถึงแม้เหยาหมิ่นจะตายไปแล้ว แต่เธอก็ยังกลัวว่าเหยาหมิ่นจะโดนทำร้าย

——ถึงแม้ว่าเหยาหมิ่นจะไม่รู้ถึงการบาดเจ็บนี้เลย

เมื่อเห็นเธอไม่สบายใจ ลู่เซิ่นก็เดินเข้ามาโอบไหล่เธอ เอ่ยปลอบเบาๆ “ฉันให้คนไปตรวจดูกล้องวงจรปิดแล้ว น่าจะได้ข้อมูลเร็วๆ นี้”

ฉินซีเงยศีรษะขึ้นมองเขา พยักหน้าอย่างลังเล

ในสุสานไม่มีกล้องวงจรปิด สิ่งเดียวที่สืบหาได้ก็คือกล้องวงจรปิดละแวกที่จอดรถ

แต่ผู้คนเดินไปเดินมาเยอะมาก จะหาเป้าหมายเจอได้อย่างไร?

แต่เธอไม่ได้แสดงความสงสัยของตัวเองออกไป

ลู่เซิ่นสงวนท่าทีนี้เอาไว้ โอบไหล่เธอแล้วเดินกลับไป

“ในเมื่อมาถึงนี่แล้ว ก็พูดอะไรกับแม่คุณหน่อยสิ”

ฉินซีก้มศีรษะ ตามฝีเท้าเขากลับมายังหน้าหลุมศพเหยาหมิ่น

ลู่เซิ่นเหมือนจะกังวลว่าฉินซีมีอะไรอยากพูดกับเหยาหมิ่นเพียงลำพัง ดังนั้นจึงหันร่างเดินกลับไปไกลๆ ไม่กี่ก้าว ทิ้งให้ฉินซีอยู่หน้าหลุมศพคนเดียว

ฉินซีวางดอกไม้ของตัวเองไว้ข้างๆ ดอกไม้ช่อนั้นด้านหน้าหลุมศพ แกะภาพวาดสีน้ำมันของตัวเอง ค่อยๆ ย่อตัวลง

“แม่” ฉินซีพึมพำเบาๆ

เธอไม่ได้พูดคำนี้มานานมากๆ แล้ว พอพูดออกมาแล้วรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย

ไม่มีใครตอบเธออยู่แล้ว

ฉินซีโน้มตัวไปข้างหน้า เอาหน้าผากแนบกับรูปภาพบนหลุมศพเหยาหมิ่น

ฉินซีเป็นคนเลือกรูป เป็นรูปตอนที่เหยาหมิ่นสาวๆ

เหยาหมิ่นในตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงานกับฉินซึ่งเทียน ยิ้มอย่างไร้เดียงสาและอ่อนโยน ไม่เคยคิดเลยสักนิด ว่าชีวิตตัวเองจะจบลงด้วยวิธีนี้จริงๆ

ฉินซีอยากอยู่บนโลกใบนี้ โดยที่ไม่เคยเจอกับเหยาหมิ่นของฉินซึ่งเทียนมาก่อน

เธอคลี่ภาพวาดสีน้ำมันของตัวเองออกมา มองดูพู่กันที่เงอะงะของตัวเอง รู้สึกอายนิดหน่อย “ฉันไม่ได้วาดรูปมานานมากแล้ว ฉันตั้งใจวาดมันเมื่อไม่กี่วันก่อน แม่ไม่ชอบที่ฉันวาดน่าเกลียด”

“แม่รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน? ” ฉินซีมองภาพวาดสีน้ำมัน ยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง “ช่างเถอะ แม่ต้องมองไม่ออกแน่ๆ นี่คือทะเลสาบหลังบ้านคุณปู่ที่เมื่อก่อนคุณชอบไปวาดรูป แต่ตอนนี้มันไม่ใช่บ้านคุณปู่แล้ว มันคือ……บ้านของคนอื่น”

ฉินซีเงยศีรษะขึ้น มองแผ่นหลังลู่เซิ่นที่ห่างไม่กี่ก้าว

“แต่ตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ที่นั่น ดังนั้นไปวาดรูปที่นั่นก็ไม่ได้ไม่สะดวกอะไร ถ้าแม่อยากดู ต่อไปฉันก็ไปได้นะ แต่ต่อไปฉันอาจจะให้คุณดูภาพที่ฉันถ่าย ภาพวาดแบบนี้มันน่าเกลียดเกินไป ฉันไม่มีความมั่นใจที่จะวาดมันเป็นครั้งที่สองแล้ว”

“แม่ หลังจากที่แม่จากไปแล้ว มันมีหลายอย่างที่เกิดขึ้น” ฉินซีผลุบตาลง “ตอนแรกฉันรู้สึกเหนื่อยมาก ไม่มีแม่ฉันจะอยู่รอดได้ยังไง แต่มันก็หนึ่งปีแล้ว ฉันก็ยืนหยัดได้จริงๆ ฉันเก่งมากเลยใช่ไหม”

ฉินซีอยู่ด้านหน้าเหยาหมิ่นเท่านั้น ถึงสามารถทำตัวออดอ้อนเหมือนเด็กได้ชั่วคราว

แต่มันไม่มีเสียงอ่อนโยนของเหยาหมิ่นอีกแล้ว สิ่งที่ตอบเธอมีแค่เสียงลมเบาๆ

ฉินซีไม่ได้พูดอีก สองมือค่อยๆ กุมใบหน้า

……

ลู่เซิ่นยืนอยู่ห่างไม่กี่ก้าว ไม่ได้ยินฉินซีพูด กำลังคุยโทรศัพท์กับหลินหยังอยู่

“สืบกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถแล้วครับ” หลินหยังค่อนข้างลำบากใจนิดหน่อย “แต่สิ่งอำนวยความสะดวกในสุสานนี้ยังไม่ดีพอ มุมกล้องวงจรปิดหลายๆ มุมที่ลานจอดรถมันเสีย ละแวกนี้ก็ไม่มีกล้องวงจรปิดที่สามารถดูแทนได้ ดังนั้นจึงไม่เจออะไรที่มีประโยชน์ในตอนนี้ครับ”

ลู่เซิ่นหันศีรษะกลับไปมองร่างที่ย่อตัวลงด้านหน้าหลุมศพเหยาหมิ่น “สืบหาต่อไป”

หลินหยังทำได้แค่ตอบรับ จำใจสืบหากล้องวงจรปิดรอบๆ ต่อไป

ลู่เซิ่นวางสายไปแล้ว กลับได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ด้านหลัง

เขาหันศีรษะกลับไป เห็นฉินซีเดินมาทางตน

เขาแค่ทำเป็นไม่เห็นน้ำตาคลอเบ้าฉินซี เพียงเอ่ยถาม “เสร็จแล้วเหรอ?”

ตอนนี้อารมณ์ฉินซียังหดหู่อยู่ พยักหน้า ไม่ได้ตอบเขา

ทันใดนั้นลู่เซิ่นก็ยื่นมือมาจับเธอ “งั้นไปกันเถอะ”

ทั้งๆ ที่ไม่ได้หนาวมาก แต่มือฉินซีกลับเย็นเฉียบ

แต่ฝ่ามือลู่เซิ่นอุ่นมาก ความร้อนนิดหน่อยติดฝ่ามือฉินซี ส่งผ่านไปยังสมองของเธอ

เธอจึงไม่เต็มใจที่จะแกะมือลู่เซิ่นออก แค่เดินไปข้างหน้ากับเขาอย่างเงียบๆ

เดินมาถึงข้างๆ รถ ในที่สุดฉินซีก็ถอนอารมณ์ตัวเองออกมา ทั้งคู่ปล่อยมือที่จูงกันไว้ ฉินซีเงยศีรษะขึ้นยิ้มให้กับลู่เซิ่น “ขอบคุณนะคะ”

ทันใดนั้นลู่เซิ่นก็ยื่นมือออกมากดที่มุมปากเธอ “ไม่อยากยิ้มก็ไม่ต้องยิ้ม”

ฉินซีอึ้งไป ความโค้งมุมปากค่อยๆ หุบลง

ลู่เซิ่นเปิดประตูรถให้เธอ “ขึ้นรถเถอะ”

ฉินซีพยักหน้า ขึ้นไปนั่งรถ

เธอชาไปทั้งร่าง แต่ก็ไม่ขัดขวางตอนที่นิ้วลู่เซิ่นมาแตะข้างแก้มตน เธอรู้สึกได้ว่า หัวใจตนเต้นเร็วขึ้นชั่วขณะหนึ่ง

เธอบอกไม่ได้ว่าตัวเองรู้สึกอะไร ทำได้แค่นั่งบนรถสงบสติอารมณ์อยู่นานสักพัก แล้วหันไปเผชิญหน้ากับลู่เซิ่น “หาได้ไหมคะว่าใครทำ?”

ลู่เซิ่นส่ายศีรษะเบาๆ “ยังหาไม่เจอ”

เกิดความผิดหวังสุดจะบรรยายระหว่างคิ้วฉินซี แต่แค่ถอนหายใจเบาๆ “ไม่เป็นไร ค่อยๆ หาก็ได้ค่ะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท