Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 957

ตอนที่ 957

บทที่ 957 ไปแต่งงาน

ฉินซีอ่านข้อสัญญาคร่าวๆ มันคือแม่แบบสัญญาที่คนตระกูลลู่ใช้จริงๆ การแบ่งทรัพย์สินเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะให้คนที่แต่งเข้ามาแล้วจากไปด้วยความมั่งคั่ง

ถ้าเป็นคนอื่น เห็นสัญญาที่กันขโมยแบบนี้มักจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ฉินซีพอใจกับข้อตกลงนี้มาก

อย่างไรแล้วพวกเขาก็มีความสัมพันธ์ตามสัญญาที่แท้จริง แบ่งผลประโยชน์กันอย่างชัดเจน ดีกว่าใครทั้งนั้น

“ฉันอยากจะ……ไม่เปิดเผยความสัมพันธ์การแต่งงานของเราต่อสาธารณะในตอนนี้ได้ไหม?”

ฉินซีเงยศีรษะมองลู่เซิ่น

ทนายความเหมือนจะเตรียมความพร้อมนานแล้ว พลิกไปที่หน้าหลังไม่กี่หน้าของสัญญา ชี้ไปที่เงื่อนไข “มันเขียนไว้หมดแล้ว”

ฉินซีก็โล่งใจ

ที่แท้ก็ไม่ใช่แค่เธอ ลู่เซิ่นเองก็ชัดเจนอย่างมาก ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันหมายความว่าอะไร

อ่านแต่ละเงื่อนไขอย่างรอบคอบจบแล้ว จู่ๆ ฉินซีก็นึกคำถามหนึ่งขึ้นมา

“ถ้าเซ็นสัญญานี้แล้ว……ฉบับก่อนหน้านี้ ยังมีผลไหม?”

ทั้งๆ ที่ครั้งนี้เธอถามทนายความ แต่คนที่ตอบกลับเป็นลู่เซิ่น

“ไม่มีผล”

ฉินซีมองทนายความอย่างสงสัย เมื่อเห็นเขาพยักหน้า ก็จิ้มไปที่สัญญาบนโต๊ะ “เพิ่มเข้าไปในนั้นสิ”

ทนายความได้รับอนุญาตจากลู่เซิ่น ก็พิมพ์เอกสารซ้ำสองฉบับ หยิบออกมาให้พวกเขาสองคนเซ็นชื่อ

งานเขาเสร็จแล้วก็ถอยออกไป ฉินซีมองแผ่นหลังเขา จู่ๆ ก็เปล่งเสียงออกไป “เขาเป็นคนเดียวที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเรา นอกจากเราที่นี่เหรอ? ”

ลู่เซิ่นไม่ได้ตอบคำถามเธอโดยตรง แค่หัวเราะเบาๆ “ความสัมพันธ์อะไร”

ฉินซีหันศีรษะมองเขา มือจิ้มกระดาษบนโต๊ะ “ความสัมพันธ์แบบสัญญา”

รอยยิ้มของลู่เซิ่นจางลง “คุณไม่ชอบเหรอ? ”

ฉินซีชะงักไปไม่กี่วินาที ไม่ได้พูดอะไร

เธอไม่ได้ไร้เหตุผลคิดว่าแบบนี้มันไม่ดี สุดท้ายแล้วความเป็นมิตรที่เธอเพลิดเพลินมันก็เป็นเรื่องจริง ถ้าพวกเขารู้ความสัมพันธ์ของลู่เซิ่นกับตน ถ้าอย่างนั้นความเมตตาเหล่านี้ก็เป็นไปได้อย่างมากว่าจะไม่มีอยู่จริง

แต่คืนนี้เมื่อเห็นสองคนแต่งงานกัน ความสุขของทุกคนก็ไม่ใช่การเสแสร้ง

ฉินซีไม่ชอบหลอกความรู้สึกของคนอื่น ถ้าพวกเขาพบว่าทั้งหมดเป็นแค่ข้อตกลงหนึ่ง อย่าว่าแต่คนอื่น ไม่รู้ว่าพ่อบ้านจะผิดหวังมากแค่ไหน

ลู่เซิ่นไม่รอให้เธอตอบ แค่โบกสัญญาให้กับเธอ “คุณเป็นคนขอแต่งงาน สัญญาก็เซ็นเสร็จแล้ว ถ้าคุณผิดสัญญาก็แบกรับผลที่ตามมาเองนะ”

ฉินซีมองลู่เซิ่น ส่ายศีรษะเบาๆ “จะผิดสัญญาได้ไง ได้แต่งงานกับคุณ ฉันยินดีสุดๆ ”

ลู่เซิ่นยืนขึ้นมา “ดีที่สุดแล้วล่ะ”

ฉินซีไม่ได้พูดอีก หยิบสัญญาเดินออกไปจากห้องทำงาน ตอนปิดประตูก็หันศีรษะกลับไปมองลู่เซิ่น ทั้งคู่สบตากันสองสามวินาที ฉินซีก็ปิดประตูไป

ตั้งแต่ต้นจนจบเขา……ไม่เคยถามตัวเองเลย ว่าทำไมถึงขอแต่งงาน

ราวกับเตรียมความพร้อมกับการแต่งงานครั้งนี้มานานมาก มันอยู่ในความคาดการณ์

ฉินซีคิดสักพักรอให้ลู่เซิ่นกลับมาแล้วค่อยถามคำถามนี้ แต่จนกระทั่งฉินซีหลับไป ลู่เซิ่นก็ยังไม่กลับมา

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินซีถูกลู่เซิ่นปลุกให้ตื่น

พูดแล้วก็แปลก ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนมักนอนด้วยกัน ฉินซีหลับไม่ลึก แต่การเคลื่อนไหวของลู่เซิ่นนั้นเบามาก ไม่ว่าจะกลับมานอนตอนดึก หรือตื่นนอนเช้ามาก ก็แทบไม่ส่งเสียงดังปลุกฉินซีเลย

เวลาทำงานของทั้งสองคนไม่ตรงกัน ตอนฉินซีตื่นขึ้นมา ปกติตอนเช้าก็ไม่เห็นลู่เซิ่นแล้ว

แต่วันนี้แตกต่างออกไป เพราะลู่เซิ่นเริ่มที่จะปลุกเธอก่อน

“ลุกขึ้น เอาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านมาด้วย” ลู่เซิ่นล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว ยืนอยู่ข้างเตียง

เขาหันหลังให้กับแสง ไม่ค่อยเห็นการแสดงออกบนใบหน้าชัดเจน

ฉินซียังไม่ตื่นเป็นเวลาสักพักหนึ่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความงัวเงีย “เอาทะเบียนบ้านไปทำอะไร……”

“คุณอยากแต่งงานไม่ใช่เหรอ? ” น้ำเสียงลู่เซิ่นใจเย็นมาก “ลุกขึ้น ไปแต่งงาน”

อาการง่วงนอนในหัวสมองฉินซีราวกับโดนคำว่า “แต่งงาน” สองคำนี้กระแทกอย่างหนักหนึ่งที สร่างขึ้นมาทันที

เมื่อวานเธอขอลู่เซิ่นแต่งงานไปแล้ว……

แถมลู่เซิ่นตอบตกลงด้วย……

ตอนที่เธอเบิกตายอมรับความจริง ลู่เซิ่นทิ้งประโยคที่ไร้ความรู้สึก “ถ้าอยากแต่งงานก็รีบๆ หน่อย” จากนั้นก็หันตัวเดินออกไป

ตอนนี้ฉินซีสร่างมากพอแล้ว กระโดดลงจากเตียง รีบไปล้างหน้าแปรงฟันอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ทั้งสองมาถึง สำนักงานพลเรือนเพิ่งเปิดประตู

นอกจากพนักงาน ก็ไม่มีคนอื่นๆ รอ นี่อาจจะเป็นสิทธิพิเศษที่ลู่เซิ่นใช้ ฉินซีเห็นชินแล้ว

ตอนที่สองคนถ่ายรูปก็ไม่ได้มีการแสดงออกอะไร ตากล้องพยายามระดมพลอย่างหนัก ฉินซีจึงยิ้มให้เห็นอย่างไม่เต็มใจ ส่วนลู่เซิ่นนั้นไม่ได้แสดงออกอะไรมากมายตั้งแต่ต้นจนจบ

ฉินซีเบ้ปากในใจ

ตัวเองตอบตกลงเอง ตอนนี้มาทำสีหน้าแบบไหน

แต่คำพูดนี้เธอแค่พูดในใจเท่านั้น

ออกมาจากสำนักงานพลเรือน ฉินซีก็รู้สึกค่อนข้างสับสน

ในมือถือทะเบียนสมรสสีแดงเอาไว้ แต่ในใจกลับยังไม่พร้อม

นี่เธอ……แต่งงานแล้วเหรอ?

แต่สีหน้าลู่เซิ่นเรียบเฉยกว่าเธอเยอะเลย น้ำเสียงก็เรียบ “คุณจะไปไหน? ”

ฉินซีคิดสักพักหนึ่ง รู้สึกว่าควรไปหาทนายความจ้าวสักหน่อย จึงโบกมือปฏิเสธลู่เซิ่น “คุณไปทำงานเถอะ ฉันจะไปเดินเล่นละแวกนี้หน่อย”

ลู่เซิ่นพยักหน้า ขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็ว

ฉินซีมองไปที่ด้านหลังรถ ถือทะเบียนสมรสมาดูสักหน่อย หัวเราะอย่างขมขื่น ส่งสัญญาณมือหยุดรถคันหนึ่ง

เธอดูถูกการแต่งงานของฉินซึ่งเทียนและเหยาหมิ่นมาโดยตลอดที่กลายเป็นแต้มต่อรอง แต่พอมาถึงตัวเอง สุดท้ายการแต่งงานของตัวเองก็กลายเป็นข้อตกลงอย่างหนึ่ง

ตัวเองมีสิทธิ์อะไรไปดูถูกเขา?

……

นึกมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉินซีก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา เปิดลิ้นชักอีกรอบแล้วหามัน

เมื่อครู่นี้เธอ……เหมือนไม่เห็นทะเบียนสมรสในลิ้นชัก?

เธอไม่มีนิสัยชอบวางของมั่วซั่ว แต่วันนั้นเอาทะเบียนสมรสกลับมาควรจะวางมันไว้ในนั้น มันไปไหนแล้วนะ?

ค้นหาอีกรอบอย่างรอบคอบ แต่สุดท้ายก็ไม่มีวี่แวว

ฉินซีอยากหาลิ้นชักอื่นๆ อีกครั้ง แต่ลู่เซิ่นก็เดินเข้ามา

เห็นเธอหาอะไรอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงาน ก็เปล่งเสียงถาม “หาอะไร? ”

ฉินซีไม่กล้าสู้หน้าลู่เซิ่นบอกว่าทะเบียนสมรสของตนหายไปแล้ว จึงพูดอย่างคลุมเครือ “หาเอกสารนิดหน่อย”

ตอนแรกลู่เซิ่นถามเฉยๆ ได้ยินแล้วก็หันตัวไปอาบน้ำโดยไม่ได้สนใจ ฉินซีหันซ้ายหันขวาก็หาไม่เจอ จึงล้มเลิกการหาชั่วคราว

อย่างไรแล้วเธอก็แค่หามันเฉยๆ ทะเบียนสมรสเธอกับลู่เซิ่น……ก่อนที่พวกเขาจะหย่ากัน ก็คงไม่ได้ใช้ทำอะไร

เมื่อลู่เซิ่นออกมาจากห้องน้ำ ฉินซีก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเตรียมไปอาบน้ำ

“หาเจอแล้วเหรอ? ” ลู่เซิ่นเช็ดผม เอ่ยถามลวกๆ

ฉินซีรู้สึกขาดความมั่นใจนิดหน่อย ไม่อยากพูดเรื่องนี้มากนัก พูด “อืม” ด้วยเสียงทุ้มต่ำ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

เห็นประตูห้องน้ำปิด ลู่เซิ่นก็กวาดตามองโต๊ะทำงานฉินซี มุมปากยกยิ้มที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ก็เก็บอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว

เมื่อฉินซีออกมา ก็ไม่มีความผิดปกติอะไรแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท