Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 959

ตอนที่ 959

ทที่ 959 ความขัดแย้ง

ทั้งๆ ที่ระยะเวลาครั้งล่าสุดที่มาบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ถือว่ายาวนานมาก แต่ทุกครั้งที่ฉินซีเหยียบเข้ามาในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็จะรู้สึกค่อนข้างแปลกตา

หรือบางทีเพราะในใจเธอห่างเหิน จึงยากมากที่จะรู้สึกคุ้นเคย

ฉินซีมาถึงห้องประชุมตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ด้านในกลับว่างเปล่าไม่มีคน

ฉินซีถอยออกไปดูด้วยความสงสัย แต่ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ได้ยินเสียงฉินซึ่งเทียนดังขึ้นด้านหลังตน

“ในนี้ เข้ามาสิ”

เสียงของเขาฟังแล้วดูสงบมาก ไม่ต้องทำท่าทางใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดในการค้นหาตัวเองแต่ตอนนี้ค้นเจอมันแล้ว

ฉินซีเกิดความสงสัยในใจ แต่สุดท้ายก็เดินตามเข้าไป

จนเธอนั่งลง ก็พบว่าด้านหลังสุดมีหซู่หนานตามมา

ฉินซึ่งเทียนโดยธรรมชาติแล้วเข้ามาก็จะนั่งตำแหน่งตรงกลาง หซู่หนานนั่งด้านขวาของเขา

ฉินซีแค่นหัวเราะในใจ แล้วนั่งลงด้านซ้าย

เธอเผชิญหน้ากับหซู่หนาน และเห็นสีหน้าหซู่หนานอย่างชัดเจนว่าค่อนข้างซีดเซียว เหมือนกับว่าช่วงนี้ชีวิตย่ำแย่

แต่ฉินซีไม่มีเจตนาที่จะสนใจเขา ดังนั้นจึงเบนสายตาออกมาก่อนที่หซู่หนานจะสังเกตเห็นสายตาของตน

ฉินซึ่งเทียนเคลียร์ลำคอ “ประชุมเถอะ”

ฉินซีกวาดตามองห้องประชุมหนึ่งรอบ ขมวดคิ้ว “มีแค่เราสามคน? ประชุมผู้บริหารระดับสูง?”

ฉินซึ่งเทียนแค่นหัวเราะ “ถ้าไม่ใช้เหตุผลนี้ เธอจะมาเจอฉันไหม?”

ฉินซีมีความใจร้อนบนใบหน้า แค่โบกมือปฏิเสธ “ได้ คุณเริ่มสิ”

ฉินซึ่งเทียนมองการเคลื่อนไหวตามใจชอบของเธอ ในใจเกิดความโกรธ แต่นึกถึงเรื่องที่ตัวเองต้องทำในวันนี้ แต่ทำได้แค่ระงับความโกรธลงไป ยื่นมือส่งเอกสารให้ฉินซี “เธอเอาไปอ่านดูก่อนสิ”

ฉินซึ่งเทียนเปิดขึ้นมาดูคร่าวๆ ไม่ใช่อะไรอื่น มันคือการประชุมคณะกรรมการครั้งล่าสุด หซู่หนานเอ่ยถึงการบันทึกโดยละเอียดเกี่ยวกับปัญหาการหมุนเวียนสินค้า

ฉินซีมองเอกสารที่ปิดลงอย่างรวดเร็ว “คุณให้ฉันดูสิ่งนี้ทำไม?”

น้ำเสียงฉินซึ่งเทียนค่อนข้างจริงใจ “สิ่งที่อยู่ในนั้น มีครึ่งหนึ่งที่เป็นเพราะบริษัทลู่ซื่อถอนคำสั่งซื้อมันเลยไม่มีการหมุนเวียน ดังนั้นถ้าทำให้บริษัทลู่ซื่อเปลี่ยนใจ ทำสัญญาต่อได้ ก็จะสามารถบันทึกอัตราการหมุนเวียนในไตรมาสนี้ได้”

ฉินซียังคงขมวดคิ้วอย่างไม่อดทน “มันเกิดจากบริษัทลู่ซื่อแค่ครึ่งเดียว แล้วอีกครึ่งล่ะ?”

ฉินซึ่งเทียนดูเหมือนไม่คิดว่าเธอจะถามคำถามนี้ จึงหันศีรษะไปมองหซู่หนานโดยไม่รู้ตัว

หซู่หนานเข้าใจ ตอบเสียงทุ้ม “อีกครึ่งหนึ่งเป็นเพราะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์จึงค้างสต๊อก”

คิ้วฉินซีคลายออก ยื่นมือไปเคาะเอกสาร “งั้นพวกคุณควรจะคิดหาวิธีเพิ่มการประชาสัมพันธ์นะ จะพึ่งแต่บริษัทลู่ซื่อจะไปมีประโยชน์อะไร”

คราวนี้หซู่หนานก้มศีรษะลง ไม่ได้มองหน้าฉินซี “เราหวังว่า……สินค้าล็อตนี้ จะสามารถให้บริษัทลู่ซื่อรับช่วงต่อได้”

ฉินซีราวกับได้ยินเรื่องตลกใหญ่โต สีหน้าเย้ยหยันไม่สามารถสำรวมได้แล้ว “บริษัทลู่ซื่อทำธุรกิจ ไม่ใช่รับช่วงต่อขยะนะ ทำไมขายไม่ออก ก็อยากให้เขารับช่วงต่อ?”

ฉินซึ่งเทียนเสียหน้าแล้ว กระแอมไอเบาๆ สองที “คุณภาพของสินค้าล็อตนี้ สาเหตุมาจากการเผยแพร่……”

ทันใดนั้นฉินซีก็ขัดคำพูดเขา “ตอนนี้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่มีแม้แต่เงินประชาสัมพันธ์เหรอ?”

ฉินซึ่งเทียนโดนเธอขัดขวาง สีหน้าแดงก่ำ “จะเป็นไปได้ได้ยังไง! บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแค่หมุนเงินกับสินค้าไม่ได้ชั่วคราว จะไม่มีเงินประชาสัมพันธ์ได้ไง!”

ฉินซีเห็นเขาโกรธ รู้ว่าเรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง ก็ไม่ได้ถามอย่างละเอียด แค่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เชิดคางถามขึ้น “ในเมื่อมีเงิน งั้นก็ประชาสัมพันธ์ให้ดี มันก็จะได้กำไรคืนมา ไม่ใช่เหรอ?”

ฉินซึ่งเทียนจ้องเขม็งฉินซี “นี่เธอจะไม่ให้ความร่วมมือใช่ไหม?”

ฉินซีแบมือไม่สนใจ “ฉันเคยพูดกับคุณแล้วตอนประชุมคณะกรรมการ ฉันไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายการบริหารของบริษัทลู่ซื่อ คุณยังเรียกฉันมาหาครั้งแล้วครั้งเล่า มันเสียเวลาเปล่าๆ”

ฉินซึ่งเทียนกำลังจะโกรธ แต่หายใจเข้าลึกๆ บังคับข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ “เธออย่าบอกว่าตัวเองไม่มีอิทธิพลต่อลู่เซิ่น วันนั้นลู่เซิ่นปกป้องเธอมากแค่ไหน ฉันเห็นมัน ถ้าเธอไปขอร้องลู่เซิ่น เขาจะต้องช่วยเธอแน่ๆ”

ฉินซีรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยกับสิ่งที่ฉินซึ่งเทียนพูด

ลู่เซิ่น……ดีกับตัวเธอมากจริงๆ ขนาดนี้เชียว?

แต่เธอก็แค่ส่ายศีรษะ “ประธานฉิน คุณคิดเยอะไปแล้ว ถึงความสัมพันธ์ของฉันกับลู่เซิ่นจะดีมากแค่ไหน แล้วมันยังไง? ทำไมฉันต้องขอร้องสิ่งนี้เพื่อคุณ?”

ฉินซึ่งเทียนไม่คิดว่าตัวเองจะพูดได้อ่อนโยนขนาดนี้ ฉินซีก็ยังปากแข็งจริงๆ หงุดหงิดขึ้นมาสักพัก ตบโต๊ะ “ฉินซี! ฉันเป็นพ่อเธอนะ นี่คือบริษัทของปู่เธอ! เธอช่วยขอร้องให้เรา ปกป้องรักษาบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเอาไว้ จริงๆ แล้วมันเพื่อตัวเธอเองนะ!”

ฉินซียิ้มและชำเลืองมองไปที่ห้องพักผ่อนเล็กๆ ด้านหลังห้องประชุม แค่นยิ้มอย่างเย็นชา “ในอนาคตบริษัทนี้……เป็นของฉันจริงๆ เหรอ?”

ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้ว มองตามไปที่ห้องพักผ่อนเล็กๆ โดยไม่รู้ตัว

ช่วงเวลานี้ หลี่เหวยพาฉินหว่านมาทำความคุ้นเคยกับธุรกิจของบริษัทพอดี ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งฟังพวกเขาพูดคุยกันในห้องพักผ่อน

ทำไมฉินซีต้องมองไปทางนั้น? หรือว่าเธอรู้แล้ว?

หลี่เหวยด้านในได้ยินคำพูดนี้แล้วจะคิดอย่างไร?

เขาสับสนอยู่พักหนึ่ง ทำได้แค่ตอบอย่างคลุมเครือ “เธอถามคำถามนี้……มันรีบร้อนเกินไป……”

ฉินซีมองแววตาเขา ก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเดาเป็นเรื่องจริง หลี่เหวยและฉินหว่านอยู่ด้านใน จึงจงใจขยายเสียงให้ดังขึ้น ราวกับตั้งใจพูดกับใครบางคน “แต่ถ้าในอนาคตบริษัทนี้เป็นของคนอื่น ทำไมฉันต้องพยายามช่วยอย่างเต็มที่ด้วยล่ะ?”

ฉินซึ่งเทียนข่มอารมณ์ใบหน้าไว้ไม่ได้ ตบโต๊ะ “ฉินซี! ถ้าเธอไม่ยอมช่วย ก็ไม่ต้องหาข้ออ้าง!”

ฉินซีแค่นหัวเราะ “นี่มันใช่ข้ออ้างที่ไหน ฉันถามตรงๆ”

ฉินซึ่งเทียนชี้ไปที่จมูกฉินซีกำลังจะด่า แต่จู่ๆ หซู่หนานก็เปล่งเสียง “ฉินซี เธอคิดว่ามีวิธีไหนดีๆ ในการโฆษณาบ้าง?”

ฉินซีไม่คิดว่าเขาจะถามคำถามนี้ เลิกคิ้ว “ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้”

แต่หซู่หนานยังยืนกราน “ฉันเห็นวิดีโอโฆษณาที่เธอถ่ายให้บริษัทลู่ซื่อ ถ่ายได้ดีมากเลย”

ฉินซีหัวเราะเบาๆ “แต่บริษัทลู่ซื่อถ่ายวิดีโอโฆษณาอันนี้ ไม่มีข้อจำกัดงบประมาณ”

อารมณ์ฉุนเฉียวของฉินซึ่งเทียนถูกขัดจังหวะ ก็ไม่ได้ระบายออกไปอย่างราบรื่น ได้ยินประโยคนี้ของฉินซีก็รู้สึกแปลกใจมาก

“ไม่จำกัดเหรอ?”

ฉินซียักไหล่ “ใช่แล้ว บริษัทลู่ซื่อไม่ขาดเงินจริงๆ”

บริษัทลู่ซื่อไม่ขาดเงิน แต่ไม่เต็มใจที่จะต่อสัญญากับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

การบอกเป็นนัยแบบนี้ ก็เป็นการตบหน้าฉินซึ่งเทียนอย่างแรง

สีหน้าฉินซึ่งเทียนแดงก่ำอีกครั้ง แต่ฉินซีแค่ยิ้มจางๆ มองหซู่หนาน “ไม่รู้ว่าผู้จัดการใหญ่หซู่ มีข้อจำกัดด้านงบประมาณไหม ฉันจะได้ให้คำแนะนำของฉันอย่างเต็มที่?”

สีหน้าหซู่หนานซีดเซียว หลังจากนั้นสักพักก็ส่ายศีรษะ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท