Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 961

ตอนที่ 961

บทที่ 961 จะต้องไม่ทำให้คุณผิดหวัง

แววตาหลี่เหวยเป็นประกายขึ้นมาในพริบตาเดียว

เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนของสูหยิง และเธอเพิ่งพูดว่า สูหยิงอยากให้ฉินซีล้มเลิกความตั้งใจกับลู่เซิ่น

นี่มันได้มาง่ายๆ โดยไม่คาดคิดจริงๆ !

เธอส่งสายตาให้ฉินหว่านนั่งที่เดิม ตัวเองยืนขึ้นมา แล้วเดินไปทางเด็กผู้หญิงคนนั้น

“สวัสดีจ้ะ” หลี่เหวยให้ตัวยิ้มอ่อนโยนที่สุด “ขอโทษนะที่ได้ยินคุณคุยโทรศัพท์ ฉันขอแนะนำตัวเองสักหน่อย ฉันคือแม่เลี้ยงของฉินซี ชื่อหลี่เหวย”

สูหวั่นทำหน้าตาตกใจ พยักหน้าพูดขึ้น “สวัสดีค่ะ”

“เธอก็มาทำงานนอกสถานที่ที่นี่ใช่ไหม? ” หลี่เหวยยิ้มอย่างใจดี “เราสั่งอาหารเช้ามาเยอะ ถ้าไม่รังเกียจ มากินกับพวกเราได้นะ”

สูหวั่นแสร้งทำเป็นลังเลสักพักหนึ่ง แต่ก็พยักหน้านั่งที่โต๊ะพวกเขา

“เมื่อกี้คุณโทรคุยกับคุณนายลู่ สูหยิงใช่ไหม? ” ทั้งสามคนคุยเล่นกันสักพัก หลังจากคุ้นเคยกันเล็กน้อยแล้ว หลี่เหวยก็แทบรอไม่ไหวเข้าประเด็นเลย

ใบหน้าสูหวั่นเผยความระแวดระวังออกมานิดหน่อย “ฉัน……”

“คืออย่างนี้นะ” หลี่เหวยเห็นสีหน้าลังเลของเธอ ก็พูดอย่างตรงไปตรงมา “เมื่อกี้ฉันได้ยินคุณคุยโทรศัพท์ เหมือนว่า……คุณนายลู่จะไม่พอใจกับการแต่งงานครั้งนี้อย่างมาก”

สูหวั่นยังคงทำสีหน้าระแวดระวัง ไม่ได้พูดอะไร

หลี่เหวยก็ไม่ได้หงุดหงิด ยังคงยิ้มและพูดขึ้น “พอดีเลย เราเองก็ไม่ต้องการให้งานแต่งงานครั้งนี้สำเร็จเหมือนกัน”

สีหน้าระแวดระวังบนใบหน้าสูหวั่นก็จางลงนิดหน่อย แต่คิ้วก็ยังขมวดเล็กน้อย “แต่……ทำไม?”

หลี่เหวยยิ้มส่ายศีรษะ “ฉินซีทำอะไรไม่เห็นอกเห็นใจเกินไป มีบริษัทลู่ซื่อหนุนหลังอยู่ แต่อยากทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เราเลยไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้โดยธรรมชาติ”

สูหวั่นผลุบตาลง ลังเลสักพักหนึ่งก่อนเอ่ยขึ้น “คุณหมายความว่า……เราร่วมมือกันได้ใช่ไหม”

หลี่เหวยพยักหน้า ยื่นมือออกมา “ฉันเชื่อนะ เราจะร่วมมือกันได้อย่างดีเยี่ยม”

……

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สูหวั่นกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็มีความสัมพันธ์กัน

บริษัทลู่ซื่อกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอยู่ใกล้กันมาก ลู่เซิ่นไม่สนใจเธอเลย ดังนั้นเธอเลยมาบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเพื่อปรึกษาหารือกับหลี่เหวยและฉินหว่านอยู่บ่อยๆ

ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนจะเท่าเทียมกัน ความจริงแล้วสูหวั่นแทบเป็นคนควบคุมสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด

เพียงแค่พวกเธอสามคน ดูเหมือนจะไม่มีทางสั่นคลอนความสัมพันธ์ของลู่เซิ่นกับฉินซีเลยโดยสิ้นเชิง

จุดวิกฤติเกิดขึ้นตอนที่ฉินซึ่งเทียนเข้าร่วม

ในตอนแรกฉินซึ่งเทียนไม่สนใจในแผนการของพวกเธอ ไม่ว่าฉินซีจะคบกับลู่เซิ่นหรือไม่ ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงปัญหาสินค้าค้างสต๊อกจำนวนมากของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้

“ถ้าฉินซีไม่มีการสนับสนุนจากบริษัทลู่ซื่อ บริษัทลู่ซื่อกับพวกเราก็ถือว่าไม่ได้มีความคับข้องใจใดๆ คำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิกไม่สามารถเอากลับคืนได้ แต่อย่างน้อยการพัฒนาลูกค้าใหม่ก็ไม่ยากเหมือนตอนนี้”

หลี่เหวยพยายามอยากโน้มน้าวเขา ฉินซึ่งเทียนนึกถึงความยากลำบากที่ตัวเองเจอมาสองสามวันนี้ ยังคงค่อนข้างลังเล

นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ออกไปคุยธุรกิจกับลูกค้าแบบนี้ และนานมากแล้วที่ไปทานอาหารที่ไหนก็ได้รับการปฏิบัติอย่างเมินเฉยใส่

แต่ทั้งหมดนี้ถ้าไม่มีฉินซี มันจะดีจริงๆ เหรอ?

ความลังเลของเขาสูหวั่นก็เห็นในสายตา เธอไม่ได้อ้อมค้อมมากมายเหมือนหลี่เหวย แค่ถามออกไปตรงๆ “คุณมีความสามารถในการทำให้ลู่เซิ่นกับฉินซีเลิกกันได้ไหม?”

ฉินซึ่งเทียนรู้ว่านี่คือแต้มต่อรองของเขา พยักหน้าโดยไม่ลังเล

“โอเค” สูหวั่นพยักหน้า “งั้นคุณก็ลองดูได้ ฉินซีจะมีความรู้สึกกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเท่าไร”

แต่ฉินซึ่งเทียนจู่ๆ ก็พูดขึ้น “แต่ฉันต้องติดต่อกับคุณนายลู่โดยตรง”

สูหวั่นพยักหน้าอย่างมั่นใจมาก “ฉันทำได้”

ดังนั้นฉินซึ่งเทียนจึงทำตามคำแนะนำของเธอ อยากให้ฉินซีเสนอให้บริษัทลู่ซื่อซื้อสินค้าค้างสต๊อกของพวกเขา และสิ่งที่ได้รับจากฉินซีคือการดูถูกอย่างไร้ความปรานี

สุดท้ายฉินซึ่งเทียนก็ล้มเลิกความคิด ติดต่อสู่หวั่น อยากให้เธอมาที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเพื่อคุยกัน

ตอนนี้จึงมีสูหวั่นปรากฏกายขึ้นในห้องประชุม

……

“ตอนนี้ฉันติดต่อคุณนายลู่โดยตรงได้แล้วใช่ไหม? ” ฉินซึ่งเทียนถาม

สูหวั่นถือโทรศัพท์ ลังเลนิดหน่อย “คุณบอกฉันก่อนได้ไหมว่า……คุณคิดจะพูดอะไรบ้าง?”

ถ้าเขาแค่กำลังทำให้สับสน มันเสียเวลาสูหยิง สูหวั่นรู้ว่าตัวเองคงจบไม่ดี

แต่ฉินซึ่งเทียนยืนกรานอย่างมาก “ฉันต้องการคุยกับคุณนายลู่โดยตรง”

การแสดงออกของเขาไม่เหมือนเสแสร้ง สูหวั่นลังเลไม่กี่วินาที และโทรหาสูหยิง

สักพักหนึ่งสูหยิงถึงรับสาย

“เสี่ยวหวั่น? เกิดอะไรขึ้น? ”

เสียงเธอฟังแล้วรู้สึกไม่ใส่ใจ ราวกับคนอื่นไม่คู่ควรที่เธอจะเก็บมาใส่ใจ

สูหวั่นรีบอธิบายสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างรวดเร็ว

“หือ? ” เสียงสูหยิงสูงขึ้น ฟังดูแล้วค่อนข้างสนใจ “งั้นเธอเอาโทรศัพท์ให้เขา ให้เขามาพูดหน่อย”

ฉินซึ่งเทียนรับโทรศัพท์มา เอ่ยทักทายอย่างสุภาพ “คุณนายลู่”

“ประธานฉิน” สูหยิงไม่ได้ทำให้ฉินซึ่งเทียนลำบากใจอะไร น้ำเสียงเรียกได้ว่าสุภาพ “คุณบอกมีข้อมูลที่มีค่า มันคืออะไรล่ะ?”

ฉินซึ่งเทียนกัดฟัน “เรื่องมันเกี่ยวกับสามีคุณ ผมรู้สึกว่าเราน่าจะคุยกันเป็นการส่วนตัวจะดีกว่า”

“ลู่เหวย? ” สูหยิงไม่เหลือความเมินเฉยในน้ำเสียงอีกแล้ว “คุณอยากพูดอะไรกันแน่?”

ตอนนี้คนที่สบายอกสบายใจกลายเป็นฉินซึ่งเทียนแล้ว “คุณนายลู่จองสถานที่สิครับ สิ่งของในมือผม จะต้องไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ๆ”

……

ฉินซีและลู่เซิ่นทางนี้ ยังไม่รู้ว่าในห้องประชุมบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไรบ้าง

ฉินซีแค่มองหลินหยังเปิดกล่องอาหารกลางวันวางไว้บนโต๊ะ ค่อนข้างเกิดอารมณ์บางอย่าง “คุณทำเป็นทุกอย่างจริงๆ”

หลินหยังรู้สึกถึงสายตาลู่เซิ่นที่มองมาในพริบตาเดียว รีบปฏิเสธ “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันทำได้แค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้นเอง”

ฉินซีมองไปรอบๆ สักหน่อย “งานแบบนี้พวกผู้หญิงมักจะทำกัน คุณมาทำเรื่องพวกนี้มันง่ายเกินไปหรือเปล่า สูหวั่นล่ะ?”

สีหน้าหลินหยังแข็งทื่อ “เธอ……ถึงเธอจะเป็นผู้ช่วย แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เราก็ไม่ไว้ใจมอบงานให้เธอทำ เลยไม่มีใครสนใจว่าเธอไปไหน”

ฉินซีพยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก หลินหยังเหงื่อแตก เดินออกมาจากห้องทำงาน

“คุณถามสองรอบว่าสูหวั่นอยู่ที่ไหน” ลู่เซิ่นถือตะเกียบของตัวเอง เงยศีรษะขึ้นมองฉินซี “คุณกำลังสนใจเธอเหรอ?”

ฉินซีส่ายศีรษะ ลังเลไม่กี่วินาที และพูดในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งเห็นออกไป “ฉันแค่เห็นเธอ……เหมือนเดินเข้าไปในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป”

“บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป? ” ลู่เซิ่นขมวดคิ้วตามคาด “เธอไปทำอะไรที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป?”

ฉินซียังคงส่ายศีรษะ “ฉันก็ไม่รู้ และฉันอาจจะมองผิดก็ได้ เลยอยากแน่ใจสักหน่อย”

ลู่เซิ่นกดโทรสายภายในไปถามคนในทีมเลขา ได้ข้อมูลมาว่าสูหวั่นไม่อยู่ชั้นนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าไปที่ไหน

……คงไม่ไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจริงๆ หรอกมั้ง?

ฉินซีมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีอยู่รางๆ

สูหวั่นเป็นตัวแทนของคุณนายลู่ แต่คุณนายลู่และบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป จะมีความสัมพันธ์อะไรกันได้ล่ะ?

“คุณกินข้าวก่อน” ลู่เซิ่นเอาตะเกียบของฉินซียัดเข้าไปในมือเธอ

ฉินซีก็ทำได้แค่ระงับความสงสัยชั่วคราวเท่านั้น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท