บทที่ 971 ไม่มีความอาลัยอาวรณ์แม้แต่นิดเดียว
ลู่เซิ่นหันหน้า เก็บสัญญาบนโต๊ะแต่ละฉบับให้เรียบร้อย “ในเมื่อไม่มีผลแล้ว……. คุณเก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ เอาอย่างนี้มั้ยเอาสัญญาของฉัน ทำลายด้วยเครื่องทำลายกระดาษไปพร้อมกัน เพื่อไม่ให้คนอื่นพบเห็น”
ฉินซีค่อยๆขมวดคิ้ว
น้ำเสียงของลู่เซิ่นหนักแน่นมาก ไม่มีความอาลัยอาวรณ์แม้แต่นิดเดียว
ตอนนี้เธอเข้าใจอย่างกะทันหันแล้วว่าทำไมลู่เซิ่นถึงได้นิ่งสงบแบบนี้
เพราะว่าเขาเหมือนได้ตัดสินใจปล่อยฉินซีไปแล้ว ควบคุมความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเอาไว้ กลับไปที่จุดเดิมซึ่งเหมือนไม่เคยรู้จักกัน
ซึ่งก็เหมือนกับสัญญาที่ไม่มีผลในทันทีทันใดนี้ สามารถทำลายและกำจัดทันที ไม่จำเป็นต้องรำลึกถึงใดๆ
แต่ว่าการแต่งงานเธอเสนอขึ้นมาเอง หย่าร้างก็เช่นกัน พูดแบบเข้มงวดเลยแล้วกัน ตั้งแต่ต้นจนจบลู่เซิ่นเติมเต็มข้อเรียกร้องของเธอ เธอไม่มีสิทธิ์โทษลู่เซิ่นว่าไม่มีหัวจิตหัวใจ
เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่พยักหน้าเบาๆ “เอาเถอะ”
ลู่เซิ่นก็เลยยื่นมือ หยิบสัญญาขึ้นมา ลุกขึ้นมาและจะเดินไปที่ประตู
“ถ้าอย่างนั้นสัญญายืมเงิน……….” ฉินซีอดไม่ไหวลุกตามขึ้นมาด้วย
“ต่อให้เป็นสัญญายืมเงิน ก็ต้องใช้เวลาเตรียมตัว” ลู่เซิ่นหันหน้าไปมองเธอ “คุณ……. สามารถไปเก็บข้าวของก่อน ไม่ต้องรีบร้อน”
ฉินซีอึ้งเล็กน้อย
ใช่สิ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย เธอกับลู่เซิ่นก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะอยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวนแล้ว
คิดถึงตรงนี้ มุมปากของเธออดที่จะยิ้มแย้มอย่างขมขื่นไม่ได้
ลู่เซิ่นเร่งให้ตัวเองไปเก็บข้าวของแล้ว ยังจะมาพูดว่าไม่ต้องรีบร้อน
นี่รอไม่ไหวแล้วสินะต้องการให้ตัวเองรีบไปใช่มั้ยหล่ะ?
แต่ว่าได้เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่มีอะไรโต้กลับ ได้แต่ลุกขึ้นมา “ได้”
เธอหันหลังเดินไปทางห้องลับ ลู่เซิ่นยืนอยู่ที่ที่เดิม ไม่ได้ตามมา
………….
ประตูห้องลับปิดไปแล้ว ฉินซีที่ตั้งใจตั้งหลังตรงในที่สุดก็ค่อยๆก้มลงมาแล้ว
เธอใช่ว่าจะไม่เคยคาดการณ์ว่าตัวเองจะไปจากรีสอร์ทชิงหยวน เพียงแต่ว่าไม่เคยคิดว่าตอนที่จะจากไปจะมาเร็วถึงขนาดนี้ ตัวเองถึงกับอยู่ในความอาลัยอาวรณ์อย่างเหนือความคาดหมาย
ส่วนความอาลัยอาวรณ์แบบนี้เข้มข้นกว่าที่เธอจินตนาการเอาไว้เสียอีก
ไม่เพียงแค่อาลัยอาวรณ์ชีวิตความเป็นอยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวน และยังอาลัยอาวรณ์ต่อคนรับใช้หรือว่าพ่อบ้านที่อยู่ข้างกายดูแลตัวเองอยู่อบอุ่น
ในใจของเธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งไปอีกแบบนึงแล้ว
ฉินซีดึงคอเสื้อตัวเองแบบเบาๆ
ความคิดในหัวสมองตัวเองในวินาทีนี้ ถึงกับเป็น”ไม่อยากจากลู่เซิ่นไป”
…………… นี่มันหมายความว่าไงเนี่ย?
เธอไม่ใช่คนซื่อบื้อ แต่ว่าเธอไม่อยากยอมรับ ยิ่งไม่อยากไปเผชิญหน้า
เธอก็เลยบังคับตัวเองก้มตัวลง เริ่มเก็บข้าวของ ไล่ความสัมพันธ์ที่เบียดมากเกินไปออกไปจากหัวสมอง
แต่ว่าหัวสมองสามารถควบคุมได้ แต่หัวใจกลับไม่ได้
ฉินซีเอาสิ่งของทุกชิ้นออกมา ก็จะมีความทรงจําที่ยาวเหยียดออกมาด้วย
แม้กระทั่งห้องลับห้องนี้ ล้วนเป็นความทรงจําทั้งนั้น
วันแรกที่เธอเข้ามาที่รีสอร์ทชิงหยวนลู่เซิ่นก็กดเธอไว้และเหลวไหลทั้งคืน แม้แต่สัมภาระที่คนรับใช้เก็บเรียบร้อยแล้วเธอก็ยังไม่ทันได้ดูด้วยซ้ำ ก็หลับจนถึงตอนเย็นถึงตื่นขึ้นมา
ลู่เซิ่นไม่อยู่ในบ้านแล้ว คนรับใช้ยกอาหารมา หลังจากเธอทานเสร็จเรียบร้อย พ่อบ้านก็ได้เชิญชวนอย่างตั้งใจและพาเธอไปดูห้องลับที่เตรียมไว้ให้กับเธอโดยเฉพาะ
ฉินซีเซอร์ไพรส์เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเห็นห้องลับที่จัดได้อย่างเหมาะสม ส่วนตอนที่เลนส์กล้องของตัวเองถูกมืออาชีพปรับอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็ยิ่งพอใจไปใหญ่
เธอขอบคุณพ่อบ้าน พ่อบ้านกลับพูดว่า นี่ล้วนเป็นสิ่งที่ลู่เซิ่นจัดการ
ฉินซีรู้ดีจัดห้องลับห้องนี้ต้องการความตั้งอกตั้งใจมากแค่ไหน และรู้ดีอีกว่าควบคุมเลนส์กล้องที่แตกต่างกันและการเก็บข้อมูลไว้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยทีเดียว แต่ว่าในขณะนั้นสำหรับถานะของตัวเองเธอยังไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้
แต่ว่าทำไมมาจนถึงตอนนี้ ถึงได้สังเกตเห็นความดีของลู่เซิ่นหล่ะ?
ฉินซีถอนหายใจเบาๆ ลากกล่องเก็บเลนส์กล้องออกมาเตรียมตัวจัดเก็บดีๆสักหน่อย
ประตูห้องลับถูกเคาะจนดังขึ้นมาอีกแล้ว
เสียงของพ่อบ้านได้ดังขึ้นมา
“คุณนายครับ ประธานลู่ให้คุณไปห้องหนังสือสักครู่ครับ”
มือของฉินซีกระตุกเบาๆ ตอบกลับไปว่า “ได้”
…………
ห้องหนังสือยังคงเป็นห้องหนังสือห้องนั้น ยิ่งไปกว่านั้นทนายความก็ยังเป็นทนายความคนนั้น
เซ็นสัญญาทุกครั้งฉินซีนั่งอยู่ที่ที่นั่งที่เดิม คราวนี้มีความคุ้นเคยมากขึ้นแล้ว
“นี่เป็นฉบับสัญญาการหย่าร้าง” ทนายความเอาหนังสือสัญญาวางไว้ตรงหน้าฉินซี “ผมเคยเห็นฉบับที่คุณนายลู่นั้น ตามฉบับนั้นเลยนะครับแก้เงื่อนไขไปแค่ไม่กี่ข้อ และได้เขียนออกใหม่แล้วนะครับ คุณสามารถดูให้ละเอียดเลยนะครับ”
ฉินซีมองแค่แว๊บเดียว แต่ว่าวินาทีนี้เธอไม่มีอารมณ์ เพราะฉะนั้นก็แค่ดูๆไป จึงไม่ได้ถามอะไรมาก
ทนายความผิดไปจากปกติโดยสิ้นเชิง ไม่ได้อธิบายด้วยตนเองอะไรกับเธอเหมือนกับครั้งก่อนๆ เพียงแค่มองเธอและพยักหน้า แล้วก็ยื่นปากกาออกมาแล้ว
” ผมขอเตือนคุณอีกครั้งนะครับ หลังจากสัญญาฉบับนี้เป็นผล สัญญาอีกสองฉบับของก่อนหน้านี้ล้วนเป็นโมฆะ ผมจะเสริมสัญญายืมเงินขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งฉบับ อยู่ที่นี่ครับ”
ทนายความยื่นเอกสารหนึ่งฉบับออกมา “ตามสัญญายืมเงินธนาคาร ประธานลู่พูดว่าสิ่งที่คุณจำนำคือหุ้นของบริษัทฉิน หุ้นส่วนส่วนนี้ต้องการหลังจากที่คุณมีเวลาค่อยไปจนทะเบียนสมรส แต่ว่าตอนนี้ไม่มีผลกระทบต่อสัญญาที่เซ็นในฉบับนี้แล้ว”
ฉินซีรู้สึกผิดปกติ” ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสก่อนงั้นหรือ?”
สีหน้าท่าทางของทนายความนิ่งสงบ ปฏิกิริยาเป็นมืออาชีพ” จดทะเบียนสมรสเที่ยงวันถึงจะทำการนิ ประธานลู่ใจร้อนจะเซ็นสัญญาฉบับนี้ หุ้นของคุณก็ไม่ใช่ของปลอม เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อน”
ฉินซีมองหน้าลู่เซิ่นแว๊บนึง
สีหน้าท่าทางของเขานิ่งสงบกว่าทนายความเสียอีก
รีบร้อนถึงขนาดนี้เชียว………… จะหย่าร้างกับตัวเองให้ได้สินะ?
ฉินซีเม้มปาก เก็บความกลุ้มใจของตัวเองเอาไว้ ดึงสัญญามา ดูๆไปแบบมั่วซั่ว ก็เซ็นชื่อลงไปทีเดียวซะเลย
ทนายความถือสัญญาทั้งสองฉบับไว้ในมือ พยักหน้า “ขั้นตอนทั่วไปเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้มีอะไรอีก ผมจะแจ้งคุณอีกครั้งนะครับ”
ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่จำเป็นต้องไปรับใบหย่าหรือ?”
ทนายความพยักหน้าอย่างสุภาพและอย่างมีมารยาท “สัญญาหลายฉบับนี้ยังต้องใช้เวลาจัดการอีกสักหน่อย จัดการเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อไหร่ ผมจะแจ้งคุณเองนะครับ ถ้าหากไม่อยากไปจัดการเอง คุณก็สามารถมอบหมายให้ผมไปทำแทนคุณได้นะครับ”
ฉินซีคิดอยู่หลายวินาที พยักหน้า” ถ้าอย่างนั้นถึงเวลา คุณค่อยแจ้งฉันอีกทีก็แล้วกัน”
หลังจากทนายความพยักหน้าให้กับทั้งสองคนเพื่อเป็นการขอบคุณ ถือสัญญาและเดินออกไปจากห้องหนังสือ
ฉินซีกลับไม่ได้ตามไปอย่างใจร้อน แต่นั่งอยู่ที่ที่นั่งของตัวเอง
ลู่เซิ่นหันหลังมองเธอ ขมวดคิ้วเบาๆ “คุณมีอะไรจะพูด? ”
ฉินซีเม้มปาก และยังได้เอ่ยปากพูดว่า “ฉัน………. ยังหาบ้านพักที่เหมาะสมไม่เจอในขณะนี้ เพราะฉะนั้นก่อนหาบ้านพักเจอ ขอพักอยู่ที่นี่ไม่กี่วันจะได้มั้ย?”
เธอพูดจบ ก็รู้สึกว่าข้อเรียกร้องตัวเองนั้นไร้เหตุผลไม่เบาทีเดียว
สีหน้าท่าทางคืนนี้ของลู่เซิ่นไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย วินาทีที่ได้ยินข้อเรียกร้องของฉินซีแบบนี้ ก็แค่พยักหน้า” ได้เลย”
ฉินซีได้ยินว่าเขารับปากแล้ว โล่งใจไม่เบา เสริมขึ้นมาว่า” ฉัน………ขอพักที่ห้องนอนของคุณต่อไปถ้าหากไม่สะดวก สามารถให้พ่อบ้านจัดห้องรับแขกให้กับฉันสักห้องก็ได้”
เสียงพูดเพิ่งจบลง เธอรู้สึกว่าลู่เซิ่นเหมือนหรี่ตา
“ไม่ต้อง” ลู่เซิ่นส่ายหน้า ”ตอนนี้การดำเนินการยังจัดการเสร็จสิ้นอย่างไม่สมบูรณ์ ผมก็ไล่คุณไปพักที่ห้องรับแขก มันจะไร้หัวจิตหัวใจเกินไป”