Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 976

ตอนที่ 976

บทที่ 976 ฉันเกลียด​ถูก​ข่มขู่​ที่สุด

ลู่เหวยอึ้งไปแป๊บนึง​ก่อน รอยยิ้ม​ที่หน้าค่อยๆอ่อนโยน​ขึ้น​มา​ “เพราะว่า​เธอชอบตั้งแต่​เด็กไงหล่ะ”

ฉินซีอึ้ง

หนูคิดมาตลอดว่า แม่หนู​ชอบดอกไม้​แบบนี้ เป็นเพราะ​ว่าตอนที่เแม่แต่งงานกับฉินซึ่งเทียน ดอกไม้ที่ถือใช้เป็นลูกบอลลายลูกปัด”

ลู่เหวยกลับส่ายส่ายหน้า​ รอยยิ้ม​ที่หน้าค่อยๆจางหาย​ไป​”ไม่ใช่เพราะว่า​งานแต่งของเธอกับฉินซึ่งเทียนที่ถือในงาน​แต่ง​เป็นลูกบอลลายลูกปัด แต่เป็นเพราะว่า​ที่ถือ​อยู่​ในมือเจ้าสาว ล้วนขาดลูกบอลลายลูกปัดไม่ได้ต่างหาก​”

การอบรม​สั่งสอน​ของตระกูลเหยาที่มีต่อเหยาหมิ่นนั้น ก็คือผู้​หญิง​ที่เป็นกุลสตรีตามมาตรฐาน มาตรฐานเกินไป​จนเสื่อมโทรม​

ไม่เคยคิดที่จะให้เธอได้พัฒนา​อาชีพ​ของ​เธอเอง แต่กลับเป็นความคิดที่ชะตาของผู้หญิ​งนั้นต้องพึ่งพาอาศัย​สามีเช่นนี้​นี่เอง​

เพราะฉะนั้น​เหยาหมิ่นจึงคาดหวัง​กับการแต่งงานของตัวเองมาโดยตลอด​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยังเคยคุยกับลู่เหวยด้วยซ้ำว่า งานแต่งที่เธอหวังไว้นั้นมันเป็นยังไง​

เพราะฉะนั้น​สิ่งที่เธอชอบตั้งแต่​เด็ก ก็คือลูกบอลลายลูกปัดในงานแต่งบรรดา​เจ้าสาวที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ

แต่ว่าเธอไม่เคยคิดมาก่อน งานแต่งที่เธอฝ่ายฝันนั้น​ ซึ่งเป็นที่ที่เธอต้องมาเสียชีวิต​ในต่อมา​

ฉินซีได้ยิน ก็ก้มหน้า​ลง​

ถ้าหาก​ ณ ตอนนั้นตระกูลเหยาไม่อบรมสั่งสอน​เหยาหมิ่นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้น​ต่อมา​เธอก็จะไม่อ่อนแอ​ถึงขั้นนี้ และถึงกับถูก​ฉินซึ่งเทียนทำให้ตาย

……….แต่ว่าการตั้งสมมติฐาน​เหล่านี้​ในตอนนี้ ล้วนไม่มีความหมาย​เสียแล้ว

สิ่งเดียว​ที่​ฉินซีสามารถ​ทำได้ ก็คือสืบหาความจริงให้กระจ่างแจ้ง​ คืนความบริสุทธิ์​ให้กับแม่ซะ

……….

ฉินซีอยู่​ข้างนอกไม่นานนัก ขับรถกลับไปที่รีสอร์ทชิงหยวน

ตามนิสัยในอดีต​ที่ผ่านมา เวลาป่านนี้​แล้ว ส่วนใหญ่​เธอกินอะไรแบบง่ายๆที่ข้างนอกก่อนค่อยกลับไป แต่ว่าพอนึกถึง​วันในข้างหน้า​น่าจะไม่มีโอกาส​ได้ทานอาหารที่พ่อครัวในรีสอร์ทชิงหยวนทำแล้ว วันนี้ฉินซีจึงตั้งใจรีบกลับไปทานอาหารเที่ยง

คนเราเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย​เลย สูญเสีย​ไป​แล้วถึงจะรู้จักถนอม​

รถยนต์​เพิ่งจอดสนิท มือถือ​ก็ดังขึ้น​มา​เหมือนกับถูกตั้งเวลาไว้

สายเข้าเป็นเบอร์โทร​แปลกหน้า​

ฉินซีตั้งสติ เปิดเสียงบันทึก​ของมือถือ​ก่อน ต่อมาค่อยรับสาย

“ฉินซี” เสียงที่ดังขึ้น​มาจากทางโน้น​ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน แต่เป็นเสียงของฉินซึ่งเทียนเอง

เขาเหมือนโมโห​มาก​ คำพูดทุกคำล้วนบีบออกมาจากร่องฟัน

ฉินซีไม่ทันได้พูดจา เขาก็เอ่ยปากพูดออกมาเป็นชุด “แกคิดว่า​ตัวเองไต่เต้าจนได้ลู่เซิ่นมาก็อวดดี​นักใช่ไหม? และยังคิดว่าตัวเองเป็นผู้มีชื่อเสียงอันโด่งดัง​ใช่รึเปล่า? นอกจากพึ่งพาตระกูล​ลู่ช่วยแกแล้ว แกยังทำอะไรเป็นอีก?”

เขาพูดจากลับไปกลับมา​ ฉินซีขมวดคิ้ว​ เอ่ยปากออกมา​ด้วยความน่ารำคาญ “คุณ​พูดอะไร?”

“แกยังแกล้งโง่อีก” ฉินซึ่งเทียนเหมือนยิ่งโมโห “การประมูล​ของโครงการตึกแฝด แกบอกกับลู่เซิ่นใช่ไหม? ตอนนี้ตระกูล​ลู่แย่งธุรกิจ​ของเรา แกพอใจแล้วสินะ​?”

ฉินซีตอบกลับ​อย่างเยือกเย็น ​”ประธาน​ฉิน ฉันรู้ว่าคุณ​อายุ​มากแล้ว บางครั้งก็หลงลืมไปบ้าง แต่ว่าทำไมตอนนี้ถึงหัดกุเรื่อง​ขึ้นมาแบบดื้อๆซะงั้นหล่ะ? คุณ​เคยพูดถึง​การประมูล​ของโครงการตึกแฝดตั้งแต่​เมื่อไหร่​ นอกจาก​แต่งรูปแล้ว ตอนนี้คุณ​ยังกุเรื่องเท็จออกมา​อีกด้วย​?”

ฉินซึ่งเทียนถูกเธอพูด​จนพูดไม่ออก​เลย​ทีเดียว​ เสียงยิ่งดัง​มาก​ขึ้น​ เริ่มระบายอารมณ์​ ตะคอกอยู่ในสายทางโน้น” ฉินซี ฉันรู้แม่แกเกิดเรื่อง​กระทบ​กระเทือน​ต่อแกมาก แต่ว่าฉันไม่คิดเลยว่าแกจะลงมือกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปถึงขั้นนี้ แกคอยดู คนอย่างแก อยู่​ที่​บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ได้เด็ดขาด”

ฉินซีถูกเขาวุ่นวาย​จนแสบหู ยื่นมือปุ๊บปิดมือถือ​ไปทีเดียว​ และบล็อก​เบอร์​นี้ไปด้ว​ย

ถึงแม้​ฉินซึ่งเทียนบ่นอยู่ตั้งนานสองนาน แต่เหมือนกับว่าพูดข้อความ​ที่​มีประโยชน์​ออกมา​แค่นึงข้อความเท่านั้น​

โครงการประมูลของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปนั้น ถูกบริษัทลู่ซื่อแย่งชิง​ไปแล้ว ส่วนฉินซึ่งเทียนสงสัย​ว่าเธอแจ้งเบาะแส​ เพราะฉะนั้น​จึงกะจะไล่เธอออกจาก​บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

สำหรับการข่มขู่​ของเขาฉินซีไม่ได้​ใส่ใจ​อะไร​ แต่ว่าประหลาด​ใจกับการประมูล​ของโครงการตึกแฝดเรื่องนี้

………… หรือว่า เป็นฝีมือลู่เซิ่นอีกแล้ว?

แต่ว่าพวกเขาได้…….หย่าร้าง​กันแล้วนี่น่ะ​

ฉินซีนั่งคิดๆดูในรถยนต์​สักพัก​ กะว่า​ตอนที่เจอกับลู่เซิ่นในคืนนี้ค่อยถามเขาดู

สุดท้าย​เดินเข้าไปในห้องรับประทาน​อาหาร​ ถึงได้พบว่า ลู่เซิ่นได้นั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหาร​เรียบร้อย​แล้ว​

ฉินซีประหลาดใจ​เล็ก​น้อย “วันนี้คุณ​ไม่ไปทำงานหรือ?”

ตอนเช้าเธอจะไปที่โรงพิมพ์​นิตยสาร​ เพราะฉะนั้น​จึงตื่นแต่เช้า ตอนที่ตื่นขึ้น​มา​ ลู่เซิ่นยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ

ลู่เซิ่นก้มหน้า​เปิดเอกสารออกมา​หนึ่งหน้า “ตอนนี้ผมต้องรายงาน​การเดินทางของผมกับคุณ​ด้วยหรือ?”

ฉินซีจุกอกกับคำพูดของเขา ทันทีทันใด​นั้นพูดจาไม่ออกเลย

จริงๆ เธอกับลู่เซิ่นตอนนี้ไม่ได้​มีความสัมพันธ์​อะไรกันแล้ว

ฉินซีถอนหายใจออก​มาเบาๆนึงครั้ง ไม่​พูดเรื่องนี้อีกต่อไป แค่ไปล้างมือ นั่งอยู่ข้างโต๊ะ​บนที่นั่งของตัวเอง

พ่อครัวเสิร์ฟ​อาหาร​ไวมาก ทั้งสองคนทานข้าวเที่ยง​เสร็จ​เรียบร้อย​อย่างเงียบๆ ฉินซีคิดเรื่อง​ที่ฉินซึ่งเทียนพูด ก่อนลู่เซิ่นไปจากโต๊ะ​อาหาร​ รีบเอ่ยปาก​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า “วันนี้​บริษัทลู่ซื่อประมูล​โครงการ​นึงใช่รึเปล่า?”

ลู่เซิ่นมองหน้าฉินซีด้วยสีหน้าที่นิ่งๆ ครั้งนี้ไม่ได้ใช้คำพูดที่ทำให้เธอจุกอก เพียงแค่​พยักหน้า​ “ใช่”

ฉินซีคิดๆดู ไม่ได้ถามไปแบบตรงๆ แต่ถามแบบอ้อมๆว่า “โครงการ​อะไร?”

ลู่เซิ่นหรี่ตามองฉินซีแป๊บนึง​ หลังจาก​หลายวินาทีค่อย​ตอบกลับไปว่า​ “โครงการตึกแฝด โครงการอสังหาริมทรัพย์​”

ฉินซีขมวดคิ้ว​เล็ก​น้อย

นโยบาย​การบริหาร​ของบริษั​ทฉินซื่อกรุ๊ปมีแค่ด้านเดียวมาโดยตลอด​ เป็นแค่ธุรกิจ​ส่งออกนอกประเทศ​เท่านั้นเอง​ ครั้งนี้ทำไมถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยว​เกี่ยวกับ​โครงการ​อสังหาริมทรัพย์​ได้หล่ะ?

“คุณ​ใส่ใจ​กับ​โครงการ​ของบริษั​ทลู่ขนาดนี้เชียวเหรอ? “ลู่เซิ่นเอ่ยปาก​ถามขึ้น​มาอย่างกะทันหัน​

ฉินซีส่ายหน้า​ คิดๆดู​ไม่กี่วินาที​ ถามออกมา​แบบตรงไปตรงมา​ “โครงการ​นี้​ พวกคุณ​แย่งของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมาใช่มั้ย?”

ถ้าหาก​บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอยากหันมาทำอสังหาริมทรัพย์ ​ตามนิสัยที่ชอบเอาดีเอาเด่นของฉินซึ่งเทียน น่าจะหาโครงการ​นึงที่เป้าหมาย​ไม่ใช่เล็กๆ และโครงการ​ที่มีการแข่งขัน​ไม่สูง

ส่วนบริษัทลู่ซื่อเป็นธุรกิจ​ซึ่งทำอสังหาริมทรัพย์​ที่เก่าแก่ ถ้าหาก​ในโครงการ​มีคู่ต่อสู้​แบบนี้อยู่ บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปน่าจะหลบเลี่ยง​ถึงจะถูก

คิดเช่นนี้​ บริษัทลู่ซื่อน่าจะเข้าร่วมทีหลัง……

ลู่เซิ่นหัวเราะ​แบบเบาๆ เสียงหัวเราะ​มีการดูถูกดูแคลนแฝง​ด้วย “โครงการ​เล็ก​ๆแค่นี้​ ยังถือว่า​เราแย่งชิง?”

ฉินซีเงียบกริบ​

ตามหน้าตาของฉินซึ่งเทียนที่โมโห​อย่างกับฟ้าผ่า ในสายตาเขา น่าจะไม่ใช่”โครงการ​เล็กๆ”อย่างที่พูด​ในสายตาลู่เซิ่น

แต่ว่าฉินซีรู้ดี เธอสามารถ​ถามจากลู่เซิ่น ก็มีแค่นี้แหละ​

ที่เหลือ​ ไม่ว่าเธออยากรู้​เรื่อง​มากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าลู่เซิ่นคงไม่บอกกับเธอแน่นอน​

อย่างเช่นบริษัทลู่ซื่อที่เข้าร่วมทีหลัง​ ไปทำ”โครงการ​เล็ก​ๆ”ที่เขา​พูด​ สาเหตุ​เป็นเพราะเธอรึเปล่า​นะ?

ไม่โทษ​ที่​เธอ​คิดเช่นนี้ เพราะว่า​เวลาแบบนี้มันช่างบังเอิญ​มากๆ

ก่อนหน้านี้​ฉินซึ่งเทียนเอารูปถ่าย​ที่ทำขึ้นมา​ปลอม​ๆให้กับสูหยิง และต่อมา​บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็เสีย​โครงการ​ไปดื้อๆ ฉินซีไม่สงสัย​เลยสิถึงจะแปลก​

เพราะฉะนั้น​เธอแค่บ่นออกมาเบาๆนึงคำเท่านั้น “เพราะอะไร?”

ความจริงเธอไม่ได้หวังให้ลู่เซิ่นได้ยิน แต่​คิดไม่ถึง​เขากลับหันหน้า​กลับมา

“เพราะอะไร?” สายตาของเขาหดหู่​มาก “เพราะว่า​เรื่อง​ที่ฉินซึ่งเทียนทำ กำลังมาแตะต้อง​ผลประโยชน์​ของ​ฉัน ถ้าอย่างนั้น​เขาอย่าคิดจะได้อยู่​อย่าง​มีความสุข”

ฉินซีประหลาด​ใจเล็กน้อย

เรื่องที่หย่าขาด​กับตัวเอง ลู่เซิ่น……ไม่พอใจขนาดนี้เชียวหรือ?

แต่ว่าเธอนึกขึ้น​ได้​ในห้องผู้​ป่วยวันนั้น เขาพูดกับสูหยิงว่า” ฉันเกลียด​ที่สุด​ก็คือถูกข่มขู่​”

น่าจะเป็น……. เกลียด​ชังความรู้​สึกที่ถูกข่มขู่​แบบนี้หรอกมั้ง

ฉินซีก้มหน้าก้มตา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท