Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 977

ตอนที่ 977

บทที่ 977 เอาความกล้ามาจากไหน

เสียงกริ่งมือถือ​ของ​ฉินซีได้ทำลายความเงียบสงบ​ เป็นเบอร์โทร​แปลกๆอีกแล้ว

เซ้นส์​ของฉินซี คนที่โทรมาน่าจะเป็นฉินซึ่งเทียน

หลังจากเลื่อน​ขึ้น​ไปเพื่อรับสาย เป็นแบบนี้จริงๆซะด้วย

ฉินซึ่งเทียนโมโห​ชัดเจนมาก ถึงได้ทำเรื่องโทรศัพท์​มาอย่างไม่หยุดหย่อน​แบบนี้

เพิ่งรับสายขึ้น​มา เสียงของฉินซึ่งเทียนก็ดังออกมา​จากทางโน้น​แล้ว

“ฉินซี แกไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้วางสายฉัน ฉันจะบอกให้นะ แกอย่าคิดว่า​พึ่งพา​อาศัย​ตระกูล​ลู่ก็ทำตามใจชอบอย่างที่ตัวเองต้องการ เรื่องที่แกทำ ต้องได้รับกรรมตามสนอง​แน่นอน​ แกไปบอกกับลู่เซิ่นซะ ถ้าแน่จริง​อย่าเล่นตุกติก​ลับหลัง​ มาสู้กับฉันตรงๆได้เลย”

ฉินซียื่นมือออกไปแบบน่ารำคาญ อยากวางสายไปซะ​

คราวนี้​ฉินซึ่งเทียนเหมือนกับเสียสติไปแล้ว​ พูดจากับเขาก็ล้วนเป็นการดึงไอคิวของ​ตัวเองให้ต่ำลง

แต่ว่ามือถือ​ของ​เธอถูกลู่เซิ่นเอาไปแล้ว

ห้องรับประทาน​อาหาร​เงียบสงบมาก เสียงของฉินซึ่งเทียนก็ดังเหลือ​เกิน ลู่เซิ่นนั่งอยู่ข้างๆตัวเอง คิดว่าได้ยินจนชัดแจ๋ว​ทีเดียว​

เพราะฉะนั้น​เขาจึงรับสายขึ้น​มาปุ๊บ​ ก็พูดกั​บคนตรงข้าม​อย่างนิ่งๆว่า “ไม่ต้องรบกวน​ฉินซีมาพูดกับฉันหรอก มีอะไร คุณ​พูด​กับ​ฉันตรงๆได้เลย”

ฉินซึ่งเทียนทางโน้น​ฟังออกว่าเป็นเสียงของลู่เซิ่น หยุดชะงัก​ไป​หลาย​วินาที​ แต่ว่าเขายังโมโห​อยู่​ จึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถึงกับ​เอ่ยปากออกมา​จริงๆ “ลู่เซิ่น เมื่อก่อนฉันเห็นนายเป็นผู้ด้อยอาวุโส​ ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​ ทำผิดนิดๆหน่อย​ๆให้อภัย​ได้ แต่ว่า​การกระทำของนายตอนนี้ ช่างเกินไปแล้ว หรือ​ว่าตระกูล​ลู่สอนนายออกมา​เป็นคนเจ้าเล่ห์​ที่เล่นตุกติก​แบบนี้หรือ?”

ลู่เซิ่นกลับไม่ได้ถูกเขากระตุ้น​จนโมโห​ น้ำเสียงยังคงนิ่งๆ” เล่นตุกติก​ลับหลัง ตระกูล​ลู่ไม่ได้สอนฉันหรอกนะครับ ประธาน​ฉินท่านต่างหาก​ที่เป็นคนสอนผมเอง ผมยังได้เรียนรู้​วิชาอื่น​จากท่านอีกด้วย อย่างเช่นทำลายครอบ​ครัวคนอื่น และแต่งรูป​เคลื่อนย้ายหน้าคนอื่น​ วันหลัง​หากมีโอกาส​ อยากให้ท่านได้เห็นได้รู้สักหน่อย”

ปากของเขาคำก็”ท่าน”สองคำก็” ท่าน” ความหมายแฝง​ไป​ด้วย​การประชด​ประชันมากยิ่งขึ้น​

ฉินซึ่งเทียนถูกทำให้จุกอกไม่เบาเลยทีเดียว​ สักพัก​ถึงออกเสียง​” ลู่เซิ่น นายอย่าถูกผู้​หญิง​ฉินซีคนนั้นหลอก คำพูดของเธอล้วนเป็นคำพูดที่หลอกลวง​ทั้งนั้น​ นายไม่จำเป็น​ต้อง​ผูกความแค้น​กับบริษั​ทฉินซื่อกรุ๊ปเราแบบนี้”

ลู่เซิ่นตอบกลับไปช้าๆ “ประธาน​ฉิน ผมว่าท่านยังไม่เข้าใจ เมื่อก่อนผมมีเรื่อง​กับบริษั​ทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นเพราะว่า​ท่านทำให้ฉินซีต้องลำบากอยู่ตลอดเวลา​ ผมทนดูไม่ไหว แต่​ว่าตอนนี้ผมหาเรื่องบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นเพราะว่า​ท่านทำให้ผมลำบากเสียแล้ว พูด​แบบนี้ คุณ​เข้าใจ​หรือยัง?”

น้ำเสียง​ของ​เขายังนิ่งๆ แต่​ว่าฉินซีที่ฟังอยู่ทางนี้ ยังรู้สึก​ได้ถึงแผ่นหลังที่เย็นเฉียบ​ไปทั่ว

เสียงของฉินซึ่งเทียนไม่มีความมั่นใจ​แล้ว น้ำเสียงอ่อนลงมา อยากใช้ไม้อ่อน” ลู่เซิ่น ฉินซีไม่ใช่ผู้หญิง​ที่​ดีอะไร เธอซ่อนความลับเรื่องใหญ่​โต​เช่นนี้ไม่พูดออกมา​ ใครจะไป​รู้​ว่า​มีจุดประสงค์​อะไร? ฉันได้พูดกับแม่นายเรียบร้อย​แล้ว หวังดีกับนายทั้งนั้น​ นายต้องการผู้หญิง​แบบไหน​ วันหลังฉันหาให้นายเอง นายอย่าดื้อรั้น​จะเอาแต่เธอคนเดียว​สิ ถูก​เธอหลอกแล้วยังไม่รู้​ตัว​อีก​ ฉันเปิดเผย​กับนาย ธุรกิจ​ของ​บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก่อนหน้านี้​ เพราะนายเข้ามาวุ่นวาย​ บริหารธุรกิจ​ต่อไปไม่ไหว​แล้ว ฉันคิดตั้งหลายวิธี ถึงหาโอกาส​นี้ได้ อยากเปลี่ยน​อาชีพ​ให้กับบริษั​ทฉินซื่อกรุ๊ป นายเข้ามาวุ่นวาย​แบบนี้ จะทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเราตาย​ฉิบหาย​ได้นะ ทำไมนายต้องทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปของเราลำบากถึงขั้น​นี้​หล่ะ?”

พูดจนถึงสุดท้าย​ ถึงกับ​มีความหมาย​อ้อนวอนและขอความเห็นอกเห็นใจ​แฝงด้วย

ฉินซีอยู่​ข้างๆ ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ หดหู่​ใจขึ้น​มา​ และลามไปจนถึงทั่วร่างกาย​

ต่อให้​รู้​ดีว่า​ฉินซึ่งเทียนเป็นคนยังไง​ ไม่เคยคาดหวังกับเขาใดๆ แต่ว่าได้ยินเขาทำลายชื่อเสียงลูกสาวแท้ๆของตัวเองจนไม่แยกแยะ​ผิดชอบชั่วดีแบบนี้ จะให้พูดว่าไม่โกรธแค้น​เลยสักนิด มันก็ไม่จริงอะ​

แต่ว่าสิ่งที่ตอบกลับ​ให้กับฉินซึ่งเทียนไปนั้น​ มีแต่เสียงหัวเราะเยาะ​เย้ยและการดูถูกดูแคลน​ของลู่เซิ่นเท่านั้น “ฉินซึ่งเทียน แกอย่าคิดว่าแกแน่ เอารูปถ่าย​ที่แต่งเรียบร้อย​มาหลอกลวง​แม่ฉัน ทำให้เธอต้องนอนโรงพยาบาล แกไม่มีสิทธิ์​มาอบรมสั่งสอน​ฉัน และไม่มีสิทธิ์​ประเมิน​ค่าของฉินซี สำหรับเรื่องของบริษั​ทฉินซื่อกรุ๊ป ฉันรู้แน่นอน​ว่าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะพึ่งโอกาส​ครั้งนี้เพื่อเปลี่ยน​อาชีพ​ ถึงเข้ามาวุ่นวาย​ มิเช่นนั้นจะทำให้คุณ​เสียเปรียบ​และสั่งสอนคุณ​ได้หรือ? คุณ​คิดว่าแค่นี้ก็ถือว่า​ทำให้คุณ​ลำบากแล้วหรือ? ไม่ นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง​”

ฉินซึ่งเทียนเห็นว่าเขาไม่เอาทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง​ ความโกรธ​แค้นจึงลุกขึ้น​มา​อีกแล้ว​” ลู่เซิ่น นายกำลังจะต่อกร​กับเราใช่มั้ย? ได้ เราได้เห็​นดีกันแน่นอน​”

ตั้งแต่ต้นจนจบ​น้ำเสียงของลู่เซิ่นล้วนนิ่งเฉย​” ได้ เราได้เห็นดีกัน”

พูด​จบ เขายื่นมือวางสาย​ไป​เรียบร้อยเเล้ว​

ฉินซีฟังอยู่ข้างๆ มีความอึ้งกิมกี่​เล็กน้อย

เธอไม่เคยเห็นลู่เซิ่นด่าคนขนาดนี้มาก่อน

เหมือนกับ​ว่า……. ดึงดูด​คนเป็นพิเศษ​

ลู่เซิ่นยื่นมือถือ​ให้กับฉินซี สั่งไปแบบไร้ความรู้สึก​ “วันหลังถ้าเขาหาเรื่องคุณอีก คุณ​พูด​กับผมได้เลย”

ฉินซีไม่มีนิสัยขี้ฟ้อง​ แต่​ว่ามองดูสีหน้าลู่เซิ่น แต่ก็ยังตอบรับ​และพยักหน้า

ตอนเย็น​ลู่เซิ่นเหมือนมีงานต้องทำ ไม่เสียเวลาอีกแล้ว​หันหลังและ​ออกไปเลย

ไม่รู้​ว่า​พ่อบ้านมีจุดประสงค์​อะไร เข้ามาใกล้ๆข้าง​กาย​ฉินซี พูดเสียงเบา” เช้าวันนี้ประธาน​ลู่ออกไปแล้วแท้ๆ ไม่รู้​ว่า​ทำไม ถึง​ได้ตั้งใจกลับมาทานข้าวเที่ยง”

ฉินซีหัวเราะ​

ทำไม? คงไม่ใช่​เหตุผล​เดียว​กับ​ตัวเอง​หรอกนะ? วันหลัง​เขาจะไม่ได้ทานอาหาร​ของ​รีสอร์ทชิงหยวนแล้ว​

พ่อบ้าน​ไม่ได้​อยู่​นานๆ เหลือแต่​ฉินซีเพียงคนเดียว​ซึ่งอยู่​ในห้องรับแขก​ที่​ว่าง​เปล่า​

เดิมทีเธออยากรวบรวม​สมาธิ​เพื่อเรียบเรียง​คำพูดที่ลู่เหวยพูดในตอนเช้า แต่ว่าความคิดกลับผิดเพี้ยน​ไปโดยไม่รู้ตัว​ คิดถึง​ลู่เซิ่นซะงั้น

ปฏิกิริยา​ของลู่เซิ่นทำให้เธอเอาแน่เอานอน​ไม่ได้​

ตอนที่เผชิญ​กับ​ตัวเอง​ สำหรับเรื่องการหย่าเรื่อง​นี้​ นิ่งสงบมากอย่างชัดเจน

หน้าตาที่ทำกับฉินซึ่งเทียนเมื่อสักครู่​ เหมือนกับ​ว่า​โกรธ​แค้นกับเรื่องการหย่าร้าง​ครั้งนี้มาก

แต่ว่าเขาไม่ได้​เอ่ยปากไล่ตัวเองออกไป และไม่มีท่าทีรั้งตัว​เองไว้

เขาคิดยังไง​กันแน่นะ?

ฉินซีถอนหายใจ​โดยไม่รู้ตัว​อีกแล้ว บีบฝ่ามือ และดึงสมาธิ​ตัวเอง​กลับมา

ในมือถือ​บันทึก​ข้อความ​ที่​ลู่เหวยส่งมา

เห้อเสียง……

ฉินซีดูรูปถ่ายที่เบลอๆรูปนั้นอยู่สักพัก​ ส่งข้อความ​ให้กับอานหยัน

“ถ้าหาก​มี​เวลาแล้วก็ ช่วยฉันสืบหา​คนคนนึงได้มั้ย?”

ข้างหลัง​ข้อความ​หมายเหตุ​ฐานะของเห้อเสียง และรูปถ่ายที่เบลอๆภาพนั้น

อานหยันเหมือนยุ่งๆอยู่​ ผ่านไปสักพักถึงตอบกลับ “ไม่มีปัญหา​ ฉันกลับไปตอนดึก​ค่อยช่วยคุณ​ดูว่า คนคนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ฉินซีหยุดชะงักไป​หลายวินาที​ ถึงตอบกลับ” เขาอาจจะรู้เรื่อง​ราวของแม่ฉันนิดหน่อย​กับเรื่องนั้น ฉันต้องหาเขาพบให้ได้”

คราวนี้อานหยันตอบกลับมาอย่างเร่งด่วนว่า”ได้เลย”

ฉินซีไม่รบกวน​เธออีก เพียงแค่​ดูรูปถ่าย​ใบนั้นอยู่สักพัก​จนสติไม่อยู่กับ​เนื้อกับตัว

เจ้าของโรงแรงคนนี้​ มีเบาะแสจริงหรือ?

ถ้าหาก​เหมือนกับครั้งก่อน สุดท้ายก็เสียเวลาเปล่าหล่ะ?

คิดถึง​ตรงนี้ ฉินซีส่ายหน้า​

ไม่ได้​ ต้องไม่เอาความคิดที่ติดลบเช่นนี้มาครอบครอง​สมองสิ

ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไรก็ตาม ขอแค่สามารถ​ฝ่าฟันอุปสรรค​ไปได้ เธอล้มเลิกไม่ได้เด็ดขาด​

ไม่ว่าจะเป็นความหวังสุดท้าย​ก็ตาม เธอก็จะรักษาเอา​ไว้​

เพราะว่าความหวังครั้งสุดท้าย​ครั้งนี้ ความเป็นไปได้​สูง​มาก​อาจจะคืนความบริสุทธิ์​ทั้งหมด​ให้กับเหยาหมิ่น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท