Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 986

ตอนที่ 986

บทที่ 986 ฉันไร้เดียงสาเกินไป

“ฉินซีอย่างนี้เธอก็ยอมรับแล้วสินะว่าการที่บริษัทลู่ซื่อพุ่งเป้ามายังบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ก็เพราะเธอ!” คำพูดของฉินซึ่งเทียนเต็มไปด้วยความโล่งอก ราวกับว่าในที่สุดก็พบช่องโหว่ในคำพูดของฉินซีจนได้ ประกอบกับท่าทีที่ดูจะภูมิใจมาก

แต่เมื่อเขากวาดสายตามองทุกคนในห้องประชุมก็พบว่าสีหน้าของพวกเขาดูไม่ดีนัก

เขาหยุดนิ่งและเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองไม่สามารถดึงความสนใจของคนออกจากคำพูดของฉินซีได้

เห็นได้ชัดว่าทุกคนให้ความสนใจต่อคำพูดของฉินซีที่ว่า “สร้างอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะหวังจะเอาชีวิตเธอ”

เขากระแอมออกมา แต่ก็ไม่สามารถเรียกความสนใจของทุกคนได้

แต่ทางด้านฉินซีก็เริ่มเอ่ยปากพูดขึ้น

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ดิฉันไม่เคยหาโอกาสที่เหมาะสมพอจะพูดเรื่องนี้เลย จนท้ายที่สุดดิฉันได้มาเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลฉิน บริษัทนี้ก่อตั้งโดยคุณปู่ของดิฉันและต้องใช้ประสบการณ์มากมายกว่าจะมาเป็นอย่างปัจจุบัน ถ้าพูดไม่ดี มันจะส่งผลด้านลบให้แก่ฉินซื่อกรุ๊ป และส่งผลไม่ดีแก่ตัวฉันด้วย”

สายตาของฉินซีลดต่ำลง น้ำเสียงที่พูดก็ฟังดูนุ่มนวลขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นกังวลต่อบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปด้วยใจจริง

เมื่อใบหน้าที่งดงามของเธอแสดงสีหน้าเช่นนี้ ยิ่งทำให้คนอื่นๆรู้สึกถึงความเจ็บปวด

ทำให้ผู้คนในห้องประชุมต่างค่อยๆปล่อยเสียงลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา ราวกับว่ากลัวว่าเสียงนั้นจะไปรบกวนเธอ

ยกเว้นฉินซิงกับฉินเฉิง

ด้วยคำพูดของฉินซีทำให้พวกเขาหน้าซีดและกลัวจนตัวสั่น

โชคดีที่ความสนใจของคนรอบข้างอยู่ที่ฉินซี ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของพวกเขาในระหว่าง

แต่ถ้าทั้งสองคนยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป ในอีกไม่ช้าต้องถูกจับได้แน่นอน

ฉินซึ่งเทียนกัดฟัน แอบสบถคำหยาบคาย

ฉินซียังคงกล่าวต่อไป

“แต่ก็เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกท่านแล้วว่า ก่อนหน้านี้ประธานฉินได้ครอบครองมรดกที่แม่ทิ้งไว้ให้ดิฉันไปอย่างผิดกฎหมายโดยปกปิดทุกคน และหลังจากที่ดิฉันได้สืบทอดหุ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยเป็นไปตามข้อกำหนดซึ่งผ่านการรับเลือกจากที่ประชุมแล้ว แต่เขากลับสร้างปัญหาให้ดิฉันอยู่ตลอดเวลาอีกทั้งยังรบกวนให้ทุกท่านต้องมาเข้าร่วมการประชุมของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอีกด้วย”

เมื่อพูดถึงท่อนนี้ เธอหยุดไปครู่หนึ่งพลางค่อยๆเดินถอยหลังและโค้งตัวให้กับทุกคนให้ห้องประชุมเพื่อเป็นการขอโทษสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น

ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆต่างมองไปที่รูปร่างเพรียวบางของเธอพลางรู้สึกผิดในใจ

เพราะผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ที่ได้รับอีเมลจากฉินซื่อกรุ๊ปเห็นวาระการประชุมในครั้งนี้ ต่างก็พุ่งเป้าไปที่การขับไล่ฉินซีกันทั้งนั้น

เมื่อเห็นท่าทางของเธอก็รู้ได้เลยว่าความคิดของตัวเองนั้นผิดมหันต์

“ประธานฉินพูดอยู่ตลอดว่าเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูกจึงไม่กล้าทำอะไรโหดร้าย แต่แท้ที่จริงการที่ฉันต้องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเดือนที่แล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังก็คือเขา ฉินซึ่งเทียน”

ทันใดนั้นน้ำเสียงของฉินซีก็เริ่มเกินขีดจำกัดความอดทน

แต่เธอไม่ได้หันกลับไปมองฉินซึ่งเทียนที่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนไป แต่กลับจ้องไปที่ ฉินซิงและฉินเฉิงที่เริ่มจนตัวสั่น

สายตาของทุกคนต่างมองตามมาที่พวกเขาทั้งสอง

“ดิฉันเคยคิดว่าคนในครอบครัวเดียวกันคงจะไม่ทำอะไรที่โหดร้าย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับดิฉัน แต่ทว่า…เห็นได้ชัดว่าดิฉันนั้นไร้เดียงสาเกินไป”

น้ำเสียงของฉินซีเบาลงราวกับถอนหายใจ

แม้ว่าเธอจะละสายตาไปแล้วก็ตาม แต่คิ้วของทุกคนยังคงขมวดเป็นปม

ฉินซีพูดเพียงเท่านี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาที่จะทำความเข้าใจ

ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากฉินเฉิงและฉินซิงโดยมีฉินซึ่งเทียนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

เมื่อคิดได้เช่นนี้ สายตาของทุกคนเผยให้เห็นถึงการประณาม

ฉินซิงเก็บความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ อดไม่ได้ที่จะตวาดเสียงดัง “ฉินซี!เธออย่าบิดเบือนความจริงสิ!อุบัติเหตุทางรถยนต์นั่นมันเป็นแค่อุบัติเหตุ!พวกเราไม่อยากทำ…”

เธอยังพูดไม่จบก็ถูกฉินเฉิงขัดขวางไว้

แต่ฉินซีไม่ได้หันไปมองเธอ ยังคงพูดกับทุกคน “ดิฉันกับประธานฉินแตกต่างกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดิฉันพูดออกไปล้วนมีหลักฐาน และดิฉันได้ส่งหลักฐานไปแล้วว่าใครทำอะไรด้วยจุดประสงค์อะไร ดิฉันไม่อยากทำให้ทุกท่านใน ณ ที่นี้ต้องเสียเวลา แต่ขอให้ทุกท่านรอผลการสอบสวนจากหน่วยงานความมั่นคงค่ะ”

เมื่อเธอพูดจบ ฉินซิงก็เกือบเป็นลมล้มลงไป

แต่ความสนใจของทุกคนล้วนอยู่ที่ฉินซี ไม่มีใครสนใจว่าเธอจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้ว ยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำเพราะเกรงว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องไปด้วย

แต่ดูเหมือนว่าฉินซีตั้งใจจะพูดถึงเพียงเท่านี้โดยไม่ได้ขยายความอะไรต่อ จากนั้นเธอเพียงแค่เปลี่ยนน้ำเสียง

“สิ่งที่ประธานฉินได้ตั้งคำถามกับดิฉันไว้มากมาย ดิฉันได้อธิบายไปหมดแล้วว่าดิฉันไม่มีทราบเรื่องการประมูลโครงการตึกแฝด ดังนั้นดิฉันจึงไม่ยินยอมให้ใครพูดถึงดิฉันอย่างสาดเสียเทเสีย”

ในที่สุดหัวข้อก็กลับไปสู่คำถามเริ่มต้น ตอนนี้ความรู้สึกของทุกคนที่มีต่อฉินซีนั้นแตกต่างออกไป

หากเปลี่ยนเป็นอีกคน เจอฉินซึ่งเทียนคอยพูดขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ คาดคงว่าคงจะสู้กับเขาอย่างถึงไหนถึงกันไปนานแล้ว ซึ่งสิ่งที่ฉินซีทำอยู่ในตอนนี้นับว่าเป็นการยับยั้งชั่งใจอย่างมาก

คำพูดเพียงไม่กี่คำของฉินซีสามารถเปลี่ยนทิศทางของความคิดเห็นของทุกคนได้

แน่นอนว่าฉินซึ่งเทียนไม่พอใจนัก หัวข้อก่อนหน้านี้อันตรายเกินไป เขาไม่คิดจะกลับไปพูดถึงอีกเพราะกลัวจะกลายเป็นว่ามีส่วนร่วมด้วย และในตอนนี้ก็กลับสู่หัวข้อเดิม ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้ฉินซีโน้มน้าวคนอื่นๆได้อีกต่อไป

เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น “ฉินซี!สิ่งที่เธอพูดมามันไร้สาระทั้งนั้น เธอต้องการอะไรกันแน่ หยุดเบี่ยงประเด็นการประชุมในวันนี้ได้แล้ว!เธอ…”

ฉินซียกนิ้วชิดริมฝีปากไปทางเขาเพื่อเป็นเชิงให้หยุดพูด พลางเอ่ยขึ้นกลบคำพูดของฉินซึ่งเทียน

“ประธานฉินไม่ต้องรีบร้อนหรอกคะ เพราะดิฉันจะพูดถึงประเด็นหลักเดี๋ยวนี้เลย”

เมื่อพูดจบเธอก็หันหน้าไปทางทุกคน

“นี่คือความพยายามครั้งที่สองที่ประธานฉินต้องการจะโยนความผิดเรื่องที่ธุรกิจของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปตกต่ำลงให้กับดิฉัน ก่อนหน้านี้ดิฉันได้พูดไปแล้ว การที่บริษัทลู่ซื่อไม่ได้ต่อสัญญา อันเนื่องมาจากการหย่าร้างระหว่างประธานฉินและแม่ของดิฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับดิฉันแม้แต่น้อย”

ทุกคนต่างขมวดคิ้วพลางนึกย้อนไปถึงการประชุมคณะกรรมการครั้งล่าสุด

“แต่เรื่องราวในครั้งนี้ ดิฉันจำเป็นต้องอธิบายให้ทุกท่านทราบ ซึ่งไม่สามารถพูดอย่างครั้งก่อนได้”

คำพูดของฉินซีเปลี่ยนไป

ใช้ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังแปลกใจอยู่นี้โยนระเบิดเล็กๆเข้าไปหนึ่งลูก

“ดิฉันจะไม่มีวันยอมรับในสิ่งที่ดิฉันไม่ได้ทำ แต่ในเมื่ออยู่ในความรับผิดชอบของดิฉันและดิฉันจะไม่หนี”

อารมณ์ของคณะกรรมทุกท่านในวันนี้ขึ้นๆลงๆราวกับนั่งอยู่บนรถไฟเหาะ

หมายความว่าอย่างไร ความรับผิดชอบที่ว่าคืออะไร ฉินซีทำอะไรเพื่อเป็นการขอโทษต่อเหตุการณ์ในฉินซื่อกรุ๊ปกันแน่

เธอใช้คำพูดมากมายเพื่อทำให้ทุกคนเกิดรู้สึกเห็นใจเธอ แล้วตอนนี้กลับหงายการ์ดขอยอมรับผิดเพื่อให้ทุกคนไม่ทำอะไรรุนแรงกับเธออย่างนั้นเหรอ

ในหนึ่งชั่วโมง สีหน้าของทุกคนต่างเปลี่ยนไปมากมายหลายอารมณ์ แต่มีเพียงสีหน้าของเท่านั้นฉินซึ่งเทียนเท่านั้นที่ดูจะสดใสขึ้นมาหน่อย

“ฉินซี ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าเป็นความรับผิดชอบของเธอ เธอหนีไปไหนไม่รอด หยุดเล่นลิ้นสักทีเถอะ!”

ดูเหมือนว่าฉินซีจะไม่ได้ยินคำพูดของเขา เธอมองสีหน้าของผู้คนที่ฟังอยู่ แล้วค่อยหันกลับมามองฉินซึ่งเทียน

ใบหน้ามีความสุขที่แทบจะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่

ฉินซีแอบด่าคำว่า’คนโง่’ในใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท