Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 978

ตอนที่ 978

บทที่ 978 ราบรื่น​ไปด้วยดี

อาจเป็นเพราะว่า​ได้ยินเรื่องราว​ที่เกี่ยวข้อง​กับเหยาหมิ่น อานหยันถึงกับไม่ให้ฉินซีรอนานแม้แต่นิดเดียว​ ไม่นานนักก็ได้ส่งข้อความตอบกลับมาแล้ว

แต่ว่าเนื้อหา​ของ​ข่าวสาร​ทำให้ฉินซีสงสัย​เล็ก​น้อย

“สถานการณ์​ซับซ้อน​นิดหน่อย ตอนนี้คุณ​ไปที่บ้านฉัน เรากลับไปคุยกัน”

ฉินซีไม่เสียเวลา หยิบกุญแจ​รถยนต์​ก็ออกไปจากบ้านทันที

สถานการณ์​ซับซ้อน?

สถานการณ์​แบบไหนกันแน่นะ ถึงถูกอานหยันพูดว่าซับซ้อน?

ฉินซีไม่อยากคิดมาก​ เพียงแค่เหยียบคันเร่ง​ใต้ขาให้เร็วขึ้​นอีกนิด

เหยียบคันเร่ง​ด้วยความเร็ว​สูง​ไปถึงบ้านของอานหยัน อานหยันได้รอที่หน้าประตู​เรียบร้อย​แล้ว​

“เข้ามาเถอะ​” ตอนที่อานหยันเปลี่ยน​หน้าตาที่เข้มงวดในขณะที่​พูดเรื่องจริงจัง​อยู่​นั้น กวักมือ​ให้กับฉินซี

ฉินซีตามขึ้นไป​ “คุณ​พูด​ว่าสถานการณ์​คับขัน……. เป็นยังไง​กัน​แน่?”

อานหยันเดินไปตรงหน้าคอมพิวเตอร์​ และเปิดคอมพิวเตอร์​ออกมา​

“ทีแรกฉันตามข้อมูล​ประชากรธรรมดา​ค้นหา แต่ว่าค้นหาไม่พบ” เธอย้ายหน้าจอคอมพิวเตอร์​มาตรงหน้า​ฉินซี “เพราะฉะนั้น​ฉันจึงขยายขอบเขต​ในการค้นหา​ ได้ผลสรุป​สามข้อนี้มา”

ฉินซีตั้งหน้าตั้งตา​ดู

เพศชาย​เห้อเสียงอายุ42ปีคนในประเทศ​ มีอยู่สามคนที่ชื่อว่าเห้อเสียง

คนนึงเกิดอุบัติเหตุ​ทาง​รถยนต์​สลบอยู่ คนนึงได้ตายไปแล้ว และยังมีอีกคนกำลังรับโทษ​อยู่​ในเรือนจำ

ฉินซีหดหู่ใจ​

น้ำเสียงของอานหยันก็เศร้า​เช่น​กัน” เพราะฉะนั้น​ฉันรู้สึก​ว่า​น่าจะพูดกับคุณ​ต่อหน้า”

รูปถ่าย​ในข้อมูล​ประชากรมันล้าสมัย​ไปแล้ว ส่วนรูปถ่าย​ในมือของฉินซีก็เบลอเกินไป​ ไม่มี​วิธี​ผ่านการแยกแยะ​หน้าตา​คนที่​แม่นยำ ได้แค่ติดตามการเคลื่อนไหว​ของคนอย่างละเอียดเพื่อมาวิเคราะห์​ และยืนยัน​ว่า​เป็นคนไหนกันแน่

แต่ว่า……..ไม่ว่าจะเป็นคนไหนก็ตาม เหมือนจะไม่ใช่คนที่สมสถานะ

สองคนหน้าไม่ต้องพูดถึง​ พวกเขาไม่สามารถ​ให้ข่าวสาร​ที่มีประโยชน์​อะไรเลย คนหลัง…… ต่อให้​มีหลักฐาน​ สำหรับคนส่วนใหญ่​ ก็ไม่มีความน่าเชื่อถือ​

แต่​ว่าฉินซีหายใจ​เข้าลึกๆ หันหน้าไปดูอานหยัน “ฉันจะตรวจสอบ​ดู”

ถึงแม้​จะมีความเป็นไปได้แค่น้อยนิด เธอก็ไม่ล้มเลิก​เด็ดขาด​

อานหยันเหมือนจะคาดการณ์​ไว้​ว่า​เธอจะพูดแบบนี้ พยักหน้า​ ถอยออกมา​จากคอมพิวเตอร์​ “อืม ฉันได้ล็อกอิน​บัญชี​ของฉันเรียบร้อย​แล้ว คุณ​ค่อยๆตรวจสอบดูก็แล้วกัน”

ฉินซีพยักหน้า​ให้กับเธออย่างซาบซึ้งใจ​ แต่​ว่าก็ไม่ได้พูดคำพูดที่ไร้ประโยชน์​ นั่งอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์​

เปรียบเทียบ​กับข้อมู​ลประชากรที่เคลื่อนไหว​เป็นการไร้ประโยชน์​แล้วละก็ จะทำการค้นหาระหว่าง​คลังข้อมูล ยังมีข้อมูล​ซ้ำๆที่ไร้ประโยชน์​เป็นจำนวนมาก

แต่ว่าฉินซีกลับไม่มี​ความ​รำคาญใดๆ กลับตั้งสมาธิ​ดีๆ และค่อยๆทำไป

ความรู้​สึกที่คุ้นเค​ยมาอีกแล้ว

เธอรู้สึก​ว่า​ตัวเองเหมือนคุ้นเคย​กับงานแบบนี้มาก เพราะฉะนั้น​จึงไม่รู้​สึก​เบื่อหน่าย​ ยิ่งไปกว่านั้น​มีท่าทีที่ราบรื่น​ด้วยซ้ำ

แต่​ว่าต่อให้​เป็นเช่นนี้ก็ตาม รอให้เธอยืนยัน​ข้อมูล​ของสองคนหน้าเรียบร้อย​ ก็ถึงเวลาทานอาหาร​เย็น​ตั้งนานแล้ว

อานหยันเคาะประตู​ “ฉันสั่งข้าวคลุกแบบ​เกาหลี​มา คุณ​ออกมา​ทานหน่อยน่ะ?”

ฉินซีตอบรับ บันทึก​ข้อมูล​ที่ตรวจสอบ​ให้เรียบร้อย​ ลุกขึ้น​มา​เดินไปที่ห้องรับประทาน​อาหาร​

อานหยันวางตะเกียบ​เรียบร้อย​แล้ว​ ฉินซียิ้มแย้ม​ เดินตรงไปและนั่งลง “สวัสดิการดีขนาดนี้เลยเหรอ?”

อานหยันมองหน้าเธอ สีหน้ายังคง​จริงจัง​มาก” เป็นยังไง? ตรวจสอบ​อะไรพบรึเปล่า​?”

ฉินซีส่ายหน้า​

คนแรกที่เธอตรวจสอบ​ เป็นเห้อเสียงที่ตายไปแล้ว​คนนั้น​

เธอตัดออกไปเร็วมาก เพราะว่า​อาชีพ​ของ​เห้อเสียงคนนี้เป็นพ่อครัว​ เป็นการตายที่เกิดจากอุบัติเหตุ​ทาง​ถนน​ ส่วนใหญ่​ไม่ได้ไปซ้ำกับเห้อเสียงที่ปรากฏ​ตัว​ออกมา​ในที่ประชุม​ทางธุรกิจ​คนนั้น

ส่วนเห้อเสียงคนที่สองซึ่งยังสลบอยู่และนอนอยู่ใน​โรงพยาบาลคนนั้น​ เสียเวลาของเธอไปตั้งมากมายทีเดียว​

เพราะว่า​เห้อเสียงคนนี้ก็เป็นนักธุรกิจ​คนนึง ยิ่งไปกว่านั้น​ก่อนหน้านี้​ก็เคยลงทุน​เปิดโรงแรม​ เป็นไปได้สูง​มาก​อาจจะเป็​นเพื่อนของลู่เหวยที่เจอกันในที่ประชุม​คนนั้น

เพราะฉะนั้น​ฉินซีจึงได้แต่เอาข้อมูล​ มาวิเคราะห์​อย่างละเอียด​กับการเคลื่อนไหว​ของ​เขาตอนที่เริ่มประชุม​

ยืนยัน​ตั้งครึ่งค่อนวัน​ กลับพบว่าช่วงเวลา​นั้น​ตัวเขาอยู่​ที่​ต่างประเทศ​ และไม่มีเวลา​ร่วมการประชุม​

ความหวัง​ทั้งหมด ล้วนอยู่ในตัวคนที่สามแล้ว

ฉินซีนึกถึง​คำพูดที่ลู่เหวยพูดออกมา​

“ฉันลองตรวจสอบ​เจ้าของ​คนนี้ดูแล้ว แต่ว่าเหมือนการเคลื่อนไหว​ของ​เขาได้หายไปนานมากแล้ว และนานมากแล้วที่ไม่มีคนได้ยินข่าวคราว​ของเขาเลย”

คำพูดของเธอคำนี้ สำหรับสถานการณ์​ของคนสามคนนี้ ล้วนเหมาะสม​

ยิ่ง​ไปกว่านั้นสามารถ​พูด​ได้​ว่า​ ถ้าหาก​เห้อเสียงคนนี้ กำลังอยู่ในเรือนจำ ถ้าอย่างนั้น​กลับ​เป็นสถานการณ์​ที่ดีที่สุด​——อย่างน้อยเขาสามารถ​เอ่ยปากพูด​

อานหยันยื่นมือ ปลอบใจด้วยการตบไหล่ของเธอเบาๆ” ไม่เป็นไร​ ไม่แน่อาจจะ​เป็นคนสุดท้าย​คนนี้ก็ได้ ต่อให้​ไม่ใช่ก็อย่าท้อแท้​ เราค่อยขยายขอบเขต​ในการค้นหา ต้องหาเจอแน่นอน”

ฉินซีหันหน้า ยิ้มแย้ม​ให้กับอานหยันอย่างซาบซึ้งใจ​ “ดีนะที่มีคุณ”

อานหยันผายมือ “อย่าเกรงใจสิ”

ฉินซีทานอาหารเย็น​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ เก็บข้าวกล่อง​ และกลับไปที่ห้องหนังสือ​ต่อ

อานหยันดูข้าวกล่อง​ของเธอที่ทานไปได้แค่ไม่กี่คำเท่านั้น​ จึงส่ายหน้า​

ตรวจสอบ​คนที่สาม ฉินซีคุ้นเคย​กว่าก่อนหน้านี้​มากขึ้น​

ยืนยัน​ฐานะ​ก่อน หลังจากพบว่าเขาก็เคยเป็นนักธุรกิจ​ที่​ลงทุนโรงแรมคนนึง ฉินซีไม่เสียเวลา ตรวจสอบ​การเคลื่อนไหว​ที่บันทึก​ของ​เขาโดย​ตรง

แต่ว่าเห้อเสียงคนที่สามคนนี้ กลับเซอร์ไพรส์​ฉินซีมาก

——ฉินซีดูจากบันทึกของเขา ตรวจสอบ​บัตร​ผ่านทางที่ร่วมประชุม​ครั้งนั้นจนพบ

ฉินซีแทบจะตัดสินใจ​ได้ว่า เป็นคนคนนี้แหละ

ใบหน้าของเธอเพิ่งเผยรอยยิ้ม​ออกมา​ ก็ค่อยๆจางหาย​อีกแล้ว

เห้อเสียงคนนี้……กำลังรับโทษ​อยู่​ที่เรือนจำ

ตรวจสอบ​ข้อมู​ลข่าวสาร​ที่​กระทำความผิดของเขาไม่พบ ไม่รู้​ว่า​ทำไมเขาถึงได้เข้าไปในเรือนจำกันแน่ และไม่รู้​ว่า​เยี่ยม​เยือน​ได้รึไม่?

ฉินซีนั่งคิดอยู่ตั้งหลายวินาที​ ยื่นมือโทรศัพท์​ให้กับทนายจ้าว

ตอนที่ทนายจ้าวรับสายขึ้น​มา ประหลาดใจ​เล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด​ “ฉินซี?”

ฉินซีเข้าเรื่องโดยตรง​ พยายาม​พูดเรื่องราว​ให้สั้นๆและง่ายๆรอบนึง

ทนายจ้าวบ่นคนเดียว​เงียบๆอยู่​ทางโน้น​สักพัก​ “คุณ​พูด​ว่าลู่เหวยตรวจสอบ​เจ้าของ​โรงแรมในขณะนั้น​จนพบ แต่ว่าเจ้าของ​โรงแรม​เข้าคุกไปแล้ว อยากคิดวิธี​เพื่อให้​ได้​เจอเขา และเกลี้ยกล่อม​เขา?”

ฉินซีพยักหน้า​ “ถูก​ต้อง”

เรื่องที่จะ​ตรวจสอบ​ด้านคดี หาทนายจ้าวอาจจะมีประสิทธิภาพ​มากกว่า​อานหยัน

จริงๆ​ซะด้วย ทนายความ​ไม่ลังเล​ ก็รับปากไปเรียบร้อย​แล้ว​” ฉันจะไปถามดู มีข่าวคราวเมื่อไหร่​ ฉันจะแจ้งให้คุณ​ทราบ​ทันที”

ฉินซีตอบรับ​ จึงวาง​สายไป

“ตรวจสอบ​พบแล้ว?”

ฉินซีหันหน้า​ เห็น​อานหยันพิงที่ข้างๆประตู​

น่าจะได้ยินการเคลื่อนไหวที่เธอ​โทรศัพท์​ จึงเข้ามาดู

ฉินซีพยักหน้า​ “คือคนที่สามนั่นเอง”

ใบหน้า​อานหยันปรากฏ​ความดีอกดีใจ​ออกมา​” ถ้างั้นก็คือมีความหวัง​แล้วละสิ?”

ฉินซีกลับใจเย็น​กว่าเธอ “ตอนนี้ต้องการคิดวิธี​เยี่ยม​เยือน​เขา อีกอย่างต่อให้สามารถ​เยี่ยม​เยือน​ได้อย่างราบรื่น​ก็ตาม ก็ไม่แน่ว่าจะได้รับข่าวสารที่เกี่ยวข้อง​กับ​คุณ​แม่ฉัน”

อานหยันถูกเธอพูดซะจน มุมปากค่อยๆคว่ำลงไป “แบบนี้หรือ………”

ฉินซีเม้มปากยิ้มแย้ม​ และลุกขึ้น​มา​

“แต่ว่าฉันจะไม่ล้มเลิก​หรอก มีความเป็นไปได้แค่นิดเดียว​ ฉันก็จะไปลองดู​”

เป็นไปไม่ได้​ฉินซึ่งเทียนเขาจะสามารถ​หุบปาก​คนทั้งโลก​ได้

แค่เธอไปหา เป็นไปไม่ได้​ที่จะหาช่องโหว่​ที่เขาทิ้งไว้ไม่พบตลอดไป​

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท