Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 985

ตอนที่ 985

บทที่ 985 เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

ฉินซีหัวเราะออกมาเบาๆ เธอเออก็ขี้เกียจเกินกว่าจะมัวเสียเวลากับเขา

ทันใดนั้นเธอหันหน้าไปทางหซู่หนาน “ ผู้จัดการหซู่คะ พวกคุณตัดสินใจเรื่องการประมูลโครงการตึกแฝดกันเมื่อไหร่คะ”

หซู่หนานไม่รู้สาเหตุของคำถาม เขาเหลือบมองฉินซึ่งเทียนพลางตอบด้วยความลังเล “…เมื่อวันที่ 18”

“นอกเหนือจากการประชุมในครั้งนี้แล้ว พวกคุณได้หารือเกี่ยวกับปัญหาการประมูลเมื่อไหร่คะ” ฉินซีถามอีกครั้ง

หซู่หนานมองไปที่ ฉินซึ่งเทียนอีกครั้ง สีหน้าของฉินซึ่งเทียนดูตึงเครียด แต่ไม่มีท่าทีว่าจะให้เขาหยุด หซู่หนานจึงตอบออกมาด้วยเสียงเบา “นอกจากการประชุมสาธารณะในครั้งนั้น รายละเอียดของการเสนอราคาได้เป็นการหารือส่วนตัวระหว่างผม ท่านประธานฉินและผู้จัดการสองสามท่านครับ”

“นั่นหมายความว่าไม่มีการหารือในที่ประชุมสาธารณะใช่ไหมคะ” ฉินซียังคงตั้งคำถาม

หซู่หนานพยักหน้า

ฉินซียังคงถามต่อไป “มีรายงานการประชุมไหมคะ”

หซู่หนานกำลังจะตอบ แต่ถูกฉินซึ่งเทียนขัดจังหวะ “ฉินซี! การประชุมวันนี้ก็เพื่อถอดเธอออกจากตำแหน่ง หยุดถ่วงเวลาด้วยการตั้งคำถามไร้สาระได้แล้ว”

ฉินซีที่ถูกขัดจังหวะไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เธอหันหน้าไปมองฉินซึ่งเทียน “ทำไมประธานฉินไม่ให้ผู้จัดการหซู่ตอบคำถามนี้ล่ะคะหรือว่าเกิดรู้สึกละอายใจขึ้นมา ”

ฉินซึ่งเทียนที่ถูกพูดแทงใจดำ เลยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาพูดดังขึ้น “ฉันแค่ไม่อยากให้เสียเวลา… ”

“อย่างนั้นผู้จัดการหซู่ก็รีบตอบสิคะ” ฉินซีพูดแทรกขึ้นอย่างนิ่งๆพลางหันหน้าไปทางหซู่หนาน “ตอนนี้ประธานฉินกำลังเสียเวลาอยู่นะคะ”

ฉินซึ่งเทียนนิ่งไปชั่วขณะ เห็นว่าหซู่หนานไม่มีทางเลือกจึงพยักหน้าให้กับเขา “มีครับ มีรายงานการประชุม”

ฉินซีหัวเราะเบาๆ เธอยืนตรงหันหน้าไปทางกรรมการ “ทุกท่านคะ ฉินซึ่งเทียนยังคงยืนกรานจะโยนเรื่องการเสนอราคาประมูลโครงการตึกแฝดให้กับฉัน ฉันทำได้แค่หาหลักฐานเพื่อมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉัน”

ผู้ถือหุ้นทุกท่านต่างสงสัย :จะมีหลักฐานได้อย่างไร

ฉินซีกล่าวต่อ “ในเมื่อมีรายงานการประชุม ทุกท่านสามารถไปตรวจสอบได้ ซึ่งในรายงานการประชุมไม่มีชื่อของดิฉันอย่างแน่นอน ถ้าชื่อของดิฉันอยู่ในรายงานการประชุม ดิฉันมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดใต้ตึกบริษัทเพื่อพิสูจน์ว่าวันนั้นดิฉันไม่ได้มาที่ฉินซื่อกรุ๊ปและไม่เคยเข้าร่วมการประชุม ดิฉันไม่เคยเข้าร่วมทั้งการประชุมในครั้งนี้และการประชุมหารือแยก ดังนั้นดิฉันไม่ทราบเรื่องการประมูลโครงการตึกแฝด เป็นเช่นนี้แล้วจะเปิดเผยความลับให้แก่บริษัทลู่ซื่อ จนทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแพ้การประมูลได้อย่างไร”

สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นล้วนมีเหตุผลรวมกับท่าทางที่แน่วแน่ของเธอ ผู้ถือหุ้นที่ตั้งข้อสงสัยในตัวเธอจากคำพูดของฉินซึ่งเทียนก็เริ่มรู้สึกลังเล ต่างพากันหันไปมองที่ฉินซึ่งเทียนเพราะอยากฟังคำอธิบายจากเขา

เมื่อฉินซึ่งเทียนได้ยินฉินซีถามเกี่ยวกับรายงานการประชุม ก็รู้ทันทีว่าเธอจะบอกว่าเธอไม่เคยเข้าร่วมการประชุม เขาจึงคิดจะกลับไปแก้รายงานการประชุมโดยแอบเพิ่มชื่อเธอลงไป แต่การปลอมแปลงข้อมูลในกล้องวงจรปิดนั้นค่อนข้างลำบาก คิ้วของเขาขมวดเป็นปม พยายามคิดหาวิธีใหม่

“ตอนนั้นเธอมีประชุมทางไกลหรือเปล่า อาจจะมีวิธีอื่นที่จะรู้เรื่องการประมูลโครงการตึกแฝดก็ได้นี่ อาศัยแค่รายงานการประชุมหรือกล้องวงจรปิดอย่างเดียวเห็นทีคงจะไม่ได้” ฉินซึ่งเทียนพูดอย่างเย็นชา

ฉินซียิ้ม “ประธานฉินตัดสินใจจะโยนความผิดให้ฉันจริงๆใช่ไหมคะ”

ท่าทีของฉินซึ่งเทียนกลับสู่สภาวะปกติ “ฉินซี หยุดเล่นลิ้นเสียทีเถอะ ข่าวการประมูลของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ถ้าเธอไม่ได้รู้มาจากการประชุม อย่างนั้นแล้วมีคนอื่นบอกเธอหรือไง นี่มันไม่สำคัญหรอกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ แล้วจะอธิบายเรื่องที่จู่ๆบริษัทลู่ซื่อก็เข้าร่วมประมูลโครงการตึกแฝดว่าอย่างไร”

ฉินซีหัวเราะออกมาเบาๆ “คุณต้องการหลักฐานสินะคะ”

เมื่อฉินซึ่งเทียนเห็นท่าทางของเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเธอต้องเตรียมการมาเป็นอย่างดี เขาลอบขมวดคิ้ว “เธอมีหลักฐานอะไรก็เอาออกมา”

ฉินซีหันกลับมาพร้อมกับยื่นแฟลชไดรฟ์ในมือให้ เลขาต่งหลังจากนั้นไม่นานข้อมูลสองอย่างก็ปรากฏบนหน้าจอขนาดใหญ่

ฉินซีค่อยๆเดินไปที่ด้านข้างจอโปรเจคเตอร์ “ทุกท่านเชิญชมได้เลยค่ะ ด้านนี้เป็นข้อมูลที่เปิดเผยหลังจากการประมูลสำเร็จของบริษัทลู่ซื่อ ส่วนด้านนี้เป็นข้อมูลการประมูลของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมีปัญหาอะไร เพียงแค่ทุกท่านดูก็จะพบคำตอบ”

เมื่อนำข้อมูลทั้งสองอย่างวางคู่กัน ไม่เพียงแต่ฉินซึ่งเทียนเท่านั้น สีหน้าของกรรมการด้านล่างก็ดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เพราะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การเสนอราคาของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปนั้นดีกว่ามาก

“ถ้าดิฉันเป็นคนเปิดเผยเรื่องการประมูลของฉินซื่อกรุ๊ปจริงๆล่ะก็ เป็นไปไม่ได้เลยที่ดิฉันจะบอกเพียงว่าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปต้องการเสนอราคาดังกล่าวและไม่ได้พูดถึงสิ่งที่สำคัญอย่างใบเสนอราคาและปล่อยให้บริษัทลู่ซื่อประมูลไปในราคาที่สูงเช่นนี้”

คณะกรรมการบางคนอดไม่ได้ที่จะถาม “แต่ว่า… ราคาประมูลของบริษัทลู่ซื่อไม่ใช่ราคาที่ดีที่สุด แล้วทำไมถึงไม่เลือกบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปล่ะ”

ฉินซียิ้มพลางตั้งคำถามกลับ “ได้เปรียบทางด้านราคา คือความได้เปรียบทั้งหมดแล้วเหรอคะ”

คณะกรรมท่านนั้นพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

ในความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าราคาของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะทำให้ได้สัมปทานที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่ายังเป็นมือใหม่ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการก่อสร้างอาคารและบริการหลังการขาย ล้วนแต่ไม่มีวิธีใดที่จะให้หลักประกันได้อย่างเต็มที่

แต่กลับกัน บริษัทลู่ซื่อที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอยู่แล้ว เพียงแค่นำสัญลักษณ์ของบริษัทลู่ซื่อออกมา นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

ฉินซึ่งเทียนคาดไม่ถึงว่าฉินซีจะนำข้อมูลส่วนนี้มาเปิดเผยในครั้งนี้ คิ้วของผูกเป็นปมแน่น

เพราะเขาประมาทเกินไป

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เอ่ยปากออกมา “ข้อมูลที่เธอเอามามันมีประโยชน์อะไร ที่พิสูจน์ได้มากที่สุดคือเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการประมูลของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเลยก็เท่านั้น และแม้ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องการประมูลของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป แต่เธอก็ยอมรับออกมาแล้วนี่ว่าการที่บริษัทลู่ซื่อเข้าร่วมการประมูลโครงการตึกแฝด มันก็เป็นเพราะเธอไม่ใช่เหรอ ”

ฉินซีส่ายหัว “ประธานฉินคงจะแก่มากแล้วสินะคะ ลืมแม้กระทั่งสิ่งที่ตัวเองเพิ่งพูดไปตอนแรกนี่เอง”

เพราะคำพูดถากถางที่ดูสดใสของเธอ ทำให้ฉินซึ่งเทียนโกรธจัด “ฉินซี!”

แต่ฉินซีไม่สนใจสีหน้าใดๆของเขา หันกลับไปพูดกับคณะกรรมการท่านอื่นๆ “แม้ว่าประธานฉินจะความจำไม่ดี แต่ทุกท่านก็คงไม่ได้บกพร่องเหมือนกับเขานะคะ ตอนที่การประชุมเพิ่งเริ่มขึ้น ประธานฉินแทบจะกัดฉันไม่ปล่อย พูดว่าฉันเป็นคนนำเรื่องการประมูลโครงการตึกแฝดไปบอกแก่บริษัทลู่ซื่อ จนทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปต้องสูญเสียโปรเจคใหญ่นี้ไป จนตอนนี้ดิฉันได้ไขข้อสงสัยจนกระจ่างแล้วว่าดิฉันไม่ใช่คนเปิดเผยข้อมูลการประมูลของบริษัท แต่เขาก็ยังคงไม่ปล่อย ทำแบบนี้ไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอคะ”

ฉินซึ่งเทียนหัวเสีย “ฉินซี!บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและบริษัทลู่ซื่อไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ บริษัทลู่ซื่อจะเข้ามาแทรกแซงได้อย่างไร”

สีหน้าของเขาดูดุร้าย แต่สีหน้าของเธอยังคงสงบนิ่ง ราวกับว่าทั้งสองคนอยู่กันคนละโลก

“เพราะฉัน?” ฉินซีหัวเราะออกมาเบาๆ “ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่เพราะคุณหรอกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณกัดฉันไม่ปล่อย สร้างอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะหวังจะเอาชีวิตฉัน ลู่เซิ่นก็คงไม่ใจร้ายกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแบบนี้หรอก”

ทันทีที่เธอเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้าของฉินซิงและฉินเฉิงก็เปลี่ยนไป

แต่ฉินซึ่งเทียนเพิกเฉยต่อสายตาที่ส่งมาเป็นเชิงขอความช่วยเหลือของทั้งสองคน สีหน้าโกรธจัดของเขาค่อยๆผ่อนคลายลง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท