Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 991

ตอนที่ 991

บทที่ 991 ปล่อยวาง

ฉินซีไม่ปล่อยให้ตนหวนคำนึงนานไปมากกว่านี้

เธอลุกขึ้นยืน หลังจบการพึมพำ

ขณะที่เธอกวาดสายตาจ้องมองไปยังพวกฉินซึ่งเทียน ใบหน้าของเธอนั้นเรียบเฉย ราวผู้ที่กล่าวประโยคเมื่อครู่นั้นไม่ใช่เธอ

“ลาก่อน” เธอโค้งคำนับให้กับทุกคน ก่อนยันตัวลุกขึ้นเดินจากไป

บางทีอาจเพราะเธอได้หุ้นส่วนที่ใฝ่ฝันรอคอยแล้ว หลี่เหวยและฉินหว่านจึงยินดีอย่างยิ่ง พร้อมตอบรับเธออย่างเบิกบาน : “ลาก่อน”

ทนายความของฉินซึ่งเทียนไม่ได้ออกไปพร้อมกับเธอ ฉินซีรู้ดีอยู่แล้ว เขาต้องอยู่ต่อเพื่อจัดการเอกสารการโอนหุ้น

คราแรกเมื่อถึงแก่เวลาที่ฉินซีต้องสืบทอดหุ้นต่อ ฉินซึ่งเทียนกลับกำไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเป็นเวลาหนึ่งปีด้วยกัน

ฉินซึ่งเทียนเอาหุ้นไปจากฉินซี ชั่วพริบตากลับมอบให้แก่หลี่เหวยและฉินหว่าน

สถานการณ์ชัดเจนนัก ฉินซีกลับไม่รู้สึกโกรธหรือน้อยใจแต่อย่างใด

บางทีอาจเพราะเธอไร้ความหวังใดๆในตัวฉินซึ่งเทียนแล้ว จึงไร้ความรู้สึกผิดหวัง

มีเพียงแค่หซู่หนานที่ลุกขึ้นยืนเงียบๆ มุ่งไปทางประตูก่อนเธอ พร้อมช่วยเธอเปิดประตูออก : “ฉันจะไปส่ง”

การถ่ายโอนหุ้นเป็นเรื่องของตระกูลฉิน แม้ในตอนนี้หซู่หนานเป็นคู่หมั้นของฉินหว่าน แต่เขากลับไม่เข้าไปข้องเกี่ยวแต่อย่างใด

ฉินซีจึงไม่ปฏิเสธความหวังดีของเขา เพียงแค่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง : “ขอบคุณ”

หลี่เหวยและฉินหว่านต่างยินดีกับหุ้นที่กำลังจะตกเป็นของเธอ กระทั่งไม่มีใครสังเกตเห็นหซู่หนานที่เดินออกไปพร้อมกับฉินซี

เหล่าคณะกรรมการจากไปตั้งนานแล้ว เหลือเพียงห้องที่ว่างเปล่า

หซู่หนานช่วยฉินซีกดลิฟต์ลงไปยังชั้นล่าง เขายืนอยู่ข้างเธอ รอลิฟต์ที่เลื่อนขึ้นทีละชั้น

“เธอ…..หย่ากับลู่เซิ่นแล้วจริงหรือ?” ท้ายที่สุดเขาอดไม่ไหว เอ่ยถามประโยคนี้ออกไป

ฉินซีจับจ้องไปยังตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนพยักหน้าหลังผ่านไปหลายวินาที : “อืม”

ดวงตาของหซู่หนานลุกวาว : “เพราะอะไร? ลู่เซิ่นไม่ดีกับเธอหรือ?”

ฉินซีนึกย้อนไปยังตอนที่เธอขอหย่า ใบหน้าลู่เซิ่นที่ไม่อยากจะเชื่อ ก่อนพยักหน้าเบาๆ

บัญชีของเธอและเขา…..ควรคิดอย่างไรดี ใครกันแน่ที่ไม่ดี

หซู่หนานทีท่ามีบางอย่างต้องการเอ่ยถามต่อ หากแต่ประตูลิฟต์เปิดออก

“ผู้จัดการหซู่” ฉินซีก้าวเข้าไปในลิฟต์ ตัดประโยคของหซู่หนาน “ในเมื่อคุณหมั้นกับฉินหว่านแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็จงรักษาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดี กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง สุดท้ายคุณจะไม่เหลืออะไรเลย”

เธอเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้า หซู่หนานนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนเผยรอยยิ้มขมขื่น

เขาพยักหน้าเบาๆ

“อันที่จริงผม …..ปล่อยวางเธอได้แล้ว” เขาจับจ้องตัวเลขที่เปลี่ยนไป “อาจจะ…..แค่ไม่อยากยอมรับเท่านั้น”

อันที่จริงผ่านความคลั่งในช่วงนั้นมาแล้ว เมื่อหซู่หนานสงบลง เขารู้ได้ทันที ตนกับฉินซี เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ไม่ว่าท้ายที่สุดฉินซีจะเลือกใคร ตำแหน่งนั้นก็มิอาจเป็นเขาอย่างแน่นอน

เขาลงเรือลำเดียวกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ปและฉินซึ่งเทียนแล้ว ถอนตัวไม่ได้อีกแล้ว

หากอนาคตสามารถถอนตัวออกมาได้ ก็ไม่สามารถหวังว่าฉินซีจะยอมรับเขา

ฉินซีหัวเราะออกมา อย่างยากที่จะคาดเดา : “ในเมื่อเลือกแล้ว ก็จงอดทนต่อไป”

จบคำ ลิฟต์หยุดจอดลงที่ชั้นล่างสุด ฉินซีไม่รอคำตอบจากหซู่หนาน เพียงเดินออกจากลิฟต์ไปโดยไม่สนใจเขา

หซู่หนานหวังไล่ตามไป โทรศัพท์เจ้ากรรมกลับส่งเสียงดังขึ้น

“ฮัลโหล คุณไปอยู่ไหน?” เสียงของฉินหว่านเล็ดลอดออกมา “คุณพ่อบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับคุณ คุณกลับมาเร็วเข้า!”

หซู่หนานตอบรับ เมื่อเขาแหงนหน้าขึ้น กลับไม่พบเงาร่างฉินซีเสียแล้ว

เขาลูบไล้สันจมูกพร้อมหัวเราะอย่างขมขื่น ก่อนเอื้อมมือกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบน

ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ เสมือนใครบางคนกำลังตัดความสัมพันธ์ของเขาและฉินซีลงเป็นครั้งสุดท้าย

บางทีนี่อาจเป็นจุดจบของพวกเขา?

พลาดกันเสมอ พลาดกันตลอดไป

……

ฉินซีเดินออกจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ป ก่อนหันกลับไปมอง

ตลกนัก เธอเป็นคณะกรรมการบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ปได้นับเดือนแล้ว แต่ตอนนี้ กระทั่งคีย์การ์ดเธอยังไม่ได้รับ

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ปไม่เคยยอมรับเธอ เป็นพวกเดียวกันสักครั้ง

สถานการณ์ที่เธอเลือกที่จะจากไป เสมือนว่าอยู่ในการคาดเดา

เธอจ้องไปยังห้องโถงใหญ่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหันหลังกลับอย่างเด็ดขาด ไม่ละสายตากลับไปมองอีก

อานหยันรอเธอที่ริมถนนอยู่ก่อนแล้ว

“เสร็จแล้ว?” อานหยันเห็นความเหนื่อยล้าของเธอ จึงเอ่ยขึ้น

ฉินซีพยักหน้ารับ พร้อมยกมือขึ้นนวดขมับ

อานหยันเห็นว่าเธออ่อนล้า จึงเลื่อนหน้าต่างขึ้นอย่างเอาใจใส่ : “เธอพักผ่อนสักหน่อย ฉันจองร้านอาหารเอาไว้แล้ว ถึงแล้วฉันจะปลุกเธอเอง!”

ฉินซีไร้ความเกรงใจกับเธอ เธอพยักหน้า ก่อนหลับตาลงอย่างช้าๆ

อันหยันปิดวิทยุ ฉินซีสะลึมสะลือพักหนึ่ง ก่อนเข้าสู่ห้วงนิทรา

ในความฝันเธอเป็นเพียงเด็กน้อย คุณปู่จูงเธอเดินเล่นภายในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ป พร้อมบอกกับเธอว่าอีกหน่อยต้องช่วยคุณพ่อดูแลที่นี่ให้ดี

หากแต่เดินผ่านทางเลี้ยว คุณปู่หายไป กลับเป็นลู่เซิ่นที่ยืนอยู่ข้างหน้า เขาถือเอกสารบางอย่างไว้ในมือ พร้อมเอ่ยถามเธออย่างนิ่งสงบ ทำไมเธอไม่เลือกที่จะทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปซื่อกรุ๊ปทิ้งซะ?

ฉินซีคิดที่จะโต้กลับ แต่คนตรงหน้ากลับกลายเป็นเหยาหมิ่น

เธอยิ้มอยู่แท้ๆ แต่กลับถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนกระโดดลงไปอย่างเย็นชา

“เห้ย!”

ฉินซีตื่นขึ้นด้วยความตระหนก ต่อหน้าอานหยัน

“ฝันร้ายหรือ? คิ้วขมวดแน่นเป็นปมเลย?” อานหยันเอ่ยถามขึ้น

ฉินซีไม่คิดที่จะเล่าเรื่องราวในฝัน จึงเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน “ถึงแล้วหรือ?”

อานหยันพยักหน้าก่อนปลดเข็มขัดนิรภัย : “ฉันปลุกเธอตอนมาถึงนี่ เห็นว่าเธอไม่ได้หลับสบายอย่างที่คิด”

ฉินซีปลดเข็มขัดนิรภัยออก เดินตามเธอลงจากรถ

ถึงหน้าประตู ฉินซีพบว่าอานหยันเลือกร้านหม้อไฟที่ขึ้นชื่อแถวนี้

“รสชาติที่นี่ไม่เลว” อานหยันหันกลับไปมองเธอ “หากไม่จองล่วงหน้า แย่งโต๊ะไม่ได้เลย! มาเร็วเข้า!”

ฉินซีพยักหน้า เดินตามเธอเข้าไป

อานหยันไม่ได้หลอกลวงเธอ หม้อไฟร้านนี้กิจการดีมากเลยทีเดียว เมื่อกวาดสายตาไปรอบห้อง พบเพียงหัวสีดำเต็มไปหมด

หม้อไฟผสมผสานด้วยรสชาติทรงเสน่ห์ของมนุษย์โลก เสียงแก้วเหล้าที่กระทบกันอย่างบ้าคลั่ง ไอน้ำที่ถ่ายเทกลางอากาศรสเผ็ดร้อนที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว ช่วยดึงผู้คนให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

อานหยันจองห้องส่วนตัวเล็กๆเอาไว้ เมื่อประตูเลื่อนปิดลง เสียงโหวกเหวกนิ่งเงียบหายไป เหลือเพียงความคึกคักที่ลอยเข้ามาอย่างแผ่วเบาเท่านั้น

เหมาะกับอารมณ์ฉินซีในตอนนี้เสียยิ่ง

“การประชุมคณะกรรมการเป็นอย่างไรบ้าง?” อานหยันสั่งอาหาร ในขณะที่รอพนักงานเสิร์ฟอาหาร เธอจึงได้โอกาสเอ่ยถามขึ้น

ฉินซีนิ่งไปสักพัก ก่อนส่ายหน้า

“ไม่ถือว่าไม่ราบรื่น เพียงแต่…..”

เธอแข็งทื่อชั่วขณะ ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับอานหยันอย่างไรดี

การเสียสละอะไรบางอย่าง ต้องใช้ความกล้ามากกว่าที่เธอคาดเอาไว้

ยังดี ที่ฉินซีไม่วิ่งหนี เธอก้าวข้ามผ่านมันมาแล้ว และจะไม่หันหลังกลับไปอีก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท