Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1009

ตอนที่ 1009

บทที่ 1009 เก็บบรรยากาศ

“ทนายทั้งทีม…….” ฉินซีพูดทวนอีกรอบ

จ้าวจิ้งรู้ว่าเธออยากถามอะไร จึงรีบตอบว่า “ใช่ค่ะ ฉันก็ได้ไป”

“เรื่องที่ท่านประธานลู่กำลังจะทำ เวลาคือพรุ่งนี้” จ้าวจิ้งพูดต่อว่า “ให้ฉันเดา ที่คุณรีบร้อนขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ท่านประธานลู่กำลังจะทำสินะคะ”

ในสายโทรศัพท์ เธอไม่ได้พูดออกมาให้ชัดเจน แต่ฉินซีเข้าใจความหมายของเธอ

ฉินซีเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกับทนายจ้าว แต่สำหรับเธอแล้ว จ้าวจิ้งแทบจะคือคนไม่คุ้นเคยกันโดยสมบูรณ์

เธอไม่คิดจะพูดทุกเรื่องออกมาให้คนที่ไม่สนิทกันฟังหรอกนะ

จ้าวจิ้งไม่ได้แปลกใจกับการเงียบไปของเธอ พูดต่อว่า “เอาเป็นว่า แม้ว่าฉันจะได้ยินมาบ้าง ว่าคุณหย่ากับประธานลู่แล้ว แต่ถ้าดูจากเรื่องที่ท่านลู่กำลังจะทำแล้ว ดูเหมือนจะยังรักและปกป้องคุณเป็นอย่างดี ดังนั้นการที่ฉันช่วยคุณ ก็เป็นเรื่องของเหตุผล คุณอย่าคิดมากเลยค่ะ”

พูดมาถึงตรงนี้ ฉินซีก็เข้าใจในที่สุด ที่จ้าวจิ้งร่ายออกมาซะยาวขนาดนี้ ไม่ได้กำลังพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

เธอก็แค่อยากทำให้ฉินซีวางใจ ว่าที่เธอตอบตกลงฉินซี เพราะเธอมีเหตุผลของตัวเอง

ฉินซียิ้มออกมาบางๆ “ค่ะ”

ทั้งสองบอกลากันเสร็จ ก็กดวางสาย

ฉินซีส่งข้อความกลับไปหาทนายจ้าว หลังจากที่บอกเขาว่าพวกเธอคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็คิดอะไรอยู่สักพัก จากนั้นก็โทรหาลู่เหวย

รอสายไม่ทันไร ลู่เหวยก็กดรับ “ฉินซี?”

“ลุงลู่” ฉินซีพูดขึ้น “เรื่องไปอยู่ที่อื่นสักพัก ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วนะคะ”

ลู่เหวยถอนหายใจออกมาเบาๆ “งั้นก็ดีแล้ว”

เขารู้ว่าอะไรควรไม่ควร จึงไม่ได้ถามฉินซีว่าจัดการยังไง เพียงแค่ถามว่า “ต้องการบอดี้การ์ดไหม?”

ตอนแรกฉินซีว่าจะปฏิเสธ ถ้าเธอไปคนเดียว เธอคงไม่มีทางรบกวนลู่เหวยให้ส่งบอดี้การ์ดมาให้แน่

แต่เธอต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อนึกถึงจ้าวจิ้ง

เท่าที่เธอรู้ จ้าวจิ้งเป็นลูกคนเดียวของทนายจ้าว

ในเมื่อทนายจ้าวส่งเธอมาช่วย ฉินซีก็ต้องรับรองความปลอดภัยให้เธอ

ไปหาบอดี้การ์ดตามบริษัทรักษาความปลอดภัยก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ว่าหนึ่งเลยคือเธอค่อนข้างรีบ สองคือ….คนที่จะมาดูแลต้องไว้ใจได้เท่าบอดี้การ์ดของตระกูลลู่

ฉินซีครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “คุณลุง…..ส่งมาให้สักสองคนก็ได้ค่ะ ส่วนค่าจ้างฉันจะเป็นคนออกเอง”

ลู่เหวยไม่ได้คัดค้านเธอเรื่องเงินค่าจ้าง เขารู้ว่าถ้าตัวเองไม่เห็นด้วย ฉินซีก็จะไม่ให้เขาส่งบอดี้การ์ดของเขาไปให้ ดังนั้นจึงพยักหน้าตอบตกลง “ได้สิ”

เมื่อพูดคุยกับลู่เหวยแล้วว่าพรุ่งนี้ตอนเที่ยงให้ส่งบอดี้การ์ดมา ฉินซีก็ไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เตรียมจะกดวางสาย

แต่วินาทีที่กำลังจะวาง ฉินซีก็ได้ยินเสียงพูดเบาๆของลู่เหวยว่า

“ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ “

ฉินซีขานรับไปทีหนึ่ง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินไหม

เมื่อวางสาย และมั่นใจว่าทุกอย่างจัดการเสร็จแล้วเรียบร้อย ฉินซีถึงได้มีเวลาพักผ่อนในที่สุด

เธอยื่นแขนออกไป ย้ายคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่บนหน้าตักไปไว้ข้างๆ จากนั้นก็เอนกายลงนอน ในขณะที่หลับตา ก็คลำหาหมอนของลู่เซิ่นมากอดเอาไว้โดยไม่รู้ตัว

ไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อสมองเริ่มประมวลผล ปลายจมูกของเธอก็เต็มไปด้วยกลิ่นที่คุ้นเคยของลู่เซิ่น ฉินซีลืมตาโพลงขึ้นมาทันที รู้ตัวในที่สุดว่าตัวเองทำอะไรลงไป

ร่างกายของเธอแข็งทื่อ จากนั้นก็ยอมรับตัวเอง แล้วกอดหมอนของเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม

ถึงยังไงเขาก็ไม่อยู่สักหน่อย ไม่มีใครเห็นหรอก

ฉินซีรู้สึกราวกับตัวเองขาดการเชื่อมต่ออะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย จึงไม่สามารถคิดออกว่ามันคือเรื่องอะไร เลยทิ้งมันไว้ข้างหลัง พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาคิดใหม่

……

แต่พอวันรุ่งขึ้น เธอก็อลหม่านอยู่ทั้งวัน เพราะถูกงานเร่งทำให้ตารางงานยุ่งเหยิงไปหมด เธอจึงต้องจัดการงานให้เสร็จตั้งแต่เนิ่นๆในวันนี้

ฉินซีไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องที่ถูกลืมไปเมื่อคืน

เมื่อกำชับให้พ่อบ้านเก็บกระเป๋าเดินทางให้เธอเสร็จ ก็เป็นเลยเวลาหกโมงพอดี เธอกินข้าวเช้าเข้าไปแค่ไม่กี่คำก็ออกจากบ้านไป

จุดหมายปลายทางในการร่วมงานกันครั้งนี้คือเขตชมวิวแถบชานเมืองใกล้ๆนี้ เพราะถูกใจผลงานที่ฉินซีถ่ายให้บริษัทลู่ซื่อในครั้งนั้น อีกฝ่ายจึงส่งอีเมลมาเพื่อเชิญเธอ

เดิมทีฉินซีก็ไม่ได้สนใจการถ่ายภาพในครั้งนี้เท่าไหร่

แต่เมื่อเห็นชื่อของสถานที่ เธอก็สั่นไหว

……….เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ชมที่เหยาหมิ่นชอบไปมากที่สุด

เหยาหมิ่นคือจุดอ่อนของเธอเสมอมา

สถานที่ตั้งของจุดชมวิวค่อนข้างที่จะห่างไกลตัวเมือง ฉินซีจึงขับรถไปเอง และเธอก็ถึงที่หมายเกือบๆแปดโมง

อีกฝ่ายดูกระตือรือร้นมาก เพราะมายืนรออยู่หน้าทางเข้าตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นเธอก็เดินเข้ามาหา “คุณฉิน มาถึงสักทีนะ ! เหนื่อยไหม? อยากพักก่อนหรือเปล่า?”

ฉินซีโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ เริ่มกันเลยดีกว่า”

อีกฝ่ายเองก็ไม่เสียเวลา ผายมือเชิญเธอเข้าไปข้างใน

ตอนที่ฉินซียังเด็ก เคยมาที่นี่อยู่ไม่กี่ครั้ง นั่นถือเป็นความทรงจำอันอบอุ่นที่เกี่ยวกับครอบครัวที่แทบจะนับครั้งได้ หรือแม้แต่รูปภาพครอบครัวที่ถูกเธอทิ้งเอาไว้ที่ตระกูลฉิน หนึ่งในนั้นมีรูปที่ถ่ายกันอยู่ที่นี่ด้วย

ตอนนั้นคุณปู่ยังอยู่ ฉินซึ่งเทียนจึงยังเก็บอาการอยู่ จำต้องมาที่นี่กับพวกเธอสองแม่ลูกอยู่ครั้งสองครั้ง

ความทรงจำของฉินซีในช่วงเวลานั้นเลือนรางมาก แต่เธอกลับจำได้ขึ้นใจว่าทุกครั้งที่เหยาหมิ่นได้อยู่กับฉินซึ่งเทียน มักจะมีความสุขมากเป็นพิเศษ

แต่ต่อมาเมื่อคุณปู่จากไป ฉินซึ่งเทียนก็เริ่มกำเริบเสิบสาน การที่เขาไม่กลับบ้านเลยเป็นเดือน ก็เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันอีก

ฉินซีก็มีชีวิตของตัวเอง แทบจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย

ตรงกันข้ามกับเหยาหมิ่นที่มาที่นี่เป็นระยะๆ พร้อมพูดอธิบายกับฉินซีด้วยรอยยิ้มหยีว่าเธอมาเก็บบรรยากาศ

เธอถือภาพฉบับร่างที่วาดเสร็จแล้วอยู่ในมือ บางอันก็ลงสีแล้วเรียบร้อย

แต่ฉินซีก็ยังรู้สึกว่า ที่เธอมั่นคงกับที่นี่ขนาดนี้ เป็นเพราะว่าลืมความทรงจำในตอนนั้นไม่ได้

ตอนนั้นฉินซีไม่เข้าใจความรักในรูปแบบนี้ของเธอเลย แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรเธอ ทำเป็นมองไม่เห็นให้มันแล้วๆไป

แต่หลังจากที่เหยาหมิ่นจากไป ในที่สุดเธอก็เข้าใจความรู้สึกของเหยาหมิ่นในตอนนั้น

การมั่นคงกับคนที่ไม่คิดจะกลับมา ไม่อาจควบคุมตัวเองได้หรอก ทำได้แค่แสวงหาความทรงจำที่เคยมีในทุกที่ที่น่าจะมี

……

แต่เวลาก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนที่ฉินซีเดินเข้าไปในสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง ก็รู้สึกพูดไม่ออก

วิวตรงหน้ากับรูปถ่ายในอดีต มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

“ที่นี่…..เคยปรับปรุงใหม่เหรอคะ?” ฉินซีหันไปถาม

คนที่ออกมาต้อนรับไม่ได้สังเกตเห็นอารมณ์ที่แปลกไปของเธอ ยิ้มออกมาอย่างร่าเริงแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว! ปีนี้พวกเราลงแรงปรับปรุงไปแล้วรอบหนึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวกที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็เก่าหมดแล้ว หลังจากปรับปรุงทั้งหมดจึงดูแปลกหูแปลกตาขึ้นมาหน่อย!”

ฉินซีนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ยิ้มตามออกมา ในใจก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

เพิ่งปรับปรุงปีนี้

นั่นก็หมายความว่า ทัศนียภาพที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่อันเดียวกับที่เหยาหมิ่นชอบอีกต่อไปแล้ว

การนึกถึงใครสักคนโดยอาศัยวิวทิวทัศน์ มันไม่ได้ผลจริงๆด้วย

ฉินซีข่มความรู้สึกจมปลักอยู่กับความทุกข์เอาไว้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท