Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1010

ตอนที่ 1010

บทที่ 1010 ปกป้องทุกคนอีกแบบหนึ่ง

แม้ว่าเหตุผลในการมาถ่ายรูปที่นี่จะหายไปแล้ว แต่ในเมื่อรับงานเขามาแล้ว และฉินซีก็ไม่ได้มีนิสัยทิ้งงานกลางคัน ดังนั้นจึงเริ่มถ่ายงานอย่างจริงจัง

เหน็ดเหนื่อยอยู่ทั้งวัน จนเมื่อถึงตอนดวงอาทิตย์ตก ในที่สุดเธอก็ได้ภาพที่พึงพอใจ

คนรับผิดชอบชมไม่ขาดปากว่า “รูปนี้สวยมากๆ!”

ตอนเที่ยงฉินซีได้กินแค่ข้าวกล่อง ตอนนี้จึงเหนื่อยจนไม่มีอารมณ์มาพูดเอาใจ จึงแค่โบกมือแล้วพูดว่า “ก็พูดเกินไป เดี๋ยวยังไงฉันจะส่งรูปที่แต่งเสร็จแล้วมาให้อีกทีนะคะ”

เมื่อกลับมาถึงรีสอร์ทชิงหยวน ก็ถึงเวลาทานข้าวเย็นแล้ว

เมื่อพ่อบ้านเห็นเธอก็เดินเข้ามาหา “คุณนาย มีบอดี้การ์ดมาสองคน บอกว่าคุณท่านส่งมา”

ฉินซีหันหน้าไปมอง ก็เห็นผู้ชายร่างกำยำสองคนยืนอยู่ไกลๆ พร้อมทั้งผงกหัวให้เธอเป็นการทักทาย

ฉินซีหันกลับมาพูดกับพ่อบ้าน “ใช่ค่ะ ลุงลู่ส่งมาช่วยฉัน”

พ่อบ้านขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “ทำไมยังเรียกว่าคุณลุงล่ะครับ?”

ฉินซีนิ่งไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปอย่างไรดี

โชคดีที่บอดี้การ์ดสองคนนั้นเดินเข้ามาขัดบทสนทนาของพวกเขาพอดี “คุณนายสวัสดีครับ”

ฉินซีผ่อนลมหายใจออกมา มองข้ามสายตาของพ่อบ้าน แล้วหันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดทั้งสอง “ในอีกไม่กี่วันนี้ คงต้องรบกวนพวกคุณหน่อยนะ”

เมื่อสองคนนั้นเดินออกไปไกลแล้ว พ่อบ้านถึงได้เอ่ยปากพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณนาย ที่นี่ก็มีบอดี้การ์ด ทำไมคุณท่านต้องส่งมาอีกล่ะ?”

ครั้งนี้ฉินซีเตรียมตัวได้ทัน “เพราะว่ามีภารกิจพิเศษนิดหน่อยย่ะ เลยต้องการคนของคุณลุ่……คุณพ่อมาช่วย”

เธอเปลี่ยนคำเรียกในช่วงสุดท้าย เมื่อมีสายตาของพ่อบ้านจดจ้องอยู่

ฉินซียิ้มข่มขืนขึ้นมาในใจ ถึงแม้สถานะจะไม่ถูกต้อง แต่…..ก็ถือว่าเป็นการโกหกเพื่อรักษาน้ำใจก็แล้วกัน

จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิดเรื่องใช้คนของรีสอร์ทชิงหยวน แต่เพราะหนึ่ง ระบบความปลอดภัยของรีสอร์ทชิงหยวนเพิ่งออกแบบเสร็จ ถ้าจู่ๆตัวเองไปดึงคนออกมา คงทำให้ระบบความปลอดภัยของรีสอร์ทชิงหยวนรั่วไหลอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าหากคนตระกูลฉินคลั่งแล้วมาหาเรื่องที่รีสอร์ทชิงหยวน อาจจะเป็นอันตรายก็ได้ ส่วนสอง คนของลู่เหวยรู้ว่าต้องทำอะไรยังไงแล้ว แต่คนของรีสอร์ทชิงหยวนไม่รู้ ฉินซีคิดว่า ยิ่งคนรู้น้อย ก็จะยิ่งเป็นการปกป้องทุกคนอีกแบบหนึ่ง

ดังนั้นเธอถึงล้มเลิกที่จะใช้บอดี้การ์ดของรีสอร์ทชิงหยวน

พ่อบ้านดูออกว่าฉินซีไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่เขาก็ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของฉินซีมากเกินไป จึงไม่ได้ถามอะไรต่อ

คนใช้เดินเข้ามาหา “คุณนาย ข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วนะคะ”

ฉินซีไม่อยากอาหารเท่าไหร่ แต่พอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของพ่อบ้าน ก็ต้องพยักหน้าออกไป “อืม”

เมื่อเห็นเธอเดินไปที่ห้องอาหาร ทันใดนั้นพ่อบ้านก็นึกอะไรขึ้นมาได้ พร้อมกับชี้นิ้วไปยังมุมห้องรับแขก “คุณนาย เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”

เมื่อฉินซีเงยหน้าไปมอง แล้วพบกับกระเป๋าที่อัดแน่นถึงสี่ใบ ก็ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี “คุณ…..ไม่ต้องเก็บของให้ฉันเยอะขนาดนี้ก็ได้นะคะ เอาแค่ของที่จำเป็นก็พอแล้ว”

พ่อบ้านไม่รับรู้ “พวกนี้ก็จำเป็นทั้งหมดนะ…….”

ฉินซีเดินเข้าไปลากกระเป๋าออกมาใบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าข้างในประกอบได้ด้วยเครื่องนอนหมอนมุ้งครบครัน ก็ยิ้มออกมาอย่างจนใจ “อะไรแบบนี้ ไม่ต้องเอาไปด้วยก็ได้”

พ่อบ้านเบิกตาเล็กน้อย “ไม่เอาอันนี้ไป แล้วถ้าที่นอนในโรงแรมแข็ง จนคุณนอนหลับไม่สบาย จะทำยังไง?”

ฉินซีส่ายหน้ายิ้มๆ “ใสซื่ออะไรขนาดนี้! คุณพับเสื้อผ้าใส่ถุง แล้วก็เอาเครื่องอาบน้ำกับครีมทาผิวมาด้วย กระเป๋าใหญ่ขนาดนี้ ใช้ใบเดียวก็พอแล้ว …….ช่างเถอะ มาฉันทำเอง!”

พ่อบ้านก้าวเดินเร็วๆมาขวางเธอ “ไม่ต้องครับ! ผมจะเก็บให้ใหม่ รับรองว่าใช้แค่ใบเดียวแน่ๆ”

ฉินซีสู้เขาไม่ได้ จึงทำได้แค่วางมือลง แล้วก้าวถอยหลัง “รบกวนด้วยนะคะ”

พ่อบ้านโบกมือ จากนั้นก็รีบจัดระเบียบกระเป๋าใหม่อีกครั้ง

วันนี้ฉินซีถ่ายรูปอยู่ที่แถบชานเมืองทั้งวัน สัญญาณจึงขาดๆหายๆ จึงไม่ได้ติดต่อกับลู่เหวยเลย

เธอเชื่อลู่เหวย

เมื่อเดินมานั่งลงในห้องอาหาร ในที่สุดเธอก็มีเวลาว่าง ครุ่นคิดอะไรอยู่สักครู่ ก็ส่งข้อความไปถามลู่เหวยว่า “ลุงลู่ ความคืบหน้าเป็นยังไงบ้างคะ?”

ผ่านไปไม่กี่นาทีลู่เหวยก็ตอบกลับมา “ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างราบรื่นดี”

ฉินซีถอนหายใจอย่างโล่งอก

ลู่เหวยส่งข้อความมาอีกว่า “ตอนสามโมง ทีมตรวจสอบเดินทางไปถึงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว”

ฉินซีเลิกคิ้ว

สามโมง…..เร็วดีจริงๆ

แต่ในขณะเดียวกันก็หมายความว่า เวลาของฉินซีมีไม่มากแล้ว

ครั้งนี้ลู่เหวยไม่อ้อมค้อม ส่งข้อความถามออกมาตรงๆว่า “หนูจัดการเรียบร้อยหรือยัง?”

ฉินซีรู้ดี ว่าลู่เหวยไม่ได้กำลังถามว่าเธอจัดการเรื่องสถานที่ที่จะไปแล้วหรือยัง

ดังนั้นเธอจึงรีบตอบกลับไปว่า “ฉันเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วค่ะ ค่ำๆก็จะเดินทางแล้ว”

ลู่เหวยเบาใจในที่สุด ตอบกลับมาว่า “ระวังตัวด้วย” จากนั้นก็ไม่ได้ส่งอะไรมาอีก

ฉินซีรู้ว่าถึงแม้ทีมตรวจสอบจะเข้าไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้วก็ตาม แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดลงเลย ทางลู่เหวยก็คงยุ่งเป็นพัลวันเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่ได้รบกวนอะไรอีก

ตอนนี้ เธอยังมีเรื่องต้องจัดการให้เสร็จ

ตอนที่กำลังคิดเรื่องนี้ จ้าวจิ้งก็ส่งข้อความมาหาพอดี “เจอกันทุ่มครึ่งไหมคะ?”

ฉินซียิ้ม ตอบกลับไปว่า “ได้ คุณส่งตำแหน่งของคุณมา ฉันจะไปรับ”

หลังจากโต้ตอบกันเสร็จ เธอก็จัดการข้าวเย็นของตัวเองให้มด

เมื่อพ่อบ้านเห็นเธอลุกขึ้นยืน ก็รีบเดินเข้ามาอวดผลงาน “นี่ครับกระเป๋าใบเดียว!”

ฉินซีมองกระเป๋าที่ถูกเขายัดของใส่จนกลายเป็นกระเป๋าใบอ้วน ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “โอเคค่ะ”

เวลาไม่มากแล้ว เธอไม่อยากรบกวนพ่อบ้านต่อ จึงทำได้แค่บอกให้พ่อบ้านลากกระเป๋าออกมาให้

บอดี้การ์ดทั้งสองคนรออยู่ที่โรงรถแล้ว เมื่อเห็นฉินซีกำลังเดินตรงไปยังรถเบนท์ลีย์ที่เธอขับอยู่เป็นประจำ ทั้งสองคนก็มองหน้ากัน แล้วส่งเสียงออกมาว่า “คุณนายครับ ขับรถคันอื่นไป…..จะไม่ดีกว่าเหรอ?”

ฉินซีหันหน้ากลับไปอย่างแปลกใจ “รถคันอื่น?”

หนึ่งในบอดี้การ์ดชี้ไปยังLand Roverที่จอดอยู่ข้างๆ “ขับรถแบบนี้….น่าจะปลอดภัยกว่านะครับ”

ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ ลู่เหวยกำชับมาเป็นพิเศษ ว่าต้องระมัดระวังความปลอดภัยของฉินซีให้ดี บอดี้การ์ดทั้งสองคนจึงพอจะเดาได้ ว่านี่ต้องไม่ใช่การออกไปทำงานนอกสถานที่ธรรมดาแน่ๆ แต่เป็น….การออกไปทำงานนอกสถานที่ที่ค่อนข้างจะอันตราย

ดังนั้นพวกเขาต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

ฉินซีลังเลอยู่ชั่วครู่

ถ้าให้พูด ที่เธอขับรถเบนท์ลีย์ ก็เพราะว่าเป็นรถของลู่เซิ่น

ตอนนั้นเธอเพิ่งเข้ามาในรีสอร์ทชิงหยวน ไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยสะดวก ลู่เซิ่นเลยโยนกุญแจรถมาให้เธอ จากนั้นตำแหน่งคนขับของรถคันนี้ จึงค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นฉินซี

ถึงยังไงก็เป็นรถของลู่เซิ่นทั้งหมด จริงๆแล้วไม่ว่าจะคันไหนก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่……

เมื่อฉินซีเห็นแววตามุ่งมั่นของบอดี้การ์ด ก็พูดโน้มน้าวตัวเองในใจ จากนั้นก็พยักหน้า “ได้ งั้นขับLand Roverไปก็แล้วกัน”

บอดี้การ์ดผ่อนลมหายใจออกมา พ่อบ้านดูจะไม่ค่อยรู้ทันเรื่องที่ต้องเปลี่ยนรถขับ เลยไม่ได้ถามอะไรออกมา เพียงแค่ส่งกุญแจไปให้ จากนั้นก็บอกให้คนใช้ยกกระเป๋าของฉินซีขึ้นรถ

เมื่อมีบอดี้การ์ด ฉินซีจึงไม่ต้องขับรถเอง ทั้งยังได้นั่งเบาะหลังอย่างที่ควรจะเป็น

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท