Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1038

ตอนที่ 1038

บทที่ 1038 ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ฉินซียังจำเรื่องที่พวกเขาทะเลาะกันบนถนนได้

เพื่อนฝูงกระดูกซี่โครงหัก การตอบสนองแรกของคนที่ขับรถคือ “จะเกิดเรื่องแย่”

สำหรับเขา ทำงานสำเร็จลุล่วงได้รับเงินก็คือสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องพวกพ้องศีลธรรมอะไรนั่นจะวางไว้สองข้าง

คนที่โหดร้ายแบบนี้ ในใจมีแต่ภารกิจ น่าจะกระทำต่อผู้อื่นโหดเหี้ยมมาก

แม้ว่าตนจะข่มขู่เขาได้สำเร็จ เขามีแนวโน้มมากที่จะให้เพื่อนไม่ต้องสนใจเขาเพื่อให้งานสำเร็จ

อาจจะเป็นเพราะความรุนแรงของเขาโดยปกติ เพื่อนอาจจะไม่สนใจชีวิตความเป็นความตายเขาเลย

ข่มขู่เขา เท่ากับถือระเบิดเวลาให้กับตัวเอง

ดังนั้นฉินซีจึงล้มเลิกความคิดที่จะข่มขู่เขา

และคนที่นั่งเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ เป็นเป้าหมายที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ตัวเขาผอมกว่าคนข้างๆ อย่างเห็นได้ชัด ฉินซีลองนึกย้อนดูดีๆ เหมือนเขาไม่เคยปรากฏตัวที่โรงแรมมาก่อนเลย

นั่นหมายความว่า……เขาน่าจะเป็นคนออกความคิดเห็นมากกว่าคนออกแรง

ไม่โดดเด่นด้านใช้กำลัง จากข้อมูลที่ฉินซีได้มา เขาเป็นคนที่จงรักภักดีและซื่อสัตย์

เพื่อนของเขาส่วนมากคงไม่ทิ้งเขาไว้โดยไม่สนใจ

ภายในไม่กี่วินาที ฉินซีก็ตัดสินใจ

โชคดีที่คนกลุ่มนี้มัดฉินซีไว้หลวมมาก ภายในเวลาคิดไม่กี่วินาที เธอดิ้นแกะมันออกมาเงียบๆ ตั้งนานแล้ว

ส่วนใหญ่คงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงร่างกายผอม หลังจากถูกโปะยาสลบไป ก็ผ่อนคลายความระมัดระวัง

แต่ก็ต้องขอบคุณความหละหลวมของพวกเขา ถึงได้ให้โอกาสแก่ฉินซี

……

“ขับรถ” ในรถเหลือแค่พวกเขาสองคน ฉินซีไม่ได้วางมีดในมือลง ยังคงวางอยู่บนคอพี่หลิวเหมือนเดิม สั่งอย่างเย็นชา

พี่หลิวกลอกตา “เธอเอามีดจับฉันแบบนี้ ฉันขับไม่ได้……”

“อย่ามาเล่นตุกติกกับฉันนะ” ฉินซีขัดจังหวะเขาด้วยเสียงดุดัน “หรืออยากได้รอยแผลเป็นไว้ที่หน้าอีกข้างเหรอ?”

ปากพี่หลิวกระตุกเงียบๆ ประมาณว่าจะพูดคำสบถอะไรบางอย่าง

แต่เขาก็ไม่กล้าเลี่ยงอีกแล้ว ค่อยๆ ข้ามจากเบาะผู้โดยสารไปยังเบาะคนขับอย่างระมัดระวัง ยื่นมือไปสตาร์ทรถ

“ไปไหน?” พี่หลิวไม่รีบเหยียบคันเร่ง เอ่ยปากถาม ราวกับต้องการเป็นคนขับรถที่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจริงๆ

แต่ฉินซีมองแวบเดียวก็รู้หมดแล้ว เขาอยากจะยื้อเวลาอีกครั้ง

การถูกบีบบังคับเกิดขึ้นกะทันหัน พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวเลย ฉินซีถึงได้ทำสำเร็จ แต่พอผ่านไปสักพักหนึ่ง พวกเขาได้สติกลับมาแล้ว ฉินซีไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนของตระกูลฉินที่อยู่ด้านหลัง

ถ้าพวกเขาออกมา……

ฉินซีหยุดคิด ไม่อยากคิดอีก แค่บอกเป็นนัยๆ ว่าที่มือจะออกแรงเพิ่ม “ไม่ต้องพูดไร้สาระ ออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน”

ใบมีดหลอมรวมกับอุณหภูมิบนร่างกายพี่หลิว เขาไม่รู้สึกถึงความเย็นของโลหะแล้ว แต่ได้ยินคำพูดของฉินซี กลับตัวสั่นอย่างอดไม่ได้

เขาทำได้เพียงเหยียบคันเร่ง หมุนพวงมาลัยหันหัวรถขับไปที่ถนน

……

ตอนที่ซุนจึ้นและเสี่ยวอู๋ลงมาจากรถ ก็ทำหน้าสับสน

คนที่อยู่บนรถสองคันหลังรอการเคลื่อนไหวของพวกเขา ตอนนี้เห็นพวกเขาลงจากรถ ก็เปิดประตูรถและเข้าไปทีละคน “เป็นไงบ้างพี่ใหญ่? คนของตระกูลฉินออกมาส่งมอบใช่ไหม?”

“ส่งมอบกับผีน่ะสิ!” ซุนจึ้นถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างแรง

ตอนนี้มีคนพบว่าสีหน้าเสี่ยวอู๋แปลกๆ ไม่มีใครกล้าแตะต้องสิ่งอัปมงคลอย่างซุนจึ้น พวกเขาหันศีรษะมาถามเสี่ยวอู๋ทีละคน “นี่มันมีเรื่องอะไรเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?”

เสี่ยวอู๋ยังคงตัวสั่นนิดหน่อย “พี่หลิวเขา……ถูกผู้หญิงคนนั้นบีบบังคับ”

พอประโยคนี้พูดออกมา ราวกับน้ำหยดลงบนกระทะ ทุกคนก็บ่นและทะเลาะกันทันที

“อะไรเนี่ย? ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม? ถูกผู้หญิงบีบบังคับอะนะ?”

“ผู้หญิงคนนั้นสลบไปไม่ใช่เหรอ? ตื่นมาได้ไง?”

“ทำไมเป็นแบบนี้? นี่ถึงทางเข้าประตูตระกูลฉินแล้วนี่? ยังเกิดข้อผิดพลาดได้อีกเหรอ?”

หลายคนต่างแย่งกันพูด สีหน้าซุนจึ้นยิ่งไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ คำรามอย่างโหดเหี้ยม “หุบปากให้หมด!”

ทุกคนสงบลงทันที

ซุนจึ้นหันศีรษะไปจ้องรถคันนั้นที่พวกเขาเพิ่งลงมา ใบหน้าแววตาหม่นหมองไม่ชัดเจน เอ่ยเสียงทุ้ม “คิดวิธีแย่งรถกลับมา”

เสี่ยวอู๋ค่อนข้างลังเล “แย่ง……แย่งรถ? แต่พี่หลิวยังอยู่ในมือผู้หญิงคนนั้นนะ เธอถือมีดอยู่ในรถ มีดมันคมมาก……”

“ก็ไม่ใช่เพราะขยะอย่างแกหรือไง!” ซุนจึ้นหันศีรษะกลับไปด่า “ถ้าแกไม่ได้วางมีดไว้ตรงนั้น ผู้หญิงคนนั้นมันจะเอามีดไปได้เหรอ!”

เสี่ยวอู๋ถูกด่าจนคอหด ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ซุนจึ้นมองประตูตระกูลฉินหนึ่งครั้ง

คนของตระกูลฉินอาจจะออกมาได้ทุกเมื่อ

คำสั่งนี้ของตระกูลฉิน ตอนที่เขารับมา ก็ไม่ได้เอาจริงเอาจังมาก

ถึงแม้ซุนจึ้นจะอยู่ในแวดวงนี้มานานมาก ก็ไม่ถือว่าเป็นคนที่มีเกียรติหรือชื่อเสียงเลย แต่มือก็เปื้อนเลือดหลายชีวิต ทำธุรกิจ “สกปรก” เป็นเรื่องที่ธรรมดา

ธุรกิจนี้พวกพ้องเขาเป็นคนแนะนำมา หลังจากพวกพี่น้องรามือแล้ว ก็ทำงานเป็นบอดี้การ์ดตระกูลฉิน

พวกพ้องเขาบอกว่ามันง่ายมาก ตระกูลฉินโดนลูกสาวคนโตของฉินซึ่งเทียนจัดการ คนร้ายพาบอดี้การ์ดสองคนและทนายหนึ่งคนหนีไป คนของตระกูลฉินต้องการจับตัวคนเหล่านี้กลับมาเพื่อ “ต้อนรับ” เป็นอย่างดี

สี่คนไม่ใช่เหรอ? ด้านในยังมีผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์สองคน

ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลฉินยังเสนอราคาที่สูงด้วย ทำให้ยากที่จะปฏิเสธ

ซุนจึ้นไม่ลังเลเลยสักนิด รับคำสั่งนี้มาทันที

ตอนแรกเขาวางแผนที่จะไปกับคนสนิทไม่กี่คน แต่เรื่องนี้กลับถูกพี่หลิวได้ยินเข้า

พี่หลิวถือว่าเป็น “ที่ปรึกษาทางทหาร” ของเขา ซุนจึ้นเรียนไม่จบชั้นประถมศึกษา ไม่มีอะไรถมอยู่ในใจเลย เวลาเจอปัญหาใหญ่โต ก็จะให้พี่หลิวเป็นคนให้ความคิด

ครั้งนี้เมื่อพี่หลิวได้ยิน ก็ตัดสินใจขอให้เขาพาพวกพ้องไปอีกหลายคน

“คนที่ฉินซีเอาไปด้วยเป็นบอดี้การ์ดตระกูลลู่” สีหน้าพี่หลิวดูจริงจังมาก “บอดี้การ์ดตระกูลลู่ไม่ใช่คนธรรมดา ส่วนมากเกษียณมาจากหน่วยรบพิเศษ คนอย่างเราจะไปรับมือง่ายๆ ได้ยังไง! ถึงจะมีแค่สองคน ก็ชะล่าใจไม่ได้เด็ดขาด”

ซุนจึ้นโดนเขาโน้มน้าวจนรำคาญ ต้องตอบตกลง พาคนทั้งหมดสิบสองคนไปด้วยกัน

ถึงจะตอบตกลงแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจบอดี้การ์ดตระกูลลู่สองคนนั้นเลย ในใจรู้สึกว่าที่พี่หลิวทำแบบนี้เพราะค่าตอบแทนงานนี้มันสูงมาก อยากให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์จากมัน

ปกติพี่หลิวก็ได้ใจคนอยู่แล้ว ทำเรื่องแบบนี้ก็อยู่ในการคาดการณ์ของเขาเหมือนกัน

ไม่คิดว่าจัดการฉินซีและบอดี้การ์ดหนึ่งคน เขาต้องใช้คนไปมากกว่าครึ่ง และยังต้องเสียอีกสองคนเข้าโรงพยาบาลอีก

เดิมทีคิดว่ามาถึงประตูทางเข้าตระกูลฉินแล้ว งานจะสำเร็จลุล่วงแล้ว เรื่องแบบนี้ดันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ

แววตาซุนจึ้นมืดลง

เป็ดที่อยู่ริมฝีปาก เขาไม่ให้มันบินหนีไปหรอก

ส่วนพี่หลิว……เขาชอบดูแลคนอื่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ครั้งนี้ก็เสียสละตัวเองสักหน่อยสิ ดูแลคนอื่นไง!

ตระกูลฉินก็ไม่ได้บอกว่าต้องการฉินซีตัวเป็นๆ

เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เขาก็ตัดสินใจ หันศีรษะไปมองทุกคน พูดขึ้นเสียงดัง “ใครไปแย่งรถคืนมาได้ ฉันให้เพิ่มสิบเปอร์เซ็นต์!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท