Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1055

ตอนที่ 1055

บทที่ 1055 ที่นี่จะเป็นบ้านของเธอตลอดไป

“ข่าวอะไรเหรอ” จ้าวจิ้งยังเด็กที่ไม่สามารถกลั้นอารมณ์ได้ เมื่อเห็นอานหยันอุบไว้แบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถาม

อานหยันยิ้ม “มีคนส่งข้อความถึงพวกเขาว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ทุ่มเงินซื้อรูปภาพ พวกเขาจะให้เงินเป็นสองเท่าเพื่อให้นักข่าวลงรูปถ่ายและเขียนรายงานออกมา”

เมื่อเธอพูดเช่นนี้ ฉินซีก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้

เธอยังจำข่าวที่ออกกันอย่างมืดฟ้ามัวดินในบ่ายวันนั้นได้ มีการจ่ายเงิน…เพื่อให้รายงานข่าวจริงๆอย่างนั้นเหรอ

อานหยันอ่านความคิดของเธอ เธอยิ้มพลางโบกมือ “ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับข้อเสนอที่ว่าจ่ายเงินเพื่อซื้อข่าวหรอกนะ แต่ถ้าอยากจะคำนวณจริงๆขึ้นมาล่ะก็ คาดว่าต้องจ่ายเงินไปไม่น้อยเลยล่ะ”

ฉินซีลดสายตามองต่ำ

วิธีแบบนี้ ด้วยเงินมากมายเช่นนี้ ไม่มีใครทำได้นอกจากลู่เซิ่น

เขาทำอะไรต่อมิอะไรมากมายลับหลังเธอ…

จ้าวจิ้งมองไม่ออกว่าอารมณ์ของฉินซีเปลี่ยนไป เธอจับอานหยันพลางเอ่ยถาม “งั้นกระแสสังคมในช่วงไม่กี่วันมานี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยเงินงั้นเหรอ”

อานหยันยิ้ม “แน่นอน เธอคิดว่าบริษัทประชาสัมพันธ์ราคาสูงพวกนั้นจะจ่ายเงินไปโดยเปล่าประโยชน์รึไง”

ไม่กี่วันมานี้ จ้าวจิ้งและฉินซียุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่นๆ ไม่มีเวลาสนใจข่าวตลอดเวลาหรือบางทีพวกเขาอาจจะยังไม่รู้

แต่อานหยันที่อยู่ในแวดวงการข่าว รู้ดีว่าไม่กี่วันมานี้ ตระกูลฉินถูกตราหน้าถึงความอัปยศจริงๆ

นับตั้งแต่รายงานในนิตยสารการเงินฉบับแรกเริ่มขึ้น ข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับตระกูลฉินก็ไม่เคยหยุดนิ่งอีกเลย

แม้ว่ารายงานของนิตยสารทางการเงินจะสามารถเข้าใจได้ง่าย แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยสนใจอ่านบทความดังกล่าว พวกเขาอาจรู้เพียงว่าการฉ้อโกงเงินของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมาก

ซึ่งรายงานในวันที่สองก็ยังคงวนเวียนอยู่กับประเด็นนี้ คนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ตรวจสอบอย่างไรและพวกเขาตรวจพบอะไรบ้าง นอกจากนักลงทุนในตลาดแล้ว ประชาชนทั่วไปจะไม่สนใจติดตามข่าวดังกล่าวมากนักโดยเพียงอ่านๆแล้วก็ผ่านไป

แต่ในวันที่สาม ความคิดเห็นของชาวเน็ตก็เริ่มเปลี่ยนไป

ราคาหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปลดลงเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน แนวโน้มในอนาคตดูมืดมนมาก นักลงทุนสถาบันหลายรายได้ยื่นฟ้องเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับการขาดทุนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ความอยากรู้อยากเห็นของประชาชนได้เพิ่มมากขึ้น

ความขัดแย้งระหว่างบริษัทใหญ่เหล่านี้เป็นหัวข้อที่ทุกคนชอบที่ฟังมาโดยตลอด

เมื่อมาถึงวันที่สี่ จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดก็เกิดขึ้น

——ตระกูลฉินผิดนัดชำระเงินกับเจ้าหนี้โดยเจ้าหนี้ได้เร่งรัดหลายต่อหลายครั้ง ตนเองถูกเจ้าหนี้ทวงเงินจึงกระโดดตึกเสียชีวิต

คราวนี้เป็นการโจมตีอย่างรุนแรง

เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์มักจะเป็นข่าวที่ชื่นชอบของสังคม

หัวข้อปลุกระดม ควบคู่ไปการร้องเรียนจากเจ้าหนี้ แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ดึงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปขึ้นไปจุดสูงสุดของปัญหา

ความสนใจของสาธารณชนล้วนจดจ่อไปที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป จะเห็นได้ว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดเรื่องมากมายกับฉินซื่อกรุ๊ป

กระแสของชาวเน็ตเป็นตัวควบคุมที่ดีที่สุด เมื่อมีข่าวแบบนี้ออกไป บนโลกอินเทอร์เน็ตก็ล้วนด่าทอฉินซื่อกรุ๊ปแม้ว่าบริษัทจะจงใจลบมัน แต่ก็ไม่สามารถลบได้ซึ่งในทางกลับกันมันกลับทำให้ทุกคนโกรธมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นชาวเน็ตส่วนใหญ่จึงค้นหาข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับฉินซื่อกรุ๊ป ส่วนเรื่องอื้อฉาวเก่าๆก็ถูกขุดขึ้นมาด้วย

ตระกูลฉินเป็นเหมือนรูปปั้นคุกเข่าฉินฮุ่ย ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินผ่านไปมาต่างก็พากันถ่มน้ำลายใส่

ตระกูลฉินใช้ความพยายามอย่างมากในการออกแถลงการณ์ต่างๆ เมื่อกระแสดูเหมือนจะสงบลง เรื่องของฉินซีก็ถูกโพสต์บนโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

ภาพและข่าวลือต่างๆบนอินเทอร์เน็ตแพร่สะพัดมาตลอดหนึ่งวัน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาจู่ๆสื่อกอสซิปชื่อดังก็ได้ออกมารายงานข่าว

โดยรายงานข่าวเขียนอย่างกำกวม ข่าวหลายข่าวมีความคลุมเครือซึ่งคนอื่นๆอาจไม่รู้ แต่แค่อานหยันอ่านก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่านี่เป็นวิธีการปิดบังข้อมูลสำคัญโดยเจตนาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อื่น

ในรายงานกล่าวถึงสถานการณ์ของฉินซีในช่วงปีที่ผ่านมา เขียนบรรยายว่าเป็นอะไรที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง เธอดูเหมือนซินเดอเรลล่าที่ถูกแม่เลี้ยงรังแก เธอจึงหนีออกจากตระกูลฉินด้วยความเหลืออด แต่ครอบครัวฉินกล่าวหาเธอในข้อหาที่ไม่มีเหตุผล มีการลักพาตัวเธออีกทั้งยังฆ่าเธอด้วย

ภาพนั้นเปื้อนเลือดต่อให้มองยังไงก็ทำให้คนกลัว อีกทั้งยังทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมมากยิ่งขึ้น

จากเดิมที่ทุกคนโกรธกันอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเขาคิดว่าการด่าทอบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในหลายวันที่ผ่านมานั้นไร้ประโยชน์ อีกทั้งบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปนั้นแท้จริงแล้วก็ไม่ใช่ของฉินซึ่งเทียน

ฉินซึ่งเทียนสามารถทำสิ่งที่โหดร้ายต่อเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้ ไม่น่าแปลกใจที่จะมีเรื่องอื้อฉาวมากมายในฉินซื่อกรุ๊ป

ดังนั้นปลายกระบอกปืนของชาวเน็ตจำนวนมากจึงเปลี่ยนตำแหน่งและหันไปทักทายฉินซึ่งเทียนแทน

อานหยันเชื่อว่า ในตอนนี้ฉินซึ่งเทียนคงจะซ่อนตัวอยู่ในบ้านของตัวเอง ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกอย่างเพื่อหลีกหนีการคุกคามจากชาวเน็ตที่กำลังโกรธแค้น

หลังจากฟังสิ่งที่อานหยันพูด ปากของจ้าวจิ้งก็เปิดขึ้นเล็กน้อยและเธอก็ดูประหลาดใจมาก “โอ้พระเจ้า…ฉันคาดไม่ถึงว่าความคิดเห็นของชาวเน็ตจะสามารถเอามาใช้แบบนี้ได้”

ฉินซีเองก็เพิ่งรู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย สีหน้าของเธอดูประหลาดใจไม่น้อยไปกว่า จ้าวจิ้งหลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดขึ้น “ฉัน…ไม่รู้อะไรเลย”

มิน่าล่ะฉินหว่านถึงได้รู้สึกโกรธมากจนต้องต่อสายตรงหาเธอ

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปถูกผู้คนด่าทอ ในขณะที่ถูกสอบสวนหากผู้ตรวจสอบเหล่านี้เห็นข่าวบนอินเทอร์เน็ตคาดว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะดำเนินการสอบสวนอย่างสมบูรณ์และเป็นธรรมโดยปราศจากความลำเอียงใดๆ

“ความคิดเห็นของผู้คนสามารถฆ่าคนได้จริงๆ” อานหยันกล่าวสรุป “แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปลุกปั่นอารมณ์ของผู้คนได้นานขนาดนี้ ตามที่ฉันรู้ บริษัทพีอาร์จะต้องเรียกเก็บเงินส่วนนี้ด้วย”

เธอเปรียบเทียบตัวเลขกับนิ้วของเธอ แม้แต่ฉินซีก็รู้สึกประหลาดใจ

มัน…มากเกินไป

จู่ๆเธอก็อยากจะขึ้นไปชั้นบนและโผเข้ากอดลู่เซิ่นทันที

แต่เพราะยังมีแขกสองคนอยู่ตรงหน้า เธอจึงต้องระงับอารมณ์เอาไว้

เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานแล้ว จ้าวจิ้งได้พูดทุกอย่างที่ควรพูดแล้วและเธอต้องกลับไปก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัวสำหรับคดีของเห้อเสียงดังนั้นเธอจึงขอตัวกลับก่อน

ฉินซีและอานหยันไปส่งเธอขึ้นรถ ส่วนอานหยันก็เดินไปที่รถของเธอ

ฉินซียืนอยู่ข้างประตู ดูเธอเปิดประตูรถที่จู่ๆก็หันมามองตัวเองพลางพูดขึ้น “เธออยากรู้รึเปล่าว่าวันที่เธอมาดื่มที่บ้านฉันจนเมา ตอนที่ลู่เซิ่นมารับเธอเขาพูดว่าอะไร”

ฉินซีไม่คาดคิดว่าจู่ๆเธอจะพูดถึงเรื่องนี้ “แน่นอนสิ ฉันอยากรู้มาตลอด แต่เธอไม่เคยบอกเลย”

อานหยันยิ้ม “อันที่จริงเพราะลู่เซิ่นส่งข้อความมาให้ฉันว่าไม่ให้บอกเธอน่ะ”

ฉินซีเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ลู่เซิ่นไม่ให้เธอพูด?”

ใบหน้าของอานหยันเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่ฉันจะไม่ฟังเขา เขาห้ามฉันไม่ให้พูดแล้วคิดว่าฉันจะไม่พูดรึไงกัน” “งั้นเธอก็บอกมาสิ” สีหน้าของฉินซีเอือมระอาเต็มที

อานหยันยิ้มพลางขยับมาที่หูของเธอ “เขาพูดว่า รีสอร์ทชิงหยวนจะเป็นบ้านของเธอตลอดไปและเธอทั้งสองคนก็ไม่ได้หย่ากัน”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท