Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1051

ตอนที่ 1051

บทที่ 1051 รักยังไม่ถึงจุดจบ

เมื่อคุณหมอเปิดประตูเข้ามาก็ได้เห็นฉากนี้พอดี

ลู่เซิ่นและฉินซีจับมือกันแน่นราวกับว่าต้นไม้สองต้นที่พันกันยุ่งเหยิงจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้

คุณหมอเองก็พอได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าพวกเขาได้หย่ากันแล้วและไม่ใช่สามีภรรยากันอีกต่อไป ที่ลู่เซิ่นมาดูแลเธอก็เพียงเพราะคิดถึงรักครั้งเก่าเท่านั้น

แต่เมื่อได้เห็นท่าทางที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ดูจะแตกต่างจากสิ่งที่ได้ยินมาลิบลับ

เมื่อคิดถึงรักครั้งเก่า ใครเขาเป็นเช่นนี้กัน

หรือแท้จริงแล้วความรักยังไม่ถึงจุดจบ?

คุณหมอยังคงรักษาจรรยาบรรณในวิชาชีพเป็นอย่างดี เขานั่งตรงข้ามทั้งสองด้วยใบหน้าสงบราวกับว่าไม่เห็นอะไร เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและเอ่ยถาม “เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังครับ”

ฉินซีพยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบออกมาในทันทีแต่กลับตั้งคำถาม “ถ้าฉันเลือกวิธีหนึ่งไปแล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะเปลี่ยนไปใช้อีกวิธีในภายหลัง”

คุณหมอขมวดคิ้วเล็กน้อย“มันเป็นไปไม่ได้ในทางทฤษฎี แต่คุณต้องรู้ว่าทั้งสองตัวเลือกนี้ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง พูดได้ว่า ถ้าคุณเลือกวิธีที่สอง ทุ่มทั้งแรงกายแรงใจในการรักษาจนจบแล้วเปลี่ยนไปใช้วิธีแรก ในขณะนี้อาการปวดตอนรักษาจะไม่บรรเทาลงด้วยการรักษาแบบอื่น แม้จะเป็นไปได้ เพราะเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการรักษาอย่างสมบูรณ์ แต่อาจทำให้ผลจากการรักษาในวิธีที่สองนั้นสูญเปล่า”

เขารู้ว่าการที่ฉินซีถามเช่นนี้ คงเพราะรู้สึกลังเลใจกับวิธีที่สอง

ในฐานะคุณหมอแล้ว เขาไม่ชอบตัวเลือกทั้งสองนี้ แต่ไม่ว่าฉินซีจะเลือกแบบไหนเขาก็จะสนับสนุนทั้งหมด

แต่เขาจำเป็นต้องอธิบายอย่างชัดเจนให้กับผู้มีส่วนได้เสีย

แท้จริงแล้ว เมื่อฉินซีได้ฟังคำพูดของเขา สีหน้าของไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม เธอเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ “แบบนี้ก็ได้ ฉันเลือกวิธีที่สอง ตอนนี้ฉัน…ยังไม่พร้อมจะรับความทรงจำเกี่ยวกับการจากไปของแม่ รอให้พร้อมแล้ว ฉันจะมาหาคุณเพื่อทำตามวิธีแรก ตอนนี้รบกวนคุณเตรียมการรักษาฉันด้วยวิธีที่สองด้วยนะคะ”

คุณหมอไม่ได้ตกใจอะไรเพราะเป็นคำตอบที่เขาคาดเดาไว้แล้ว เพียงแค่พยักหน้ารับ “โอเคครับ งั้นก็รักษาตามวิธีที่สอง ผมจะให้ตารางการรักษาวิธีที่สองกับคุณ คุณก็มาตามเวลาที่ระบุได้เลย หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โปรดติดต่อผมล่วงหน้าแล้วผมจะจัดตารางเวลาใหม่ให้คุณเอง”

ฉินซีพยักหน้ารับ

หลังจากที่ทั้งสองแลกช่องทางติดต่อกันแล้ว ลู่เซิ่นและฉินซีก็ออกจากห้องทำงานไป

ฉินซีกำลังจะเดินกลับห้องพักของตัวเองแต่กลับถูกลู่เซิ่นคว้าไว้

“พ่อบ้านทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้แล้ว ข้าวของในห้องก็น่าจะเก็บเรียบร้อยแล้ว” ลู่เซิ่นพูด “ เรากลับกันได้เลย น่าจะยังทันมื้อเย็นที่บ้าน”

ฉินซีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว

ไม่ใช่ว่าชีวิตเธอไม่เคยถูกตามใจมาตั้งแต่เกิด เพราะครั้นเมื่อเธออยู่ในตระกูลฉิน เหยาหมิ่นและคนรับใช้ของเธอดูแลเธอเป็นอย่างดี

เพียงแต่เมื่อเหยาหมิ่นจากไป ส่วนเธอก็ออกจากตระกูลฉินและคิดว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว

คาดไม่ถึงว่าวันหนึ่ง เธอจะได้รับการใส่ใจในทุกๆด้านอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่ลู่เซิ่นพูดไม่ผิดเลย เมื่อรถของทั้งสองแล่นมาถึงรีสอร์ทชิงหยวน ก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี

เมื่อได้นั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหารในรีสอร์ท ฉินซีก็ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ

เพียงออกไปได้ไม่ถึงสัปดาห์ เมื่อได้ก้าวเข้ามาที่นี่อีกครั้งก็มีความรู้สึกหวนคิดถึงแล้ว

ถ้าหากตัวเองย้ายออกไปจริงๆล่ะ…

ฉินซีเงยหน้าขึ้นสบตากับลู่เซิ่น

เพียงแต่ตัวเอง เกรงว่าคนตรงหน้าเองก็คงจะยอมรับไม่ได้ง่ายๆเหมือนกัน

แต่ฉินซีรู้ดีว่าระหว่างตัวเองและลู่เซิ่นนั้นมีปัญหาอีกมากมายที่ยังไม่ได้แก้ไข

มีความรู้สึกก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การจะจับมือเดินไปด้วยของทั้งสองคนนั้นยังมีเรื่องวุ่นๆอีกมากมาย

ถ้าไม่ฝ่าขวากหนามเหล่านี้ เกรงว่าทั้งสองคนคงจะไปกันได้ไม่นาน

แต่ถึงแม้จะมีปัญหาให้ต้องแก้อีกมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือการได้ลิ้มลองฝีมือเชฟที่ไม่ได้กินมาหลายวันแล้ว

เชฟแสดงฝีมือทำอาหารแสนอร่อยอย่างเต็มความสามารถ เพื่อต้อนรับพวกเขาทั้งสองคน

ฉินซีกินอาหารเพิ่มพลังไปเยอะ จึงต้องออกไปเดินรอบๆรีสอร์ทชิงหยวนเพื่อย่อยอาหาร

และแน่นอนว่าลู่เซิ่นก็เดินตามไปด้วย

แต่ไม่มีโอกาสทั้งสองคนจะได้คุยกันดีๆ ฉินซีเองก็ไม่มีโอกาสได้ถามถึงที่ลู่เซิ่นรับปากว่าจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา

เพราะเสียงโทรศัพท์ของฉินซีดังขึ้น

สายที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลก

เมื่อวานนี้ฉินซีเพิ่งเจอกับเรื่องราววุ่นวายมากมาย ดังนั้นเมื่อเห็นสายจากคนแปลกหน้า เธอจึงตื่นตัวทันทีพร้อมกับกดวางสาย

เธอคิดว่าสายที่โทรเข้ามาน่าจะเกี่ยวข้องกับคนตระกูลฉิน

แต่ว่าคนที่โทรมากลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆกลับโทรเข้ามาไม่ยอมหยุด

ฉินซีรู้สึกรำคาญมากจนต้องรับโทรศัพท์และคิดจะต่อว่าอีกฝ่าย หากแต่เธอคาดไม่ถึงว่าเสียงจากเบอร์แปลกนี้จะเป็นเสียงที่คุ้นเคย

“ฉินซี! อย่าวางนะ ฉันเอง หซู่หนาน”

ฉินซีนิ่ง “หซู่หนาน?”

ลู่เซิ่นที่อยู่ข้างฉินซีหยุดฝีเท้าทันที หันหน้าไปมองเธอ

ฉินซีรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาขอเขา ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้

เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ยินชื่อหซู่หนานมานานมากแล้ว

ถนนที่ฉันเคยเดินกับหซู่หนานในโรงเรียน หลังจากที่ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาแล้วทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องราวในชีวิตเมื่อชาติที่แล้ว

ทั้งสองต่างเดินห่างไกลกันออกไปในคนละทิศทาง ฉินซีจำรูปลักษณ์ของหซู่หนานไม่ได้แล้ว

และตอนนี้ข้างกายของเธอก็มีที่พึ่งที่สามารถพึ่งพาได้แล้ว

ลู่เซิ่นเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเธอพลางยื่นมือมาจับมือเธอไว้

“ฉันเอง!” หซู่หนานรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินการตอบรับของฉินซี “ฉันโทรหาเธอหลายสายเลย นึกว่า…เธอจะไม่รับโทรศัพท์ฉันแล้วซะอีก”

ฉินซีเลิกคิ้วขึ้น

ถ้ารู้ว่าเป็นหซู่หนาน เธอจะไม่มีทางรับเลยจริงๆ

แต่เธอเองก็รู้ว่านี่เป็นวิธีที่หซู่หนานใช้ในการไต่เต้าขึ้นมาเป็นใหญ่ได้

เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าตัวเองบล็อคเบอร์เขา ดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นเบอร์อื่นโทรเข้ามา

แต่เธอขี้เกียจเกินกว่าจะเสียเวลากับหซู่หนานจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “นายมีอะไรก็พูดมาเถอะ”

เสียงของหซู่หนานอ้อยอิ่ง “คือว่า…ฉัน ฉันกับฉินหว่านจดทะเบียนกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ไม่มีเวลาได้บอกเธอ”

ฉินซีเลิกคิ้ว แต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ

เธอคิดว่าตราบใดที่เป็นคนฉลาด ก็จะมองออกว่าตอนนี้ตระกูลฉินกำลังตกที่นั่งลำบาก

แล้วทำไมหซู่หนานถึงยังเลือกเอาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย

แต่นี่เป็นทางที่หซู่หนานเลือกเอง ฉินซีไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระจึงตอบกลับอย่างเฉยเมย “ยินดีด้วย ถ้ามีเรื่องแค่นี้ งั้นฉัน .. ”

“เดี๋ยว!” หซู่หนานที่เห็นว่าฉินซีจะวางสายก็รีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องเธอ…”

เมื่อพูดประโยคหลัง เสียงของเขาก็เบาลง

ฉินซีฟังไม่ชัดจึงถามออกไป “เรื่องอะไรนะ นายพูดว่าอะไร”

แต่ทันทีที่เธอถามออกไปก็ได้ยินอีกเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา

“นายมัวแต่อ้ำๆอึ้งๆแล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่อง!เอาโทรศัพท์มานี่!”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท